[ครบชุด] TQ11053 Facebook (31)

Mercedes-Benz CLS 220 d AMG Premium ในปี 2025: ยังคงเป็นตัวเลือกที่เหนือระดับหรือไม่?

ในโลกยานยนต์ที่หมุนไปอย่างรวดเร็ว การตัดสินใจเลือกซื้อรถยนต์สักคันนั้นซับซ้อนกว่าที่เคย ไม่ใช่แค่เพียงรูปลักษณ์หรือสมรรถนะ แต่ยังรวมถึงคุณค่าในระยะยาว และความคุ้มค่ากับเม็ดเงินที่ลงทุนไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับรถยนต์หรูในตลาดมือสอง วันนี้ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านยานยนต์ที่มีประสบการณ์กว่าทศวรรษ ผมจะพาคุณเจาะลึกถึง Mercedes-Benz CLS 220 d AMG Premium เจนเนอเรชันสุดท้าย ซึ่งแม้จะยุติสายการผลิตไปแล้ว แต่กลับมีเสน่ห์ดึงดูดใจ และยังคงเป็นตัวเลือกที่น่าจับตามองอย่างยิ่งในปี 2025 นี้

หลายท่านอาจทราบดีว่า Mercedes-Benz ได้ตัดสินใจยุติการผลิตรถยนต์ตระกูล CLS ซึ่งถือเป็นการปิดฉากตำนานของ “คูเป้ 4 ประตู” ที่ Mercedes-Benz เป็นผู้บุกเบิก แต่การที่รถยนต์รุ่นนี้ได้เข้าสู่ตลาดรถยนต์มือสองอย่างเต็มตัวในปี 2025 กลับเป็นการเปิดโอกาสทองสำหรับผู้ที่มองหายนตรกรรมที่ผสานความสปอร์ตเข้ากับความหรูหรา และความประหยัดได้อย่างลงตัว ด้วยราคาที่ปรับตัวลงจากตอนเปิดตัว ทำให้ CLS 220 d AMG Premium กลายเป็นหนึ่งใน “รถหรูมือสอง” ที่น่าสนใจที่สุดในปัจจุบัน หากคุณกำลังมองหารถยนต์ที่โดดเด่น ไม่ซ้ำใคร และให้ประสบการณ์การขับขี่ที่แตกต่าง ผมรับประกันว่า CLS คันนี้ มีอะไรให้คุณค้นพบมากกว่าที่คุณคิด

งานออกแบบที่เหนือกาลเวลา: เสน่ห์ที่มิอาจปฏิเสธได้

หัวใจสำคัญที่ทำให้ Mercedes-Benz CLS ไม่เคยถูกมองข้ามไป คือ “งานออกแบบ” ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรก CLS ได้สร้างนิยามใหม่ให้กับตลาดรถยนต์ด้วยการผสมผสานเส้นสายที่สง่างามของรถซีดานเข้ากับความโฉบเฉี่ยวของรถคูเป้ได้อย่างไร้รอยต่อ แม้กระทั่งในปี 2025 นี้ CLS เจนเนอเรชันสุดท้ายก็ยังคงดึงดูดทุกสายตาเมื่อวิ่งอยู่บนท้องถนน ซึ่งเป็นข้อพิสูจน์ถึงความสำเร็จในการออกแบบที่ “เหนือกาลเวลา” ไม่ว่าจะมองจากมุมไหน CLS ก็ยังคงดูสปอร์ต หรูหรา และทรงพลัง ด้วยรูปทรง “คูเป้ 4 ประตู” ที่มีหลังคาลาดเอียงจรดท้ายรถ ทำให้มันดูยาว เพรียว และมีไดนามิกที่ชัดเจน ไฟหน้า MULTIBEAM LED ที่คมกริบ และกระจังหน้า diamond grille อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของรุ่น AMG Premium ยิ่งเสริมบุคลิกให้ดูดุดันและทันสมัยไม่แพ้ “รถยนต์พรีเมียม” รุ่นใหม่ๆ เลยทีเดียว

