JAECOO 5 EV: ปฏิวัติวงการ B-SUV ไฟฟ้าไทย – ราคา, สเปค, และอนาคต 2025
ในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการยานยนต์ไฟฟ้ามากว่าทศวรรษ ผมได้เฝ้าจับตาดูพัฒนาการของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยอย่างใกล้ชิดมาโดยตลอด และในปี 2025 นี้ ตลาดกำลังก้าวเข้าสู่ยุคแห่งการแข่งขันที่ดุเดือดและน่าตื่นเต้นยิ่งกว่าเดิม ผู้บริโภคมีความคาดหวังที่สูงขึ้น ไม่ใช่แค่เรื่องของราคาที่เข้าถึงได้ แต่ยังรวมถึงเทคโนโลยี ความปลอดภัย สมรรถนะ และประสบการณ์การเป็นเจ้าของที่ไร้รอยต่อ และท่ามกลางกระแสการเปลี่ยนแปลงนี้ แบรนด์ OMODA & JAECOO ได้ก้าวเข้ามาเขย่าวงการอีกครั้ง ด้วยการเปิดตัว JAECOO 5 EV ซึ่งไม่ใช่แค่รถยนต์ไฟฟ้าธรรมดา แต่เป็นการตอกย้ำว่ารถยนต์ไฟฟ้าคุณภาพสูงและครบครันด้วยนวัตกรรม สามารถมาพร้อมกับราคาที่ “ดีเวอร์” ได้จริง
JAECOO 5 EV ได้รับการนำเสนอในฐานะ B-SUV ไฟฟ้า ที่จะเข้ามาเติมเต็มช่องว่างในตลาดสำหรับผู้ที่กำลังมองหารถยนต์ไฟฟ้าอเนกประสงค์ ที่ผสานความแข็งแกร่งสไตล์ SUV เข้ากับความประหยัดและเทคโนโลยีของรถยนต์ไฟฟ้าได้อย่างลงตัว การตั้งราคาเริ่มต้นที่น่าทึ่ง ถือเป็นหมัดเด็ดที่ทำให้ JAECOO 5 EV กลายเป็นตัวเลือกที่ไม่อาจมองข้ามได้ในเวลานี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดประเทศไทยที่ผู้บริโภคกำลังให้ความสำคัญกับความคุ้มค่าและเทคโนโลยีอันทันสมัย
มิติใหม่แห่งการออกแบบ: แข็งแกร่ง ดุดัน และอนาคต
จากประสบการณ์ของผม การออกแบบภายนอกคือ First Impression ที่สำคัญที่สุด และ JAECOO 5 EV ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ด้วยสไตล์การออกแบบที่โดดเด่นและแตกต่างจาก B-SUV ไฟฟ้าทั่วไปในตลาดปัจจุบันที่มักจะเน้นความโค้งมนและลู่ลม JAECOO 5 EV กลับเลือกใช้เส้นสายที่คมชัด รูปทรงแบบกล่อง (Boxy Design) ที่สื่อถึงความแข็งแกร่งและบึกบึนตามแบบฉบับ SUV ขนานแท้ นี่คือการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างความคลาสสิกของรถยนต์ออฟโรด กับความทันสมัยของรถยนต์ไฟฟ้าแห่งอนาคต
ด้านหน้าของรถมาพร้อมกับกันชนหน้าที่ดูเหลี่ยมสันขนาดใหญ่ ซึ่งให้ความรู้สึกมั่นคงและดุดัน แผงกระจังหน้าแบบเจาะรูและช่องรับอากาศที่เรียบง่าย แต่แฝงด้วยลูกเล่น คือการนำชื่อแบรนด์ J A E C O O มาจัดวางอย่างโดดเด่นตรงกลาง พร้อมแถบกระจังหน้าแบบโปร่งใส ซึ่งแตกต่างจาก Jaecoo รุ่นอื่น ๆ ที่อาจจะเคยเห็น การออกแบบนี้ไม่เพียงแต่เป็นเอกลักษณ์ แต่ยังสะท้อนถึงวิสัยทัศน์ของแบรนด์ที่กล้าฉีกกรอบ ชุดไฟหน้า LED ทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าสองฝั่งถูกจัดวางอย่างลงตัว มอบแสงสว่างที่คมชัดและเพิ่มความโดดเด่นให้กับส่วนหน้าของรถ
