[ครบชุด] 2211014 Facebook (19)

ZEEKR 7X: นิยามใหม่ของ SUV ไฟฟ้าหรู พลังลุยเหนือความคาดหมาย ปี 2025

ในโลกของยานยนต์ไฟฟ้าที่ก้าวหน้าอย่างไม่หยุดยั้งในปี 2025 การแข่งขันไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่ระยะทางวิ่งที่ยาวนานหรืออัตราเร่งที่เร้าใจอีกต่อไป ผู้บริโภคยุคใหม่มองหาประสบการณ์ที่เหนือกว่า นั่นคือการผสานรวมระหว่างเทคโนโลยีล้ำสมัย, ความหรูหราสะดวกสบาย และที่สำคัญที่สุดคือความอเนกประสงค์ที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ และท่ามกลางกระแสการเปลี่ยนแปลงนี้ ZEEKR 7X ได้ถือกำเนิดขึ้นมาเพื่อสร้างนิยามใหม่ให้กับตลาด SUV ไฟฟ้า ด้วยการนำเสนอคุณสมบัติที่หาได้ยากยิ่งในรถ EV นั่นคือ “ความสามารถในการบุกตะลุย” บนเส้นทางที่ท้าทาย นี่ไม่ใช่แค่รถยนต์ไฟฟ้าทั่วไป แต่คือผลลัพธ์ของนวัตกรรมที่พร้อมจะพาคุณไปได้ทุกที่ที่คุณต้องการอย่างมีสไตล์และประสิทธิภาพ

ในฐานะผู้ที่คลุกคลีอยู่ในวงการยานยนต์ไฟฟ้ามานานกว่าทศวรรษ ผมกล้าพูดได้เลยว่า ZEEKR 7X ไม่ใช่แค่การเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ แต่คือการประกาศศักดาครั้งสำคัญของ ZEEKR ในการยกระดับมาตรฐานของ SUV ไฟฟ้าให้ไปอีกขั้น มันคือยนตรกรรมที่สมบูรณ์แบบสำหรับผู้ที่ต้องการรถยนต์ไฟฟ้าที่มีทั้งความโดดเด่น, สมรรถนะที่เหลือล้น และความสามารถรอบด้านอย่างแท้จริง การผสมผสานที่ลงตัวระหว่างพละกำลัง ความสง่างาม และความแกร่งกร้าว คือหัวใจสำคัญที่ทำให้ ZEEKR 7X ยืนหนึ่งในตลาด SUV ไฟฟ้าพรีเมียมแห่งปี 2025

ปรัชญาการออกแบบ: ความลงตัวของความหรูหราและพละกำลัง

ZEEKR 7X สะท้อนให้เห็นถึงปรัชญาการออกแบบที่ล้ำสมัยและกล้าหาญ โดดเด่นด้วยรูปลักษณ์ภายนอกที่ผสานความสปอร์ตและความหรูหราไว้อย่างลงตัว ตั้งแต่แรกเห็นคุณจะสัมผัสได้ถึงเส้นสายที่เฉียบคมและโค้งมนอย่างมีศิลปะ ซึ่งถ่ายทอดออกมาเป็นความสง่างามที่เปี่ยมด้วยพละกำลัง กระจังหน้าแบบปิดทึบอันเป็นเอกลักษณ์ของรถยนต์ไฟฟ้าได้รับการออกแบบให้ดูดุดันแต่แฝงไว้ด้วยรสนิยม สะท้อนถึงสมรรถนะอันทรงพลังที่ซ่อนอยู่ภายใน

หัวใจสำคัญที่สร้างความประทับใจตั้งแต่แรกเห็นคือ ระบบไฟหน้า Stargate Front Light Panel ซึ่งไม่เพียงส่องสว่างนำทาง แต่ยังเป็นงานศิลปะดิจิทัลที่สามารถปรับเปลี่ยนกราฟิกได้หลากหลายรูปแบบ สร้างมิติและบุคลิกที่ไม่เหมือนใครให้กับ ZEEKR 7X ในยามค่ำคืน มันคือการแสดงออกถึงตัวตนของผู้ขับขี่ที่รักในเทคโนโลยีและต้องการความแตกต่าง

