[ครบชุด] 1211127 สนุกจังเลย เมื่อเพื่อนเป็นพนักงานร้านอาหาร

มิตซูบิชิ ไทรทัน แรลลี่คาร์ 2025: บทบาทใหม่ในสมรภูมิออฟโรดระดับโลก พร้อมประกาศศักดาเหนือคู่แข่ง

ในโลกแห่งมอเตอร์สปอร์ตที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมและจิตวิญญาณแห่งการแข่งขันอันดุเดือด Asia Cross Country Rally (AXCR) คือเวทีที่พิสูจน์ขีดจำกัดของยานยนต์และนักขับได้อย่างแท้จริง และสำหรับปี 2025 นี้ สายตาทุกคู่ต่างจับจ้องไปที่การกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ของ Mitsubishi Motors กับตำนานรถกระบะพันธุ์แกร่ง “Mitsubishi Triton Rally Car” ที่พร้อมท้าทายทุกอุปสรรคบนเส้นทางหฤโหด ด้วยการปรับแต่งที่เหนือชั้นและเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย บทความนี้จะเจาะลึกถึงหัวใจของรถแข่งคันนี้ พร้อมวิเคราะห์ถึงกลยุทธ์และศักยภาพที่ทำให้ Mitsubishi Triton ไม่ได้เป็นแค่ผู้เข้าร่วม แต่คือผู้เล่นหลักที่พร้อมช่วงชิงตำแหน่งหัวแถวในการแข่งขันออฟโรดที่ทรงเกียรติที่สุดในเอเชีย

ในฐานะผู้ที่คลุกคลีอยู่ในวงการมอเตอร์สปอร์ตและยานยนต์มานานกว่าทศวรรษ ผมกล้าพูดได้เลยว่าการแข่งขันแรลลี่ข้ามประเทศนั้นแตกต่างจากสนามแข่งทางเรียบโดยสิ้นเชิง มันคือการผสมผสานระหว่างความเร็ว ความทนทาน และทักษะการวางแผนที่แม่นยำ ทุกส่วนประกอบของรถต้องทำงานร่วมกันอย่างเป็นระบบเพื่อรับมือกับสภาพเส้นทางที่ไม่สามารถคาดเดาได้ ตั้งแต่โคลนหนอง ทรายดูด ไปจนถึงทางหินและลำห้วย นั่นคือเหตุผลที่ Mitsubishi Motors ไม่ได้เพียงแค่สร้างรถแข่ง แต่พวกเขาสร้าง “สุดยอดเครื่องจักรแห่งการผจญภัย” ที่หลอมรวมดีเอ็นเอของรถกระบะพันธุ์แกร่งเข้ากับเทคโนโลยีมอเตอร์สปอร์ตระดับสูง

รากฐานแห่งความสำเร็จ: จากรถกระบะตลาดสู่รถแข่งแชมป์เปี้ยน

Mitsubishi Triton ไม่ได้เริ่มต้นจากการเป็นรถแข่งโดยกำเนิด แต่เป็นรถกระบะที่พิสูจน์ตัวเองแล้วในตลาดผู้บริโภค ด้วยชื่อเสียงด้านความทนทาน สมรรถนะที่ไว้ใจได้ และความสามารถในการบรรทุกที่ยอดเยี่ยม การนำ Triton มาพัฒนาต่อยอดเป็นรถแข่งแรลลี่จึงเป็นการตอกย้ำถึงคุณภาพและวิศวกรรมพื้นฐานที่แข็งแกร่งของรถรุ่นนี้ และในยุค 2025 ที่ผู้บริโภคมีความต้องการรถกระบะอเนกประสงค์มากขึ้น การที่แบรนด์นำรถตลาดลงสนามแข่งขันระดับโลก จึงเป็นการสร้างความเชื่อมั่นและแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการวิจัยและพัฒนาที่ไม่หยุดยั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านเทคโนโลยีเครื่องยนต์ดีเซล ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ และช่วงล่างสมรรถนะสูง ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญที่ผู้ซื้อรถกระบะในปัจจุบันให้ความสนใจอย่างมาก

