[ครบชุด] 1211032 ยามลำบากใครกันที่ให้ยืมตลอด มงคล มีเดีย

JAECOO 5 EV: บทพิสูจน์ใหม่ของ SUV ไฟฟ้าที่พลิกเกมตลาดไทยในปี 2025

ในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการยานยนต์มากว่าทศวรรษ ผมเฝ้าจับตาดูวิวัฒนาการของตลาดรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ในประเทศไทยอย่างใกล้ชิด และต้องยอมรับว่าปี 2025 นี้ กำลังเป็นปีที่การแข่งขันดุเดือดและน่าตื่นเต้นที่สุดเท่าที่เคยมีมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเซกเมนต์ B-SUV ไฟฟ้า ที่ผู้บริโภคต่างมองหารถยนต์ที่ผสมผสานความอเนกประสงค์ สมรรถนะ และความคุ้มค่าเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว

ท่ามกลางกระแสการเปลี่ยนแปลงนี้ แบรนด์ OMODA & JAECOO ได้ก้าวเข้ามาเขย่าบัลลังก์ ด้วยการเปิดตัว JAECOO 5 EV อย่างเป็นทางการในประเทศไทย ซึ่งไม่ใช่แค่การแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่ แต่เป็นการประกาศถึงทิศทางใหม่ของ SUV ไฟฟ้าที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้น ด้วยราคาที่ดึงดูดใจแต่ไม่ทิ้งเรื่องคุณภาพและเทคโนโลยี ผมมองว่านี่คือ “เกมเชนเจอร์” ที่แท้จริง ที่จะทำให้ผู้บริโภคชาวไทยได้สัมผัสกับประสบการณ์การขับขี่รถยนต์ไฟฟ้าคุณภาพสูงในราคาที่จับต้องได้ง่ายขึ้นอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

วิเคราะห์สถานการณ์ตลาด EV ไทยปี 2025: ความต้องการที่เปลี่ยนไป

ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในไทยในปี 2025 ได้ก้าวข้ามผ่านช่วงเริ่มต้นของการเรียนรู้และตั้งคำถามไปแล้ว ผู้บริโภคมีความเข้าใจในเทคโนโลยี EV มากขึ้น ระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านการชาร์จมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ทั้งสถานีชาร์จสาธารณะและโซลูชันการชาร์จที่บ้าน ดังนั้น ปัจจัยหลักในการตัดสินใจซื้อจึงไม่ใช่แค่เรื่องความกังวลเรื่องระยะทางหรือสถานีชาร์จอีกต่อไป แต่กลับกลายเป็นเรื่องของความคุ้มค่า สมรรถนะ การออกแบบที่โดดเด่น และเทคโนโลยีอัจฉริยะที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการขับขี่ ซึ่ง JAECOO 5 EV ดูเหมือนจะถูกสร้างมาเพื่อตอบโจทย์เหล่านี้โดยเฉพาะ

JAECOO 5 EV: การผสมผสานที่ลงตัวระหว่างดีไซน์และฟังก์ชัน

จากการสัมผัสตัวรถและข้อมูลเชิงลึก ผมเห็นว่า JAECOO 5 EV ถูกออกแบบมาอย่างพิถีพิถันเพื่อตอบโจทย์ทั้งด้านสุนทรียภาพและการใช้งานจริง ตัวรถมีให้เลือก 2 รุ่นย่อย คือ JAECOO 5 EV Dynamic และ JAECOO 5 EV Max โดยมีราคาเปิดตัวที่ 549,000 บาท และ 599,000 บาทตามลำดับ ซึ่งถือเป็นการวางตำแหน่งที่ชาญฉลาดในตลาด รถยนต์ไฟฟ้า 2025 ที่กำลังแข่งขันกันอย่างดุเดือด