เมื่อพิจารณามิติตัวถัง ZEEKR 7X มาพร้อมความยาว 4,787 มิลลิเมตร, กว้าง 1,930 มิลลิเมตร และสูง 1,650 มิลลิเมตร พร้อมระยะฐานล้อที่ยาวถึง 2,900 มิลลิเมตร ซึ่งมอบพื้นที่ภายในที่โอ่อ่าและความมั่นคงในการขับขี่ที่ยอดเยี่ยม ระยะต่ำสุดถึงพื้น (Ground Clearance) ที่ 173 มิลลิเมตร เป็นจุดเริ่มต้นที่บ่งบอกถึงความพร้อมสำหรับการผจญภัยในเส้นทางที่ไม่คุ้นเคย ล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้วในรุ่น Long Range RWD และล้อ Forged ขนาด 21 นิ้ว พร้อมยางขนาด 265/40 R21 ในรุ่น Performance AWD ไม่เพียงเสริมความงาม แต่ยังถูกออกแบบมาเพื่อสมรรถนะและสไตล์ที่เข้ากันอย่างลงตัว นอกจากนี้ รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ อย่างประตูทั้ง 4 บานที่เปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า และม่านบังแดดประตูคู่หลังที่ควบคุมด้วยไฟฟ้า ยังตอกย้ำถึงความพรีเมียมและสะดวกสบายที่ ZEEKR มอบให้ในทุกมิติ

ห้องโดยสาร: วิมานแห่งเทคโนโลยีและความสบายระดับเฟิร์สคลาส

ก้าวเข้าสู่ภายในห้องโดยสารของ ZEEKR 7X คุณจะพบกับพื้นที่ที่ได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถันให้เป็นมากกว่าแค่ห้องโดยสาร แต่คือ “วิมานแห่งการผ่อนคลาย” ที่ผสานความหรูหราเข้ากับนวัตกรรมได้อย่างลงตัว วัสดุทุกชิ้นที่เลือกใช้สะท้อนถึงรสนิยมระดับสูง เริ่มตั้งแต่เบาะนั่งหุ้มด้วย หนัง Nappa Leather คุณภาพเยี่ยม ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องความนุ่มนวลและสัมผัสที่หรูหรา ไม่เพียงให้ความสบายในการเดินทางระยะไกล แต่ยังมอบประสบการณ์เหนือระดับในทุกครั้งที่นั่ง โดยเฉพาะเบาะคู่หน้าพร้อมระบบนวดและเป่าลม ที่ช่วยคลายความเมื่อยล้าจากการเดินทาง มอบความสดชื่นราวกับได้รับการปรนนิบัติจากสปาส่วนตัว

สำหรับผู้โดยสารด้านหลัง ZEEKR 7X ไม่ได้ละเลย เบาะหลังสามารถปรับเอนด้วยระบบไฟฟ้าได้อย่างอิสระ ทำให้ผู้โดยสารสามารถเลือกท่านั่งที่เหมาะสม ไม่ว่าจะเอนกายพักผ่อน หรือปรับเป็นมุมส่วนตัวสำหรับการทำงาน ทำให้การเดินทางกลายเป็นประสบการณ์ที่ผ่อนคลายและตอบโจทย์ทุกความต้องการของทุกคนในครอบครัว ด้วยพื้นที่วางขาที่กว้างขวางเป็นพิเศษ ห้องโดยสารด้านหลังจึงเปรียบเสมือนห้องนั่งเล่นส่วนตัวที่สะดวกสบายและหรูหรา

หัวใจสำคัญของประสบการณ์ดิจิทัลภายใน ZEEKR 7X คือ ระบบสารสนเทศและบันเทิงที่ล้ำสมัย เริ่มจาก หน้าจอกลาง Mini LED ขนาด 16 นิ้ว ที่มีความละเอียดสูงถึง 3.5K มอบภาพที่คมชัด รายละเอียดครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นการดูแผนที่นำทาง, รับชมภาพยนตร์, หรือใช้งานแอปพลิเคชันต่างๆ การตอบสนองของหน้าจอเป็นไปอย่างรวดเร็วและราบรื่นราวกับสมาร์ทโฟนระดับพรีเมียม เสริมด้วย หน้าจอ AR HUD (Augmented Reality Head-Up Display) ขนาด 36.21 นิ้ว ที่ฉายข้อมูลสำคัญของการขับขี่ เช่น ความเร็ว, ข้อมูลนำทาง, หรือแจ้งเตือนต่างๆ ขึ้นบนกระจกหน้ารถโดยตรง ทำให้ผู้ขับขี่สามารถรับทราบข้อมูลโดยไม่ต้องละสายตาจากถนน เพิ่มความปลอดภัยและความสะดวกสบายอย่างมหาศาล และ หน้าจอ Cluster ขนาด 13.02 นิ้ว ที่แสดงข้อมูลการขับขี่ที่จำเป็นในรูปแบบที่สวยงามและเข้าใจง่าย