เมื่อมองจากด้านข้าง เส้นสายตัวรถถูกออกแบบให้เน้นความเรียบหรู แต่แฝงด้วยพลัง ด้วยเส้นนำสายตาที่ลากยาวต่อเนื่องจากชุดไฟหน้าจรดชุดไฟท้าย สร้างมิติและภาพลักษณ์ที่สปอร์ต มือจับประตูมาในรูปแบบปกติที่ใช้งานง่าย ในขณะที่ล้ออัลลอยด์ทูโทนขนาด 18-19 นิ้ว ก็เข้ามาเสริมความหรูหราและความแข็งแกร่งได้อย่างลงตัว ท้ายรถโดดเด่นด้วยไฟท้าย LED แนวนอนที่พาดเต็มความกว้างของตัวรถ ซึ่งไม่เพียงแต่เพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ แต่ยังสร้าง Signature ที่น่าจดจำ สปอยเลอร์หลังคาขนาดใหญ่และดิฟฟิวเซอร์พลาสติกสีดำใต้กันชนท้ายช่วยเพิ่มความสปอร์ต ส่วนราวหลังคาสีบรอนซ์เงินแบบตายตัวบนหลังคาก็ไม่ได้มีเพียงแค่ความสวยงาม แต่ยังเพิ่มความอเนกประสงค์ในการใช้งานอีกด้วย โดยรวมแล้ว การออกแบบของ JAECOO 5 EV สะท้อนถึงรถยนต์ไฟฟ้าที่พร้อมจะพาคุณไปผจญภัยในเมืองและนอกเมืองได้อย่างมีสไตล์และมั่นใจ
ห้องโดยสาร: ยุคดิจิทัลที่เข้าถึงได้ง่าย
ก้าวเข้ามาภายในห้องโดยสารของ JAECOO 5 EV คุณจะสัมผัสได้ถึงปรัชญาการออกแบบที่เน้นความมินิมอลแต่เปี่ยมด้วยฟังก์ชันการใช้งาน นี่คือการนำเสนอเทคโนโลยีล้ำสมัยในรูปแบบที่ใช้งานง่ายและสบายตา แผงแดชบอร์ดได้รับการออกแบบอย่างประณีต โดยมีหัวใจหลักอยู่ที่หน้าจอแสดงข้อมูลดิจิทัลขนาด 8 นิ้ว ที่วางอยู่ด้านหลังพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันทรงสองก้าน ซึ่งไม่เพียงแต่แสดงข้อมูลการขับขี่ที่สำคัญได้อย่างครบถ้วน แต่ยังผสานการทำงานเข้ากับระบบนำทางและข้อมูลอื่น ๆ ได้อย่างลงตัว เพิ่มความสะดวกสบายและความปลอดภัยในการขับขี่
สิ่งที่น่าสนใจและเป็นเทรนด์ในรถยนต์ไฟฟ้ายุคใหม่คือ หน้าจออินโฟเทนเมนต์ขนาด 13.2 นิ้ว ที่มาในแนวตั้งบนคอนโซลกลาง ซึ่งไม่เพียงแต่ให้มุมมองการใช้งานที่กว้างขวาง แต่ยังช่วยให้การควบคุมฟังก์ชันต่าง ๆ ทำได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นระบบนำทาง ความบันเทิง หรือการตั้งค่ารถยนต์ ด้วยตำแหน่งที่เหมาะสมกับการใช้งาน ทำให้ผู้ขับขี่สามารถเข้าถึงข้อมูลและควบคุมระบบต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับที่ชาร์จสมาร์ทโฟนแบบไร้สาย ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุคดิจิทัลได้อย่างสมบูรณ์แบบ หมดปัญหาเรื่องสายชาร์จพันกัน และพร้อมให้คุณเชื่อมต่อตลอดการเดินทาง
ชุดอุปกรณ์ภายในก็จัดเต็มไม่แพ้กัน ด้วยปุ่ม Push Start, กุญแจรีโมท Keyless Entry, ชุดไฟ Ambient Light ที่ปรับเปลี่ยนบรรยากาศได้ตามใจชอบ, ระบบเครื่องเสียงจาก Sony พร้อมลำโพง 12 ตำแหน่ง มอบประสบการณ์เสียงระดับพรีเมียม, ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบแยกส่วนซ้าย-ขวา เพื่อความสบายสูงสุดสำหรับผู้โดยสารทุกคน, และเบรกมือไฟฟ้าพร้อม Auto Hold ที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายและความปลอดภัยในการขับขี่ในเมืองใหญ่
