[ครบชุด] 1211123 แค่ไม้แขวนก็สะเดาะประตูได้แล้ว คงเป็นอาชีพหลักสินะ

ปลดล็อกขีดสุด! Mitsubishi Triton Rally Car 2025: ตำนานบทใหม่แห่งความแกร่งบนเส้นทางวิบาก

ในโลกของมอเตอร์สปอร์ตที่ขับเคลื่อนด้วยอะดรีนาลีนและความเร็ว การแข่งขันแรลลี่ครอสคันทรีคือสุดยอดบททดสอบที่แท้จริงสำหรับสมรรถนะของยานยนต์และความท้าทายที่ไร้ขีดจำกัดของผู้ขับขี่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรายการ Asia Cross Country Rally (AXCR) ซึ่งถือเป็นสังเวียนประลองความอึดที่หฤโหดที่สุดแห่งหนึ่งของภูมิภาค ด้วยระยะทางที่ยาวไกล เส้นทางที่หลากหลาย และสภาพอากาศที่คาดเดาไม่ได้ ทำให้รถยนต์ทุกคันที่เข้าร่วมต้องถูกสร้างสรรค์ขึ้นด้วยวิศวกรรมที่เหนือชั้น ความทนทานที่ไร้เทียมทาน และเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำเพื่อพิชิตชัยชนะ และในปี 2025 นี้ Mitsubishi Motors ยักษ์ใหญ่แห่งวงการยานยนต์ระดับโลก ก็พร้อมแล้วที่จะกลับมาทวงบัลลังก์เจ้าแห่งทางฝุ่นอีกครั้ง ด้วย Mitsubishi Triton Rally Car โฉมใหม่ ที่ไม่ได้เป็นเพียงรถแข่ง แต่คือสัญลักษณ์แห่งนวัตกรรม ความแกร่ง และจิตวิญญาณแห่งการผจญภัย ที่พร้อมจะจารึกตำนานบทใหม่ในหน้าประวัติศาสตร์มอเตอร์สปอร์ต

ในฐานะผู้ที่คลุกคลีอยู่ในวงการยานยนต์และมอเตอร์สปอร์ตมานานกว่าทศวรรษ ผมกล้าพูดได้เลยว่า Mitsubishi มี DNA แห่งการแข่งขันที่ฝังรากลึกมายาวนาน ตั้งแต่ยุครุ่งเรืองของ Lancer Evolution ใน WRC ไปจนถึง Pajero ที่ครองแชมป์ Dakar Rally อย่างยาวนาน นวัตกรรมและความมุ่งมั่นในการพัฒนารถยนต์ให้มีสมรรถนะสูงสุดในทุกสภาวะคือหัวใจสำคัญของแบรนด์นี้ และในวันนี้ การกลับมาของ Triton Rally Car ใน AXCR 2025 ยิ่งตอกย้ำถึงปรัชญาดังกล่าวได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคปัจจุบันที่เทคโนโลยีและกลยุทธ์การแข่งขันมีความซับซ้อนและละเอียดอ่อนมากขึ้น การสร้างสรรค์รถแข่งที่สามารถผสานรวมเอาพละกำลัง ความทนทาน และความคล่องตัวเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว คือกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จ การเดิมพันครั้งนี้ของ Mitsubishi ไม่ใช่แค่การพิสูจน์ศักยภาพของรถกระบะรุ่นใหม่ล่าสุด แต่เป็นการประกาศเจตนารมณ์ว่า Triton คือตัวแทนแห่งความแกร่งที่พร้อมจะพาผู้ใช้ก้าวข้ามทุกขีดจำกัดในชีวิตจริงเฉกเช่นเดียวกับในสนามแข่ง