สำหรับผมที่มีประสบการณ์ในวงการนี้มานาน การได้เห็น CLS วิ่งผ่านไปแต่ละครั้ง ก็ยังอดเหลียวมองไม่ได้ นั่นแสดงให้เห็นว่าดีไซน์นี้ไม่ได้เป็นเพียงกระแสแฟชั่นชั่วครู่ แต่เป็นงานศิลปะบนล้อเลื่อนที่ออกแบบมาอย่างพิถีพิถัน เพื่อให้คงความโดดเด่นไปอีกนานหลายปี การเป็น “โฉมสุดท้าย” ยิ่งทำให้มันมีสถานะพิเศษในฐานะ “อนาคตของรถคลาสสิก” ที่จะไม่ตกรุ่นง่ายๆ คุณสามารถมั่นใจได้ว่า CLS ของคุณจะยังคงดูดีและสะท้อนรสนิยมที่ไม่ธรรมดาของผู้ครอบครองได้เป็นอย่างดี

ภายในห้องโดยสาร CLS ยังคงรักษากลิ่นอายความหรูหราของ Mercedes-Benz ไว้ได้อย่างครบถ้วน วัสดุคุณภาพสูง การตัดเย็บที่ประณีต และการจัดวางอุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้งานง่าย ล้วนเป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงความเอาใจใส่ในทุกรายละเอียด แสงไฟ Ambient Lighting ที่สามารถปรับเปลี่ยนสีได้หลายเฉด ยิ่งช่วยสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสารให้ดูมีชีวิตชีวาและปรับเปลี่ยนได้ตามอารมณ์ของผู้ขับขี่ เบาะนั่งคู่หน้าสไตล์สปอร์ตที่โอบกระชับลำตัว มอบความสบายและการรองรับที่ดีเยี่ยมสำหรับการเดินทางไกล ผนวกกับเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์การใช้งานในยุคปัจจุบัน ทำให้ CLS ไม่ได้มีดีแค่ความสวยงามภายนอก แต่ยังมอบประสบการณ์การเดินทางที่เหนือระดับในทุกมิติ

ประสิทธิภาพและ “ความประหยัดน้ำมัน” ที่เกินคาด: ขุมพลังดีเซลที่น่าทึ่ง

ภายใต้ความสวยงาม CLS 220 d AMG Premium มาพร้อมขุมพลังที่น่าประทับใจ ด้วยเครื่องยนต์ “ดีเซล 2.0 ลิตร” (รหัส OM654) ขนาด 1,950 ซีซี 4 สูบ เทอร์โบ ที่ได้รับการยอมรับในเรื่องของประสิทธิภาพและความทนทาน ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ (9G-TRONIC) ให้กำลังสูงสุดถึง 194 แรงม้า ที่ 3,800 รอบ/นาที และแรงบิดมหาศาล 400 นิวตันเมตร ที่รอบเครื่องยนต์ต่ำเพียง 1,600-2,800 รอบ/นาที ซึ่งตัวเลขเหล่านี้บ่งชี้ถึงศักยภาพในการออกตัวและเร่งแซงที่ยอดเยี่ยม อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 7.5 วินาที สำหรับรถหรูขนาดใหญ่นั้น ถือว่าไม่ใช่เรื่องธรรมดา และตอบสนองการขับขี่ได้ฉับไวในทุกช่วงความเร็ว

สิ่งที่ทำให้เครื่องยนต์ดีเซลรุ่นนี้โดดเด่นเป็นพิเศษคือ “ระบบ Mild Hybrid” หรือ EQ Boost ที่เข้ามาช่วยเสริมการทำงานได้อย่างชาญฉลาด สังเกตได้จากจังหวะการออกตัวที่นุ่มนวลและลื่นไหล ไม่มีอาการหน่วงหรือกระตุก ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยให้การขับขี่ในเมืองราบรื่นขึ้น แต่ยังเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้ CLS 220 d มี “อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง” ที่น่าเหลือเชื่อ สำหรับรถขนาดนี้ การันตีได้เลยว่าคุณจะประหยัดค่าใช้จ่ายเชื้อเพลิงไปได้มาก ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการเลือก “รถยนต์มือสอง” ในปี 2025 ที่ราคาน้ำมันยังคงผันผวน