เบาะที่นั่งหุ้มด้วยวัสดุกึ่งหนังแท้ ให้สัมผัสที่หรูหราและนั่งสบาย เบาะคู่หน้าปรับด้วยไฟฟ้า ช่วยให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารตอนหน้าสามารถปรับตำแหน่งได้อย่างแม่นยำและสะดวกสบาย ส่วนเบาะหลังสามารถปรับพับได้แบบ 60:40 ซึ่งถือเป็นฟังก์ชันที่สำคัญสำหรับรถ SUV เพราะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นในการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางพร้อมผู้โดยสารหรือการขนสัมภาระ สำหรับพื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้าย มีความจุถึง 480 ลิตร ซึ่งถือว่ากว้างขวางสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน และเมื่อพับเบาะหลังลง ความจุจะเพิ่มขึ้นเป็น 1,284 ลิตร ตอบโจทย์การเดินทางไกลหรือการขนของขนาดใหญ่ได้อย่างไร้กังวล
ขุมพลังไฟฟ้าและสมรรถนะการขับขี่: ตอบโจทย์ทุกการเดินทาง
ในฐานะผู้เชี่ยวชาญ ผมเข้าใจดีว่าหัวใจสำคัญของรถยนต์ไฟฟ้าคือสมรรถนะของมอเตอร์และประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ JAECOO 5 EV มาพร้อมกับขุมพลังไฟฟ้าที่น่าประทับใจ ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 1 ตัว ที่ให้พละกำลังสูงสุด 211 แรงม้า (PS) และแรงบิดสูงสุด 288 นิวตันเมตร ซึ่งถือว่าเพียงพอและเหลือเฟือสำหรับการใช้งานในทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่ในเมืองที่ต้องการความคล่องตัว หรือการเดินทางไกลที่ต้องการอัตราเร่งแซงที่มั่นใจ ระบบขับเคลื่อนล้อหน้า FWD (Front-Wheel Drive) มอบการควบคุมที่คุ้นเคยและเป็นธรรมชาติ ทำให้ผู้ขับขี่สามารถปรับตัวเข้ากับรถได้อย่างง่ายดาย
สำหรับอัตราเร่ง 0-100 km/h ทำได้ภายใน 7.7 วินาที ซึ่งถือว่ารวดเร็วและตอบสนองได้อย่างทันใจในกลุ่ม B-SUV ไฟฟ้า ทำให้ JAECOO 5 EV ไม่ได้เป็นเพียงรถยนต์ที่เน้นความประหยัด แต่ยังแฝงด้วยความสปอร์ตที่พร้อมจะสร้างความสนุกสนานในการขับขี่ ความเร็วสูงสุดที่ 175 km/h ก็เพียงพอสำหรับการเดินทางบนทางหลวงในประเทศไทย
แบตเตอรี่และการชาร์จ: หัวใจสำคัญของรถยนต์ไฟฟ้าในยุค 2025
แบตเตอรี่คือองค์ประกอบที่สำคัญที่สุดของรถยนต์ไฟฟ้า และ JAECOO 5 EV ก็มาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาดความจุ 58.9 kWh ซึ่งเป็นขนาดที่เหมาะสมสำหรับการใช้งานจริงในชีวิตประจำวันและตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในยุค 2025 ที่ต้องการระยะทางขับขี่ที่เชื่อถือได้
ตามมาตรฐาน NEDC JAECOO 5 EV สามารถวิ่งได้ระยะทางถึง 461 กิโลเมตร และตามมาตรฐาน WLTP ซึ่งเป็นมาตรฐานที่มีความใกล้เคียงกับการใช้งานจริงมากกว่า สามารถวิ่งได้ระยะทาง 400 กิโลเมตร ตัวเลขนี้ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีเยี่ยมสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าในเซกเมนต์เดียวกัน ทำให้ผู้ขับขี่สามารถเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปยังจังหวัดใกล้เคียงได้อย่างสบายใจ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการหาจุดชาร์จระหว่างทางบ่อยนัก