เปิดตำนานบทใหม่: ทำไม AXCR 2025 จึงสำคัญต่อ Mitsubishi Triton

Asia Cross Country Rally ไม่ใช่แค่สนามแข่งทั่วไป แต่คือห้องทดลองขนาดใหญ่ที่เปิดโอกาสให้ผู้ผลิตรถยนต์ได้นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ มาทดสอบภายใต้สภาวะที่โหดร้ายที่สุด การที่ Mitsubishi เลือกใช้ Triton Rally Car จำนวน 3 คัน ลงแข่งขันในรุ่น T1D ในปี 2025 นี้ สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในพื้นฐานสมรรถนะของรถกระบะรุ่นใหม่ล่าสุดอย่างแท้จริง การแข่งขัน AXCR มีชื่อเสียงในเรื่องของเส้นทางที่ท้าทาย ทั้งทางดินลูกรัง ทางโคลน ทางทราย การข้ามแม่น้ำ และภูมิประเทศที่แตกต่างกันไปในแต่ละวัน ซึ่งล้วนแล้วแต่ต้องการความทนทานของเครื่องยนต์ ระบบส่งกำลัง ช่วงล่าง และโครงสร้างตัวถังในระดับสูงสุด การที่รถยนต์จากสายพานการผลิตสามารถถูกดัดแปลงให้มีศักยภาพในการแข่งขันระดับนี้ได้ ย่อมเป็นเครื่องยืนยันถึง “คุณภาพ” และ “ความแกร่ง” ที่ถ่ายทอดสู่รถยนต์ที่ผู้บริโภคทั่วไปสามารถเป็นเจ้าของได้ นี่คือกลยุทธ์ที่ชาญฉลาดในการสร้างภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ Mitsubishi Triton ในตลาดรถกระบะทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นตลาดหลักของรถกระบะ

สำหรับทีมงานของ Mitsubishi Ralliart ในปี 2025 นี้ ได้มีการเตรียมพร้อมอย่างเข้มข้น โดยส่งยอดฝีมือลงสนามถึง 3 คัน ได้แก่ หมายเลข 112 ขับโดยนักแข่งไทยมากประสบการณ์อย่าง ชยพล โยธา พร้อมผู้นำทาง พีรีพงษ์ สมบัติวงศ์ ซึ่งเป็นความหวังของแฟนมอเตอร์สปอร์ตไทยอย่างแท้จริง รถแข่งหมายเลข 105 ขับโดย คัตสึฮิโกะ ทากูชิ นักแข่งชาวญี่ปุ่นมากฝีมือที่คุ้นเคยกับ AXCR เป็นอย่างดี พร้อมผู้นำทาง ทาคาฮิโระ ยาสุอิ และรถแข่งหมายเลข 118 ที่ขับโดย คาสุโตะ โคอิเดะ พร้อมผู้นำทาง เออิจิ ชิบะ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งทีมที่น่าจับตา การรวมตัวของนักแข่งระดับโลกเหล่านี้ แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ Mitsubishi ในการสร้างทีมที่แข็งแกร่งและมีศักยภาพในการคว้าชัยชนะในทุกสภาพสนาม นี่คือการแข่งขันที่แท้จริง ไม่ใช่แค่การเข้าร่วม

เจาะลึกหัวใจของสัตว์ร้าย: เครื่องยนต์และระบบขับเคลื่อนที่ไร้เทียมทาน

หัวใจหลักของ Mitsubishi Triton Rally Car 2025 คือขุมพลังเครื่องยนต์ดีเซล 2.4 ลิตร รหัส 4N16 แบบเทอร์โบเดี่ยว ซึ่งได้รับการพัฒนาต่อยอดจากเครื่องยนต์ที่ติดตั้งในรถยนต์สายพานการผลิต แต่ถูกปรับจูนและเสริมความแข็งแกร่งเป็นพิเศษเพื่อรองรับการแข่งขันที่โหดหิน เทคโนโลยีเครื่องยนต์ดีเซลในยุค 2025 มีความก้าวหน้าไปมาก ทั้งในด้านประสิทธิภาพการเผาไหม้ ความทนทาน และการจัดการความร้อน ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการแข่งขันแรลลี่ระยะทางไกล ที่ความต่อเนื่องของสมรรถนะมีความสำคัญกว่าพละกำลังสูงสุดเพียงช่วงสั้นๆ

