[ครบชุด] 2211013 ให้พี่กราบเท้าตัวเอง กิตติ์ จำโบ้ซีรี่ย์

ZEEKR 7X: นิยามใหม่ของ SUV ไฟฟ้าสายลุยแห่งปี 2025

ในฐานะที่คลุกคลีอยู่ในวงการยานยนต์ไฟฟ้ามากว่าทศวรรษ ผมได้เห็นวิวัฒนาการอันน่าทึ่งของอุตสาหกรรมนี้มาโดยตลอด ตั้งแต่ยุคบุกเบิกจนถึงปัจจุบันที่เทคโนโลยีแบตเตอรี่และระบบขับเคลื่อนก้าวล้ำไปไกลอย่างก้าวกระโดด และในปี 2025 นี้เอง สิ่งที่ผมตื่นเต้นเป็นพิเศษคือการมาถึงของ ZEEKR 7X รถยนต์ SUV ไฟฟ้า 5 ที่นั่ง ที่ไม่ได้เป็นเพียงยานยนต์ไฟฟ้าทั่วไป แต่เป็นรถที่พลิกมุมมองและสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับตลาดรถยนต์อเนกประสงค์ในประเทศไทยอย่างแท้จริง ด้วยการผสมผสานระหว่างความหรูหรา สมรรถนะอันทรงพลัง และขีดความสามารถในการบุกตะลุยแบบออฟโรดที่เหนือความคาดหมาย ZEEKR 7X พร้อมแล้วที่จะเข้ามาเขย่าบัลลังก์ในกลุ่มตลาดรถยนต์ไฟฟ้า SUV พรีเมียม และนี่คือบทวิเคราะห์เจาะลึกจากประสบการณ์ตรงของผม

การมาถึงที่สร้างความตื่นเต้นในตลาด EV ไทยปี 2025

ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยกำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดด ผู้บริโภคมีความต้องการที่ซับซ้อนและหลากหลายมากขึ้น ไม่ใช่แค่รถยนต์ไฟฟ้าที่ประหยัดพลังงาน แต่ยังมองหานวัตกรรม ประสิทธิภาพ และประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือกว่า ZEEKR 7X ถือเป็นหนึ่งในไฮไลท์สำคัญของปี 2025 ที่หลายคนจับตามอง ด้วยการเปิดตัวอย่างเป็นทางการและประกาศราคาในประเทศไทยในวันที่ 15 สิงหาคม 2025 นี้ ซึ่งจะเป็นการนำเข้าแบบ CBU จากจีน เบื้องต้นคาดการณ์ราคาสำหรับรุ่น Long Range RWD จะอยู่ที่ประมาณ 1,700,000 บาท และรุ่น Performance AWD จะไม่เกิน 1,900,000 บาท ซึ่งถือเป็นราคาที่น่าสนใจอย่างยิ่งเมื่อเทียบกับสิ่งที่ได้รับ ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีที่อัดแน่น ประสิทธิภาพการขับขี่ หรือความสามารถรอบด้านที่หาได้ยากในรถยนต์ไฟฟ้า SUV ปัจจุบัน

