[ครบชุด] TQ11051 ความลับรักต้องห้ามถูกเปิดเผย จุดชนวนความแค้นและการหักหลัง

Mercedes-Benz CLS 220 d AMG Premium: ยืนหนึ่งในใจคอรถหรู แม้ปี 2025 ก็ยังน่าครอบครองหรือไม่?

ในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการยานยนต์มานานกว่าทศวรรษ ผมได้เห็นรถยนต์มากมายผลิบานและเลือนหายไปตามกาลเวลา แต่มีรถบางรุ่นที่ยังคงทิ้งมรดกอันทรงคุณค่าไว้ และยังคงเป็นที่ต้องการของผู้ที่มองหาสุนทรียภาพและความสมบูรณ์แบบ หนึ่งในนั้นคือ Mercedes-Benz CLS เจเนอเรชันสุดท้าย โดยเฉพาะรุ่น CLS 220 d AMG Premium ที่แม้จะถูกยุติการผลิตไปแล้ว แต่ในปี 2025 นี้ มันกลับกลายเป็นเพชรเม็ดงามในตลาดรถมือสองที่ยังคงเปล่งประกายไม่เสื่อมคลาย หลายท่านอาจสงสัยว่า ในยุคที่รถยนต์ไฟฟ้าเข้ามามีบทบาทและเทคโนโลยีใหม่ๆ ถือกำเนิดขึ้นไม่หยุดหย่อน CLS คันนี้ยังคงน่าลงทุนและคู่ควรแก่การเป็นเจ้าของอยู่หรือไม่? ในฐานะผู้เชี่ยวชาญ ผมขอพาทุกท่านดำดิ่งลงไปในทุกมิติของรถคันนี้ เพื่อไขข้อข้องใจและเปิดมุมมองใหม่ๆ ที่จะยืนยันว่า เหตุใด CLS 220 d AMG Premium จึงยังคงเป็นตัวเลือกที่เหนือระดับในปี 2025

สุนทรียภาพแห่งดีไซน์ที่ท้าทายกาลเวลา: ความลุ่มหลงที่ไม่เคยจางหาย

หากจะกล่าวถึงจุดเด่นอันดับแรกของ Mercedes-Benz CLS คงหนีไม่พ้นงานดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งเป็นการผสมผสานอันชาญฉลาดระหว่างความสง่างามของรถซีดานและความเร้าใจของรถคูเป้ได้อย่างไร้ที่ติ เส้นสายหลังคาที่ลาดเอียงจรดท้ายรถ (Shooting Brake-like profile) มอบภาพลักษณ์ที่โฉบเฉี่ยวและทรงพลังในเวลาเดียวกัน เป็นปรัชญาการออกแบบที่ Mercedes-Benz บุกเบิกมาตั้งแต่รุ่นแรก และได้ถูกพัฒนาจนถึงขีดสุดในเจเนอเรชันนี้

ในตลาดรถยนต์ปี 2025 ที่เต็มไปด้วยรถทรง SUV หรือรถยนต์ไฟฟ้าดีไซน์ล้ำสมัย CLS กลับยืนหยัดอย่างโดดเด่นด้วยรูปลักษณ์ที่คลาสสิกแต่ยังคงความทันสมัย แม้จะจอดอยู่ข้างรถรุ่นใหม่ล่าสุด มันก็ยังคงดึงดูดทุกสายตาให้หันมามองอยู่เสมอ ผมกล้าพูดได้เลยว่า การออกแบบภายนอกของ CLS คันนี้ จะยังคง “หล่อ เท่” ไปอีกนานแสนนาน ตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา ผมไม่เคยเห็นรถรุ่นใดที่สามารถรักษาสุนทรียภาพแห่งเส้นสายนี้ได้คงกระพันเท่า CLS อีกแล้ว ไม่ว่าคุณจะขับมันไปที่ใด ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางในเมืองใหญ่ หรือการขับขี่บนถนนสายเปลี่ยว CLS จะยังคงมอบความรู้สึกภาคภูมิใจและเป็นเครื่องยืนยันรสนิยมอันเป็นเลิศของผู้ขับขี่ได้เป็นอย่างดี