เทอร์โบชาร์จเจอร์ที่ถูกเลือกใช้มาจาก Mitsubishi Heavy Industry Engine and Turbocharger ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับโลกในการออกแบบและผลิตระบบอัดอากาศ ทำให้มั่นใจได้ถึงการตอบสนองที่ฉับไวและทนทานภายใต้แรงดันสูง ผลลัพธ์ที่ได้คือพละกำลังสูงสุดที่มากกว่า 160 กิโลวัตต์ (เทียบเท่าประมาณ 214 แรงม้า) และแรงบิดสูงสุดที่มากกว่า 500 นิวตันเมตร ซึ่งเมื่อเทียบกับรถแข่งทางเรียบอาจดูไม่หวือหวา แต่ในบริบทของการแข่งขันแรลลี่ครอสคันทรี พละกำลังและแรงบิดมหาศาลที่มาอย่างต่อเนื่องในรอบเครื่องยนต์ที่ใช้งานจริง ถือเป็นหัวใจสำคัญในการฝ่าฟันอุปสรรคบนเส้นทางวิบาก ที่สำคัญกว่าตัวเลขแรงม้าสูงสุดคือ “ความทนทาน” ขององค์ประกอบภายในเครื่องยนต์ที่ถูกเสริมความแกร่งใหม่ทั้งหมด ให้สามารถรับแรงเค้นได้ถึงระดับ 500-600 แรงม้า แม้จะไม่ได้ใช้งานพละกำลังทั้งหมด แต่การมี “เฮดรูม” ของความแกร่งที่สูงกว่ามากนี้เอง ทำให้เครื่องยนต์สามารถทำงานได้อย่างไร้กังวลภายใต้สภาวะสุดขีดนานหลายวัน

ในส่วนของระบบส่งกำลังนั้น Mitsubishi ได้วางกลยุทธ์ที่น่าสนใจ โดยรถแข่งหมายเลข 112 และ 105 เลือกใช้ชุดเกียร์ซีเควนเชียล 6 สปีดจาก SADEV ซึ่งเป็นเกียร์สมรรถนะสูงระดับโลกที่ได้รับการพิสูจน์แล้วในสนามแข่ง การเปลี่ยนเกียร์ที่รวดเร็ว ฉับไว และแม่นยำของเกียร์ SADEV เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการควบคุมรถในทางฝุ่นที่ต้องการการตอบสนองทันทีทันใด พร้อมการหล่อลื่นด้วยน้ำมันเกียร์ Moty’s เกรดสนามแข่ง เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดและอายุการใช้งานที่ยาวนานภายใต้แรงเค้น ส่วนรถแข่งหมายเลข 118 มีความแตกต่างออกไป โดยเลือกใช้เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ซึ่งเป็นชุดเกียร์ที่ได้รับการปรับแต่งเป็นพิเศษ เพื่อให้การขับขี่ที่นุ่มนวลและต่อเนื่องในบางสภาวะการขับขี่ที่อาจจะมีความหลากหลายและต้องการความสะดวกสบายมากขึ้นเล็กน้อย โดยทั้งสามคันยังคงใช้ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อเป็นหัวใจสำคัญ โดยรถเกียร์ซีเควนเชียลมาพร้อมระบบ Full-Time 4WD ส่วนรถเกียร์อัตโนมัติใช้ระบบ Super Select 4WD-II อันเลื่องชื่อของ Mitsubishi ซึ่งเป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อที่ให้ความยืดหยุ่นและควบคุมง่าย ทั้งในโหมด 2WD สำหรับทางเรียบ ไปจนถึง 4HLc และ 4LLc สำหรับการขับขี่ในสภาพทางที่ท้าทายที่สุด ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อที่แข็งแกร่งและปรับแต่งมาอย่างดีนี้ คือกุญแจสำคัญในการยึดเกาะถนนและถ่ายทอดพละกำลังลงสู่พื้นได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ การเสริมประสิทธิภาพด้วยเฟืองท้ายลิมิเต็ดสลิป (LSD) จาก CUSCO ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ยิ่งช่วยเพิ่มสมรรถนะในการเข้าโค้งและการยึดเกาะถนนให้เหนือชั้นขึ้นไปอีก เฟืองท้าย LSD ช่วยกระจายแรงบิดไปยังล้อที่มีการยึดเกาะที่ดีที่สุด ทำให้รถสามารถรักษาโมเมนตัมและควบคุมทิศทางได้ดีเยี่ยมแม้ในสภาพพื้นผิวที่ไม่สม่ำเสมอ เป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมยานยนต์ที่สำคัญในการแข่งขันแรลลี่