มิติใหม่แห่งการออกแบบภายนอก: ความแข็งแกร่งที่ซ่อนความหรูหรา

JAECOO 5 EV มาพร้อมมิติตัวถังที่ลงตัวสำหรับ SUV ไฟฟ้า ในเมือง ด้วยความยาว 4,380 มม. กว้าง 1,860 มม. สูง 1,650 มม. และระยะฐานล้อ 2,700 มม. ซึ่งให้พื้นที่ภายในที่กว้างขวางเกินคาด ระยะความสูงใต้ท้องรถ 174 มม. ก็ช่วยเพิ่มความมั่นใจในการขับขี่บนถนนที่หลากหลายในประเทศไทย

การออกแบบภายนอกเป็นสิ่งที่ดึงดูดสายตาตั้งแต่แรกเห็น แตกต่างจากรถยนต์ไฟฟ้าหลายรุ่นที่เน้นความล้ำยุคจนดูแปลกตา JAECOO 5 EV เลือกใช้ภาษาการออกแบบที่เรียกว่า “Neo-Classic Off-road” ที่ผสานความแข็งแกร่งของ SUV ดั้งเดิมเข้ากับความทันสมัยของยานยนต์ไฟฟ้าได้อย่างลงตัว กันชนหน้าดีไซน์เหลี่ยมขนาดใหญ่พร้อมแผงสีเดียวกับตัวรถแบบเจาะรู ไม่เพียงแต่ให้ความรู้สึกบึกบึน แต่ยังทำหน้าที่เป็นส่วนหนึ่งของการจัดการการไหลเวียนอากาศเพื่อประสิทธิภาพทางอากาศพลศาสตร์อีกด้วย

สิ่งที่น่าสนใจคือการเปลี่ยนแปลงของกระจังหน้า จากเดิมที่ JAECOO มักจะมีเส้นสายที่เป็นเอกลักษณ์ ตอนนี้ถูกแทนที่ด้วยแถบกระจังหน้าแบบโปร่งใสพร้อมตราสัญลักษณ์ J A E C O O เด่นอยู่ตรงกลาง การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ที่มุ่งเน้นความเรียบง่ายและสะอาดตาในแบบของรถยนต์ไฟฟ้าเต็มตัว ขณะที่ชุดไฟหน้า LED ทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าทั้งสองข้างก็ให้ความสว่างคมชัดและดีไซน์ที่โฉบเฉี่ยว

เส้นสายด้านข้างเน้นความเรียบหรู แต่ยังคงความแข็งแกร่งในแบบฉบับ SUV เส้นนำสายตาที่ลากยาวตั้งแต่ไฟหน้าจรดไฟท้าย สร้างความต่อเนื่องและมิติให้กับตัวรถ มือเปิดประตูแบบปกติเป็นทางเลือกที่ใช้งานง่ายและทนทาน ในขณะที่ล้ออัลลอยทูโทนขนาด 18 – 19 นิ้ว ก็ช่วยเสริมภาพลักษณ์ให้ดูพรีเมียมและมั่นคง สำหรับด้านท้าย ไฟท้าย LED แนวนอนเต็มความกว้างของตัวรถเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่น ผสมผสานความสปอร์ตด้วยสปอยเลอร์หลังคาขนาดใหญ่ และดิฟฟิวเซอร์พลาสติกสีดำ ราวหลังคาสีบรอนซ์เงินแบบตายตัวบนหลังคาก็เพิ่มความอเนกประสงค์ในการบรรทุกสัมภาระสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการผจญภัย

ภายในที่เน้นความมินิมอลและเทคโนโลยีเพื่อผู้ขับขี่

เมื่อก้าวเข้ามาในห้องโดยสารของ JAECOO 5 EV ผมสัมผัสได้ถึงปรัชญาการออกแบบที่มุ่งเน้นความมินิมอลแต่เปี่ยมด้วยฟังก์ชันการใช้งาน ทุกองค์ประกอบถูกจัดวางอย่างเป็นระเบียบ เพื่อให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารได้รับประสบการณ์ที่สะดวกสบายและเชื่อมต่อกันได้อย่างราบรื่น