จากการทดสอบและประสบการณ์ขับขี่จริงในสภาพการจราจรที่หลากหลาย ผมสามารถสรุป “ความประหยัดน้ำมัน” ของ CLS 220 d ได้ดังนี้:
การขับขี่ในเมือง (รถติดหนัก): อัตราสิ้นเปลืองประมาณ 10-12 กม./ลิตร ถือว่ายอดเยี่ยมมากสำหรับรถยนต์ขนาดใหญ่
การขับขี่ทางไกล (ทางโล่ง ไม่ติด): คุณสามารถทำตัวเลขได้สูงถึง 18-22 กม./ลิตร ซึ่งเป็นระดับที่ “ประหยัดน้ำมัน” เทียบเท่ากับรถยนต์ขนาดเล็กบางรุ่น นับเป็นจุดแข็งที่หาตัวจับยากในกลุ่ม “รถหรู”
การขับขี่แบบผสม (ในเมืองครึ่ง ทางโล่งครึ่ง): โดยเฉลี่ยแล้ว จะอยู่ที่ประมาณ 14-16 กม./ลิตร ซึ่งเป็นตัวเลขที่น่าพอใจอย่างยิ่ง

ด้วยขุมพลังดีเซลที่ทรงประสิทธิภาพ ผสานกับเทคโนโลยี Mild Hybrid ทำให้ CLS 220 d AMG Premium เป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ทั้ง “สมรรถนะสูง” และ “ประหยัดน้ำมัน” ไปพร้อมๆ กัน นับเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาถึงค่าเชื้อเพลิงในปัจจุบัน และยังคงเป็นหนึ่งใน “รถดีเซลประหยัดน้ำมัน” อันดับต้นๆ ในตลาดมือสองของปี 2025

ประสบการณ์การขับขี่ที่แตกต่าง: ความคล่องตัวและความปลอดภัยเหนือระดับ

เมื่อพูดถึงประสบการณ์การขับขี่ Mercedes-Benz CLS 220 d AMG Premium มอบความรู้สึกที่หลากหลายและตอบโจทย์ทุกการใช้งานได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วย Driving Modes ที่ปรับเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์:

โหมด ECO: เหมาะสำหรับการขับขี่ในเมืองที่มีการจราจรหนาแน่นเป็นอย่างยิ่ง เป็นโหมดที่เน้น “ประหยัดน้ำมัน” สูงสุด การตอบสนองของคันเร่งจะนุ่มนวล เครื่องยนต์ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่จำเป็นต้องใช้กำลังมากนัก ทำให้การขับขี่ในเมืองเป็นไปอย่างผ่อนคลายและลดภาระการใช้เชื้อเพลิงได้อย่างชัดเจน หากใช้ในจังหวะเร่งแซง อาจรู้สึกว่ามีอาการหน่วงเล็กน้อย ซึ่งเป็นเรื่องปกติของโหมดนี้
โหมด Comfort: นี่คือโหมดที่ผมแนะนำว่าครอบคลุมการใช้งานได้ดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่ในเมือง รถติด หรือการออกเดินทางไกล การตอบสนองของเครื่องยนต์ในโหมดนี้จะมาอย่างนุ่มนวลแต่ต่อเนื่อง มีพละกำลังที่พอเหมาะสำหรับการขับขี่ทั่วไป ให้ความสมดุลระหว่างความนุ่มนวลและความคล่องตัวได้อย่างลงตัว
โหมด Sport: หากคุณต้องการปลดปล่อย “สมรรถนะสูง” ของ CLS อย่างเต็มที่ โหมด Sport คือคำตอบ คันเร่งจะตอบสนองได้ไวขึ้น เกียร์จะเปลี่ยนที่รอบสูงขึ้น และเครื่องยนต์จะพร้อมพุ่งทะยานในทันทีที่เท้าของคุณสัมผัสคันเร่ง หลายคนอาจเข้าใจผิดว่า CLS 220 d เป็นรถที่ “อืด” แต่เมื่อคุณได้ลองใช้โหมด Sport คุณจะพบว่ามันซ่อนความดุดันและเร้าใจไว้ได้อย่างคาดไม่ถึง ความเร็วสามารถไต่ระดับขึ้นไปได้อย่างรวดเร็วและมั่นคง ไม่ว่าจะเร่งแซงบนถนนหลวง หรือต้องการสัมผัสความเร็ว CLS ก็พร้อมตอบสนองได้อย่างไร้ข้อกังขา

