[ครบชุด] TQ11161 พี่สะใภ้สุดแกร่ง ฟาดคืนทั้งตระกูลผัวไม่ไว้หน้าใครเลย

JAECOO 5 EV: ก้าวใหม่ของ B-SUV ไฟฟ้าสุดคุ้มค่าที่พร้อมเขย่าตลาดไทยปี 2025

ในฐานะผู้ที่คลุกคลีอยู่ในวงการยานยนต์มากว่าทศวรรษ ผมเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงและวิวัฒนาการอย่างไม่หยุดยั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด ในปี 2025 นี้ ผู้บริโภคชาวไทยไม่ได้มองหารถ EV เพียงเพราะกระแสอีกต่อไป แต่กำลังมองหานวัตกรรมที่ตอบโจทย์การใช้งานจริง คุ้มค่า และมาพร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัย และในวันนี้ ผมจะพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับผู้เล่นหน้าใหม่ที่พร้อมจะพลิกโฉมวงการ B-SUV ไฟฟ้าในประเทศไทย นั่นคือ JAECOO 5 EV ซึ่งเพิ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการด้วยราคาที่เรียกได้ว่า “ทำลายทุกข้อจำกัด” ด้วยราคาเริ่มต้นเพียง 549,000 บาท ทำให้รถคันนี้ไม่ใช่แค่ตัวเลือกที่น่าสนใจ แต่เป็นตัวแปรสำคัญที่เราต้องจับตามอง

แบรนด์ OMODA & JAECOO ซึ่งเป็นปีกหนึ่งของยักษ์ใหญ่อย่าง Chery ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลในการรุกตลาดโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สำหรับ JAECOO 5 EV นี้ถูกวางตำแหน่งให้เป็น รถ SUV ไฟฟ้า ที่เน้นความพรีเมียม ผสมผสานดีไซน์ที่แข็งแกร่งเข้ากับเทคโนโลยีอัจฉริยะ และที่สำคัญคือ เข้าถึงได้ง่ายในเรื่องราคา ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจของผู้บริโภคยุคใหม่

พลิกมุมมองใหม่กับดีไซน์ที่โดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์

สิ่งแรกที่สะดุดตาของ JAECOO 5 EV คือการออกแบบที่ฉีกออกจากกรอบเดิมๆ ของรถยนต์ไฟฟ้าในตลาด รถ B-SUV ไฟฟ้า คันนี้มาพร้อมรูปทรงแบบ “กล่อง” ที่สื่อถึงความบึกบึน แข็งแกร่ง และการใช้งานที่หลากหลาย ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ที่แตกต่างจากคู่แข่งที่มักจะเน้นเส้นสายที่โค้งมนหรือลู่ลมเพื่อหลักอากาศพลศาสตร์เพียงอย่างเดียว จากประสบการณ์ของผม ดีไซน์ที่กล้าฉีกแนวเช่นนี้มักจะสร้างความจดจำและเป็นที่พูดถึงในตลาดได้อย่างรวดเร็ว

บริเวณด้านหน้า รถคันนี้โดดเด่นด้วยกันชนหน้าดีไซน์เหลี่ยมขนาดใหญ่ ที่มาพร้อมแผงกระจังหน้าแบบโปร่งใสซึ่งแตกต่างจากกระจังหน้าแบบเจาะรูในรุ่นน้ำมัน โดยมีการประทับตราชื่อแบรนด์ J A E C O O ไว้ตรงกลางอย่างชัดเจน การออกแบบนี้สะท้อนถึงยุคสมัยของรถยนต์ไฟฟ้าที่ไม่จำเป็นต้องมีช่องดักอากาศขนาดใหญ่ แต่ยังคงไว้ซึ่งความดุดันและทันสมัย ชุดไฟหน้า LED ทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่ขนาบข้างอย่างลงตัว ให้ความรู้สึกโฉบเฉี่ยวแต่ยังคงความคลาสสิกของ SUV ไว้