สำหรับ AXCR 2025 นี้ Mitsubishi Motors ได้ส่ง Mitsubishi Triton Rally Car ลงสนามถึง 3 คันในรุ่น T1D (รถยนต์ดัดแปลง) โดยมีรายชื่อนักขับและผู้นำทางผู้มากประสบการณ์เป็นผู้บัญชาการ:
รถหมายเลข 112: ชยพล โยธา (นักขับ) และ พีรีพงษ์ สมบัติวงศ์ (ผู้นำทาง)
รถหมายเลข 105: คัตสึฮิโกะ ทากูชิ (นักขับ) และ ทาคาฮิโระ ยาสุอิ (ผู้นำทาง)
รถหมายเลข 118: คาสุโตะ โคอิเดะ (นักขับ) และ เออิจิ ชิบะ (ผู้นำทาง)
การจัดทีมที่ลงตัวนี้สะท้อนให้เห็นถึงความตั้งใจของ Mitsubishi ที่ต้องการผสานความสามารถของนักขับชาวไทยผู้คุ้นเคยสภาพภูมิประเทศ กับนักขับระดับสากลที่เปี่ยมด้วยประสบการณ์บนเวทีโลก นี่คือการลงทุนในการวิจัยและพัฒนาที่มิได้จำกัดอยู่แค่ตัวรถ แต่รวมถึงศักยภาพของบุคลากรด้วย

หัวใจแห่งพละกำลัง: เครื่องยนต์ดีเซล 2.4 ลิตร 4N16 เทอร์โบเดี่ยว

เครื่องยนต์ดีเซลบล็อก 4N16 ความจุ 2.4 ลิตร ที่ติดตั้งอยู่ใน Mitsubishi Triton Rally Car นั้นได้รับการพัฒนาขึ้นเป็นพิเศษสำหรับการแข่งขันโดยเฉพาะ นี่ไม่ใช่แค่เครื่องยนต์จากโรงงานที่ถูกปรับจูนเล็กน้อย แต่มันคือผลลัพธ์ของการปรับปรุงทางวิศวกรรมอย่างละเอียดถี่ถ้วน เพื่อให้ได้มาซึ่งสมรรถนะสูงสุดภายใต้เงื่อนไขที่หนักหน่วงของแรลลี่ข้ามประเทศ

ในโลกของมอเตอร์สปอร์ตโดยเฉพาะอย่างยิ่งการแข่งขันแรลลี่ ม้าศึกที่มีแรงม้าสูงลิ่วอาจไม่ใช่ปัจจัยเดียวที่นำไปสู่ชัยชนะเสมอไป ประสบการณ์ 10 ปีในวงการทำให้ผมเข้าใจดีว่า สิ่งที่สำคัญกว่าตัวเลขแรงม้าสูงสุดคือ “ความทนทาน” และ “การส่งกำลังที่สม่ำเสมอ” ตลอดเส้นทางหลายพันกิโลเมตร กำลังสูงสุด 160 kW (ประมาณ 214 แรงม้า) และแรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร อาจดูไม่หวือหวาเมื่อเทียบกับรถแข่งทางเรียบ แต่สำหรับแรลลี่ นี่คือจุดที่สมดุลอย่างสมบูรณ์แบบ เครื่องยนต์ 4N16 ได้รับการเสริมความแข็งแกร่งภายใน (ใส้ในเครื่องยนต์เปลี่ยนทั้งหมด) เพื่อรองรับแรงม้าได้สูงถึง 500-600 ตัว แต่ถูกปรับจูนให้ส่งกำลังในระดับที่เหมาะสม เพื่อให้เครื่องยนต์ทำงานได้ต่อเนื่องภายใต้ความร้อนสูงและการสั่นสะเทือนมหาศาล