แผงแดชบอร์ดได้รับการติดตั้งหน้าปัดดิจิทัลขนาด 8 นิ้ว ที่วางอยู่ด้านหลังพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันทรงสองก้าน ซึ่งให้ข้อมูลการขับขี่ที่จำเป็นอย่างครบถ้วนและชัดเจน สิ่งที่โดดเด่นที่สุดคือหน้าจออินโฟเทนเมนต์ขนาด 13.2 นิ้ว แบบแนวตั้งบนคอนโซลกลาง การจัดวางในแนวตั้งนี้ไม่เพียงแต่ทันสมัย แต่ยังเหมาะสำหรับการแสดงผลข้อมูลการนำทางหรือการใช้งานแอปพลิเคชันต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมรองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนและที่ชาร์จไร้สาย เพื่อให้คุณเชื่อมต่อกับโลกภายนอกได้อย่างไม่ขาดตอน

ชุดอุปกรณ์ภายในก็จัดเต็มไม่แพ้รถระดับพรีเมียม ทั้งปุ่ม Push Start, กุญแจรีโมท Keyless Entry, ชุดไฟ Ambient Light ที่ปรับเปลี่ยนบรรยากาศได้ตามใจชอบ, ระบบเครื่องเสียงจาก Sony พร้อมลำโพง 12 ตำแหน่ง มอบมิติเสียงที่คมชัดและทรงพลัง, ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบแยกโซนซ้าย-ขวา เพื่อความสบายสูงสุดสำหรับผู้โดยสารทุกคน, และเบรกมือไฟฟ้าพร้อม Auto Hold เพิ่มความสะดวกสบายและความปลอดภัยในการขับขี่

เบาะที่นั่งหุ้มด้วยวัสดุกึ่งหนังแท้ ให้สัมผัสที่นุ่มนวลและระบายอากาศได้ดี เบาะคู่หน้าปรับด้วยไฟฟ้า ช่วยให้การปรับท่านั่งเป็นไปอย่างง่ายดายและแม่นยำ ส่วนเบาะหลังสามารถพับได้แบบ 60:40 เพิ่มความยืดหยุ่นในการใช้งาน พื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายมีความจุ 480 ลิตร และสามารถขยายได้มากถึง 1,284 ลิตรเมื่อพับเบาะหลังลง ซึ่งเพียงพอต่อการใช้งานในชีวิตประจำวันและการเดินทางไกล ถือเป็นจุดเด่นสำคัญของ รถ SUV ไฟฟ้า ที่เน้นความอเนกประสงค์

สมรรถนะการขับขี่และขุมพลังไฟฟ้า: ประสิทธิภาพที่เหนือคาด

หัวใจสำคัญของ JAECOO 5 EV คือมอเตอร์ไฟฟ้าประสิทธิภาพสูง 1 ตัว ที่ให้พละกำลังสูงสุด 211 แรงม้า (PS) และแรงบิดสูงสุด 288 นิวตันเมตร ซึ่งส่งกำลังไปยังล้อหน้า (FWD) ทันทีที่กดคันเร่ง ทำให้มีอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 7.7 วินาที และความเร็วสูงสุด 175 กม./ชม. ตัวเลขเหล่านี้สะท้อนถึงสมรรถนะที่ตอบโจทย์การขับขี่ทั้งในเมืองและการเดินทางออกนอกเมืองได้อย่างสบายๆ

แบตเตอรี่ขนาดความจุ 58.9 kWh เป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้ JAECOO 5 EV เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับการเดินทางในชีวิตประจำวันและทริปสุดสัปดาห์ ด้วยระยะทางวิ่งสูงสุด 461 กม. (มาตรฐาน NEDC) หรือประมาณ 400 กม. (มาตรฐาน WLTP) ซึ่งเป็นค่าที่ใกล้เคียงกับการใช้งานจริง ทำให้ผู้ขับขี่มั่นใจได้ว่าสามารถเดินทางได้ไกลโดยไม่ต้องกังวลเรื่องการชาร์จบ่อยครั้ง