เส้นสายด้านข้างของ JAECOO 5 EV เน้นความเรียบหรู แต่ยังคงไว้ซึ่งมิติที่น่าสนใจ ด้วยเส้นนำสายตาที่ลากยาวต่อเนื่องตั้งแต่ชุดไฟหน้าไปจรดชุดไฟท้าย สร้างความรู้สึกของการเคลื่อนไหวและพลังงาน มือจับประตูแบบปกติเป็นทางเลือกที่ชาญฉลาดในแง่ของการใช้งานจริงและความทนทาน ในขณะที่ล้ออัลลอยแบบทูโทนขนาด 18-19 นิ้ว (ตามรุ่นย่อย) เสริมความสปอร์ตและความพรีเมียมได้อย่างลงตัว

ส่วนท้ายของรถติดตั้งไฟท้าย LED แนวนอนที่พาดเต็มพื้นที่ความกว้างของตัวรถ ซึ่งเป็นเทรนด์การออกแบบที่กำลังได้รับความนิยมในปัจจุบัน ช่วยให้รถดูกว้างและทันสมัยยิ่งขึ้น สปอยเลอร์หลังคาขนาดใหญ่และดิฟฟิวเซอร์พลาสติกสีดำใต้กันชนหลังช่วยเสริมลุคสปอร์ต ขณะที่ราวแล็คหลังคาสีบรอนซ์เงินแบบตายตัวไม่เพียงเพิ่มความสวยงาม แต่ยังสื่อถึงฟังก์ชันการใช้งานของรถ SUV ได้เป็นอย่างดี ด้วยมิติตัวถังที่ยาว 4,380 มม. กว้าง 1,860 มม. สูง 1,650 มม. และระยะฐานล้อ 2,700 มม. ทำให้ JAECOO 5 EV มีพื้นที่ภายในที่กว้างขวางเกินคาดสำหรับรถในเซกเมนต์ B-SUV และระยะความสูงใต้ท้องรถ 174 มม. ก็เพียงพอสำหรับการขับขี่ในสภาพถนนของประเทศไทย

ห้องโดยสาร: ความเรียบง่ายที่มาพร้อมเทคโนโลยีและความสะดวกสบาย

เมื่อก้าวเข้าสู่ห้องโดยสารของ JAECOO 5 EV คุณจะสัมผัสได้ถึงปรัชญาการออกแบบที่ผสมผสานความมินิมอลเข้ากับเทคโนโลยีล้ำสมัยได้อย่างลงตัว ในฐานะผู้ใช้งานรถยนต์ไฟฟ้ามาหลายรุ่น ผมมองว่าการออกแบบภายในที่เน้นความสะอาดตาและใช้งานง่ายคือสิ่งที่ผู้บริโภคยุคใหม่ต้องการ แผงแดชบอร์ดได้รับการติดตั้งหน้าปัดดิจิทัลขนาด 8 นิ้ว ที่แสดงข้อมูลการขับขี่ได้อย่างชัดเจนอยู่ด้านหลังพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันทรงสองก้านที่กระชับมือ

หัวใจสำคัญของห้องโดยสารคือหน้าจออินโฟเทนเมนต์ขนาด 13.2 นิ้ว ที่มาในแนวตั้งบนคอนโซลกลาง ซึ่งเป็นดีไซน์ที่เริ่มเห็นมากขึ้นในรถยนต์ไฟฟ้าระดับพรีเมียม การจัดวางในแนวตั้งนี้ไม่เพียงเพิ่มความสวยงามทันสมัย แต่ยังช่วยให้การแสดงผลข้อมูลแผนที่หรือแอปพลิเคชันต่างๆ มีประสิทธิภาพมากขึ้น รองรับการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนได้อย่างราบรื่น นอกจากนี้ยังมีที่ชาร์จสมาร์ทโฟนแบบไร้สาย ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่ไม่ต้องการพกสายชาร์จให้ยุ่งยาก

