[ครบชุด] 1211124 ผู้ชายขี้เบื่อทุกคน เจอสาวสวยหน่อยก็ไปละ

เปิดมิติใหม่แห่งความแกร่ง: Mitsubishi Triton Rally Car 2025 ทะยานสู่สังเวียน Asia Cross Country Rally

ในฐานะผู้ที่คลุกคลีอยู่ในวงการยานยนต์และมอเตอร์สปอร์ตมานานกว่าทศวรรษ ผมยืนยันได้เลยว่าไม่มีสิ่งใดจะเร้าใจและท้าทายเท่ากับการแข่งขันแรลลี่ครอสคันทรีอีกแล้ว มันคือบททดสอบขั้นสุดยอดที่ผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีวิศวกรรมยานยนต์อันล้ำสมัย ความสามารถของนักขับและผู้นำทาง และความแกร่งของจิตใจ สำหรับปี 2025 นี้ สายตาของคนทั้งโลกต่างจับจ้องไปที่ Asia Cross Country Rally (AXCR) หนึ่งในรายการแข่งขันทางฝุ่นที่หฤโหดที่สุดในภูมิภาค และหนึ่งในผู้เข้าแข่งขันที่โดดเด่นและน่าจับตามองที่สุดคือ Mitsubishi Motors ที่กลับมาพร้อมกับ “Mitsubishi Triton Rally Car” เจเนอเรชันใหม่ล่าสุด พร้อมที่จะประกาศศักดาอีกครั้งในฐานะหัวหอกแห่งความทนทานและสมรรถนะที่ไม่มีใครเทียบได้

การแข่งขัน AXCR ไม่ใช่เพียงแค่การวิ่งจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่ง แต่มันคือการเดินทางผ่านภูมิประเทศที่หลากหลายและคาดเดาไม่ได้ ตั้งแต่ป่าทึบ ดินโคลน ทะเลทราย เนินทราย ไปจนถึงเส้นทางลูกรังหินขรุขระ การที่รถยนต์คันหนึ่งจะอยู่รอดจนจบการแข่งขันได้นั้น ต้องอาศัยการผสานรวมกันอย่างลงตัวของทุกองค์ประกอบ ทั้งเครื่องยนต์ที่ทรงพลัง ระบบขับเคลื่อนที่ไว้ใจได้ ช่วงล่างที่ซับแรงกระแทกมหาศาล และโครงสร้างตัวถังที่แข็งแกร่ง Mitsubishi เข้าใจถึงแก่นแท้เหล่านี้เป็นอย่างดี และจากประสบการณ์อันยาวนานในรายการระดับโลกอย่าง Dakar Rally ทำให้พวกเขามี DNA แห่งชัยชนะฝังลึกอยู่ในทุกอณูของรถยนต์ทุกคัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรถกระบะ “Triton” หรือ L200 ในบางตลาด ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความแข็งแกร่งและความพร้อมสำหรับการผจญภัยในทุกรูปแบบ การเข้าร่วม AXCR 2025 ด้วย Triton Rally Car ถึง 3 คันในพิกัด T1D (รถกระบะขับเคลื่อน 4 ล้อดีเซล) จึงเป็นการตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของแบรนด์ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์การใช้งานจริงภายใต้สภาวะสุดขีด และส่งต่อเทคโนโลยีเหล่านั้นสู่รถยนต์ในสายการผลิตในอนาคต

ขุมพลังแห่งชัยชนะ: เจาะลึกหัวใจของ Mitsubishi Triton Rally Car

หัวใจสำคัญที่ทำให้ Mitsubishi Triton Rally Car รุ่นปี 2025 แตกต่างและเหนือชั้น คือการปรับแต่งทางวิศวกรรมที่ละเอียดอ่อนและแม่นยำ ทุกส่วนของรถถูกออกแบบมาเพื่อรับมือกับความท้าทายอันหนักหน่วงของ AXCR โดยเฉพาะ การจะคว้าชัยในรายการนี้ได้ไม่ใช่แค่มีแรงม้าสูงลิ่ว แต่ต้องมาพร้อมกับความทนทานที่ไร้เทียมทาน ซึ่งเป็นปรัชญาหลักที่ Mitsubishi ยึดถือเสมอมา