สำหรับระบบการชาร์จไฟ JAECOO 5 EV รองรับหัวชาร์จ Type2 / CCS Combo ซึ่งเป็นมาตรฐานที่นิยมและแพร่หลายในประเทศไทย ทำให้การเข้าถึงสถานีชาร์จทำได้ง่าย รองรับการชาร์จกระแสสลับ AC สูงสุด 11 kW ซึ่งเหมาะสำหรับการชาร์จที่บ้านหรือที่ทำงานในช่วงข้ามคืน และที่สำคัญ รองรับการชาร์จกระแสตรง DC สูงสุด 80 kW ซึ่งหมายความว่าคุณสามารถชาร์จแบตเตอรี่จาก 20% ถึง 80% ได้ในเวลาอันรวดเร็ว ช่วยประหยัดเวลาในการเดินทางไกลได้อย่างมาก การลงทุนในเทคโนโลยีการชาร์จที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพนี้ เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้ JAECOO 5 EV เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจในตลาด รถยนต์ไฟฟ้า 2025
จากประสบการณ์ของผม ค่าไฟชาร์จรถ EV ถือเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจซื้อ และด้วยประสิทธิภาพของแบตเตอรี่และระบบการชาร์จของ JAECOO 5 EV ทำให้ผู้ใช้งานสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายด้านพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งโดยรวมแล้วจะถูกกว่าค่าน้ำมันเชื้อเพลิงอย่างเห็นได้ชัดในระยะยาว
ระบบความปลอดภัยและ ADAS: มั่นใจทุกเส้นทาง
ความปลอดภัยคือสิ่งที่เราไม่สามารถประนีประนอมได้ และ JAECOO 5 EV ก็ได้ยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยด้วยการติดตั้งระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง (ADAS) ที่ทำงานร่วมกับเรดาร์คลื่นระดับมิลลิเมตร 2 ระบบ และระบบเรดาร์คลื่นมิลลิเมตรระยะไกล 1 ระบบ ซึ่งเป็นชุดเทคโนโลยีที่ครบครันและทันสมัยที่สุดชุดหนึ่งในตลาด รถยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะ
ระบบ ADAS ที่ติดตั้งมานั้นครอบคลุมฟังก์ชันสำคัญมากมาย อาทิ:
ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (AEB): ช่วยลดความเสี่ยงจากการชนท้าย
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบปรับได้ (Adaptive Cruise Control – ACC): ช่วยรักษาระยะห่างจากรถคันหน้าโดยอัตโนมัติ ทำให้การเดินทางไกลเป็นเรื่องง่ายและผ่อนคลาย
ระบบเตือนการชนด้านหน้า (FCW): แจ้งเตือนผู้ขับขี่เมื่อมีความเสี่ยงที่จะเกิดการชน
ระบบเตือนการออกนอกเลน (LDW) และระบบรักษารถให้อยู่กลางเลน (LCA): ช่วยให้รถอยู่ในช่องทางจราจรที่ถูกต้อง
ระบบเตือนมุมอับสายตา (Blind Spot) และระบบเตือนเมื่อเปิดประตู (DOW): เพิ่มความปลอดภัยในการเปลี่ยนเลนและการลงจากรถ