ชุดอุปกรณ์ภายในก็จัดมาให้อย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็นปุ่ม Push Start, กุญแจรีโมท Keyless Entry เพื่อความสะดวกสบายในการเข้าออกรถ, ชุดไฟ Ambient Light ที่ปรับเปลี่ยนบรรยากาศภายในห้องโดยสารได้ตามต้องการ และที่น่าประทับใจคือระบบเครื่องเสียงจาก Sony พร้อมลำโพงถึง 12 ตำแหน่ง มอบประสบการณ์เสียงระดับพรีเมียมที่ไม่ค่อยพบเห็นในรถยนต์ระดับราคานี้ นอกจากนี้ยังมีระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบแยกส่วนซ้าย-ขวา ทำให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารสามารถตั้งอุณหภูมิที่เหมาะสมของตัวเองได้ และฟังก์ชันเบรกมือไฟฟ้า (EPB) พร้อม Auto Hold ที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายและความปลอดภัยในการขับขี่ในเมือง

ในส่วนของเบาะที่นั่ง หุ้มด้วยวัสดุกึ่งหนังแท้ ให้สัมผัสที่นุ่มนวลและดูหรูหรา เบาะคู่หน้าปรับด้วยไฟฟ้า ช่วยให้การหาตำแหน่งขับขี่ที่เหมาะสมเป็นเรื่องง่าย ในขณะที่เบาะหลังสามารถปรับพับได้แบบ 60:40 ซึ่งเป็นฟังก์ชันที่สำคัญสำหรับรถ SUV ที่เน้นความอเนกประสงค์ มีพื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายที่มีความจุ 480 ลิตร และสามารถขยายได้มากถึง 1,284 ลิตรเมื่อพับเบาะด้านหลังลง ซึ่งเป็นจุดแข็งที่ทำให้ JAECOO 5 EV ตอบโจทย์ทั้งการใช้งานในชีวิตประจำวันและการเดินทางไกลที่ต้องบรรทุกสัมภาระจำนวนมากได้เป็นอย่างดี

สมรรถนะการขับขี่: พลังงานไฟฟ้าที่ตอบสนองได้ทันใจ

หัวใจหลักของรถยนต์ไฟฟ้าคือระบบขับเคลื่อน และ JAECOO 5 EV ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 1 ตัวที่ขับเคลื่อนล้อหน้า (FWD) มอบพละกำลังสูงสุด 211 แรงม้า (PS) พร้อมแรงบิดสูงสุด 288 นิวตันเมตร จากประสบการณ์ของผม ตัวเลขเหล่านี้ถือว่าเหลือเฟือสำหรับการขับขี่ในชีวิตประจำวัน และยังให้ความสนุกสนานในการเร่งแซง การตอบสนองของมอเตอร์ไฟฟ้าที่ส่งกำลังได้ทันทีทำให้ JAECOO 5 EV มีอัตราเร่ง 0-100 km/h ภายใน 7.7 วินาที ซึ่งถือว่ารวดเร็วและคล่องตัวอย่างมากสำหรับ รถ SUV ไฟฟ้า ในเซกเมนต์นี้ ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 175 km/h ซึ่งเพียงพอต่อการใช้งานบนทางหลวงในประเทศไทย

แบตเตอรี่ที่มีความจุ 58.9 kWh ถือเป็นขนาดที่เหมาะสมสำหรับ รถยนต์ไฟฟ้า ในปี 2025 โดยให้ระยะทางวิ่งสูงสุด 461 km. ตามมาตรฐาน NEDC หรือประมาณ 400 km. ตามมาตรฐาน WLTP ซึ่งเป็นตัวเลขที่สะท้อนถึงการใช้งานจริงได้ดีกว่า ด้วยระยะทางขนาดนี้ ผู้ใช้งานสามารถเดินทางข้ามจังหวัดได้สบายๆ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องระยะทางวิ่ง (Range Anxiety) มากนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาถึงการเติบโตของสถานีชาร์จรถไฟฟ้าในปัจจุบัน

ในด้านการชาร์จ JAECOO 5 EV รองรับหัวชาร์จ Type2 / CCS Combo ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในประเทศไทย การชาร์จกระแสสลับ AC รองรับสูงสุด 11 kW ซึ่งเหมาะสำหรับการชาร์จที่บ้านหรือที่ทำงาน และการชาร์จกระแสตรง DC รองรับสูงสุด 80 kW ทำให้การชาร์จเร็วเป็นไปได้ในเวลาที่เหมาะสม ณ สถานีชาร์จสาธารณะ ช่วยประหยัดเวลาในการเดินทางไกล นี่คือสิ่งที่ผู้ใช้ รถ EV ในปี 2025 คาดหวังและ JAECOO 5 EV ก็ตอบโจทย์ได้อย่างลงตัว