ช่วงล่างและระบบเบรก: ความสมดุลแห่งความแกร่งและการควบคุม

ในโลกของแรลลี่ครอสคันทรี ระบบช่วงล่างคือหัวใจสำคัญที่ไม่แพ้เครื่องยนต์และระบบขับเคลื่อน Mitsubishi Triton Rally Car 2025 ได้รับการออกแบบช่วงล่างใหม่ทั้งหมด โดยแทบจะไม่เหลือชิ้นส่วนเดิมจากรถยนต์สายพานการผลิตเลย จุดยึดต่างๆ ถูกเสริมความแข็งแรงและปรับตำแหน่งใหม่ทั้งหมด เพื่อรองรับการทำงานของช่วงล่างสมรรถนะสูง สำหรับด้านหน้า เป็นแบบปีกนกสองชั้น (Double Wishbone) พร้อมคอยล์สปริง ซึ่งให้ความแข็งแกร่ง ควบคุมการเคลื่อนที่ของล้อได้อย่างแม่นยำ และรองรับการกระแทกได้อย่างยอดเยี่ยม ช่วยให้รถสามารถวิ่งด้วยความเร็วสูงบนเส้นทางขรุขระได้อย่างมั่นคง ส่วนด้านหลัง เลือกใช้แบบคอยล์สปริง Rigid 4-Link ซึ่งเป็นการจัดวางที่ให้ความแข็งแกร่งสูง ยืดหยุ่นในการยุบตัว และให้การยึดเกาะที่ดีเยี่ยมในสภาพทางที่แตกต่างกัน การออกแบบนี้ช่วยให้ล้อหลังสามารถรับแรงกระแทกและรักษาสมดุลของรถได้ดีเยี่ยม แม้ในจังหวะกระโดดหรือวิ่งผ่านหลุมบ่อขนาดใหญ่

ระบบกันสะเทือนแบบพิเศษนี้ ไม่ได้มีเพียงแค่โครงสร้างที่แข็งแกร่ง แต่ยังรวมถึงโช้คอัพและสปริงที่ได้รับการปรับแต่งมาโดยเฉพาะสำหรับการแข่งขันแรลลี่ ซึ่งสามารถรองรับแรงกระแทกซ้ำๆ ได้อย่างต่อเนื่อง และรักษาเสถียรภาพของรถได้แม้ต้องวิ่งด้วยความเร็วสูงเป็นระยะทางยาวนาน เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ Triton Rally Car สามารถ “ลอยตัว” ผ่านอุปสรรคต่างๆ ได้อย่างมั่นคง

ในด้านระบบเบรก ความปลอดภัยและประสิทธิภาพการหยุดรถคือสิ่งที่ไม่สามารถประนีประนอมได้ Triton Rally Car ติดตั้งระบบเบรกดิสก์ระบายความร้อน พร้อมคาลิปเปอร์แบบชั้นเดียวจาก ENDLESS ซึ่งเป็นแบรนด์เบรกสมรรถนะสูงระดับโลกที่ได้รับความไว้วางใจในวงการมอเตอร์สปอร์ต ผ้าเบรกและน้ำมันเบรกสำหรับการแข่งขันจาก FORTEC ได้รับการเลือกใช้เพื่อให้มั่นใจว่าระบบเบรกจะทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ต้านทานการเฟดของเบรกได้ดีเยี่ยม และให้การตอบสนองที่สม่ำเสมอแม้จะผ่านการใช้งานอย่างหนักหน่วงซ้ำๆ บนเส้นทางที่ต้องใช้เบรกอย่างต่อเนื่องและรุนแรง การมีระบบเบรกที่ไว้ใจได้ ไม่เพียงแต่ช่วยลดความเร็วเท่านั้น แต่ยังช่วยให้นักแข่งสามารถควบคุมรถได้อย่างมั่นใจและแม่นยำในทุกสถานการณ์

