[ครบชุด] 1211066 ถึงงานแต่งตัวเองแล้วแท้ๆทำไมถึงไม่ยอแต่งงานขึ้นมาละ มงคล มีเดีย

มิตซูบิชิ ไทรทัน แรลลี่คาร์: จิตวิญญาณแห่งชัยชนะบนเส้นทางสุดหฤโหด 2025

ในโลกแห่งมอเตอร์สปอร์ตที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีและความมุ่งมั่น การแข่งขันแรลลี่ทางฝุ่นถือเป็นบททดสอบที่แท้จริงของทั้งยานยนต์และทีมงาน ยิ่งเมื่อพูดถึงรายการระดับภูมิภาคอย่าง Asia Cross Country Rally (AXCR) แล้ว ยิ่งต้องยกให้เป็นสังเวียนที่เรียกได้ว่าโหดหินที่สุดรายการหนึ่ง ด้วยสภาพเส้นทางที่หลากหลายและยากลำบาก ท้าทายทั้งสมรรถนะ ความทนทาน และกลยุทธ์การแข่งขันของทุกทีม และในปี 2025 นี้ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ได้ตอกย้ำถึงความเชี่ยวชาญและตำนานอันยาวนานในวงการแรลลี่อีกครั้ง ด้วยการส่ง “มิตซูบิชิ ไทรทัน แรลลี่คาร์” ลงชิงชัยในศึก AXCR 2025 ถึง 3 คัน ในรุ่น T1D ซึ่งเป็นการประกาศศักดาอย่างชัดเจนว่า ไทรทันคือหัวแถวผู้พร้อมฟันฝ่าทุกอุปสรรค และเป็นตัวแทนของวิศวกรรมยานยนต์ที่เหนือชั้น ซึ่งผมในฐานะผู้คลุกคลีในวงการนี้มานานกว่าทศวรรษ ขอยืนยันว่านี่คือการเตรียมพร้อมที่ละเอียดอ่อนและเฉียบคมที่สุดครั้งหนึ่ง

มรดกแห่งแชมป์: DNA แรลลี่ที่ฝังลึกในทุกอณูของมิตซูบิชิ

ก่อนที่เราจะเจาะลึกถึงรายละเอียดของเจ้าไทรทัน แรลลี่คาร์ ผมอยากพาทุกท่านย้อนกลับไปมองถึงรากฐานอันแข็งแกร่งของมิตซูบิชิในโลกแห่งแรลลี่ ไม่ว่าจะเป็นตำนานอันเกรียงไกรจากการคว้าชัยในดาการ์ แรลลี่ (Dakar Rally) ครั้งแล้วครั้งเล่า หรือความสำเร็จในการแข่งขัน World Rally Championship (WRC) ด้วยรถในตระกูล Lancer Evolution ที่ได้สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับวงการรถยนต์สมรรถนะสูง สิ่งเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่หน้าประวัติศาสตร์ แต่เป็น DNA ที่ไหลเวียนอยู่ในผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นของมิตซูบิชิ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรถกระบะอย่างไทรทัน ซึ่งถูกออกแบบมาให้แข็งแกร่ง ทนทาน และพร้อมรับมือกับทุกสภาพเส้นทางอยู่แล้ว การนำไทรทันมาพัฒนาเป็นรถแรลลี่คาร์ จึงไม่ใช่แค่การนำรถมาดัดแปลง แต่เป็นการนำเอาจิตวิญญาณแห่งแชมป์ และประสบการณ์จากการแข่งขันระดับโลก มาหล่อหลอมรวมกับเทคโนโลยีล่าสุด เพื่อสร้างยานยนต์ที่สมบูรณ์แบบสำหรับการพิชิต AXCR โดยเฉพาะ การกลับมาภายใต้ชื่อ Team Ralliart อีกครั้งในปี 2025 นี้ ยิ่งเป็นการตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นที่จะสานต่อตำนานแห่งชัยชนะและยกระดับสมรรถนะของรถกระบะให้ก้าวไปอีกขั้น