เบื้องหลังการทำงานอันลื่นไหลของระบบดิจิทัลทั้งหมดนี้คือ ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 8295 Processor ที่ใช้เทคโนโลยี 5nm Process Technology ซึ่งเป็นขุมพลังที่เหนือกว่า ทำให้ทุกฟังก์ชันทำงานได้อย่างรวดเร็ว ไร้รอยต่อ และตอบสนองต่อคำสั่งได้อย่างฉับไวไร้ที่ติ ยิ่งไปกว่านั้น ประสบการณ์เสียงที่ดื่มด่ำจาก ระบบเสียง ZEEKR Sound Pro ที่มาพร้อมลำโพงคุณภาพระดับสตูดิโอถึง 21 ตำแหน่งรอบคัน สร้างมิติเสียงรอบทิศทางเสมือนอยู่ในโรงภาพยนตร์เคลื่อนที่ เปลี่ยนทุกการเดินทางให้เป็นการแสดงคอนเสิร์ตส่วนตัว

สำหรับความอเนกประสงค์ด้านการใช้งาน ZEEKR 7X ก็ไม่เป็นรองใคร ด้วยที่เก็บสัมภาระด้านหน้า (Frunk) ขนาด 66 ลิตร และพื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายขนาด 539 ลิตร ซึ่งสามารถขยายได้มากถึง 1,978 ลิตร เมื่อพับเบาะหลังลง ทำให้มีพื้นที่เพียงพอสำหรับการเดินทางท่องเที่ยว หรือการบรรทุกสัมภาระขนาดใหญ่ได้อย่างสบาย ตอบโจทย์ทุกการใช้งานในชีวิตประจำวันและวันหยุดพักผ่อน

ขุมพลังไฟฟ้า: สมรรถนะที่เร้าใจและประสิทธิภาพไร้ขีดจำกัด

ZEEKR 7X คือผลผลิตจากวิศวกรรมยานยนต์ไฟฟ้าขั้นสูง โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมไฟฟ้าแรงดันสูง 800V Technology ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำ มอบข้อได้เปรียบที่สำคัญทั้งในด้านการชาร์จที่รวดเร็วขึ้นและประสิทธิภาพการใช้พลังงานที่ดีเยี่ยม การส่งถ่ายกำลังที่ราบรื่นและลดการสูญเสียพลังงาน ช่วยให้ ZEEKR 7X มีสมรรถนะที่เหนือชั้นกว่ารถยนต์ไฟฟ้าทั่วไปในตลาด

ZEEKR 7X มีให้เลือก 2 รุ่นย่อย เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของผู้ใช้งาน:

รุ่น Long Range RWD:
มอเตอร์ไฟฟ้า: มอเตอร์เดี่ยวขับเคลื่อนล้อหลัง (RWD) มอบพละกำลังสูงสุด 422 แรงม้า (PS) พร้อมแรงบิดสูงสุด 440 นิวตันเมตร
แบตเตอรี่: แบตเตอรี่ Lithium-ion (NMC) ขนาดความจุ 100 kWh
อัตราเร่ง: จาก 0-100 กม./ชม. ภายในเวลาเพียง 6.0 วินาที ซึ่งถือว่าเร็วเกินพอสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันและการเดินทางไกล
ความเร็วสูงสุด: 210 กม./ชม.
ระยะทางวิ่ง: สามารถวิ่งได้ไกลกว่า 700 กม. ต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง (ตามมาตรฐาน NEDC) มอบความอิสระในการเดินทางอย่างไร้กังวล