มิติใหม่แห่งการออกแบบที่ผสานความหรูหราและความแข็งแกร่ง

ZEEKR 7X ได้รับการออกแบบที่สะท้อนถึงวิสัยทัศน์แห่งอนาคต ด้วยเส้นสายที่โฉบเฉี่ยว ทันสมัย แต่ยังคงไว้ซึ่งความบึกบึนของรถ SUV ไฟฟ้า โดดเด่นด้วยไฟหน้าแบบ Stargate Front Light Panel ที่ไม่เพียงแต่เป็นเอกลักษณ์ แต่ยังสามารถเปลี่ยนกราฟิกได้หลากหลายรูปแบบ สร้างมิติใหม่ให้กับรูปลักษณ์ภายนอก ตัวรถมีความยาว 4,787 มิลลิเมตร กว้าง 1,930 มิลลิเมตร และสูง 1,650 มิลลิเมตร ให้มิติที่ลงตัวสำหรับรถ SUV ขนาดกลางถึงใหญ่ ระยะฐานล้อ 2,900 มิลลิเมตร ช่วยให้การควบคุมมั่นคงและมอบพื้นที่ภายในห้องโดยสารที่กว้างขวาง ระยะต่ำสุดถึงพื้น (Ground Clearance) 173 มิลลิเมตร ซึ่งถือว่าเพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป แต่ที่น่าสนใจคือความสามารถในการปรับเพิ่มขึ้นได้เมื่อเข้าสู่โหมดออฟโรด นอกจากนี้ พื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายขนาด 539 ลิตร และสามารถขยายได้ถึง 1,978 ลิตรเมื่อพับเบาะหลัง พร้อมด้วย Frunk ด้านหน้าขนาด 66 ลิตร แสดงให้เห็นถึงการออกแบบที่คำนึงถึงการใช้งานจริงในทุกมิติ ตอบโจทย์การเดินทางทั้งในเมืองและนอกสถานที่ได้อย่างลงตัว ทำให้ ZEEKR 7X เป็น SUV ไฟฟ้าที่ดูหรูหราและมีสไตล์อย่างไม่เหมือนใคร

ขุมพลังไฟฟ้า 800V: สมรรถนะที่ไม่ประนีประนอม

หัวใจสำคัญที่ทำให้ ZEEKR 7X แตกต่างคือการใช้สถาปัตยกรรมไฟฟ้าแรงสูง 800V ซึ่งเป็นเทคโนโลยีระดับสูงที่พบในรถยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะสูงเท่านั้น สถาปัตยกรรมนี้ไม่เพียงช่วยให้การชาร์จไฟรวดเร็วขึ้นอย่างก้าวกระโดด แต่ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการส่งกำลัง ลดการสูญเสียพลังงาน และลดความร้อนของระบบ ทำให้การขับขี่เต็มไปด้วยพลังและความเสถียร

รุ่น Long Range RWD: มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว ขับเคลื่อนล้อหลัง มอบพละกำลังสูงสุด 422 แรงม้า (PS) และแรงบิดสูงสุด 440 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ Lithium-ion (NMC) ขนาดความจุ 100 kWh ให้ระยะทางวิ่งมากกว่า 700 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 6.0 วินาที และความเร็วสูงสุด 210 กม./ชม. เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความคล่องตัว ระยะทางขับขี่ที่ยาวนาน และประสิทธิภาพที่เพียงพอต่อการใช้งานในชีวิตประจำวันอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง
รุ่น Performance AWD: ยกระดับประสบการณ์การขับขี่ไปอีกขั้นด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าสองตัว ขับเคลื่อนสี่ล้อ (All-Wheel Drive) ปลดปล่อยพละกำลังสูงสุดถึง 646 แรงม้า (PS) และแรงบิดสูงสุด 710 นิวตันเมตร ใช้แบตเตอรี่ขนาด 100 kWh เช่นกัน ให้ระยะทางวิ่งมากกว่า 600 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC และที่น่าทึ่งคืออัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ที่ทำได้เพียง 3.8 วินาที ซึ่งเป็นตัวเลขที่เทียบเท่ากับซูเปอร์คาร์หลายรุ่น ความเร็วสูงสุดยังคงอยู่ที่ 210 กม./ชม. รุ่นนี้ตอบโจทย์ผู้ที่หลงใหลในสมรรถนะดิบๆ และความมั่นใจในการขับขี่บนทุกสภาพถนน ด้วยแรงบิดมหาศาลที่พร้อมให้คุณพุ่งทะยานไปข้างหน้าในทุกจังหวะ

ทั้งสองรุ่นรองรับหัวชาร์จ Type 2 / CCS Combo โดยสามารถชาร์จกระแสสลับ AC ได้สูงสุด 22 kW และกระแสตรง DC Fast Charging สูงสุดถึง 420 kW ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวเลขที่สูงที่สุดในตลาด ณ ปี 2025 นี้ การชาร์จ DC จาก 10-80% สามารถทำได้ภายในเวลาเพียง 13-16 นาที ด้วยเครื่องชาร์จ 360 kW ซึ่งช่วยลดความกังวลเรื่องระยะเวลาการชาร์จได้อย่างสิ้นเชิง ทำให้การเดินทางไกลด้วย ZEEKR 7X กลายเป็นเรื่องง่ายดาย และยังมาพร้อมระบบจ่ายกระแสไฟฟ้าให้อุปกรณ์ภายนอก V2L สูงสุด 3.3 kW (3,300 วัตต์) เพิ่มความอเนกประสงค์ในการใช้งานได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นการแคมป์ปิ้งหรือการใช้งานอุปกรณ์ไฟฟ้าฉุกเฉิน

ช่วงล่างและระบบเบรก: ความสมดุลระหว่างความนุ่มนวลและประสิทธิภาพ

ZEEKR 7X มาพร้อมระบบช่วงล่างอิสระที่ล้ำสมัย ด้านหน้าแบบ Double Wishbone และด้านหลังแบบ Multi-Link ซึ่งเป็นพื้นฐานที่ยอดเยี่ยมสำหรับการขับขี่ทั้งบนทางเรียบและทางขรุขระ ในรุ่น Long Range RWD มาพร้อมล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้วพร้อมยาง 255/50 R19 ที่ให้ความนุ่มนวลในการขับขี่ ส่วนในรุ่น Performance AWD หรือรุ่นย่อยที่สูงกว่า จะได้รับการอัปเกรดเป็นล้อ Forged ขนาด 21 นิ้ว พร้อมยาง 265/40 R21 และระบบเบรกดิสก์ 4-pot พร้อมคาลิปเปอร์เบรก Akebono สีส้มอันโดดเด่น ซึ่งไม่เพียงแต่เพิ่มประสิทธิภาพในการหยุดรถได้อย่างมั่นใจ แต่ยังเสริมให้รูปลักษณ์ภายนอกดูดุดันและสปอร์ตยิ่งขึ้น

แต่ไฮไลท์สำคัญที่ผมต้องเน้นย้ำคือช่วงล่างแบบถุงลม Active Air Suspension with CCD ที่มีให้ใน ZEEKR 7X (โดยเฉพาะในรุ่น Performance หรือรุ่นย่อยที่สูงกว่า) เทคโนโลยีนี้ช่วยให้รถสามารถปรับความสูงและลดแรงสั่นสะเทือนได้อย่างอิสระ ทำให้การขับขี่นุ่มนวลและสะดวกสบายในทุกสภาพถนน และที่สำคัญที่สุดคือความสามารถในการปรับความสูงของตัวรถเพื่อรองรับการขับขี่แบบออฟโรด

พลิกโฉม SUV ไฟฟ้าสายลุย: ประสบการณ์ออฟโรดที่ไม่คาดฝัน

ก่อนการทดสอบ ZEEKR 7X บนเส้นทางออฟโรดที่เขาใหญ่ ผมยอมรับว่ามีความกังวลเล็กน้อยเกี่ยวกับขีดความสามารถของรถยนต์ไฟฟ้าในการลุย เนื่องจากข้อจำกัดด้านน้ำหนักแบตเตอรี่และระบบส่งกำลังที่มักไม่ได้รับการออกแบบมาเพื่อการใช้งานสมบุกสมบันเช่นนี้ แต่ ZEEKR 7X ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่ารถยนต์ไฟฟ้าสามารถไปได้ไกลกว่าที่เราคิด

เมื่อปรับเข้าสู่โหมดออฟโรด ช่วงล่างถุงลมจะทำงานโดยอัตโนมัติเพื่อยกระดับความสูงของรถเพิ่มขึ้นเป็น 230 มิลลิเมตร ซึ่งช่วยเพิ่มระยะห่างจากพื้นอย่างมีนัยสำคัญ ทำให้การผ่านอุปสรรคต่างๆ เป็นไปได้อย่างง่ายดาย ในสถานีทดสอบเนินสลับ ZEEKR 7X สามารถถ่ายเทกำลังไปยังล้อที่ยังคงยึดเกาะพื้นได้อย่างชาญฉลาด ทำให้รถเคลื่อนตัวไปข้างหน้าได้อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าล้อบางล้อจะลอยจากพื้นก็ตาม สิ่งที่น่าประทับใจยิ่งกว่าคือการให้ตัวของช่วงล่างที่ยอดเยี่ยม ตัวรถโคลงเคลงน้อยมาก แสดงให้เห็นถึงการออกแบบที่คำนึงถึงการควบคุมและการทรงตัวอย่างจริงจัง