เครื่องยนต์ดีเซล 4N16: ความแกร่งที่ถูกปลดปล่อย

แกนกลางของสมรรถนะอันดุดันนี้คือเครื่องยนต์ดีเซล MIVEC ขนาด 2.4 ลิตร บล็อก 4N16 เทอร์โบเดี่ยว ซึ่งแม้จะเป็นพื้นฐานมาจากเครื่องยนต์ที่ใช้ในรถตลาด แต่ในเวอร์ชัน Rally Car นี้ ได้รับการพัฒนาและปรับแต่งอย่างเข้มข้นถึงระดับ “ไส้ใน” ของเครื่องยนต์ ถูกเปลี่ยนใหม่ทั้งหมดด้วยชิ้นส่วนพิเศษที่ทนทานกว่า เพื่อรองรับการผลิตกำลังที่เหนือกว่าและสามารถทนทานต่อแรงม้าได้สูงถึง 500-600 แรงม้า แม้ว่าในการแข่งขันจริงจะมีการปรับจูนให้พละกำลังสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 160 kW (หรือราว 214 แรงม้า) และแรงบิดสูงสุดกว่า 500 นิวตันเมตร ซึ่งอาจดูไม่มากนักเมื่อเทียบกับรถแข่งทางเรียบ แต่ปรัชญานี้คือสิ่งที่ผู้เชี่ยวชาญด้านแรลลี่เข้าใจเป็นอย่างดี เพราะการแข่งขันแบบครอสคันทรีนั้น เน้น “ความทนทาน” (Endurance) เป็นหลักสำคัญเหนือกว่า “แรงม้าสูงสุด” (Peak Horsepower) ที่จะใช้ได้เพียงชั่วครู่ยาม

หัวใจของระบบอัดอากาศคือเทอร์โบชาร์จเจอร์ประสิทธิภาพสูงจาก Mitsubishi Heavy Industry Engine and Turbocharger ที่ได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะ เพื่อให้การตอบสนองของเครื่องยนต์มีความต่อเนื่องและรวดเร็วในทุกย่านความเร็ว เหมาะสมกับการขับขี่ในสภาพเส้นทางที่ต้องเปลี่ยนความเร็วบ่อยครั้ง การปรับจูนระบบจัดการเครื่องยนต์ (ECU) ก็มีความซับซ้อนอย่างยิ่ง เพื่อให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดภายใต้สภาวะที่หลากหลาย ทั้งในเรื่องของการจ่ายเชื้อเพลิง อัตราส่วนอากาศ/เชื้อเพลิง และการควบคุมอุณหภูมิ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการป้องกันความเสียหายของเครื่องยนต์ระหว่างการแข่งขันระยะไกล สำหรับการแข่งขัน AXCR 2025 อุณหภูมิในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ร้อนระอุและการวิ่งต่อเนื่องเป็นเวลานาน ทำให้ระบบระบายความร้อนต้องได้รับการอัปเกรดเป็นพิเศษ เช่น หม้อน้ำขนาดใหญ่ขึ้น อินเตอร์คูลเลอร์ประสิทธิภาพสูง และระบบท่อทางเดินของเหลวที่ทนทาน เพื่อให้เครื่องยนต์คงสมรรถนะสูงสุดได้ตลอดการแข่งขัน สิ่งเหล่านี้คือ “วิศวกรรมยานยนต์” ในระดับสูงสุด ที่ผสานนวัตกรรมและความรู้ด้าน “มอเตอร์สปอร์ต” เข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว

ระบบส่งกำลังและขับเคลื่อน 4 ล้อ: การถ่ายทอดกำลังที่เหนือชั้น

การส่งผ่านพลังงานจากเครื่องยนต์สู่ล้ออย่างมีประสิทธิภาพและเชื่อถือได้ คืออีกหนึ่งกุญแจสำคัญสู่ชัยชนะ Mitsubishi ได้นำเสนอการปรับแต่งระบบส่งกำลังที่น่าสนใจสำหรับ Triton Rally Car ทั้งสามคัน:

รถแข่งหมายเลข 112 และ 105: เลือกใช้เกียร์ซีเควนเชียล (Sequential Gearbox) 6 สปีด จาก SADEV ผู้ผลิตเกียร์ชื่อดังระดับโลก ระบบนี้ช่วยให้การเปลี่ยนเกียร์ทำได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ นักขับสามารถควบคุมกำลังของเครื่องยนต์ได้อย่างเต็มที่ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาโมเมนตัมและออกจากโค้งแคบๆ หรืออุปสรรคได้อย่างฉับไว การใช้ “น้ำมันเกียร์ Moty’s” ซึ่งเป็นแบรนด์น้ำมันหล่อลื่นสมรรถนะสูง ยิ่งเป็นการยืนยันถึงความใส่ใจในรายละเอียดที่ช่วยเพิ่มความทนทานและประสิทธิภาพให้กับระบบขับเคลื่อน รถทั้งสองคันนี้มาพร้อมกับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ Full-Time ซึ่งให้การยึดเกาะถนนสูงสุดในทุกสภาพพื้นผิว
รถแข่งหมายเลข 118: มีการทดลองใช้เกียร์อัตโนมัติ (Automatic Transmission) 6 สปีด ที่ได้รับการปรับแต่งเป็นพิเศษ พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ Super Select 4WD-II การใช้เกียร์อัตโนมัติในรถแรลลี่แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าของ “เทคโนโลยีเกียร์อัตโนมัติ” ในปัจจุบัน ที่สามารถทนทานและตอบสนองได้ดีเยี่ยมไม่แพ้เกียร์ซีเควนเชียล แถมยังช่วยลดภาระของนักขับ ทำให้พวกเขามีสมาธิกับการควบคุมรถและการอ่านเส้นทางได้มากขึ้น ในสนามแข่งที่ยาวนานและเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า การลดความซับซ้อนในการขับขี่อาจเป็นข้อได้เปรียบที่สำคัญ

นอกจากนี้ รถแข่งทั้งสองรุ่นยังติดตั้งเฟืองท้ายลิมิเต็ดสลิป (LSD) ของ CUSCO ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนประสิทธิภาพสูงจากญี่ปุ่น “เฟืองท้าย LSD” มีบทบาทสำคัญในการกระจายแรงบิดไปยังล้อที่มีการยึดเกาะดีกว่า ช่วยลดการฟรีทิ้งของล้อเมื่อเจอสภาพพื้นผิวที่ไม่สม่ำเสมอ หรือเมื่อเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง ทำให้รถสามารถรักษาแรงยึดเกาะและควบคุมทิศทางได้อย่างมีเสถียรภาพยิ่งขึ้น ซึ่งเป็น “เทคโนโลยีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ” ที่ขาดไม่ได้ในการแข่งขันทางฝุ่น

โอบอุ้มทุกแรงกระแทก: ช่วงล่าง, เบรก และยาง ที่สุดของความลงตัว

การแข่งขันแรลลี่ครอสคันทรีคือสมรภูมิของช่วงล่างและระบบกันสะเทือน การที่รถสามารถรักษาความเร็วและเสถียรภาพไว้ได้บนเส้นทางที่โหดร้าย คือหัวใจสำคัญของการทำเวลา Triton Rally Car จึงถูกปรับแต่งช่วงล่างใหม่ทั้งหมด โดยแทบไม่เหลือชิ้นส่วนเดิมจากรถโปรดักชันเลย