เทอร์โบชาร์จเจอร์จาก Mitsubishi Heavy Industry Engine and Turbocharger คือหัวใจสำคัญที่ช่วยรีดศักยภาพของเครื่องยนต์บล็อกนี้ มันถูกออกแบบมาเพื่อสร้างแรงบูสต์ที่คงที่และตอบสนองได้รวดเร็ว ลดอาการรอรอบ (turbo lag) ให้เหลือน้อยที่สุด ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งในการเร่งแซงหรือไต่ทางชัน การควบคุมแรงบิดให้เหมาะสมกับการขับขี่บนพื้นผิวที่หลากหลาย เป็นสิ่งสำคัญในการรักษาการยึดเกาะและป้องกันยางฟรีทิ้งโดยไม่จำเป็น สิ่งเหล่านี้คือเทคโนโลยีเครื่องยนต์ดีเซลที่ก้าวหน้า ซึ่งไม่ใช่แค่เพื่อการแข่งขัน แต่ยังเป็นแรงบันดาลใจในการพัฒนารถยนต์ในตลาดให้มีประสิทธิภาพและความทนทานยิ่งขึ้นไปอีกขั้น

ระบบส่งกำลังอัจฉริยะ: ทุกการขับเคลื่อนคือชัยชนะ

ระบบส่งกำลังคืออีกหนึ่งจุดเด่นที่แสดงถึงความเชี่ยวชาญของ Mitsubishi ในการปรับแต่งรถแข่งสำหรับ AXCR 2025 รถหมายเลข 112 และ 105 เลือกใช้เกียร์ซีเควนเชียล 6 สปีดจาก SADEV ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในวงการมอเตอร์สปอร์ตถึงความแข็งแกร่ง ความแม่นยำ และความรวดเร็วในการเปลี่ยนเกียร์ การเลือกใช้เกียร์ประเภทนี้ช่วยให้นักขับสามารถเข้าเกียร์ได้อย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง โดยไม่ต้องพะวงกับการเหยียบคลัตช์มากนัก ทำให้สามารถโฟกัสกับการควบคุมรถบนเส้นทางที่ท้าทายได้อย่างเต็มที่

ในขณะที่เกียร์ซีเควนเชียลมอบความได้เปรียบด้านความเร็ว รถแข่งหมายเลข 118 เลือกใช้เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ Super Select 4WD-II ซึ่งเป็นทางเลือกที่น่าสนใจและสะท้อนถึงการปรับตัวให้เข้ากับสไตล์การขับขี่ที่แตกต่างกันของนักขับ การใช้เกียร์อัตโนมัติอาจช่วยลดภาระของนักขับในสภาพเส้นทางที่ต้องเปลี่ยนเกียร์บ่อยครั้ง หรือในสถานการณ์ที่ต้องการความนุ่มนวลในการส่งกำลังเพื่อรักษาสมดุลของรถ การที่ Mitsubishi เลือกใช้เกียร์สองประเภทนี้ แสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่นและความเข้าใจในความต้องการของนักขับแต่ละคน ซึ่งเป็นการวางกลยุทธ์ที่ลึกซึ้ง

นอกจากนี้ การใช้ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ Full-Time ในรถสองคันแรก และ Super Select 4WD-II ในคันที่สาม ก็เป็นการออกแบบมาเพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในทุกสถานการณ์ ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อเหล่านี้ได้รับการปรับแต่งมาอย่างดี เพื่อให้การกระจายกำลังไปยังล้อทั้งสี่เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่บนพื้นผิวแห้ง พื้นผิวเปียก หรือพื้นผิวที่ลื่น การใช้น้ำมันเกียร์ Moty’s ซึ่งเป็นน้ำมันเกียร์สำหรับการแข่งขันโดยเฉพาะ ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและยืดอายุการใช้งานของระบบส่งกำลังภายใต้สภาวะการทำงานที่หนักหน่วงอีกด้วย

เฟืองท้าย LSD (Limited Slip Differential) จาก CUSCO ที่ติดตั้งอยู่ในรถแข่ง 2 รุ่นแรก เป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีสำคัญที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการยึดเกาะ การกระจายกำลังไปยังล้อที่มีแรงเสียดทานมากที่สุด ช่วยให้รถสามารถตะกุยออกจากหล่มโคลน หรือเข้าโค้งด้วยความเร็วสูงได้อย่างมั่นคง นี่คือรายละเอียดทางเทคนิคที่ผู้เชี่ยวชาญอย่างผมมองข้ามไม่ได้ เพราะมันคือปัจจัยเล็กๆ ที่สร้างความแตกต่างอย่างมหาศาลในสนามแข่งขันจริง