ในการขับขึ้นเนินชัน ZEEKR 7X ใช้พละกำลังมหาศาลของมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะออกตัวจากจุดหยุดนิ่งกลางเนินหรือขึ้นเนินอย่างต่อเนื่อง รถก็จัดการพลังงานได้อย่างราบรื่น ล้อไม่ฟรีทิ้ง แสดงให้เห็นถึงการควบคุมแรงบิดที่แม่นยำ ส่วนในการลงเนินสูง ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชันอัตโนมัติ (HDC) ทำงานได้อย่างไร้ที่ติ ให้ความรู้สึกมั่นใจและราบรื่นราวกับรถยุโรปชั้นนำ ทำให้ผู้ขับขี่สามารถลงเนินได้อย่างสบายใจโดยไม่ต้องกังวลเรื่องการควบคุมความเร็ว

การวิ่งผ่านเส้นทางขรุขระด้วยช่วงล่างถุงลมให้ความนุ่มนวลอย่างไม่น่าเชื่อ แต่สิ่งที่ผมประทับใจที่สุดคือพวงมาลัยที่ยังคงนิ่งสนิท ไม่มีอาการสั่นสะเทือนหรือตีมือแต่อย่างใด ซึ่งเป็นสิ่งที่หาได้ยากในรถยนต์ที่ผ่านสภาพถนนแบบออฟโรดหนักๆ นี่คือข้อพิสูจน์ว่า ZEEKR 7X ไม่ได้เป็นเพียงรถไฟฟ้าที่แรงและหรูหรา แต่ยังเป็น SUV ไฟฟ้าที่พร้อมลุยได้อย่างแท้จริง ทำให้มันโดดเด่นจากคู่แข่งในตลาดปี 2025 นี้

ประสบการณ์การขับขี่บนทางเรียบ: นุ่มนวล ทรงพลัง และมั่นคง

เมื่อกลับมาสู่ทางเรียบ ZEEKR 7X ยังคงสร้างความประทับใจอย่างต่อเนื่อง ในรุ่น Performance แรงดึงมหาศาลจากการออกตัวและอัตราเร่งแซงเป็นสิ่งที่สัมผัสได้ทันที พร้อมกับความนุ่มนวลที่ช่วยให้การขับขี่ทางไกลไม่เหนื่อยล้า รุ่น Long Range เองก็ไม่น้อยหน้า ด้วยพละกำลังที่เพียงพอต่อการใช้งานทุกรูปแบบ ช่วงล่างในรุ่น Long Range ก็ให้ความนุ่มนวลในระดับที่น่าพอใจ แม้จะรู้สึกแข็งกว่ารุ่น Performance เพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่ก็ยังคงมอบประสบการณ์การขับขี่ที่มั่นคงและสะดวกสบาย นี่คือรถยนต์ที่ตอบโจทย์ทั้งผู้ที่ต้องการความตื่นเต้นและผู้ที่มองหาความสงบในการเดินทาง

ห้องโดยสารพรีเมียม: นวัตกรรมและสัมผัสแห่งความหรูหรา

ZEEKR 7X ไม่ได้เป็นเพียงพาหนะ แต่คือพื้นที่แห่งการผ่อนคลายขั้นสูงที่ออกแบบมาเพื่อมอบประสบการณ์เหนือระดับในทุกการเดินทาง ภายในห้องโดยสารคือการผสมผสานระหว่างนวัตกรรมและสัมผัสแห่งความหรูหราที่ผู้เชี่ยวชาญอย่างผมยังต้องยอมรับ