รุ่น Performance AWD:
มอเตอร์ไฟฟ้า: มอเตอร์คู่ ขับเคลื่อนสี่ล้อ (AWD) มอบพละกำลังมหาศาลสูงสุดถึง 646 แรงม้า (PS) พร้อมแรงบิดสูงสุด 710 นิวตันเมตร
แบตเตอรี่: แบตเตอรี่ Lithium-ion (NMC) ขนาดความจุ 100 kWh เช่นเดียวกับรุ่น RWD
อัตราเร่ง: สร้างความตื่นตะลึงด้วยอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ภายในเวลาเพียง 3.8 วินาที เทียบเท่าซูเปอร์คาร์หลายรุ่น
ความเร็วสูงสุด: 210 กม./ชม.
ระยะทางวิ่ง: สามารถวิ่งได้ไกลกว่า 600 กม. ต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง (ตามมาตรฐาน NEDC) ซึ่งเป็นสมดุลที่ยอดเยี่ยมระหว่างพละกำลังและระยะทาง

ไม่ว่าจะเป็นรุ่นใด ZEEKR 7X ล้วนได้รับการออกแบบมาให้มีการจัดการพลังงานที่ยอดเยี่ยม การตอบสนองของคันเร่งเป็นไปอย่างฉับไวและราบรื่น มอบความรู้สึกที่ควบคุมได้ง่ายและเปี่ยมด้วยพละกำลังสำรอง ทำให้ทุกการขับขี่เป็นประสบการณ์ที่น่าประทับใจและเร้าใจในทุกเส้นทาง

ระบบชาร์จ: อิสระแห่งการเดินทางที่ไร้กังวล

หนึ่งในความกังวลหลักของผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าคือระยะเวลาในการชาร์จ แต่สำหรับ ZEEKR 7X ด้วยเทคโนโลยี 800V ที่ก้าวล้ำ ปัญหาเหล่านี้จะหมดไป ZEEKR 7X รองรับหัวชาร์จมาตรฐาน Type 2 / CCS Combo ทำให้สะดวกในการใช้งานกับสถานีชาร์จสาธารณะที่มีอยู่ทั่วไป

การชาร์จกระแสสลับ (AC Charging): รองรับกำลังไฟสูงสุด 22 kW ซึ่งเหมาะสำหรับการชาร์จที่บ้านหรือที่ทำงานข้ามคืน ทำให้คุณตื่นมาพร้อมแบตเตอรี่เต็มเปี่ยมและพร้อมสำหรับการเดินทางในแต่ละวัน
การชาร์จกระแสตรงแบบเร็ว (DC Fast Charging): นี่คือจุดเด่นที่แท้จริง ZEEKR 7X รองรับกำลังไฟสูงสุดถึง 420 kW ซึ่งจัดเป็นหนึ่งในรถยนต์ไฟฟ้าที่ชาร์จเร็วที่สุดในตลาด ด้วยสถานีชาร์จ DC ที่มีกำลังไฟ 360 kW คุณสามารถชาร์จแบตเตอรี่จาก 10% ถึง 80% ได้ภายในเวลาเพียง 13-16 นาทีเท่านั้น ซึ่งเป็นเวลาที่สั้นมาก เทียบเท่ากับการแวะพักเติมน้ำมัน ทำให้การเดินทางระยะไกลเป็นไปอย่างราบรื่นและไม่ต้องเสียเวลาอันมีค่าไปกับการรอชาร์จ
ระบบจ่ายกระแสไฟฟ้าให้อุปกรณ์ภายนอก (V2L – Vehicle-to-Load): ZEEKR 7X มาพร้อมความสามารถในการจ่ายกระแสไฟฟ้าสูงสุด 3.3 kW (3,300 วัตต์) ให้กับอุปกรณ์ภายนอก ทำให้รถของคุณกลายเป็นแหล่งพลังงานเคลื่อนที่ได้ เหมาะสำหรับการตั้งแคมป์, กิจกรรมกลางแจ้ง, หรือแม้กระทั่งเป็นแหล่งพลังงานสำรองในยามฉุกเฉิน มอบความยืดหยุ่นและอิสระในการใช้งานอย่างแท้จริง