พิชิตทุกเส้นทาง: ระบบช่วงล่างและระบบเบรก

หากเครื่องยนต์คือหัวใจ ระบบช่วงล่างก็คือกระดูกสันหลังที่ทำให้รถแข่งสามารถรับมือกับแรงกระแทกและรักษาสมดุลบนเส้นทางออฟโรดได้อย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับ Mitsubishi Triton Rally Car 2025 ระบบช่วงล่างได้รับการออกแบบและปรับแต่งใหม่ทั้งหมด:
ด้านหน้า: เป็นแบบปีกนกสองชั้น (Double Wishbone) พร้อมคอยล์สปริง การออกแบบนี้ให้ความยืดหยุ่นสูงในการตอบสนองต่อสภาพพื้นผิว ให้ระยะยุบตัวของล้อที่กว้าง และยังคงรักษาการสัมผัสของยางกับพื้นได้ดีเยี่ยม ช่วยให้การควบคุมพวงมาลัยมีความแม่นยำแม้ในความเร็วสูงบนทางขรุขระ
ด้านหลัง: เป็นแบบคอยล์สปริง Rigid 4-link ระบบนี้ให้ความมั่นคงและการยึดเกาะที่ดีกว่าระบบแหนบแบบเดิมอย่างเห็นได้ชัด การเคลื่อนที่ของเพลาล้อหลังเป็นอิสระมากขึ้น ทำให้การส่งกำลังลงสู่พื้นมีประสิทธิภาพและควบคุมได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์ที่รถต้องตะลุยผ่านอุปสรรคที่มีความสูงไม่เท่ากัน

จุดยึดต่างๆ ของช่วงล่างถูกเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด เพื่อรองรับการทำงานที่หนักหน่วงและการเปลี่ยนแปลงของน้ำหนักรถอย่างรวดเร็ว นี่คือสิ่งที่สะท้อนถึงการออกแบบทางวิศวกรรมที่คำนึงถึง “ความทนทาน” เป็นหลัก ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการแข่งขันแรลลี่ข้ามประเทศ

สำหรับระบบเบรก การควบคุมความเร็วและหยุดรถได้อย่างแม่นยำคือสิ่งสำคัญที่ไม่อาจละเลยได้ Mitsubishi Triton Rally Car ใช้จานเบรกแบบดิสก์ระบายความร้อน พร้อมคาลิปเปอร์แบบชั้นเดียวจาก ENDLESS ซึ่งเป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงในวงการมอเตอร์สปอร์ต การเลือกใช้คาลิปเปอร์แบบชั้นเดียวอาจดูขัดกับความเชื่อที่ว่า “ยิ่งใหญ่ยิ่งดี” แต่สำหรับแรลลี่ การลดน้ำหนักที่ไม่จำเป็นและยังคงประสิทธิภาพการเบรกที่ดีเยี่ยม ถือเป็นสิ่งสำคัญ น้ำมันเบรกสำหรับการแข่งขันจาก FORTEC ถูกเลือกใช้เพื่อรับมือกับอุณหภูมิที่สูงจัดจากการใช้งานอย่างต่อเนื่อง ป้องกันอาการเบรกเฟด (brake fade) ที่อาจเกิดขึ้นได้

ล้อขนาด 17 นิ้วจาก WORK ผสมผสานความแข็งแรงและน้ำหนักเบาเข้าด้วยกัน สวมทับด้วยยาง YOKOHAMA GEOLANDAR M/T G003 ขนาด 245/75 R17 ซึ่งเป็นยาง Mud-Terrain ที่ออกแบบมาเพื่อการยึดเกาะบนสภาพพื้นผิวที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นโคลน ทราย หรือหิน ดอกยางที่ดุดันและโครงสร้างแก้มยางที่แข็งแรง ช่วยให้รถสามารถตะลุยผ่านอุปสรรคได้อย่างมั่นใจ นี่คือชุดเบรกและล้อ/ยางที่ทำงานร่วมกันอย่างสมบูรณ์แบบ เพื่อให้รถมีการควบคุมที่เหนือกว่าและปลอดภัยในทุกสถานการณ์