น้ำหนักเบาและยึดเกาะเยี่ยม: อะไหล่และยางสมรรถนะสูง

เพื่อเพิ่มความคล่องตัวและลดภาระของเครื่องยนต์ Triton Rally Car ได้นำหลักการลดน้ำหนักมาใช้ในหลายส่วนของตัวถัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ในจุดสำคัญต่างๆ เช่น ฝากระโปรงหน้า ซุ้มล้อหน้า แผงข้างประตู และกระบะท้าย ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยลดน้ำหนักลงอย่างมาก แต่ยังเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับโครงสร้างในส่วนที่จำเป็น การลดน้ำหนักตัวถังลงนั้นส่งผลโดยตรงต่อสมรรถนะโดยรวมของรถ ไม่ว่าจะเป็นอัตราเร่งที่ดีขึ้น การควบคุมรถที่เฉียบคมขึ้น ระยะเบรกที่สั้นลง และประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิงที่ดีขึ้น ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญในการแข่งขันแรลลี่ระยะทางไกล

การยึดเกาะถนนคือสิ่งสำคัญอันดับแรกในการขับขี่แบบออฟโรด Triton Rally Car เลือกใช้ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้วจาก WORK ซึ่งเป็นล้อน้ำหนักเบาแต่แข็งแกร่ง ทนทานต่อแรงกระแทกจากเส้นทางวิบาก และสวมด้วยยาง YOKOHAMA GEOLANDAR M/T G003 ขนาด 245/75 R17 ซึ่งเป็นยาง Mud-Terrain ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับการขับขี่ในสภาพทางดินโคลน หิน และทราย ด้วยดอกยางที่มีขนาดใหญ่และร่องลึก ทำให้ยางรุ่นนี้ให้การยึดเกาะที่ยอดเยี่ยม พร้อมคุณสมบัติในการรีดโคลนและหินออกจากหน้ายางได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงความทนทานต่อการบาดตำ ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งในการแข่งขัน AXCR ที่มีโอกาสเผชิญกับเส้นทางที่เต็มไปด้วยของมีคมและหินแหลมคม

ความท้าทายของ AXCR 2025: เส้นทางสู่ชัยชนะ

Asia Cross Country Rally 2025 มีกำหนดการแข่งขันระหว่างวันที่ 8-16 สิงหาคม โดยมีจุดเริ่มต้นและเส้นชัยที่เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความพร้อมของประเทศไทยในการเป็นเจ้าภาพมอเตอร์สปอร์ตระดับนานาชาติ เส้นทางการแข่งขันจะพาผู้เข้าร่วมผจญภัยไปทั่วภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออกของประเทศไทย ครอบคลุมระยะทางรวมกว่า 3,200 กิโลเมตร แบ่งเป็น 6 วันแห่งการแข่งขัน และ 8 ช่วงเส้นทางการแข่งขันพิเศษ (SS: Special Stage) แต่ละช่วงของ Special Stage คือบททดสอบที่แตกต่างกัน ทั้งความเร็ว ความอึด และทักษะการขับขี่ของนักแข่ง