สำหรับผู้ที่กำลังมองหารถหรูมือสอง หรือรถเบนซ์มือสอง ที่มีดีไซน์ไม่ซ้ำใคร ไม่ตกรุ่น และยังคงมอบความพิเศษในทุกครั้งที่ใช้งาน CLS คือคำตอบที่ไม่อาจมองข้ามได้ การลงทุนใน CLS 220 d AMG Premium ไม่ได้เป็นเพียงการซื้อยานพาหนะ แต่เป็นการครอบครองผลงานศิลปะชิ้นเอกที่สามารถใช้ประโยชน์ได้จริงในชีวิตประจำวัน ความงดงามของมันสามารถตอบโจทย์ได้หลากหลายกลุ่ม ทั้งผู้ที่ชื่นชอบรถคูเป้แต่ต้องการพื้นที่ใช้สอยที่มากกว่า หรือผู้ที่ต้องการรถซีดานแต่ปรารถนาดีไซน์ที่ปราดเปรียวและไม่เหมือนใคร มันคือความสมดุลที่ลงตัวระหว่างฟังก์ชันและแฟชั่น

หัวใจที่เปี่ยมประสิทธิภาพ: พลังดีเซลที่ประหยัดและลื่นไหล

ภายใต้ฝากระโปรงของ Mercedes-Benz CLS 220 d AMG Premium คือขุมพลังดีเซล 2.0 ลิตร (OM654) ขนาด 1,950 ซีซี 4 สูบ เทอร์โบ ที่ได้รับการยอมรับในเรื่องของความประหยัดและประสิทธิภาพอันยอดเยี่ยม ด้วยกำลังสูงสุด 194 แรงม้า ที่ 3,800 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุดถึง 400 นิวตันเมตร ที่ 1,600-2,800 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ (9G-TRONIC) ที่ได้รับการปรับจูนมาอย่างละเอียดลออ อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใช้เวลาเพียง 7.5 วินาที ซึ่งถือว่ารวดเร็วทันใจสำหรับรถยนต์ดีเซลขนาดใหญ่

สิ่งที่ทำให้เครื่องยนต์รุ่นนี้โดดเด่นและยังคงความน่าสนใจในปี 2025 คือระบบ Mild Hybrid ที่ทำงานร่วมกันอย่างกลมกลืน ช่วยเสริมแรงในจังหวะออกตัวและลดภาระการทำงานของเครื่องยนต์หลัก สังเกตได้จากความลื่นไหลในการเคลื่อนที่จากจุดหยุดนิ่ง ซึ่งนอกจากจะช่วยเพิ่มความนุ่มนวลในการขับขี่แล้ว ยังส่งผลโดยตรงต่อการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงอย่างน่าทึ่ง ในยุคที่ราคาน้ำมันยังคงผันผวนและผู้บริโภคตระหนักถึงสิ่งแวดล้อมมากขึ้น รถยนต์ดีเซลที่ประหยัดน้ำมันระดับพรีเมียมอย่าง CLS 220 d จึงกลายเป็นทางเลือกที่ชาญฉลาดและคุ้มค่า

จากประสบการณ์ตรงในการทดสอบขับขี่ภายใต้สภาวะการจราจรที่หลากหลาย ผมสามารถยืนยันได้ถึงอัตราสิ้นเปลืองที่น่าประทับใจ:
การจราจรในเมืองติดขัด: แม้จะเป็นรถขนาดใหญ่ แต่ CLS 220 d ยังคงทำอัตราสิ้นเปลืองได้ประมาณ 10-12 กม./ลิตร ซึ่งถือว่าดีเยี่ยมสำหรับรถยนต์ในระดับนี้ ด้วยความช่วยเหลือจากระบบ Mild Hybrid และเกียร์ 9G-TRONIC ที่ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การขับขี่นอกเมืองหรือทางไกล: นี่คือจุดที่ CLS เปล่งประกายอย่างแท้จริง เมื่อขับขี่บนทางหลวงด้วยความเร็วคงที่ อัตราสิ้นเปลืองสามารถพุ่งสูงถึง 18-20 กม./ลิตรได้อย่างไม่น่าเชื่อ ทำให้การเดินทางระยะไกลเป็นเรื่องที่ผ่อนคลายและประหยัดค่าใช้จ่ายอย่างเห็นได้ชัด
การขับขี่แบบผสมผสาน (ในเมือง 50% / นอกเมือง 50%): อัตราเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 14-16 กม./ลิตร ซึ่งเป็นตัวเลขที่น่าพอใจอย่างยิ่งสำหรับรถยนต์สมรรถนะสูงระดับหรูหรา