AXCR 2025: บททดสอบขั้นสุดยอดของมนุษย์และเครื่องจักร

การแข่งขัน Asia Cross Country Rally ไม่ได้เป็นเพียงแค่การแข่งขันความเร็ว แต่เป็น “มาราธอน” แห่งยานยนต์ที่ท้าทายทุกขีดจำกัดของผู้เข้าแข่งขัน ในปี 2025 นี้ การแข่งขันจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 8-16 สิงหาคม โดยมีจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดที่เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี และจะพาผู้เข้าแข่งขันไปผจญภัยในหลากหลายภูมิภาคของประเทศไทย โดยเฉพาะในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่ขึ้นชื่อเรื่องสภาพเส้นทางที่ซับซ้อน ตั้งแต่ทางฝุ่นลูกรัง ไปจนถึงเส้นทางออฟโรดในป่าเขา หรือแม้แต่เส้นทางที่ต้องลุยน้ำลุยโคลนหากมีฝนตกหนัก ซึ่งเป็นไปได้สูงในช่วงฤดูฝนของประเทศไทย

ระยะทางรวมกว่า 3,200 กิโลเมตร ตลอด 6 วันของการแข่งขัน และแบ่งออกเป็น 8 ช่วงเส้นทางพิเศษ (Special Stage หรือ SS) แต่ละ SS มีความยาวและลักษณะเฉพาะที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง นี่คือสิ่งที่ทำให้ AXCR ไม่เหมือนกับการแข่งขันทางเรียบที่เน้นความเร็วสูงสุดเพียงอย่างเดียว แต่ต้องอาศัยทั้งความอึดของเครื่องยนต์ ช่วงล่างที่ทนทาน ระบบขับเคลื่อนที่ไว้ใจได้ การนำทางที่แม่นยำ และที่สำคัญที่สุดคือ ความสามารถในการแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าของนักแข่งและผู้นำทาง ในฐานะผู้เชี่ยวชาญ ผมขอย้ำว่านี่คือการแข่งขันที่แท้จริง ไม่มีการประนีประนอมใดๆ ทั้งสิ้น

เจาะลึก มิตซูบิชิ ไทรทัน แรลลี่คาร์: วิศวกรรมที่ไร้ขีดจำกัด

รถแข่งทั้ง 3 คันที่จะลงสนามใน AXCR 2025 ได้แก่ หมายเลข 112 ขับโดย ชยพล โยธา ผู้นำทาง พีรีพงษ์ สมบัติวงศ์, หมายเลข 105 ขับโดย คัตสึฮิโกะ ทากูชิ ผู้นำทาง ทาคาฮิโระ ยาสุอิ, และหมายเลข 118 ขับโดย คาสุโตะ โคอิเดะ ผู้นำทาง เออิจิ ชิบะ แต่ละคันได้รับการปรับแต่งมาอย่างพิถีพิถัน โดยมีหัวใจหลักคือการสร้างสมดุลระหว่าง “พละกำลัง” และ “ความทนทาน” ซึ่งเป็นปรัชญาสำคัญของการแข่งแรลลี่

หัวใจที่แข็งแกร่ง: เครื่องยนต์ดีเซล 2.4 ลิตร 4N16 เทอร์โบเดี่ยว

เครื่องยนต์ดีเซลบล็อก 4N16 ขนาด 2.4 ลิตร เทอร์โบเดี่ยว ที่เป็นพื้นฐานของมิตซูบิชิ ไทรทัน รุ่นปัจจุบัน ได้รับการพัฒนาและปรับปรุงใหม่ทั้งหมดเพื่อใช้ในการแข่งขันโดยเฉพาะ โดยมีการร่วมมือกับ Mitsubishi Heavy Industries Engine & Turbocharger ในการพัฒนาเทอร์โบชาร์จเจอร์ เพื่อรีดสมรรถนะสูงสุด 160 กิโลวัตต์ (เทียบเท่าประมาณ 214 แรงม้า) หรือมากกว่านั้น และแรงบิดสูงสุดที่ 500 นิวตันเมตร หรือมากกว่านั้น หลายท่านอาจจะสงสัยว่าทำไมแรงม้าจึงไม่สูงมากเท่ารถแข่งทางเรียบ นี่คือจุดที่แสดงถึงความเข้าใจในการแข่งขันแรลลี่อย่างแท้จริงครับ