ระบบช่วยเหลือเพื่อเปลี่ยนเลน (LCA) และระบบควบคุมรถให้อยู่ในเลน (ELK): ช่วยให้การเปลี่ยนเลนเป็นไปอย่างราบรื่นและปลอดภัย
ระบบเตือนจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTA) และระบบช่วยเบรกขณะถอยหลัง (RCTB): ลดความเสี่ยงในการถอยจอด
กล้องมองภาพรอบคัน 360 องศา และฟังก์ชันแสดงภาพใต้พื้นรถ 540 องศา: เทคโนโลยีล้ำสมัยที่ช่วยให้การจอดรถในพื้นที่แคบเป็นเรื่องง่ายและปลอดภัย มอบมุมมองที่ครอบคลุมทุกด้านของรถ เสมือนมีตาเพิ่มขึ้นรอบคัน เหมาะอย่างยิ่งสำหรับสภาพการจราจรและลานจอดรถในประเทศไทย
ระบบเหล่านี้ไม่เพียงแต่เพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร แต่ยังช่วยลดความเมื่อยล้าในการขับขี่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการเดินทางระยะไกลหรือการจราจรที่ติดขัด นอกจากนี้ ยังมีเซ็นเซอร์กะระยะช่วยจอดด้านหน้าที่ช่วยให้การจอดรถเป็นเรื่องง่ายและแม่นยำยิ่งขึ้น
JAECOO 5 EV ในตลาด 2025: จุดยืนที่แข็งแกร่งและคุ้มค่า
JAECOO 5 EV เปิดตัวด้วย 2 รุ่นย่อยหลัก ซึ่งมีราคาที่ดึงดูดใจอย่างยิ่ง:
JAECOO 5 EV Dynamic: 549,000 บาท
JAECOO 5 EV Max: 599,000 บาท
จากประสบการณ์ของผมในตลาด รถ EV คุ้มค่า ผมกล้าพูดได้ว่า JAECOO 5 EV ได้เข้ามาสร้างมาตรฐานใหม่ในเรื่องของราคาต่อประสิทธิภาพ (Price-to-Performance Ratio) ด้วยราคาเริ่มต้นที่ไม่ถึง 600,000 บาท พร้อมกับสเปคและฟีเจอร์ที่จัดเต็ม ไม่ว่าจะเป็นระยะทางขับขี่ที่เหมาะสม กำลังมอเตอร์ที่เพียงพอ และชุดระบบความปลอดภัย ADAS ที่ครบครัน ทำให้ JAECOO 5 EV กลายเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าจับตามองที่สุดในตลาด B-SUV ไฟฟ้า 2025 และเป็นคู่แข่งที่แข็งแกร่งสำหรับรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ ๆ ที่จะเข้ามาในอนาคต
การนำเข้าแบบ CBU (Completely Built Up) จากประเทศจีนในช่วงแรก ทำให้มั่นใจได้ในมาตรฐานการผลิตและคุณภาพ อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจซื้อ รถยนต์ไฟฟ้า ในปี 2025 ไม่ได้ขึ้นอยู่กับราคาเริ่มต้นเพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมถึง การบำรุงรักษารถยนต์ไฟฟ้า และ ประกันรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการพิจารณา ค่าใช้จ่ายในการเป็นเจ้าของ (Total Cost of Ownership – TCO) ระยะยาว
JAECOO ได้เตรียมพร้อมสำหรับตลาดไทย โดยคาดว่าจะมีการสนับสนุนด้านบริการหลังการขายและศูนย์บริการที่ครอบคลุม ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับแบรนด์ใหม่ที่ต้องการสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคในระยะยาว ผู้สนใจควรสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับเงื่อนไขการรับประกันแบตเตอรี่และระบบไฟฟ้า ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่สุดของรถยนต์ไฟฟ้า