ความคุ้มค่า Benz CLS ในระยะยาวไม่ได้อยู่ที่เพียงแค่ราคาซื้อหาในตลาดรถมือสอง แต่ยังรวมถึงค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่สมเหตุสมผล โดยเฉพาะในด้านการประหยัดน้ำมันที่เป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจของผู้ซื้อในปี 2025 นี้

สมรรถนะการขับขี่ที่เหนือชั้น: ตอบโจทย์ทุกรูปแบบการใช้งาน

การขับขี่ Mercedes-Benz CLS 220 d AMG Premium เป็นประสบการณ์ที่ผมอยากให้ทุกคนได้สัมผัสจริงๆ ด้วยประสบการณ์กว่า 10 ปีในสายนี้ ผมขอยืนยันว่า CLS คันนี้มีบุคลิกที่ปรับเปลี่ยนได้ตามโหมดการขับขี่ได้อย่างน่าทึ่ง

โหมด ECO: เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการขับขี่ในเมืองที่ต้องการความประหยัดสูงสุด คันเร่งจะตอบสนองอย่างนุ่มนวลและนุ่มนิ่ม การเปลี่ยนเกียร์จะเกิดขึ้นที่รอบเครื่องยนต์ต่ำ ช่วยลดการใช้เชื้อเพลิงได้อย่างมีนัยสำคัญ แม้จะไม่ได้ให้ความรู้สึกกระฉับกระเฉงเท่าโหมดอื่น แต่ก็เพียงพอต่อการเคลื่อนที่ในสภาพการจราจรติดขัด และยังคงความลื่นไหลจากระบบ Mild Hybrid ในจังหวะออกตัวได้อย่างดีเยี่ยม
โหมด Comfort: นี่คือโหมดที่ผมแนะนำให้ใช้งานในชีวิตประจำวันมากที่สุด เพราะมันมอบความสมดุลที่ลงตัว ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่ในเมืองหรือนอกเมือง การตอบสนองของเครื่องยนต์และเกียร์จะอยู่ในระดับที่พอดี ให้กำลังที่ต่อเนื่องและนุ่มนวล พร้อมรองรับการเร่งแซงที่จำเป็นได้อย่างมั่นใจ ช่วงล่างจะให้ความนุ่มนวลในการซับแรงกระแทกได้ดีกว่าโหมด Sport ทำให้การเดินทางระยะไกลเป็นไปอย่างผ่อนคลาย
โหมด Sport: สำหรับผู้ที่ต้องการความเร้าใจและสมรรถนะสูงสุด โหมด Sport คือคำตอบ คันเร่งจะไวขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เกียร์จะคาอยู่ในรอบเครื่องยนต์ที่สูงขึ้นเพื่อดึงกำลังออกมาใช้ได้ทันที การตอบสนองที่ฉับไวของเครื่องยนต์ดีเซลคันนี้จะทำให้คุณประหลาดใจ ผมเคยทดสอบบนถนนโล่งๆ และพบว่าความเร็วสามารถพุ่งทะยานได้อย่างรวดเร็วเกินกว่าที่หลายคนคาดคิด ไม่ต้องกังวลว่ารถรุ่นนี้จะ “อืด” เลยแม้แต่น้อย หากคุณต้องการรถคูเป้ 4 ประตู ที่มีพละกำลังเหลือเฟือสำหรับการขับขี่ที่สนุกสนาน CLS 220 d AMG Premium จะไม่ทำให้คุณผิดหวัง