บนเส้นทางแรลลี่ที่เต็มไปด้วยอุปสรรคและระยะทางที่ยาวนาน ความทนทานของเครื่องยนต์คือปัจจัยสำคัญอันดับหนึ่ง การมีแรงม้าสูงเกินไปอาจนำมาซึ่งความร้อนสะสมที่สูง การสึกหรอที่รวดเร็ว และความเสี่ยงต่อการพังของเครื่องยนต์ ดังนั้น ทีมวิศวกรจึงเน้นไปที่การปรับปรุง “ไส้ใน” ของเครื่องยนต์ทั้งหมด ตั้งแต่ลูกสูบ ก้านสูบ เพลาข้อเหวี่ยง ไปจนถึงระบบหล่อเย็นและระบบเชื้อเพลิง ให้สามารถรับภาระได้อย่างต่อเนื่องและทนทานในสภาวะสุดขีด ด้วยการเลือกใช้วัสดุเกรดพิเศษและการออกแบบทางวิศวกรรมขั้นสูง ไส้ในของเครื่องยนต์ชุดนี้ได้รับการออกแบบมาให้รองรับแรงม้าได้สูงถึง 500-600 ตัว ซึ่งหมายความว่าพละกำลังที่ใช้อยู่ในปัจจุบันเป็นเพียงส่วนหนึ่งของศักยภาพที่แท้จริง และเป็นการปรับจูนเพื่อ “ความทนทานสูงสุด” ในการแข่งขันระยะยาว ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่ชาญฉลาดในการพิชิต AXCR การปรับจูนเช่นนี้ยังช่วยให้แรงบิดมาในรอบที่กว้างและใช้งานได้จริง ตอบสนองต่อการขับขี่ในสภาพทางฝุ่นที่หลากหลายได้เป็นอย่างดี นี่คือหัวใจสำคัญของ เทคโนโลยีเครื่องยนต์ดีเซลสมรรถนะสูง ที่มิตซูบิชิภาคภูมิใจ

ระบบส่งกำลังที่เฉียบคม: เกียร์ SADEV และ Super Select 4WD-II

การส่งผ่านพละกำลังจากเครื่องยนต์สู่ล้ออย่างมีประสิทธิภาพคือหัวใจสำคัญ ระบบส่งกำลังของไทรทัน แรลลี่คาร์ก็ถูกออกแบบมาให้ตอบโจทย์นี้อย่างถึงที่สุด

เกียร์ซีเควนเชียล 6 สปีดจาก SADEV: สำหรับรถแข่งหมายเลข 112 และ 105 เลือกใช้เกียร์ SADEV ซึ่งเป็นเกียร์ซีเควนเชียล 6 สปีดระดับโลกที่ได้รับความไว้วางใจในการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ตสมรรถนะสูง ด้วยการเปลี่ยนเกียร์ที่รวดเร็วและแม่นยำ ผู้ขับขี่สามารถควบคุมพละกำลังได้อย่างเต็มที่ การเปลี่ยนเกียร์แบบซีเควนเชียลยังช่วยลดเวลาที่สูญเสียไปในการเปลี่ยนเกียร์ ทำให้รถสามารถรักษาโมเมนตัมได้อย่างต่อเนื่อง น้ำมันเกียร์ Moty’s ที่ใช้ก็เป็นสูตรเฉพาะสำหรับการแข่งขัน เพื่อรองรับความร้อนและแรงเค้นที่สูงมาก ช่วยยืดอายุการใช้งานและคงสมรรถนะของเกียร์ไว้ได้ตลอดการแข่งขัน สิ่งเหล่านี้คือจุดเด่นของ ระบบส่งกำลังรถแข่ง ที่ต้องเน้นประสิทธิภาพและความทนทานเป็นหลัก
เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อม Super Select 4WD-II: สำหรับรถแข่งหมายเลข 118 เลือกใช้เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ควบคู่กับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Super Select 4WD-II ซึ่งเป็นระบบที่ขึ้นชื่อเรื่องความยืดหยุ่นในการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่ในโหมด 2H, 4H, 4HLc หรือ 4LLc ระบบนี้ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถปรับรูปแบบการขับเคลื่อนให้เหมาะสมกับสภาพเส้นทางที่แตกต่างกันได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย ซึ่งอาจเป็นกลยุทธ์ที่น่าสนใจสำหรับการแข่งขันแรลลี่ที่ต้องเผชิญกับสภาพเส้นทางที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา

นอกจากนี้ รถแข่งทั้ง 2 รุ่นยังติดตั้งเฟืองท้ายลิมิเต็ดสลิป (LSD) จาก CUSCO ซึ่งเป็นแบรนด์ชั้นนำในวงการมอเตอร์สปอร์ต ระบบ LSD มีบทบาทสำคัญในการถ่ายทอดกำลังไปยังล้อที่มีการยึดเกาะถนนที่ดีกว่า เมื่อล้อใดล้อหนึ่งเริ่มหมุนฟรีบนพื้นผิวที่ไม่เสมอกัน ช่วยให้รถสามารถตะกุยผ่านอุปสรรคได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นและเพิ่มเสถียรภาพในการขับขี่บนทางโค้งและทางลื่น นี่คือองค์ประกอบสำคัญของ ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อสมรรถนะสูง ที่จำเป็นในการแข่งขันแรลลี่

ช่วงล่างและการควบคุม: หัวใจของการพิชิตทางฝุ่น

ช่วงล่างคืออีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ตัดสินแพ้ชนะในการแข่งขันแรลลี่ จากการที่ได้สัมผัสและทดสอบมาแล้ว ผมกล้ายืนยันว่าช่วงล่างของไทรทัน แรลลี่คาร์ แทบจะไม่มีส่วนประกอบเดิมเหลืออยู่เลย จุดยึดต่างๆ ได้รับการออกแบบและเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด เพื่อรองรับการกระแทก การบิดตัว และการใช้งานอย่างหนักหน่วงตลอดระยะทางหลายพันกิโลเมตร

ด้านหน้าแบบปีกนกสองชั้น คอยล์สปริง: การออกแบบช่วงล่างด้านหน้าแบบปีกนกสองชั้น (Double Wishbone) ช่วยให้ล้อสามารถทำงานได้อย่างอิสระและรักษามุมของล้อให้คงที่ได้ดีกว่าบนพื้นผิวที่ไม่เรียบ ทำให้การควบคุมรถแม่นยำและตอบสนองได้ดี แม้ในขณะที่ความเร็วสูงหรือต้องเจอหลุมบ่อขนาดใหญ่
ด้านหลังแบบคอยล์สปริง Rigid 4-link: สำหรับด้านหลัง เลือกใช้ระบบคอยล์สปริงแบบ Rigid 4-link ซึ่งให้ทั้งความแข็งแกร่ง การยึดเกาะถนนที่ดีเยี่ยม และการดูดซับแรงกระแทกได้อย่างมีประสิทธิภาพ การออกแบบนี้ช่วยให้รถสามารถรักษาการทรงตัวได้ดีเยี่ยม ลดอาการดีดหรือกระโดดของท้ายรถเมื่อเจอสภาพถนนที่ขรุขระ นี่คือองค์ประกอบสำคัญของ ช่วงล่างรถแข่งออฟโรด ที่ต้องเน้นความทนทานและการควบคุมเป็นหลัก

ระบบเบรกที่ไว้ใจได้: หยุดทุกสถานการณ์

การเบรกที่มีประสิทธิภาพและทนทานคือสิ่งที่ขาดไม่ได้ในการแข่งขันแรลลี่ เพราะต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ต้องหยุดรถกะทันหัน หรือชะลอความเร็วจากความเร็วสูงซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ดิสก์เบรกระบายความร้อน พร้อมคาลิปเปอร์ชั้นเดียวจาก ENDLESS: ระบบเบรกจาก ENDLESS ซึ่งเป็นแบรนด์ที่ได้รับการยอมรับในวงการมอเตอร์สปอร์ต ประกอบด้วยดิสก์เบรกแบบมีช่องระบายความร้อน และคาลิปเปอร์แบบชั้นเดียว การออกแบบนี้ช่วยระบายความร้อนได้ดีเยี่ยม ลดโอกาสที่เบรกจะเฟด (Brake Fade) อันเนื่องมาจากการใช้งานหนัก น้ำมันเบรกสำหรับการแข่งขันจาก FORTEC ที่มีจุดเดือดสูงก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ช่วยให้ระบบเบรกทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและคงที่ตลอดการแข่งขัน นี่คือหัวใจของ ระบบเบรกรถแข่ง ที่ต้องเน้นความปลอดภัยและประสิทธิภาพสูงสุด