สีตัวถังและภายใน: เลือกให้เข้ากับสไตล์ของคุณ
JAECOO 5 EV มีสีตัวถังภายนอกให้เลือก 4 สี ได้แก่ Carbon Black (ดำ), Cloudy Grey (เทา), Snowy White (ขาว), และ Bahamas Blue (น้ำเงิน) ซึ่งเป็นสีที่ทันสมัยและเป็นที่นิยม ทำให้ผู้ขับขี่สามารถเลือกสีที่สะท้อนบุคลิกและสไตล์ของตนเองได้ ส่วนสีภายในห้องโดยสารมีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Light Grey (เทาอ่อน) และ Black (ดำ) ซึ่งล้วนเป็นสีที่ดูสะอาดตา หรูหรา และบำรุงรักษาง่าย
สรุปและก้าวต่อไป: อนาคตของการขับขี่ไฟฟ้าที่คุณเป็นเจ้าของได้
จากการวิเคราะห์เชิงลึกในฐานะผู้เชี่ยวชาญ ผมมองว่า JAECOO 5 EV ไม่ได้เป็นเพียงแค่การนำเสนอรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ แต่เป็นการประกาศถึงการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าของประเทศไทยในปี 2025 ด้วยการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างราคาที่เข้าถึงได้ เทคโนโลยีล้ำสมัย การออกแบบที่โดดเด่น สมรรถนะที่ตอบโจทย์ และระบบความปลอดภัยที่ครบครัน JAECOO 5 EV จึงพร้อมที่จะสร้างปรากฏการณ์ใหม่และท้าทายกรอบความคิดเดิมๆ เกี่ยวกับ รถยนต์ไฟฟ้าคุณภาพสูง
สำหรับผู้ที่กำลังมองหา B-SUV ไฟฟ้า ที่จะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์ยุคใหม่ เป็นเจ้าของ รถ EV รุ่นใหม่ 2025 ที่คุ้มค่า และพร้อมสำหรับอนาคต ผมเชื่อว่า JAECOO 5 EV คือหนึ่งในตัวเลือกอันดับต้นๆ ที่คุณไม่ควรมองข้าม นี่คือโอกาสที่คุณจะได้สัมผัสกับ เทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้าล้ำสมัย และประสิทธิภาพของ แบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าประสิทธิภาพสูง ในราคาที่เอื้อมถึง
อย่ารอช้าที่จะเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิวัติวงการยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย! หากคุณพร้อมที่จะสัมผัสประสบการณ์การขับขี่ที่แตกต่างและก้าวล้ำไปอีกขั้น ขอเชิญคุณทดลองขับ JAECOO 5 EV วันนี้ที่โชว์รูม OMODA & JAECOO ใกล้บ้านคุณ หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์อย่างเป็นทางการเพื่อศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม และเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการเดินทางแห่งอนาคตที่ยั่งยืนและน่าตื่นเต้นไปกับ JAECOO 5 EV!
![[ครบชุด] TQ11172 ความลับที่ซ่อนอยู่กำลังจะถูกเปิดเผยในฉากนี้](https://filmthailan.moicaucachep.com/wp-content/uploads/2025/11/image-463.png)
![[ครบชุด] TQ11173 หนีจนสุดตึกก็ไม่รอด เขาตามถึงหน้าห้องเจ็ดศูนย์สามแล้ว](https://filmthailan.moicaucachep.com/wp-content/uploads/2025/11/image-464.png)