แม้ตัวถังของ CLS จะมีขนาดใหญ่ แต่การควบคุมรถกลับทำได้อย่างคล่องตัว พวงมาลัยมีน้ำหนักที่เหมาะสมและแม่นยำ ทำให้การซอกแซกในเมือง การเลี้ยวเข้าออกตรอกซอกซอย หรือการเปลี่ยนเลนบนถนนหลวงเป็นไปอย่างมั่นใจและง่ายดาย นี่คือบทพิสูจน์ถึงวิศวกรรมการออกแบบช่วงล่างและระบบบังคับเลี้ยวของ Mercedes-Benz ที่ทำได้อย่างเหนือชั้น

ความปลอดภัยและเทคโนโลยีอัจฉริยะ: อนาคตที่ยังคงทันสมัย

หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ผู้ซื้อรถยนต์ในปี 2025 ให้ความสำคัญอย่างยิ่งคือระบบความปลอดภัยและเทคโนโลยีอำนวยความสะดวก ซึ่ง Mercedes-Benz CLS 220 d AMG Premium ไม่ได้ด้อยไปกว่ารถรุ่นใหม่ๆ เลยแม้แต่น้อย

ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา (Blind Spot Assist): ระบบนี้ทำงานได้อย่างแม่นยำ ไม่เพียงแค่เตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตาขณะขับขี่เท่านั้น แต่ยังฉลาดพอที่จะเตือนผู้โดยสารเมื่อต้องการเปิดประตูรถหลังจากจอดและดับเครื่องยนต์แล้ว หากมีรถกำลังเคลื่อนที่มาจากด้านหลัง ระบบจะส่งสัญญาณเตือน ช่วยป้องกันอุบัติเหตุที่ไม่คาดฝันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ระบบเบรกอัตโนมัติ (Active Brake Assist): ระบบนี้สามารถตั้งค่าระดับความเร็วในการทำงานได้ คุณจะได้รับการแจ้งเตือนบนหน้าจอเรือนไมล์หากขับรถใกล้คันหน้ามากเกินไป และหากยังคงละเลย ระบบจะทำการเบรกอัตโนมัติเพื่อลดความรุนแรงของอุบัติเหตุหรือหลีกเลี่ยงการชนได้อย่างทันท่วงที นี่คือเทคโนโลยีความปลอดภัยที่สำคัญและมีประโยชน์อย่างยิ่งในการขับขี่บนถนนที่มีการจราจรหนาแน่นในปี 2025
ระบบช่วยจอดอัตโนมัติ (Active Parking Assist): สำหรับผู้ที่อาจไม่ถนัดในการจอดรถเข้าซอง หรือจอดเทียบฟุตบาท ระบบนี้จะเข้ามาเป็นผู้ช่วยส่วนตัวในการค้นหาพื้นที่จอดและนำรถเข้าจอดให้เองโดยที่คุณแทบไม่ต้องบังคับพวงมาลัยหรือเปลี่ยนเกียร์เองเลย นี่คือคุณสมบัติที่เพิ่มความสะดวกสบายและความมั่นใจในการขับขี่ในเมืองได้อย่างมหาศาล
กล้องมองภาพรอบทิศทาง 360 องศา: มุมมองที่ครอบคลุมรอบคันรถช่วยให้การขับขี่ในพื้นที่แคบหรือการจอดรถเป็นเรื่องง่ายดายและปลอดภัย ผมเองใช้ระบบนี้บ่อยมากในการจอดเทียบฟุตบาท ช่วยให้กะระยะได้อย่างแม่นยำ ไม่ต้องกลัวว่าจะเกิดความเสียหายกับล้อหรือตัวถัง ระบบยังสามารถเลือกดูมุมกล้องแต่ละด้านได้ตามต้องการ เพิ่มความยืดหยุ่นในการใช้งาน

เทคโนโลยีเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ของ Mercedes-Benz ในการนำเสนอนวัตกรรมเพื่อความปลอดภัยและความสะดวกสบาย ซึ่งยังคงเป็นที่ต้องการและทันสมัยแม้ในปัจจุบัน และเพิ่มความคุ้มค่าในการซื้อ Benz CLS มือสองได้อย่างชัดเจน