ล้อและยาง: การเชื่อมต่อกับผืนดิน

การเลือกใช้ล้อและยางที่เหมาะสมคือการตัดสินใจที่สำคัญ เพราะเป็นจุดเดียวที่สัมผัสกับพื้นผิวถนนโดยตรง

ล้อขนาด 17 นิ้ว จาก WORK: ล้ออัลลอยด์ขนาด 17 นิ้ว จาก WORK ซึ่งเป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงด้านความแข็งแรงและน้ำหนักเบา การเลือกล้อที่ทนทานและมีน้ำหนักเบาช่วยลดน้ำหนักใต้สปริง (Unsprung Weight) ทำให้ช่วงล่างสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ยาง YOKOHAMA GEOLANDAR M/T G003 ขนาด 245/75 R17: ยาง Mud-Terrain (M/T) รุ่นนี้ถูกออกแบบมาเพื่อการขับขี่แบบออฟโรดโดยเฉพาะ ด้วยดอกยางที่ดุดันและแข็งแกร่ง ช่วยเพิ่มการยึดเกาะในสภาพพื้นผิวที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นโคลน ทราย หรือหิน นอกจากนี้แก้มยางยังถูกออกแบบมาให้ทนทานต่อการบาดเฉือน และสามารถใช้งานได้ดีในสภาวะที่มีแรงดันลมยางต่ำ ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการแข่งขันแรลลี่ นี่คือการเลือกใช้ ยางรถแข่งออฟโรด ที่พิสูจน์แล้วในสนามจริง

โครงสร้างตัวถัง: เบา แกร่ง คล่องตัว

การลดน้ำหนักรถเป็นกุญแจสำคัญในการเพิ่มความคล่องตัวและลดภาระของเครื่องยนต์และช่วงล่าง

วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์: ในจุดต่างๆ ของตัวถังรถ เช่น ฝากระโปรง, ซุ้มล้อหน้า, แผงข้างประตู, และกระบะท้าย ได้มีการใช้วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ ซึ่งเป็นวัสดุคอมโพสิตที่มีน้ำหนักเบาแต่แข็งแรงอย่างยิ่ง การใช้วัสดุนี้ช่วยลดน้ำหนักรวมของรถลงได้อย่างมาก ทำให้รถมีความคล่องตัวในการตอบสนองต่อการบังคับเลี้ยว และลดแรงเฉื่อยในการเคลื่อนที่ การลดน้ำหนักยังส่งผลดีต่ออัตราส่วนแรงม้าต่อน้ำหนัก ทำให้รถรู้สึกปราดเปรียวและสามารถเร่งความเร็วออกจากโค้งได้ดีขึ้น ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบที่สำคัญในการแข่งขัน นี่คือบทบาทของ วัสดุคอมโพสิตในยานยนต์ ที่ช่วยยกระดับสมรรถนะ

บทบาทของทีมงาน: เบื้องหลังความสำเร็จที่แท้จริง

นอกเหนือจากความสุดยอดของวิศวกรรมยานยนต์แล้ว ปัจจัยสำคัญที่ทำให้มิตซูบิชิ ไทรทัน แรลลี่คาร์ สามารถสร้างผลงานอันน่าประทับใจได้คือ “ทีมงาน” ทั้งนักแข่งและผู้นำทางที่มีประสบการณ์สูง และทีมช่างผู้เชี่ยวชาญจาก Team Ralliart