ลดน้ำหนัก เพิ่มความคล่องตัว: โครงสร้างและวัสดุตัวถัง

เพื่อเพิ่มความคล่องตัวและลดน้ำหนักโดยรวมของรถ Mitsubishi Triton Rally Car ได้นำวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์มาใช้ในหลายจุดสำคัญของตัวถัง อาทิ ฝากระโปรงหน้า ซุ้มล้อหน้า แผงข้างประตู และกระบะท้าย การเลือกใช้วัสดุน้ำหนักเบาแต่แข็งแรงสูงเช่นคาร์บอนไฟเบอร์ ไม่เพียงแต่ช่วยให้รถมีน้ำหนักเบาลงอย่างเห็นได้ชัด แต่ยังช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งของโครงสร้างในจุดที่สำคัญ ทำให้รถมีเสถียรภาพในการขับขี่ที่ความเร็วสูง และทนทานต่อแรงกระแทกจากการกระโดดหรือลงหลุมบ่อ

นอกจากนี้ การลดน้ำหนักยังส่งผลดีต่ออัตราส่วนกำลังต่อน้ำหนัก ทำให้รถมีการตอบสนองที่ดีขึ้นในการเร่งความเร็วและเลี้ยวหักศอก ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งในการแข่งขันแรลลี่ที่ต้องเผชิญกับเส้นทางที่คดเคี้ยวและคับแคบ การออกแบบตัวถังยังต้องคำนึงถึงหลักอากาศพลศาสตร์ เพื่อให้รถมีความมั่นคงในการขับขี่ที่ความเร็วสูง และป้องกันไม่ให้เกิดอาการท้ายปัดหรือหน้าลอยเมื่อเจอเนินหรือลมปะทะ นี่คือการออกแบบที่ผสานทั้งศาสตร์และศิลป์เข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว

แน่นอนว่าภายในตัวรถยังมีการติดตั้งโครงสร้างนิรภัย (Roll Cage) ที่ได้มาตรฐานสากล เพื่อปกป้องนักขับและผู้นำทางในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ โครงสร้างเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงอุปกรณ์เสริมด้านความปลอดภัยเท่านั้น แต่ยังช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งโดยรวมของตัวถัง ทำให้รถมีความบิดตัวน้อยลง และส่งผลดีต่อการทำงานของช่วงล่างอีกด้วย

สมรภูมิ AXCR 2025: บททดสอบที่แท้จริง

Asia Cross Country Rally 2025 ไม่ได้เป็นเพียงการแข่งขันเพื่อชิงชัยในแต่ละวัน แต่มันคือการเดินทางอันยาวนานที่ท้าทายทั้งกายและใจของนักแข่งและทีมงาน การแข่งขันจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 8-16 สิงหาคม โดยเริ่มต้นจากเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี ก่อนที่จะมุ่งหน้าสู่ภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย และวกกลับมาสิ้นสุดที่พัทยาอีกครั้ง

ตลอดระยะเวลา 6 วันของการแข่งขัน ผู้เข้าแข่งขันจะต้องพิชิตเส้นทางกว่า 8 ช่วงพิเศษ (SS: Special Stage) รวมระยะทางทั้งหมดกว่า 3,200 กิโลเมตร เส้นทางเหล่านี้จะพาพวกเขาผ่านสภาพภูมิประเทศที่หลากหลายและสุดขีด ไม่ว่าจะเป็นป่าทึบ หนองน้ำท่วมขัง ทุ่งนาโคลน ไร่ยางพาราที่เต็มไปด้วยหลุมบ่อ ทางลูกรังที่เต็มไปด้วยฝุ่น ทางหินที่ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ และทางที่ต้องลุยข้ามลำน้ำ แต่ละวันคือบททดสอบที่แตกต่างกัน นักแข่งต้องปรับตัวและใช้ทักษะการขับขี่ที่หลากหลาย เพื่อนำพา Mitsubishi Triton Rally Car ไปสู่จุดหมาย