ความรู้สึกในการขับขี่และสุนทรียภาพภายในห้องโดยสาร

การเก็บเสียงภายในห้องโดยสารของ CLS 220 d AMG Premium ยังคงรักษามาตรฐานระดับพรีเมียมของ Mercedes-Benz ไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม แม้ขับขี่ด้วยความเร็วสูงถึง 140 กม./ชม. เสียงลมที่เล็ดลอดเข้ามาในห้องโดยสารก็ยังคงเบาบางแทบไม่ได้ยิน ทำให้การเดินทางเป็นไปอย่างเงียบสงบและผ่อนคลาย ช่วยให้คุณสามารถเพลิดเพลินกับการสนทนาหรือระบบเครื่องเสียง Burmester ได้อย่างเต็มที่

อย่างไรก็ตาม ด้วยการที่รุ่นนี้ติดตั้งยางรันแฟลต (Run-flat tires) มาให้ ซึ่งมีโครงสร้างที่แข็งแรงกว่ายางปกติเพื่อรองรับการขับขี่ได้แม้ไม่มีลมยาง ก็มีผลให้ความรู้สึกจากการขับขี่ผ่านพื้นผิวขรุขระหรือรอยต่อถนนอาจสัมผัสได้ถึงความกระด้างอยู่บ้าง เสียงยางบดถนนอาจมีเล็ดลอดเข้ามาในบางจังหวะ ซึ่งเป็นธรรมชาติของยางประเภทนี้ แต่ก็อยู่ในระดับที่ยอมรับได้สำหรับรถยนต์สปอร์ตซีดาน

ในส่วนของระบบช่วงล่าง ผมขอแยกพิจารณาเป็นสองส่วนเพื่อให้เห็นภาพชัดเจน:

ระบบช่วงล่าง: Mercedes-Benz ได้ออกแบบช่วงล่างของ CLS ให้มีบุคลิกสปอร์ต มั่นคง และเกาะถนนเป็นหลัก ไม่ได้เน้นความนุ่มนวลสูงสุดแบบรถซีดานหรูทั่วไป แต่กลับมอบความมั่นใจในการเข้าโค้งได้อย่างยอดเยี่ยม ไม่มีอาการร่อนหรือโคลงเคลงให้รู้สึก การทรงตัวที่โดดเด่นนี้ทำให้การขับขี่ด้วยความเร็วสูงเป็นไปอย่างมั่นคงและปลอดภัย สำหรับผู้ที่ชื่นชอบฟีลลิ่งการขับขี่แบบสปอร์ต ช่วงล่างของ CLS จะตอบโจทย์ได้อย่างดีเยี่ยม
ล้อและยาง: รุ่น AMG Premium มาพร้อมล้อขนาด 20 นิ้ว ซึ่งใหญ่และสวยงาม คู่หน้าใช้ยางขนาด 245/35R20 และคู่หลัง 275/30R20 ยางที่บางเฉียบนี้เสริมสร้างความดุดันและสมรรถนะการยึดเกาะถนนที่ดีเยี่ยม แต่ก็มีข้อจำกัดอยู่บ้าง เมื่อต้องขับผ่านทางขรุขระหรือตกหลุม แรงสะท้านจะส่งผ่านเข้าสู่ห้องโดยสารได้ค่อนข้างชัดเจน และมีความเสี่ยงที่ล้อหรือยางจะเสียหายได้ง่ายกว่ายางที่มีแก้มยางหนากว่า หากเป็นไปได้ การพิจารณาเปลี่ยนไปใช้ล้อขนาด 19 นิ้วที่สามารถใส่ยางที่มีแก้มยางหนาขึ้นได้ อาจเป็นทางเลือกที่ช่วยเพิ่มความนุ่มนวลในการขับขี่โดยยังคงรักษาสมรรถนะได้ดี ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมแนะนำสำหรับผู้ที่ต้องการความสบายในการขับขี่ในชีวิตประจำวันมากขึ้น