เส้นทางที่ท้าทายเหล่านี้ ทำให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่าทำไม Mitsubishi Triton Rally Car จึงถูกสร้างขึ้นมาโดยเน้น “ความทนทาน” และ “ความสมดุล” ของสมรรถนะมากกว่าการเน้นแรงม้าสูงสุดเพียงอย่างเดียว การบริหารจัดการกำลังเครื่องยนต์ การรักษาความเร็วในทางยาว การฝ่าฟันอุปสรรคในทางแคบ และการประหยัดพลังงาน ตลอดจนความน่าเชื่อถือของทุกองค์ประกอบของรถ คือปัจจัยสำคัญที่จะกำหนดผู้ชนะในท้ายที่สุด ไม่ใช่เพียงแค่การมีรถที่เร็วที่สุดเพียงแค่ช่วงสั้นๆ การแข่งขันนี้ไม่ได้มีเพียงแค่การขับรถให้เร็วที่สุด แต่ยังรวมถึงกลยุทธ์ การวางแผนเส้นทาง การบำรุงรักษา และการทำงานเป็นทีมระหว่างนักแข่ง ผู้นำทาง และทีมช่าง ที่จะต้องทำงานร่วมกันอย่างเป็นระบบและไร้ที่ติ เพื่อให้รถสามารถเดินทางไปถึงเส้นชัยได้อย่างปลอดภัยและรวดเร็วที่สุด

Mitsubishi Triton Rally Car 2025: คุณคือหัวแถว

จากประสบการณ์ในวงการยานยนต์ ผมมั่นใจว่า Mitsubishi Triton Rally Car 2025 ไม่ได้เป็นเพียงรถแข่งที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อพิชิตชัยชนะในสนาม AXCR เท่านั้น แต่ยังเป็นแพลตฟอร์มสำคัญที่ Mitsubishi ใช้ในการผลักดันขีดจำกัดของเทคโนโลยีและวิศวกรรมยานยนต์ เพื่อนำความรู้และประสบการณ์ที่ได้จากการแข่งขัน มาพัฒนาต่อยอดสู่รถยนต์สายพานการผลิต ให้ผู้บริโภคได้สัมผัสถึง “จิตวิญญาณแห่งแชมป์” และ “ความแกร่งที่แท้จริง” ในรถกระบะ Triton ที่ขับขี่ในชีวิตประจำวัน การลงทุนมหาศาลในการพัฒนาและแข่งขันครั้งนี้ เป็นการตอกย้ำถึงพันธสัญญาของ Mitsubishi ที่มีต่อลูกค้า ว่ารถของพวกเขาคือรถที่ถูกออกแบบมาเพื่อรับมือกับทุกความท้าทายในทุกเส้นทาง

Mitsubishi Triton Rally Car 2025 จึงเป็นมากกว่าแค่รถแข่ง แต่คือ “หัวแถว” ที่นำพานวัตกรรม ความแกร่ง และแรงบันดาลใจ ก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง พร้อมที่จะสร้างตำนานบทใหม่แห่งชัยชนะบนเส้นทางวิบาก และพิสูจน์ให้โลกเห็นว่า “Triton” คือชื่อที่หมายถึงความทนทาน ความน่าเชื่อถือ และสมรรถนะที่เหนือกว่า

อย่าพลาดเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์!

มาร่วมติดตามและเป็นกำลังใจให้ Mitsubishi Triton Rally Car 2025 ในศึก Asia Cross Country Rally 2025 ที่กำลังจะมาถึงนี้ คุณจะได้เห็นสุดยอดสมรรถนะของรถกระบะที่ได้รับการปรับแต่งมาอย่างดีเยี่ยม และความมุ่งมั่นของทีมนักแข่งระดับโลกในการพิชิตทุกอุปสรรค หากคุณกำลังมองหารถกระบะที่ตอบโจทย์ทั้งความแกร่ง ทนทาน และเต็มเปี่ยมด้วยเทคโนโลยีที่ได้รับการพิสูจน์แล้วในสนามแข่งจริง เราขอเชิญคุณสัมผัสประสบการณ์ขับขี่ Mitsubishi Triton ใหม่ได้แล้ววันนี้ที่โชว์รูม Mitsubishi ทั่วประเทศ หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเราเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับรถยนต์ที่เป็นแรงบันดาลใจจากสนามแข่งและนวัตกรรมยานยนต์จาก Mitsubishi Motors ที่พร้อมจะพาคุณไปได้ไกลกว่าที่เคย!