สมรรถนะการขับขี่: เหนือชั้นทั้งบนถนนและเส้นทางวิบาก

ZEEKR 7X ได้รับการออกแบบมาเพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือชั้นในทุกสภาพเส้นทาง ไม่ว่าจะเป็นถนนลาดยางเรียบๆ หรือเส้นทางออฟโรดที่ท้าทาย

บนทางเรียบ:
ช่วงล่างอิสระแบบ Double Wishbone ที่ด้านหน้า และ Multi-Link ที่ด้านหลัง ทำงานร่วมกับ ช่วงล่างถุงลม Active Air Suspension with CCD ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ปรับความนุ่มนวลและความสูงของรถได้อัตโนมัติแบบเรียลไทม์ ทำให้ ZEEKR 7X มอบความนุ่มนวลในการขับขี่ที่เหนือระดับ ดูดซับแรงกระแทกจากพื้นผิวถนนได้อย่างยอดเยี่ยม การควบคุมตัวรถมีความมั่นคงแม้ในความเร็วสูง พวงมาลัยให้ความรู้สึกแม่นยำและตอบสนองได้ฉับไว ช่วยเพิ่มความมั่นใจในการเข้าโค้งหรือเปลี่ยนเลน

สำหรับระบบเบรก ZEEKR 7X มั่นใจได้ด้วย ดิสก์เบรกแบบ 4 pot พร้อมคาลิปเปอร์เบรก Akebono สีส้ม ที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร ไม่เพียงเพิ่มความสวยงามแต่ยังมอบประสิทธิภาพการหยุดรถที่ยอดเยี่ยมและมั่นคง ช่วยให้ผู้ขับขี่ควบคุมสถานการณ์ได้อย่างมั่นใจในทุกจังหวะการขับขี่ นอกจากนี้ ด้วยความที่เป็นรถยนต์ไฟฟ้า ห้องโดยสารจึงมีความเงียบสงบเป็นพิเศษ ปราศจากเสียงเครื่องยนต์และการสั่นสะเทือน ทำให้การเดินทางเป็นไปอย่างผ่อนคลายและสบายตลอดเส้นทาง

Off-Road Prowess – จุดเด่นที่ไม่เหมือนใคร:
นี่คือจุดที่ ZEEKR 7X สร้างความประหลาดใจและโดดเด่นเหนือคู่แข่งในตลาด SUV ไฟฟ้า การทดสอบสมรรถนะแบบออฟโรดที่จัดขึ้นเพื่อพิสูจน์ขีดความสามารถของรถคันนี้ได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่คาดไม่ถึง

เมื่อเข้าสู่โหมด Off-Road ระบบช่วงล่างถุงลมจะทำงานโดยอัตโนมัติ เพื่อยกตัวรถให้สูงขึ้น 230 มิลลิเมตร เพิ่มระยะ Ground Clearance อย่างเห็นได้ชัด ช่วยให้รถสามารถผ่านอุปสรรคต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย
เนินสลับ: ZEEKR 7X สามารถวิ่งผ่านเนินสลับที่ทำให้ล้อลอยจากพื้นได้อย่างน่าประทับใจ ระบบจะถ่ายกำลังไปยังล้อที่ยังคงยึดเกาะกับพื้นได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ทำให้รถเคลื่อนที่ไปข้างหน้าได้อย่างต่อเนื่อง สิ่งที่น่าประทับใจคือ การให้ตัวของช่วงล่างที่ยอดเยี่ยม ตัวรถโคลงตัวเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แสดงให้เห็นถึงการออกแบบที่แข็งแกร่งและสมดุล
เนินชัน: ด้วยพละกำลังมหาศาลจากมอเตอร์ไฟฟ้า ทำให้ ZEEKR 7X สามารถปีนขึ้นเนินชันได้อย่างง่ายดาย และที่สำคัญคือในจังหวะที่หยุดกลางเนินแล้วออกตัวใหม่ ระบบจัดการพลังงานทำงานได้อย่างราบรื่น ไม่มีการส่งกำลังที่รุนแรงจนเกินไป ทำให้ล้อไม่ฟรีทิ้งและรถสามารถเคลื่อนที่ขึ้นไปได้อย่างมั่นคง ในจังหวะการลงเนินสูง ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชันอัตโนมัติ (HDC) ทำงานได้อย่างนุ่มนวลและราบรื่น มอบความมั่นใจให้กับผู้ขับขี่เสมือนขับรถยนต์ยุโรปพรีเมียมในสถานการณ์เดียวกัน
เส้นทางขรุขระ: การวิ่งผ่านเส้นทางที่เต็มไปด้วยก้อนกรวดและหลุมบ่อ ด้วยช่วงล่างถุงลมทำให้ห้องโดยสารยังคงความนุ่มนวล แต่สิ่งที่น่าสนใจยิ่งกว่าคือ พวงมาลัยยังคงนิ่งสนิท ไม่มีอาการสั่นหรือตีมือแต่อย่างใด แสดงให้เห็นถึงความใส่ใจในรายละเอียดของการออกแบบระบบบังคับเลี้ยวและช่วงล่าง ทำให้ ZEEKR 7X สอบผ่านในบททดสอบออฟโรดได้อย่างไร้ข้อกังขา