ระบบกันสะเทือน: ความแข็งแกร่งและความยืดหยุ่น

ด้านหน้า: เป็นแบบปีกนกสองชั้น (Double Wishbone) พร้อมคอยล์สปริง ซึ่งเป็นรูปแบบที่ให้ความแข็งแกร่งและแม่นยำในการควบคุมล้อ มอบระยะยุบตัวและคืนตัวที่ยาวเป็นพิเศษ เพื่อรองรับแรงกระแทกมหาศาลจากการโดดเนินหรือวิ่งผ่านหลุมบ่อขนาดใหญ่ “ระบบกันสะเทือนรถยนต์” แบบนี้ ช่วยให้ล้อสามารถสัมผัสพื้นผิวถนนได้ตลอดเวลา เพิ่มประสิทธิภาพในการยึดเกาะและการควบคุม
ด้านหลัง: ใช้ระบบคอยล์สปริง Rigid 4-link ซึ่งแตกต่างจากรถกระบะทั่วไปที่มักใช้แหนบ การใช้ 4-link พร้อมคอยล์สปริงช่วยให้การเคลื่อนที่ของเพลาล้อหลังเป็นอิสระและยืดหยุ่นมากกว่า มอบการขับขี่ที่นุ่มนวลกว่า และช่วยให้การควบคุมรถทำได้ดีขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องวิ่งด้วยความเร็วสูงบนทางขรุขระ หรือเมื่อต้องการการยึดเกาะที่ดีเยี่ยมในโค้ง การเลือกใช้วัสดุและโช้คอัพคุณภาพสูง (แม้ไม่ได้ระบุแบรนด์ แต่แน่นอนว่าเป็นระดับ “โช้คอัพสมรรถนะสูง” สำหรับรถแข่งโดยเฉพาะ เช่น แบบที่มีซับแทงก์แยกเพื่อระบายความร้อนได้ดี) เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อให้ระบบกันสะเทือนทำงานได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่มีอาการ Fade (ประสิทธิภาพลดลงจากการทำงานหนักและความร้อนสะสม) ตลอดระยะทางหลายพันกิโลเมตร

ระบบเบรก: หยุดได้อย่างมั่นใจในทุกสถานการณ์

ในการแข่งขันที่ความเร็วสูงและความปลอดภัยคือสิ่งสำคัญ ระบบเบรกต้องพร้อมตอบสนองได้ทันท่วงทีเสมอ Triton Rally Car มาพร้อมกับระบบเบรกดิสก์ระบายความร้อน พร้อมคาลิปเปอร์แบบชั้นเดียวจาก ENDLESS ซึ่งเป็นแบรนด์เบรก “สมรรถนะสูง” ที่ได้รับการยอมรับในวงการมอเตอร์สปอร์ต น้ำมันเบรกสำหรับการแข่งขันจาก FORTEC ถูกเลือกใช้เพื่อรักษาประสิทธิภาพการเบรกให้คงที่แม้ภายใต้ความร้อนสะสมที่สูงมาก “ระบบเบรกสมรรถนะสูง” เหล่านี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้ความมั่นใจสูงสุดแก่นักขับ ในการควบคุมรถในสถานการณ์คับขัน และช่วยลดความร้อนสะสม เพื่อป้องกันอาการเบรก Fade ที่อาจเกิดขึ้นได้จากการใช้งานอย่างหนักหน่วง

ล้อและยาง: การยึดเกาะที่ไร้ที่ติ

ล้อ: ขนาด 17 นิ้ว จาก WORK ซึ่งเป็นแบรนด์ล้อชื่อดังที่ขึ้นชื่อเรื่องความแข็งแรงทนทานและน้ำหนักที่เบา ล้อที่แข็งแกร่งเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อทนทานต่อแรงกระแทกและการกระแทกกระทั้นบนเส้นทางออฟโรด
ยาง: สวมยาง YOKOHAMA GEOLANDAR M/T G003 ขนาด 245/75 R17 ซึ่งเป็นยาง “ออฟโรด” ระดับตำนานที่ออกแบบมาเพื่อการยึดเกาะสูงสุดในสภาพพื้นผิวที่สมบุกสมบัน ไม่ว่าจะเป็นโคลน ดินทราย หรือหินขรุขระ ลายดอกยางที่ดุดันและโครงสร้างแก้มยางที่แข็งแรงเป็นพิเศษ ช่วยเพิ่มความมั่นใจในการตะลุยผ่านอุปสรรค และลดความเสี่ยงของการฉีกขาดหรือยางรั่ว ซึ่งอาจทำให้เสียเวลาอันมีค่าในการแข่งขันได้