เบาะนั่ง: หุ้มด้วยหนัง Nappa คุณภาพสูง ที่โดดเด่นด้านความนุ่มนวลและสัมผัสที่หรูหรา ไม่เพียงให้ความสบายในการนั่ง แต่ยังสะท้อนรสนิยมระดับสูงของผู้ครอบครอง ระบบนวดและเป่าลมในเบาะคู่หน้าคือสิ่งที่ช่วยคลายความเมื่อยล้าจากการเดินทางไกลหรือวันที่หนักหน่วง เปลี่ยนการขับรถให้เป็นช่วงเวลาแห่งการฟื้นฟูพลังงาน เบาะหลังที่ปรับเอนด้วยระบบไฟฟ้าช่วยให้ผู้โดยสารสามารถปรับองศาการนั่งได้อย่างอิสระ ไม่ว่าจะทำงาน พักผ่อน หรือชมภาพยนตร์ เปลี่ยนห้องโดยสารหลังให้เป็นห้องนั่งเล่นส่วนตัวที่สมบูรณ์แบบ สะท้อนให้เห็นถึงความใส่ใจในรายละเอียดทุกมิติเพื่อความสะดวกสบายของผู้โดยสาร
ระบบสารสนเทศและบันเทิง: นำเสนอด้วยหน้าจอกลาง Mini LED ขนาด 16 นิ้ว ความละเอียด 3.5K ที่ให้ภาพคมชัดและมีชีวิตชีวา ไม่ว่าจะดูแผนที่ ชมสื่อบันเทิง หรือใช้งานแอปพลิเคชันต่างๆ หน้าจอ AR HUD (Augmented Reality Head-Up Display) ขนาด 36.21 นิ้ว ฉายข้อมูลสำคัญขึ้นบนกระจกหน้ารถโดยตรง ทำให้ผู้ขับขี่สามารถติดตามข้อมูลโดยไม่ต้องละสายตาจากถนน เพิ่มความปลอดภัยและความสะดวกสบาย หน้าจอ Cluster ขนาด 13.02 นิ้ว แสดงข้อมูลการขับขี่ทั้งหมดในรูปแบบที่สวยงามและเข้าใจง่าย การทำงานของหน้าจอทั้งหมดนี้ขับเคลื่อนด้วยชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 8295 Processor เทคโนโลยี 5nm ที่ให้การประมวลผลรวดเร็วและราบรื่น ตอบสนองทุกคำสั่งได้อย่างทันทีทันใด
ระบบเสียง: ZEEKR Sound Pro พร้อมลำโพงคุณภาพระดับสตูดิโอ 21 จุดรอบคัน สร้างมิติเสียงรอบทิศทางเสมือนโรงภาพยนตร์เคลื่อนที่ มอบประสบการณ์สุนทรียภาพแห่งเสียงที่ดื่มด่ำ ทำให้การเดินทางไม่น่าเบื่ออีกต่อไป
ความสะดวกสบายเพิ่มเติม: ประตูทั้ง 4 บานเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า และม่านบังแดดประตูคู่หลังก็เป็นระบบไฟฟ้าเช่นกัน ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่เพิ่มความหรูหราและความสะดวกสบายให้กับผู้โดยสารได้อย่างแท้จริง

ความปลอดภัยระดับสูงสุด: มั่นใจในทุกการเดินทาง

ZEEKR 7X สร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม SEA (Sustainable Experience Architecture) ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมยานยนต์ไฟฟ้าที่ออกแบบมาเพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพสูงสุด แพลตฟอร์มนี้เป็นรากฐานสำคัญที่ทำให้ ZEEKR 7X ได้รับการรับรองมาตรฐาน Euro NCAP 5 ดาว ด้วยคะแนน 91% สำหรับการปกป้องผู้โดยสารผู้ใหญ่ และ 90% สำหรับการปกป้องผู้โดยสารเด็ก ซึ่งเป็นข้อพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นของ ZEEKR ในด้านความปลอดภัยสำหรับทุกคนในครอบครัว

นอกจากนี้ ZEEKR 7X ยังมาพร้อมระบบช่วยขับขี่ ZEEKR AD ที่ทำงานร่วมกับ Dual Mobileye Chips ซึ่งเป็นเทคโนโลยีชั้นนำที่เพิ่มความแม่นยำและปลอดภัยในการขับขี่ ระบบนี้ช่วยลดภาระของผู้ขับขี่และเพิ่มความอุ่นใจบนท้องถนน โครงสร้างตัวรถแบบ Dome-Shaped และโครงสร้างตัวถังด้านหลังแบบ Single Piece Die-Cast ชิ้นเดียวไร้รอยต่อ ไม่เพียงแต่เพิ่มความแข็งแกร่งและความปลอดภัยในกรณีเกิดการชน แต่ยังช่วยลดน้ำหนักของตัวรถ ทำให้ประสิทธิภาพการใช้พลังงานดียิ่งขึ้นไปอีกขั้น ZEEKR 7X จึงเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของผู้โดยสารเป็นอันดับแรกในทุกองค์ประกอบของการออกแบบ