สรุปได้ว่า ZEEKR 7X ไม่ใช่แค่ SUV ไฟฟ้าที่เร็วและหรูหรา แต่ยังเป็นยนตรกรรมที่สามารถ “ลุยได้จริง” ตอบโจทย์ผู้ที่ชื่นชอบการผจญภัยและการเดินทางในเส้นทางที่ไม่คุ้นเคยได้อย่างไม่น่าเชื่อ

ความปลอดภัย: มาตรฐานสูงสุดเพื่อทุกคนในครอบครัว

ความปลอดภัยคือหัวใจหลักในการออกแบบและพัฒนา ZEEKR 7X รถยนต์คันนี้สร้างขึ้นบน แพลตฟอร์ม SEA (Sustainable Experience Architecture) ซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพสูงสุดโดยเฉพาะ ความมุ่งมั่นด้านความปลอดภัยได้รับการพิสูจน์ด้วยผลการทดสอบระดับโลก โดย ZEEKR 7X ได้รับการรับรองมาตรฐาน Euro NCAP ระดับ 5 ดาว ซึ่งเป็นคะแนนสูงสุดที่บ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งและความสามารถในการปกป้องผู้โดยสารได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คะแนนสูงถึง 91% สำหรับการปกป้องผู้โดยสารผู้ใหญ่ และ 90% สำหรับการปกป้องผู้โดยสารเด็ก สะท้อนให้เห็นถึงความใส่ใจในความปลอดภัยของทุกคนในครอบครัว

หัวใจสำคัญของระบบความปลอดภัยเชิงรุกคือ ระบบช่วยเหลือการขับขี่ ZEEKR AD ซึ่งทำงานร่วมกับ Dual Mobileye Chips อันทรงประสิทธิภาพ เพิ่มความแม่นยำและเสถียรภาพในการตรวจจับสภาพแวดล้อมต่างๆ รอบตัวรถ ระบบนี้ครอบคลุมฟังก์ชันช่วยเหลือการขับขี่ขั้นสูง (ADAS) ที่หลากหลาย เช่น ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบปรับได้, ระบบเตือนการชนด้านหน้า, ระบบช่วยรักษาช่องทางเดินรถ, และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุและเพิ่มความสะดวกสบายในการขับขี่

นอกจากนี้ โครงสร้างตัวรถยังได้รับการออกแบบเป็นพิเศษ ด้วยโครงสร้างแบบ Dome-Shaped ที่ช่วยกระจายแรงกระแทกได้อย่างมีประสิทธิภาพ และโครงสร้างตัวถังด้านหลังแบบ Single Piece Die-Cast ซึ่งเป็นการหล่อขึ้นรูปชิ้นเดียวไร้รอยต่อ ช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งและลดน้ำหนักของตัวรถไปพร้อมๆ กัน ส่งผลให้การปกป้องห้องโดยสารเป็นไปอย่างสูงสุดในกรณีที่เกิดการชน