แม้ว่าตัวถังของ CLS จะมีขนาดใหญ่ แต่การควบคุมรถกลับทำได้อย่างคล่องตัวเกินคาด การเลี้ยวกลับรถ การซอกแซกในที่แคบ หรือการเข้า-ออกซอยต่างๆ ไม่ได้เป็นปัญหาอย่างที่คิด ระบบช่วงล่างที่ได้รับการปรับแต่งมาเป็นพิเศษ ให้ความมั่นคงและยึดเกาะถนนได้ดีเยี่ยม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง คุณจะรู้สึกได้ถึงความมั่นใจและปลอดภัย ไม่มีการร่อนหรือโคลงเคลง ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่สำคัญของ “รถยนต์พรีเมียม”

“ระบบความปลอดภัย” และเทคโนโลยีอัจฉริยะ: อนาคตของการขับขี่

หนึ่งในจุดแข็งที่ Mercedes-Benz ให้ความสำคัญเสมอมาคือ “ระบบความปลอดภัย” และ “เทคโนโลยีรถยนต์” อันล้ำสมัย ซึ่งใน CLS 220 d AMG Premium ก็อัดแน่นไปด้วยระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ที่ครบครันและใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวันของปี 2025:

Blind Spot Assist: ระบบเตือนมุมอับสายตา ที่ช่วยให้การเปลี่ยนเลนปลอดภัยยิ่งขึ้น นอกจากจะเตือนด้วยสัญญาณไฟที่กระจกมองข้างแล้ว หากมีการพยายามเปลี่ยนเลนขณะที่มีรถอยู่ในจุดอับสายตา ระบบจะส่งเสียงเตือนเพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ ยิ่งไปกว่านั้น แม้จะจอดรถและดับเครื่องยนต์ไปแล้ว หากเราเปิดประตูรถแล้วมีรถจักรยานยนต์หรือรถคันอื่นวิ่งมาจากด้านหลัง ระบบก็ยังคงแจ้งเตือนเพื่อความปลอดภัยสูงสุด
Active Brake Assist (ระบบเบรกอัตโนมัติ): ระบบนี้เป็นประโยชน์อย่างยิ่งในสภาพการจราจรที่หนาแน่น เราสามารถตั้งค่าระดับความไวในการทำงานได้ หากขับตามรถคันหน้าใกล้เกินไป ระบบจะส่งสัญญาณเตือนบนหน้าจอเรือนไมล์ และถ้ายังคงขับจี้มากเกินไป รถจะทำการเบรกอัตโนมัติเพื่อลดความเสี่ยงจากการชนท้าย นับเป็นระบบที่ช่วยลดอุบัติเหตุได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ระบบช่วยนำรถเข้าจอดอัตโนมัติ (Parking Pilot with PARKTRONIC): สำหรับผู้ขับขี่มือใหม่ หรือแม้แต่ผู้ที่ต้องการความสะดวกสบายสูงสุด การจอดรถเข้าซองจะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป CLS 220 d AMG Premium สามารถค้นหาที่จอดและนำรถเข้าจอดให้เองได้อย่างแม่นยำ โดยที่เราไม่จำเป็นต้องหมุนพวงมาลัยหรือเปลี่ยนเกียร์เองเลย เพียงควบคุมคันเร่งและเบรกเท่านั้น นับเป็น “เทคโนโลยีช่วยเหลือการขับขี่” ที่สร้างความประทับใจและลดความกังวลได้อย่างมาก
กล้องมองภาพรอบทิศทาง 360 องศา: นี่คือฟีเจอร์ที่ผมใช้งานบ่อยที่สุด ด้วยมุมมองที่ครอบคลุมรอบคันรถ ทำให้เรามองเห็นสิ่งกีดขวางได้อย่างชัดเจน ไม่ต้องกังวลว่าจะขับไปเบียดหรือเฉี่ยวชนรถคันอื่นหรือขอบฟุตปาธ นอกจากนี้ เรายังสามารถเลือกดูกล้องในแต่ละมุมได้อย่างอิสระ ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากในการจอดเทียบฟุตปาธ หรือถอยเข้าจอดในพื้นที่จำกัด ช่วยให้ “การขับขี่ปลอดภัย” และสะดวกสบายยิ่งขึ้น