ในส่วนของการชาร์จไฟ JAECOO 5 EV รองรับหัวชาร์จ Type2 / CCS Combo ซึ่งเป็นมาตรฐานที่พบเห็นได้ทั่วไปในประเทศไทย รองรับการชาร์จกระแสสลับ AC สูงสุด 11 kW และการชาร์จกระแสตรง DC สูงสุด 80 kW ซึ่งหมายความว่าคุณสามารถชาร์จไฟจาก 0-80% ได้ในเวลาอันรวดเร็วเมื่อใช้สถานีชาร์จเร็ว การจัดการความร้อนของแบตเตอรี่ก็เป็นสิ่งสำคัญที่ JAECOO ใส่ใจ เพื่อให้มั่นใจถึงประสิทธิภาพและอายุการใช้งานที่ยาวนาน

ช่วงล่างด้านหน้าแบบ McPherson Strut และด้านหลังแบบ Multi-Link มอบการขับขี่ที่นุ่มนวล มั่นคง และเกาะถนน ไม่ว่าจะต้องเจอกับสภาพถนนแบบใด ระบบช่วงล่างที่ได้รับการปรับแต่งมาอย่างดีนี้จะช่วยซับแรงกระแทกและลดการโคลงตัวของรถ ทำให้การเดินทางเป็นไปอย่างราบรื่นและสะดวกสบาย โหมดการขับขี่ ECO, Normal และ Sport ยังช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถปรับแต่งประสบการณ์การขับขี่ให้เข้ากับสไตล์และความต้องการในแต่ละสถานการณ์ได้อย่างง่ายดาย

เทคโนโลยีความปลอดภัยขั้นสูง: การปกป้องรอบด้านสำหรับอนาคต

จุดเด่นอีกประการที่ JAECOO 5 EV นำเสนอคือระบบความปลอดภัยและระบบช่วยเหลือการขับขี่ขั้นสูง (ADAS) ที่ครบครัน ซึ่งทำงานร่วมกับเรดาร์คลื่นระดับมิลลิเมตร 2 ระบบ และเรดาร์คลื่นมิลลิเมตรระยะไกล 1 ระบบ มอบการปกป้องที่ครอบคลุมและเพิ่มความมั่นใจในการเดินทางให้กับผู้ขับขี่และผู้โดยสารทุกคน ในฐานะผู้เชี่ยวชาญ ผมเห็นว่าการติดตั้งระบบเหล่านี้มาในรถยนต์ระดับราคานี้เป็นสิ่งที่น่าชื่นชมอย่างยิ่ง

ระบบความปลอดภัยมาตรฐานประกอบด้วย:

ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (AEB): ช่วยลดความเสี่ยงของการชนโดยตรวจจับสิ่งกีดขวางและทำการเบรกอัตโนมัติ
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (Adaptive Cruise Control – ACC): รักษาความเร็วและระยะห่างจากรถคันหน้าโดยอัตโนมัติ ลดความเมื่อยล้าในการขับขี่ทางไกล
ระบบเตือนการชนด้านหน้า (FCW): แจ้งเตือนผู้ขับขี่เมื่อมีความเสี่ยงที่จะชนรถคันหน้า
ระบบเตือนการออกนอกเลน (LDW): แจ้งเตือนเมื่อรถเริ่มออกนอกเลนโดยไม่ได้ตั้งใจ
ระบบช่วยเหลือการขับขี่ในสภาพความเร็วต่ำ (TJA): ช่วยควบคุมรถในสภาพการจราจรติดขัด
ระบบรักษารถให้อยู่กลางเลน (LCA – Lane Centering Assist): ช่วยประคองรถให้อยู่ในเลนอย่างต่อเนื่อง
ระบบเตือนมุมอับสายตา (Blind Spot Detection – BSD): แจ้งเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน
ระบบเตือนเมื่อเปิดประตู (DOW): ป้องกันการเปิดประตูไปชนรถหรือจักรยานยนต์ที่กำลังเคลื่อนที่มา
ระบบช่วยเหลือเพื่อเปลี่ยนเลน (LCA – Lane Change Assist): ช่วยประเมินและอำนวยความสะดวกในการเปลี่ยนเลนอย่างปลอดภัย
ระบบควบคุมรถให้อยู่ในเลน (ELK): ช่วยรักษาตำแหน่งรถให้อยู่ในช่องทางอย่างมั่นคง
ระบบเตือนจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTA): แจ้งเตือนเมื่อมีรถหรือสิ่งกีดขวางเคลื่อนที่มาจากด้านข้างขณะถอย
ระบบช่วยเบรกขณะถอยหลัง (RCTB): ทำการเบรกอัตโนมัติเมื่อตรวจพบสิ่งกีดขวางขณะถอย
ระบบป้องกันการออกนอกเลน (LDP): ช่วยดึงรถกลับเข้าเลนเพื่อป้องกันการออกนอกช่องทาง
ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัจฉริยะ (IES): เสริมประสิทธิภาพการเบรกในสถานการณ์ฉุกเฉิน
ระบบแจ้งเตือนการออกตัว (DAI): แจ้งเตือนผู้ขับขี่เมื่อรถคันหน้าเริ่มเคลื่อนตัว
ระบบเตือนการชนด้านหลัง (RCW): ตรวจจับและแจ้งเตือนความเสี่ยงการชนจากด้านหลัง
ระบบควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง (LKA): รักษาตำแหน่งรถให้อยู่กึ่งกลางเลน
ระบบจำกัดความเร็วแบบแอ็คทีฟ (ASL): ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถกำหนดและรักษาระดับความเร็วได้อย่างปลอดภัย
ระบบเบรกอัตโนมัติป้องกันการชนครั้งที่สอง (MCB): ลดความรุนแรงหรือป้องกันการชนซ้ำหลังเกิดอุบัติเหตุ
กล้องมองภาพรอบคัน 360 องศา: แสดงภาพมุมสูงรอบตัวรถ ช่วยให้การจอดและขับขี่ในที่แคบเป็นเรื่องง่าย
ฟังก์ชันแสดงภาพใต้พื้นรถ 540 องศา: นวัตกรรมที่ไม่ค่อยเห็นในรถระดับนี้ ช่วยให้มองเห็นสภาพใต้ท้องรถ เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการผจญภัยเล็กๆ น้อยๆ
เซนเซอร์กะระยะช่วยจอดด้านหน้า: เพิ่มความสะดวกและความปลอดภัยในการจอด

การมีระบบ ADAS ที่ครบครันนี้ ไม่เพียงแต่เพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร แต่ยังช่วยยกระดับประสบการณ์การขับขี่ให้สะดวกสบายและลดความเหนื่อยล้าได้อย่างมาก ซึ่งเป็นคุณค่าที่สำคัญใน รถ EV 2025

สีสันที่สะท้อนตัวตน: เลือกในแบบของคุณ

JAECOO 5 EV มีสีตัวถังภายนอกให้เลือก 4 สี ได้แก่ สีดำ Carbon Black, สีเทา Cloudy Grey, สีขาว Snowy White, และสีน้ำเงิน Bahamas Blue เพื่อให้คุณสามารถเลือกสีที่สะท้อนความเป็นตัวคุณได้อย่างเต็มที่ ส่วนสีภายในห้องโดยสารมีให้เลือก 2 สี คือ สีเทา Light Grey และสีดำ Black ซึ่งล้วนแต่เป็นสีที่ดูดีและดูแลรักษาง่าย

ความคุ้มค่าระยะยาว: มากกว่าแค่ราคาเริ่มต้น

ในฐานะผู้บริโภคที่กำลังพิจารณา ราคา รถยนต์ไฟฟ้า ในปี 2025 สิ่งที่ต้องพิจารณาไม่ใช่เพียงแค่ราคาตั้งต้น แต่ยังรวมถึงต้นทุนการเป็นเจ้าของ (Total Cost of Ownership – TCO) ตลอดอายุการใช้งาน ซึ่ง JAECOO 5 EV มีข้อได้เปรียบที่สำคัญ:

ประหยัดพลังงาน: ต้นทุนค่าไฟฟ้าในการชาร์จถูกกว่าค่าน้ำมันเชื้อเพลิงอย่างเห็นได้ชัดในระยะยาว ทำให้คุณประหยัดเงินได้เป็นกอบเป็นกำ
ค่าบำรุงรักษาต่ำ: รถยนต์ไฟฟ้ามีชิ้นส่วนที่เคลื่อนไหวน้อยกว่ารถยนต์สันดาปภายใน ทำให้มีค่าบำรุงรักษาที่ถูกกว่าและไม่ต้องเปลี่ยนถ่ายของเหลวบ่อยครั้ง
นวัตกรรมยานยนต์: คุณจะได้เป็นเจ้าของเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดการขับเคลื่อนอย่างยั่งยืน
สิ่งแวดล้อม: การขับขี่รถยนต์ไฟฟ้าช่วยลดการปล่อยมลพิษทางอากาศ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมที่สำคัญ

JAECOO 5 EV กับอนาคตของ OMODA & JAECOO ในประเทศไทย

การเปิดตัว JAECOO 5 EV ในราคาที่เข้าถึงได้นี้ เป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นของ OMODA & JAECOO ที่ต้องการนำเสนอ เทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้า ที่ทันสมัยและมีคุณภาพให้กับตลาดประเทศไทย ซึ่งเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูงและมีความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง การมาของ JAECOO 5 EV ไม่ได้เป็นเพียงแค่การเพิ่มตัวเลือกในตลาด แต่เป็นการสร้างมาตรฐานใหม่สำหรับ SUV ไฟฟ้า ที่เน้นความคุ้มค่าและสมรรถนะที่ครบครัน ซึ่งจะส่งผลให้แบรนด์นี้เป็นที่รู้จักและได้รับการยอมรับในวงกว้างยิ่งขึ้นในอีกหลายปีข้างหน้า

บทสรุปและคำเชิญชวน

จากประสบการณ์ในวงการยานยนต์ ผมกล้าพูดได้ว่า JAECOO 5 EV เป็นมากกว่าแค่รถยนต์ไฟฟ้า B-SUV ทั่วไป นี่คือการลงทุนในอนาคตที่ชาญฉลาด เป็นการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างดีไซน์ที่โดดเด่น สมรรถนะที่เร้าใจ ห้องโดยสารที่กว้างขวางและทันสมัย พร้อมด้วยระบบความปลอดภัยที่ครบครัน ในราคาที่ยากจะหาคู่แข่งได้ในปี 2025 นี้ มันไม่ใช่แค่รถที่พาคุณไปถึงจุดหมาย แต่เป็นรถที่มอบประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือกว่าและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุคใหม่ได้อย่างแท้จริง

หากคุณกำลังมองหา รถยนต์ไฟฟ้า คันแรก หรือกำลังพิจารณาเปลี่ยนจากรถยนต์สันดาปมาเป็น EV ที่ให้ความคุ้มค่าสูงสุด JAECOO 5 EV คือตัวเลือกที่คุณไม่ควรมองข้าม นี่คือโอกาสอันดีที่จะได้สัมผัสกับนวัตกรรมยานยนต์ที่เปลี่ยนแปลงโลก และเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนสู่สังคมไร้มลพิษ

อย่ารอช้าที่จะได้สัมผัสอนาคต! ขอเชิญคุณทดลองขับ JAECOO 5 EV ด้วยตัวคุณเอง และสัมผัสประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือกว่า พร้อมรับข้อเสนอสุดพิเศษได้ที่โชว์รูม OMODA & JAECOO ทั่วประเทศ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เพื่อค้นพบว่าเหตุใด JAECOO 5 EV จึงเป็น รถยนต์ไฟฟ้า ที่คุณคู่ควรในปี 2025!