ราคาและการเป็นเจ้าของ: คุ้มค่าในระยะยาว

ZEEKR ประเทศไทย ได้เตรียมเปิดราคาอย่างเป็นทางการสำหรับ ZEEKR 7X ในวันที่ 15 สิงหาคม 2025 นี้ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่หลายคนตั้งตารอคอย อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลเบื้องต้นและราคาคาดการณ์ที่ ZEEKR ประเทศไทย (นำเข้า CBU จากจีน) ได้ให้ไว้ ทำให้เรามองเห็นถึงความคุ้มค่าและตำแหน่งทางการตลาดที่น่าสนใจ

7X Long Range RWD: ช่วงราคาประมาณ 1,700,000 บาท
7X Performance AWD: ช่วงราคาไม่เกิน 1,900,000 บาท

จากราคาคาดการณ์นี้ ZEEKR 7X ถือเป็น SUV ไฟฟ้าพรีเมียมที่นำเสนอเทคโนโลยี, สมรรถนะ, และความสามารถที่เหนือชั้น ในราคาที่สามารถเข้าถึงได้เมื่อเทียบกับคู่แข่งในระดับเดียวกันในตลาดปี 2025 ยิ่งไปกว่านั้น ZEEKR ประเทศไทย ยังมอบความอุ่นใจให้กับลูกค้าด้วยแพ็กเกจการรับประกันคุณภาพที่ครอบคลุม:

รับประกันคุณภาพตัวรถ (Warranty): นาน 5 ปี หรือ 150,000 กม. (แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน)
รับประกันแบตเตอรี่ และ มอเตอร์: นาน 8 ปี หรือ 180,000 กม. (แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน)
บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน (Roadside Assistance): นาน 8 ปี หรือ 180,000 กม. (แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน)

การรับประกันที่ยาวนานและครอบคลุมนี้ตอกย้ำถึงความมั่นใจในคุณภาพและเทคโนโลยีของ ZEEKR 7X รวมถึงความมุ่งมั่นในการดูแลลูกค้าหลังการขาย ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการตัดสินใจเป็นเจ้าของรถยนต์ไฟฟ้าในระยะยาว

สรุป: เมื่อนวัตกรรมตอบโจทย์ทุกความต้องการ

ZEEKR 7X ไม่ใช่แค่รถยนต์ไฟฟ้าอีกคันที่เข้ามาเติมเต็มตลาด แต่คือการปฏิวัตินิยามของ SUV ไฟฟ้าให้ก้าวไปอีกขั้น ด้วยการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างความหรูหราสง่างาม, สมรรถนะที่เร้าใจ, เทคโนโลยีที่ก้าวล้ำ, และที่สำคัญที่สุดคือความสามารถในการบุกตะลุยบนเส้นทางออฟโรดได้อย่างเหนือความคาดหมาย ในฐานะผู้เชี่ยวชาญที่เฝ้าติดตามพัฒนาการของยานยนต์ไฟฟ้ามาโดยตลอด ผมมองว่า ZEEKR 7X คือหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจที่สุดสำหรับปี 2025

สำหรับผู้ที่กำลังมองหา SUV ไฟฟ้าที่ไม่เพียงแต่ตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันอย่างเหนือระดับ แต่ยังพร้อมที่จะพาคุณออกไปผจญภัยในโลกกว้าง ZEEKR 7X คือคำตอบที่สมบูรณ์แบบ ไม่ว่าคุณจะต้องการอัตราเร่งที่รวดเร็ว, ห้องโดยสารที่หรูหราสะดวกสบาย, เทคโนโลยีความปลอดภัยขั้นสูง, หรือความสามารถในการลุยที่ไม่มีรถ EV คันไหนทำได้ดีเท่า ZEEKR 7X มีทุกสิ่งที่คุณต้องการครบจบในคันเดียว เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าสำหรับอนาคตและไลฟ์สไตล์ที่ไร้ขีดจำกัดของคุณ

ก้าวเข้าสู่โลกของ ZEEKR 7X และนิยามการเดินทางของคุณใหม่วันนี้! สัมผัสประสบการณ์เหนือระดับด้วยตัวคุณเองที่โชว์รูม ZEEKR ประเทศไทย หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์เพื่อรับข้อมูลเพิ่มเติม และเตรียมตัวเป็นเจ้าของ SUV ไฟฟ้าแห่งอนาคตที่พลิกทุกนิยามในวันที่ 15 สิงหาคม 2025 นี้!