ระบบช่วงล่างก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญต่อประสบการณ์การขับขี่ JAECOO 5 EV มาพร้อมช่วงล่างด้านหน้าแบบ McPherson Strut และด้านหลังแบบ Multi-Link ซึ่งเป็นชุดช่วงล่างที่ให้ความสมดุลระหว่างความนุ่มนวลในการขับขี่และความมั่นคงในการทรงตัว ผมมองว่าการเลือกใช้ช่วงล่างแบบ Multi-Link ที่ด้านหลังนี้แสดงให้เห็นถึงความใส่ใจในการออกแบบเพื่อมอบประสบการณ์ขับขี่ที่ดีเยี่ยม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องรับมือกับสภาพถนนที่หลากหลาย และด้วยโหมดการขับขี่ที่มีให้เลือกทั้ง ECO, Normal และ Sport ผู้ขับขี่สามารถปรับเปลี่ยนคาแรคเตอร์ของรถให้เข้ากับสไตล์การขับขี่หรือสถานการณ์ต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย

ที่สุดแห่งความปลอดภัยและระบบช่วยเหลือการขับขี่ (ADAS) ในปี 2025

จุดแข็งที่โดดเด่นอีกประการของ JAECOO 5 EV คือระบบความปลอดภัยและระบบช่วยเหลือการขับขี่ขั้นสูง (ADAS) ที่จัดมาให้แบบเต็มพิกัด ซึ่งทำงานร่วมกับเรดาร์คลื่นระดับมิลลิเมตร 2 ระบบ และเรดาร์คลื่นมิลิเมตรระยะไกล 1 ระบบ ระบบเหล่านี้ไม่เพียงแต่ช่วยป้องกันอุบัติเหตุ แต่ยังช่วยลดความเหนื่อยล้าของผู้ขับขี่ในการเดินทางไกล ทำให้การขับขี่ปลอดภัยและสะดวกสบายยิ่งขึ้น ในฐานะผู้เชี่ยวชาญ ผมเห็นว่าระบบ ADAS ที่ครอบคลุมเช่นนี้กำลังกลายเป็นมาตรฐานที่สำคัญและจำเป็นสำหรับ รถยนต์ไฟฟ้า ในปัจจุบัน

รายการระบบความปลอดภัยที่ติดตั้งมาใน JAECOO 5 EV นั้นน่าประทับใจเป็นอย่างยิ่ง อาทิ:

ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (AEB): ช่วยลดความเสี่ยงจากการชนด้านหน้า
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบปรับได้ (Adaptive Cruise Control): ช่วยรักษาระยะห่างจากรถคันหน้าโดยอัตโนมัติ
ระบบเตือนการชนด้านหน้า (FCW): แจ้งเตือนเมื่อมีความเสี่ยงที่จะชนรถคันหน้า
ระบบเตือนการออกนอกเลน (LDW) และระบบรักษารถให้อยู่กลางเลน (LCA): ช่วยให้รถอยู่ในเลนที่ถูกต้อง
ระบบช่วยเหลือการขับขี่ในสภาพความเร็วต่ำ (TJA): อำนวยความสะดวกในการขับขี่เมื่อการจราจรติดขัด
ระบบเตือนมุมอับสายตา (Blind Spot) และระบบช่วยเหลือเพื่อเปลี่ยนเลน (LCA): เพิ่มความปลอดภัยเมื่อเปลี่ยนเลน
ระบบเตือนเมื่อเปิดประตู (DOW): แจ้งเตือนเมื่อมีวัตถุเคลื่อนที่เข้ามาจากด้านหลังขณะเปิดประตู
ระบบควบคุมรถให้อยู่ในเลน (ELK): ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนป้องกันการออกนอกถนน
ระบบเตือนจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTA) และระบบช่วยเบรกขณะถอยหลัง (RCTB): ป้องกันอุบัติเหตุขณะถอยรถ
ระบบป้องกันการออกนอกเลน (LDP): ช่วยควบคุมรถไม่ให้เปลี่ยนเลนโดยไม่ได้ตั้งใจ
ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัจฉริยะ (IES): เสริมประสิทธิภาพการเบรกในสถานการณ์ฉุกเฉิน
ระบบแจ้งเตือนการออกตัว (DAI): แจ้งเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่แล้วแต่เรายังไม่ได้ออกตัว
ระบบเตือนการชนด้านหลัง (RCW): แจ้งเตือนเมื่อมีความเสี่ยงที่จะถูกชนจากด้านหลัง
ระบบควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง (LKA): ช่วยรักษาตำแหน่งรถให้อยู่กึ่งกลางเลน
ระบบจำกัดความเร็วแบบแอ็คทีฟ (ASL): ช่วยควบคุมความเร็วไม่ให้เกินที่กำหนด
ระบบเบรกอัตโนมัติป้องกันการชน (MCB): ลดความเสียหายจากการชนครั้งที่สอง
กล้องมองภาพรอบคัน 360 องศา และฟังก์ชันแสดงภาพใต้พื้นรถ 540 องศา: นวัตกรรมที่ช่วยให้การจอดรถและการขับขี่ในพื้นที่แคบเป็นเรื่องง่ายและปลอดภัยยิ่งขึ้น
เซนเซอร์กะระยะช่วยจอดด้านหน้า: เพิ่มความมั่นใจในการจอด

ทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นว่า JAECOO 5 EV ไม่ได้เน้นแค่เรื่องราคา แต่ยังให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของผู้ขับขี่และผู้โดยสารเป็นอันดับแรก ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคในปี 2025 ให้ความสำคัญอย่างมาก

ราคาและรุ่นย่อย: การทำลายกำแพงราคาในตลาด EV

JAECOO 5 EV มีให้เลือกทั้งหมด 2 รุ่นย่อย ซึ่งถูกกำหนดราคาให้เป็นเจ้าของได้ง่ายอย่างน่าตกใจ:

JAECOO 5 EV Dynamic: 549,000 บาท
JAECOO 5 EV Max: 599,000 บาท

นี่คือจุดที่ทำให้ JAECOO 5 EV กลายเป็นผู้เล่นที่น่าจับตาในตลาด รถ EV ประเทศไทย การตั้งราคาเริ่มต้นที่ต่ำกว่า 600,000 บาทสำหรับ รถยนต์ไฟฟ้า ประเภท B-SUV ที่มาพร้อมเทคโนโลยีและฟีเจอร์ครบครันขนาดนี้ ถือเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่และเป็นการกระตุ้นตลาดอย่างแท้จริง ผมเชื่อว่าราคาที่เข้าถึงง่ายนี้จะทำให้ผู้บริโภคที่ลังเลในการเปลี่ยนมาใช้ รถยนต์ไฟฟ้า ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาถึงความคุ้มค่าที่คุณจะได้รับเมื่อเทียบกับรถยนต์ในพิกัดเดียวกันไม่ว่าจะเป็นรถสันดาปภายในหรือรถ EV ด้วยกันเอง

JAECOO 5 EV Dynamic ซึ่งเป็นรุ่นเริ่มต้น มาพร้อมอุปกรณ์มาตรฐานที่จัดเต็มอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นช่วงล่างที่ให้มาอย่างดี โหมดการขับขี่ที่หลากหลาย และล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว รวมถึงระบบความปลอดภัย ADAS ที่ครบครัน ในขณะที่รุ่น Max เพิ่มเติมความหรูหราและฟังก์ชันบางอย่างเข้ามา แต่ทั้งสองรุ่นก็ยังคงคุณค่าและสมรรถนะหลักของ JAECOO 5 EV ไว้ได้อย่างเต็มเปี่ยม