นักแข่งและผู้นำทาง: การมีนักแข่งที่เข้าใจรถและมีทักษะในการขับขี่ที่หลากหลาย รวมถึงผู้นำทางที่แม่นยำในการอ่านโน้ตและสื่อสารกับนักแข่งได้อย่างราบรื่น ถือเป็นหัวใจของชัยชนะ การผสมผสานระหว่างนักแข่งไทยอย่างชยพล โยธา ที่คุ้นเคยกับสภาพเส้นทางในประเทศ กับนักแข่งระดับโลกอย่างคัตสึฮิโกะ ทากูชิ และคาสุโตะ โคอิเดะ ที่มีประสบการณ์ในเวทีนานาชาติ จะสร้าง synergy ที่น่าจับตามองอย่างยิ่ง ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของ กลยุทธ์ทีมมอเตอร์สปอร์ต
ทีมช่างและวิศวกร: เบื้องหลังการทำงานที่หนักหน่วงบนสนามแข่ง คือทีมช่างและวิศวกรที่ทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ในแต่ละวันของการแข่งขัน รถจะต้องได้รับการบำรุงรักษา ตรวจสอบ และซ่อมแซมอย่างรวดเร็วและแม่นยำภายในเวลาจำกัด ซึ่งต้องอาศัยความรู้ ประสบการณ์ และการทำงานเป็นทีมอย่างมีระบบ นี่คือการทำงานของ วิศวกรรมยานยนต์มอเตอร์สปอร์ต ในภาคปฏิบัติ

มิตซูบิชิ ไทรทัน: มากกว่าแค่รถกระบะ แต่มันคือตำนานที่ถูกสร้างขึ้นใหม่

การที่มิตซูบิชิเลือกใช้ไทรทันเป็นฐานในการพัฒนารถแรลลี่คาร์สำหรับ AXCR 2025 ไม่ได้เป็นเพียงแค่การส่งรถลงสนามเพื่อชิงชัย แต่เป็นการพิสูจน์ถึงขีดสุดของเทคโนโลยีและวิศวกรรมของรถกระบะรุ่นนี้ ความสำเร็จในสนามแข่งขันจะสะท้อนกลับมายังรถยนต์โปรดักชั่น ทำให้ผู้บริโภคมั่นใจในความแข็งแกร่ง ความทนทาน และสมรรถนะที่ยอดเยี่ยมของมิตซูบิชิ ไทรทัน นี่คือ นวัตกรรมยานยนต์มิตซูบิชิ ที่ส่งตรงจากสนามแข่งสู่ชีวิตจริง และเป็นการยืนยันว่าทุกชิ้นส่วน ทุกการออกแบบ ล้วนผ่านการทดสอบมาอย่างหนักหน่วงที่สุด

เตรียมพบกับความยิ่งใหญ่: อย่าพลาดชม AXCR 2025!

Asia Cross Country Rally 2025 กำลังจะมาถึงในไม่ช้า นี่คือโอกาสอันดีที่จะได้สัมผัสกับบรรยากาศการแข่งขันอันดุเดือด ตื่นเต้น และได้เห็นการทำงานอย่างหนักของทีมงานและยานยนต์ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อชัยชนะโดยเฉพาะ มิตซูบิชิ ไทรทัน แรลลี่คาร์ ทั้ง 3 คัน พร้อมแล้วที่จะสร้างประวัติศาสตร์และตอกย้ำว่า “ไทรทัน” คือผู้นำตัวจริงบนเส้นทางแห่งความท้าทาย

คำเชิญชวน:

ขอเชิญชวนทุกท่านร่วมติดตามและส่งกำลังใจให้แก่นักแข่งและทีมงานมิตซูบิชิในศึก Asia Cross Country Rally 2025 อันยิ่งใหญ่นี้ มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์และสัมผัสจิตวิญญาณแห่งชัยชนะของมิตซูบิชิ ไทรทัน ด้วยตัวคุณเอง และหากคุณต้องการสัมผัสความแข็งแกร่งและสมรรถนะอันเป็นเอกลักษณ์ของมิตซูบิชิ ไทรทัน ในชีวิตประจำวัน เราขอเชิญชวนคุณเยี่ยมชมโชว์รูมมิตซูบิชิทั่วประเทศ เพื่อประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือกว่า ซึ่งถอดรหัส DNA มาจากสนามแข่งระดับโลก.