ตัวถังและโครงสร้าง: น้ำหนักเบา แข็งแกร่ง และคล่องตัว

ในการแข่งขันแรลลี่ ทุกกรัมของน้ำหนักล้วนมีความหมาย Mitsubishi Triton Rally Car ได้รับการปรับปรุงโครงสร้างตัวถังอย่างพิถีพิถัน โดยมีการใช้วัสดุ “คาร์บอนไฟเบอร์รถยนต์” ตามจุดต่างๆ อาทิ ฝากระโปรงหน้า ซุ้มล้อหน้า แผงข้างประตู และกระบะท้าย การเลือกใช้วัสดุ “คาร์บอนไฟเบอร์” ซึ่งเป็นวัสดุคอมโพสิทน้ำหนักเบาแต่แข็งแกร่ง ช่วยลดน้ำหนักรวมของรถได้อย่างมาก ทำให้รถมีความคล่องตัวในการตอบสนองต่อการบังคับเลี้ยว และลดภาระของเครื่องยนต์และช่วงล่าง นอกจากนี้ การลดน้ำหนักยังส่งผลดีต่ออัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง ซึ่งมีความสำคัญในการแข่งขันระยะยาวที่ต้องอาศัยการบริหารจัดการเชื้อเพลิงอย่างรอบคอบ

ภายในตัวรถ แน่นอนว่าต้องมีการติดตั้งโครงสร้างนิรภัย (Roll Cage) ตามมาตรฐานสากล เพื่อปกป้องนักขับและผู้นำทางในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ รวมถึงอุปกรณ์ความปลอดภัยอื่นๆ เช่น เบาะนั่งแบบ Bucket Seat เข็มขัดนิรภัยแบบ 5 จุด และระบบดับเพลิงอัตโนมัติ ทุกรายละเอียดล้วนถูกคิดค้นมาเพื่อชัยชนะและความปลอดภัยสูงสุด

บุคลากรเบื้องหลังพวงมาลัย: นักขับและผู้นำทาง

Mitsubishi Motors ไม่ได้เพียงแค่สร้างรถยนต์ที่ยอดเยี่ยม แต่ยังรวบรวมทีมงานนักขับและผู้นำทางที่มีประสบการณ์และฝีมือระดับโลกมาผนึกกำลังกันใน AXCR 2025:

หมายเลข 112: ขับโดย ชยพล โยธา (Chayapon Yotha) นักขับชาวไทยมากประสบการณ์ พร้อมด้วย พีรีพงษ์ สมบัติวงศ์ (Peeripong Sombatwong) ผู้นำทางที่รู้ใจ ถือเป็นความภาคภูมิใจของชาติและเป็นความหวังในการสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย
หมายเลข 105: ขับโดย คัตสึฮิโกะ ทากูชิ (Katsuhiko Taguchi) นักขับชาวญี่ปุ่นระดับตำนาน ผู้นำทางโดย ทาคาฮิโระ ยาสุอิ (Takahiro Yasui) การรวมตัวของทีมงานญี่ปุ่นแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการนำเทคนิคและประสบการณ์ระดับโลกมาสู่สนาม
หมายเลข 118: ขับโดย คาสุโตะ โคอิเดะ (Kasuto Koide) และผู้นำทาง เออิจิ ชิบะ (Eiji Shiba) อีกหนึ่งทีมงานญี่ปุ่นที่พร้อมท้าทายขีดจำกัด

นักขับและผู้นำทางเหล่านี้ต้องทำงานร่วมกันอย่างเป็นหนึ่งเดียว ผู้นำทางต้องอ่านแผนที่และบอกเส้นทางอย่างแม่นยำในเสี้ยววินาที ขณะที่นักขับต้องใช้ทักษะในการควบคุมรถผ่านเส้นทางที่เต็มไปด้วยอุปสรรคด้วยความเร็วสูง ความกดดันทั้งทางร่างกายและจิตใจนั้นมหาศาล การเตรียมพร้อมของร่างกายและจิตใจจึงมีความสำคัญไม่แพ้การเตรียมพร้อมของรถยนต์

สังเวียนอันหฤโหด: Asia Cross Country Rally 2025

Asia Cross Country Rally 2025 จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 8-16 สิงหาคมนี้ โดยมีจุดเริ่มต้นและสิ้นสุดที่เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวสำคัญของประเทศไทย การแข่งขันจะพาเหล่าผู้กล้าทะยานผ่านภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออกของประเทศไทย ครอบคลุมระยะทางรวมกว่า 3,200 กิโลเมตร ภายใน 6 วันของการแข่งขัน พร้อม 8 ช่วงเส้นทางการแข่งขันพิเศษ (SS : Special Stage) ที่อัดแน่นไปด้วยความท้าทาย