การรับประกันและบริการหลังการขาย: ความอุ่นใจสำหรับผู้ครอบครอง

ZEEKR ประเทศไทย เข้าใจถึงความสำคัญของบริการหลังการขาย จึงมอบแพ็คเกจการรับประกันที่น่าประทับใจเพื่อความอุ่นใจของผู้ใช้งานในระยะยาว ได้แก่:
รับประกันคุณภาพตัวรถ (Warranty) นาน 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร
รับประกันแบตเตอรี่และมอเตอร์ นาน 8 ปี หรือ 180,000 กิโลเมตร
บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน นาน 8 ปี หรือ 180,000 กิโลเมตร

แพ็คเกจการรับประกันนี้สะท้อนความเชื่อมั่นในคุณภาพและเทคโนโลยีของ ZEEKR 7X พร้อมมอบความอุ่นใจให้กับเจ้าของรถตลอดระยะเวลาการใช้งาน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจเลือกซื้อรถยนต์ไฟฟ้าในตลาดปี 2025 ที่มีการแข่งขันสูง

สรุป: ZEEKR 7X – SUV ไฟฟ้าที่ครบเครื่องและเหนือความคาดหมาย

จากมุมมองของผู้เชี่ยวชาญที่ติดตามตลาด EV มาอย่างใกล้ชิด ผมกล้าพูดได้เลยว่า ZEEKR 7X เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่น่าสนใจอย่างยิ่งสำหรับปี 2025 มันเป็นรถที่เข้ามาเติมเต็มช่องว่างในตลาดที่แทบจะไม่มีรถยนต์ไฟฟ้า SUV ที่ให้ความแรง พร้อมทั้งขีดความสามารถในการขับขี่แบบออฟโรดที่แท้จริง ZEEKR 7X ไม่ได้เป็นเพียงรถยนต์ที่อัดแน่นด้วยออปชั่นระดับพรีเมียมเท่านั้น แต่ยังนำเสนอประสบการณ์การขับขี่ที่ผสมผสานความหรูหรา สมรรถนะ และความอเนกประสงค์ได้อย่างลงตัว

หากคุณกำลังมองหา SUV ไฟฟ้าที่ไม่ได้มีดีแค่รูปลักษณ์ แต่ยังมอบสมรรถนะที่ยอดเยี่ยม ความสะดวกสบายระดับเฟิร์สคลาส และความมั่นใจในการลุยได้ในแบบที่ไม่เคยมีในรถ EV มาก่อน ZEEKR 7X คือคำตอบที่ไม่อาจมองข้ามได้ ไม่ว่าคุณจะเน้นการขับขี่แบบ Performance หรือต้องการ Long Range ที่ตอบโจทย์การเดินทางไกล ZEEKR 7X ก็มีทางเลือกที่โดดเด่นและครบครัน พร้อมที่จะเป็นยานยนต์คู่ใจสำหรับชีวิตยุคใหม่ของคุณ

อย่าพลาดโอกาสที่จะสัมผัสประสบการณ์การขับขี่แห่งอนาคตกับ ZEEKR 7X ด้วยตัวคุณเอง เตรียมพบกับการเปิดตัวอย่างเป็นทางการและประกาศราคาในประเทศไทย วันที่ 15 สิงหาคม 2025 นี้ และร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการกำหนดทิศทางใหม่ของวงการยานยนต์ไฟฟ้า มาสัมผัสประสบการณ์ที่เหนือกว่าได้ที่โชว์รูม ZEEKR ใกล้บ้านคุณ แล้วคุณจะเข้าใจว่าทำไม ZEEKR 7X จึงเป็นนิยามใหม่ของ SUV ไฟฟ้าสายลุยแห่งปี 2025 ที่ผมตื่นเต้นเป็นอย่างมาก