สีสันและสไตล์ที่เลือกได้

JAECOO 5 EV มีสีตัวถังภายนอกให้เลือก 4 สี ได้แก่ สีดำ Carbon Black, สีเทา Cloudy Grey, สีขาว Snowy White และสีน้ำเงิน Bahamas Blue เพื่อให้ผู้ใช้งานได้เลือกสรรตามสไตล์และความชอบส่วนบุคคล สำหรับภายในห้องโดยสารมีให้เลือก 2 สี คือ สีเทา Light Grey และสีดำ Black ซึ่งเป็นโทนสีที่ให้ความรู้สึกเรียบหรูและทันสมัย เข้ากันได้ดีกับการออกแบบภายในแบบมินิมอล

JAECOO 5 EV กับอนาคตของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าไทยปี 2025

จากมุมมองของผู้ที่เฝ้าติดตามตลาดมาอย่างยาวนาน ผมมองว่า JAECOO 5 EV จะเข้ามาสร้างแรงสั่นสะเทือนครั้งใหญ่ในตลาด รถยนต์ไฟฟ้า ของประเทศไทยในปี 2025 ด้วยราคาที่สามารถแข่งขันได้กับรถยนต์สันดาปภายในในบางกลุ่ม และฟีเจอร์ที่เหนือกว่ารถ EV ในระดับราคาใกล้เคียงกัน นี่คือสูตรสำเร็จที่จะดึงดูดทั้งกลุ่มผู้ซื้อรถคันแรกที่ต้องการเปลี่ยนมาใช้ EV และกลุ่มผู้ที่มองหารถคันที่สองในครอบครัวเพื่อการใช้งานที่หลากหลาย

การเข้ามาของแบรนด์อย่าง OMODA & JAECOO ที่ได้รับการสนับสนุนจาก Chery แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการทำตลาดในประเทศไทยในระยะยาว สิ่งที่ต้องจับตาต่อไปคือการสร้างความเชื่อมั่นในด้านบริการหลังการขาย และเครือข่ายศูนย์บริการ ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญในการเติบโตอย่างยั่งยืนของแบรนด์ในระยะยาว อย่างไรก็ตาม ด้วยแพ็คเกจที่ JAECOO 5 EV นำเสนอในวันนี้ ทำให้มันเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจที่สุดสำหรับผู้ที่กำลังพิจารณา ซื้อรถไฟฟ้า ในปีนี้

บทสรุปและคำเชิญชวน

JAECOO 5 EV ไม่ใช่แค่รถยนต์ไฟฟ้าอีกคันหนึ่งที่เข้ามาในตลาด แต่คือปรากฏการณ์ใหม่ที่พร้อมจะยกระดับมาตรฐานของ B-SUV ไฟฟ้า ในประเทศไทย ด้วยดีไซน์ที่โดดเด่น เทคโนโลยีที่อัดแน่น สมรรถนะที่ตอบสนองได้ทันใจ ระยะทางวิ่งที่เพียงพอ และที่สำคัญที่สุดคือ “ราคา” ที่ปฏิเสธไม่ได้ว่าคุ้มค่าเกินคาด ทำให้ JAECOO 5 EV เป็นตัวเลือกที่น่าจับตามองอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่กำลังมองหา รถ EV ที่ครบครันทั้งด้านฟังก์ชันการใช้งาน ความปลอดภัย และความคุ้มค่า

หากคุณเป็นหนึ่งในผู้ที่กำลังมองหา รถยนต์ไฟฟ้า ที่จะตอบโจทย์ทุกการเดินทาง มอบประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือกว่า และเป็นเจ้าของได้ในราคาที่สมเหตุสมผล ผมขอแนะนำอย่างยิ่งให้คุณสัมผัสประสบการณ์จริงกับ JAECOO 5 EV ด้วยตัวคุณเอง อย่ารอช้าที่จะเป็นส่วนหนึ่งของนวัตกรรมยานยนต์แห่งอนาคต

เชิญสัมผัสประสบการณ์ JAECOO 5 EV ได้ที่ผู้จำหน่ายใกล้บ้านคุณวันนี้ และพบกับปรากฏการณ์ใหม่ของ B-SUV ไฟฟ้า ที่พร้อมจะเปลี่ยนแปลงนิยามของคำว่า “คุ้มค่า” ในปี 2025!