เส้นทางของ AXCR ขึ้นชื่อเรื่องความหลากหลายและความโหดร้าย ทั้งทางลูกรัง ดินโคลน ทราย ห้วยน้ำ ป่าทึบ และภูเขา แต่ละช่วงเส้นทาง (Special Stage) จะทดสอบขีดความสามารถของรถยนต์และทีมงานอย่างแท้จริง “การแข่งขันทางฝุ่น” รายการนี้ไม่เพียงแต่ท้าทายความเร็วเท่านั้น แต่ยังรวมถึงความสามารถในการนำทาง การบำรุงรักษา และการเอาชีวิตรอดในสภาพแวดล้อมที่ไม่เป็นมิตร การที่ Mitsubishi เลือกประเทศไทยเป็นสังเวียนหลักในการแสดงศักยภาพของ Triton Rally Car ในปี 2025 ยิ่งเป็นการตอกย้ำถึงความสำคัญของตลาดและภูมิภาคนี้

มรดกแห่งชัยชนะและนวัตกรรมสู่รถยนต์ในอนาคต

การเข้าร่วม “มอเตอร์สปอร์ต” ระดับโลกอย่าง AXCR ไม่ใช่แค่การชิงชัยในรายการเดียว แต่เป็นการลงทุนระยะยาวสำหรับ Mitsubishi Motors เทคโนโลยีและองค์ความรู้ที่ได้จากการพัฒนา “รถแข่งแรลลี่” และการเรียนรู้จากสภาวะการแข่งขันจริง จะถูกนำกลับมาวิเคราะห์ วิจัย และพัฒนาต่อยอดไปสู่รถยนต์ “Mitsubishi Triton” ที่เราเห็นวิ่งอยู่บนท้องถนนในอนาคต นี่คือ “นวัตกรรมยานยนต์” ที่แท้จริง ที่มาจากบทเรียนอันล้ำค่าจากสนามแข่ง สิ่งเหล่านี้ตอกย้ำถึงภาพลักษณ์ของแบรนด์ในเรื่องของความทนทาน ความน่าเชื่อถือ และสมรรถนะที่ยอดเยี่ยม ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้ Mitsubishi Motors ยังคงเป็นผู้นำในตลาดรถกระบะ “รถกระบะ มิตซูบิชิ” ในปัจจุบัน ไม่ใช่เพียงแค่ยานพาหนะสำหรับการขนส่ง แต่เป็นพาหนะที่พร้อมสำหรับทุกการผจญภัย ด้วยความแข็งแกร่งที่ได้รับการพิสูจน์แล้วจากสนามแข่งระดับโลก

สำหรับผู้ที่หลงใหลในความเร็ว ความท้าทาย และเทคโนโลยี “รถยนต์สมรรถนะสูง” การแข่งขัน Asia Cross Country Rally 2025 นี้ ถือเป็นโอกาสอันดีที่จะได้ติดตามชมปรากฏการณ์แห่งความแกร่งและนวัตกรรมจาก Mitsubishi Triton Rally Car และเป็นการยืนยันว่า Mitsubishi ยังคงเป็น “หัวหอก” ในวงการ “รถกระบะ มอเตอร์สปอร์ต” อย่างแท้จริง

อย่าพลาดทุกความเคลื่อนไหวของการแข่งขัน Asia Cross Country Rally 2025 และร่วมเป็นส่วนหนึ่งในประวัติศาสตร์ที่ Mitsubishi Triton Rally Car จะสร้างสรรค์ขึ้น! ติดตามข่าวสารล่าสุด และสัมผัสประสบการณ์ความแกร่งของ Mitsubishi Triton รุ่นปัจจุบันได้ที่ผู้จำหน่ายใกล้บ้านคุณ เพราะความแกร่งที่คุณเห็นในสนามแข่ง คือ DNA เดียวกันกับที่คุณสัมผัสได้ในชีวิตประจำวัน!