ภายในห้องโดยสารยังคงสะท้อนถึงงานฝีมือและคุณภาพวัสดุระดับพรีเมียม เบาะนั่งสปอร์ตโอบกระชับและให้การรองรับที่ดีเยี่ยม พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน AMG หุ้มหนัง Nappa หน้าจอแสดงผลขนาดใหญ่และระบบ Infotainment MBUX ที่ใช้งานง่ายและทันสมัย (แม้จะเป็นรุ่นก่อน MBUX เจเนอเรชันใหม่ล่าสุด แต่ก็ยังคงความสามารถในการเชื่อมต่อและใช้งานที่ครบครัน) การตกแต่งด้วยวัสดุชั้นดีและแสง Ambient Light ที่ปรับเปลี่ยนได้หลายสีสัน สร้างบรรยากาศที่หรูหราและผ่อนคลายในทุกการเดินทาง นี่คือสิ่งที่คุณจะได้รับจากการเลือกซื้อรถยุโรปมือสองคุณภาพสูงอย่าง CLS

สรุปภาพรวม: Mercedes-Benz CLS 220 d AMG Premium ในปี 2025 ยังเป็นทางเลือกที่ใช่หรือไม่?

จากประสบการณ์ทั้งหมด ผมยืนยันได้อย่างมั่นใจว่า Mercedes-Benz CLS 220 d AMG Premium ยังคงเป็นหนึ่งในรถยนต์ที่น่าจับตามองและน่าครอบครองอย่างยิ่งในปี 2025 นี้ มันคือรถคูเป้ 4 ประตู ที่มีดีไซน์เป็นเอกลักษณ์ ไม่ตกรุ่น และยังคงมอบความหรูหราสง่างามในแบบฉบับของ Mercedes-Benz ผสมผสานกับความสปอร์ตที่เร้าใจได้อย่างลงตัว

ในยุคที่ตลาดรถยนต์มือสองคึกคัก CLS 220 d AMG Premium กลายเป็นตัวเลือกที่มอบความคุ้มค่า Benz CLS อย่างแท้จริง ด้วยราคาที่สมเหตุสมผลสำหรับรถยนต์ระดับพรีเมียมที่เคยมีมูลค่าสูงลิ่ว แต่ยังคงเปี่ยมด้วยสมรรถนะจากเครื่องยนต์ดีเซลที่ประหยัดน้ำมัน ระบบเกียร์ 9G-TRONIC ที่ลื่นไหล และเทคโนโลยีความปลอดภัยที่ครบครัน ไม่ว่าจะเป็นระบบช่วยจอดอัตโนมัติ กล้อง 360 องศา หรือระบบเบรกอัตโนมัติ

วัสดุ งานประกอบ และเทคโนโลยีต่างๆ ยังคงรักษามาตรฐานระดับโลกของ Mercedes-Benz ได้เป็นอย่างดี ทำให้มั่นใจได้ในคุณภาพและความทนทานในระยะยาว แม้จะเป็นรุ่นที่ไม่ได้ผลิตใหม่แล้ว แต่ความคงทนของเครื่องยนต์ดีเซล OM654 ซึ่งเป็นที่ยอมรับเรื่องความเสถียร ยังคงทำให้มันเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจในตลาดรถมือสองปี 2025 สำหรับผู้ที่มองหารถยนต์ที่สามารถใช้งานได้ทุกวัน ไม่ว่าจะในเมือง หรือการเดินทางข้ามจังหวัด CLS คันนี้พร้อมจะพาคุณไปถึงจุดหมายได้อย่างปลอดภัย สะดวกสบาย และมีสไตล์

สำหรับผู้ที่กำลังมองหารถเบนซ์มือสองที่มีดีไซน์ไม่ซ้ำใคร สมรรถนะยอดเยี่ยม ประหยัดน้ำมัน และยังคงความล้ำสมัยในด้านเทคโนโลยี Mercedes-Benz CLS 220 d AMG Premium คือคำตอบที่คุณไม่ควรมองข้าม มันคือการลงทุนในยานยนต์ที่เปี่ยมด้วยรสนิยมและคุณค่าที่ยืนยง

อย่าพลาดโอกาสที่จะเป็นเจ้าของตำนานแห่งดีไซน์และความคุ้มค่า! หากคุณกำลังมองหารถหรูมือสองที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการในปี 2025 นี้ ลองพิจารณา Mercedes-Benz CLS 220 d AMG Premium และสัมผัสประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือระดับด้วยตัวคุณเอง!