การแข่งขัน AXCR ไม่ใช่แค่เรื่องของความเร็ว แต่ยังเป็นเรื่องของกลยุทธ์ การวางแผนการขับขี่ การบำรุงรักษารถระหว่างเส้นทาง และความสามารถในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าของทีมงานสนับสนุน การที่ Mitsubishi Motors เลือกที่จะนำ Triton ลงสนามในรายการที่ท้าทายเช่นนี้ แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์ของตน และความมุ่งมั่นที่จะใช้สนามแข่งเป็นห้องทดลองขนาดใหญ่ เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีและนำนวัตกรรมเหล่านั้นกลับมาสู่รถยนต์ที่ผลิตเพื่อผู้บริโภคทั่วไป

Mitsubishi ในปี 2025: ผู้นำที่ยึดมั่นในตำนาน

ในยุคที่ตลาดรถยนต์มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเทรนด์ยานยนต์ไฟฟ้าและความยั่งยืน แต่รถกระบะดีเซลสมรรถนะสูงยังคงเป็นหัวใจสำคัญในหลายภูมิภาคทั่วโลก การเข้าร่วม AXCR 2025 ด้วย Mitsubishi Triton Rally Car จึงเป็นการประกาศจุดยืนของ Mitsubishi ในปี 2025 ว่าพวกเขายังคงเป็นผู้นำด้านรถกระบะที่เน้นความทนทาน สมรรถนะ และความสามารถในการเผชิญกับทุกความท้าทาย

นี่ไม่ใช่แค่การแข่งขันเพื่อชัยชนะ แต่คือการสืบทอดตำนานความยิ่งใหญ่ของ Mitsubishi ในวงการมอเตอร์สปอร์ต ตั้งแต่ยุครุ่งเรืองของแรลลี่ดากา (Dakar Rally) ไปจนถึงการแข่งขัน World Rally Championship (WRC) ทุกชัยชนะและทุกประสบการณ์ที่ได้รับจากการแข่งขัน ได้หล่อหลอมดีเอ็นเอของ Mitsubishi ให้แข็งแกร่งขึ้น และถูกถ่ายทอดลงมาในรถยนต์ทุกคันที่ออกจากสายพานการผลิต ทำให้ผู้บริโภคมั่นใจได้ว่าเมื่อเลือก Mitsubishi พวกเขาได้เลือกยานยนต์ที่ผ่านการพิสูจน์แล้วบนสนามแข่งที่โหดหินที่สุด

บทสรุปและบทเชิญชวน

Mitsubishi Triton Rally Car 2025 ไม่ใช่แค่รถกระบะที่ถูกดัดแปลงเพื่อการแข่งขัน แต่มันคือสัญลักษณ์ของวิศวกรรมที่ก้าวหน้า จิตวิญญาณแห่งนักสู้ และความมุ่งมั่นที่จะไม่หยุดยั้งในการพัฒนา สมรรถนะที่ยอดเยี่ยม ความทนทานที่ไร้เทียมทาน และการออกแบบที่ชาญฉลาด ทำให้ Triton คันนี้พร้อมแล้วที่จะสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ในสมรภูมิ AXCR 2025 และประกาศศักดาในฐานะ “หัวแถว” แห่งการผจญภัยออฟโรด

เราขอเชิญชวนทุกท่านร่วมเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญนี้ ร่วมติดตามและให้กำลังใจทีม Mitsubishi Motors และ Mitsubishi Triton Rally Car ทั้งสามคัน ในการแข่งขัน Asia Cross Country Rally 2025 ท่านสามารถติดตามข่าวสาร ความคืบหน้า และความตื่นเต้นตลอดการแข่งขันผ่านช่องทางสื่อสารของ Mitsubishi Motors Thailand เพื่อสัมผัสประสบการณ์มอเตอร์สปอร์ตระดับโลกอย่างใกล้ชิด และร่วมเป็นประจักษ์พยานว่าทำไม Mitsubishi Triton จึงยังคงเป็นที่สุดแห่งความแกร่งและสมรรถนะในทุกเส้นทาง แล้วคุณจะรู้ว่ารถกระบะที่แท้จริง ควรเป็นอย่างไร!