ในด้านของการเก็บเสียง ห้องโดยสารของ CLS 220 d ยังคงรักษามาตรฐาน “รถหรู” ได้อย่างยอดเยี่ยม แม้จะใช้ความเร็วสูงถึง 140 กม./ชม. เสียงลมที่เข้ามาในห้องโดยสารก็ยังแทบจะไม่ได้ยิน ช่วยให้การสนทนาหรือการฟังเพลงเป็นไปอย่างราบรื่น แต่ด้วยความที่เป็นยางรันแฟลต และล้อขนาด 20 นิ้ว ยางที่มีแก้มยางค่อนข้างบาง อาจทำให้ได้ยินเสียงดังที่มาจากพื้นผิวถนน หรือรู้สึกสะท้านเล็กน้อยเมื่อขับผ่านทางขรุขระ หรือตกหลุมบ่อ ซึ่งเป็นข้อสังเกตที่ตรงไปตรงมา และผมอยากให้ผู้ที่สนใจพิจารณาถึงจุดนี้

บทสรุปสำหรับปี 2025: CLS 220 d AMG Premium ยังน่าลงทุนหรือไม่?

จากมุมมองของผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ ผมขอยืนยันว่า Mercedes-Benz CLS 220 d AMG Premium ยังคงเป็นตัวเลือกที่ “น่าสนใจอย่างยิ่ง” ในตลาด “รถยนต์มือสอง” ปี 2025 ด้วยดีไซน์สปอร์ตที่เหนือกาลเวลา ผสานกับความหรูหราสง่างาม ทำให้มันยังคงเป็น “รถยนต์พรีเมียม” ที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร และไม่ตกรุ่นง่ายๆ การเป็นเจนเนอเรชันสุดท้าย ยิ่งทำให้มันมีคุณค่าในฐานะ “อนาคตของรถคลาสสิก” ที่หลายคนมองหา

หัวใจหลักคือ “ประสิทธิภาพเครื่องยนต์ดีเซล” ที่ประหยัดน้ำมันอย่างเหลือเชื่อ ผนวกกับ “เทคโนโลยีรถยนต์” และ “ระบบความปลอดภัย” ที่ครบครันตามมาตรฐานของ Mercedes-Benz ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ขับขี่ในปัจจุบันได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานในเมือง หรือการเดินทางไกล CLS คันนี้ก็พร้อมพาคุณไปถึงจุดหมายได้อย่างปลอดภัยและสะดวกสบาย ด้วย “ประสบการณ์ขับขี่” ที่แตกต่างและเหนือระดับ

แม้จะมีข้อสังเกตเรื่องล้อและยาง 20 นิ้วที่อาจส่งผลต่อความนุ่มนวลในการขับขี่บนถนนที่ไม่เรียบ แต่ในภาพรวมแล้ว นี่คือรถยนต์ที่มอบ “ความคุ้มค่า” อย่างแท้จริง โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาจาก “ราคาขายต่อ” ในตลาดมือสองที่น่าดึงดูดใจ และ “ค่าบำรุงรักษา” ที่ไม่น่ากังวลจนเกินไปหากคุณดูแลตามระยะเวลา ผู้ที่กำลังมองหารถยนต์ที่ผสมผสานความสปอร์ต หรูหรา ความประหยัด และเทคโนโลยีได้อย่างลงตัว CLS 220 d AMG Premium คือคำตอบที่ไม่อาจมองข้ามได้ คุณจะได้รับรถยนต์ที่มีเสน่ห์เฉพาะตัว เปี่ยมด้วยสมรรถนะและความปลอดภัย ในราคาที่สมเหตุสมผลสำหรับรถยนต์ระดับนี้

ดังนั้น หากคุณเป็นหนึ่งในผู้ที่กำลังมองหายนตรกรรมที่แตกต่าง มีสไตล์เป็นของตัวเอง ไม่ตามกระแส และต้องการรถยนต์ที่ยังคงคุณค่าในระยะยาว พร้อมทั้งมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือกว่าในทุกด้าน Mercedes-Benz CLS 220 d AMG Premium คือตัวเลือกที่ผมอยากแนะนำให้คุณสัมผัสด้วยตัวคุณเอง อย่ารอช้าที่จะเป็นเจ้าของตำนานบทสุดท้ายของ CLS ที่ยังคงเปล่งประกายอย่างเจิดจรัสในปี 2025 นี้!

สนใจสัมผัสประสบการณ์การขับขี่ Mercedes-Benz CLS 220 d AMG Premium และสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเป็นเจ้าของรถยนต์มือสองคุณภาพสูงรุ่นนี้ได้แล้ววันนี้! ทีมงานผู้เชี่ยวชาญของเราพร้อมให้คำปรึกษาอย่างใกล้ชิด เพื่อให้คุณได้รถยนต์ที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของคุณ.