[ครบชุด] TQ11144 คุณหนูใหญ่ผู้เขย่าบัลลังก์ทั่วแผ่นดิน

Toyota Yaris ATIV HEV: นิยามใหม่ของซีดานไฮบริดแห่งปี 2025 กับช่วงล่างที่เหนือชั้นที่สุดในคลาส

ในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการยานยนต์มากว่าทศวรรษ ผมได้เห็นวิวัฒนาการของรถยนต์มากมาย และในปี 2025 นี้ ตลาดรถยนต์ซีดาน B-Segment ในประเทศไทยก็ยังคงเป็นสมรภูมิที่ดุเดือด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มรถยนต์ไฮบริดที่กำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดด ผู้บริโภคไม่ได้มองหาแค่รถที่ประหยัดน้ำมันอีกต่อไป แต่ยังต้องการสมรรถนะการขับขี่ที่เหนือกว่า ความปลอดภัยที่ครบครัน และเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุคใหม่ และนี่คือเหตุผลที่ Toyota Yaris ATIV HEV ถือกำเนิดขึ้นมาเพื่อเป็นผู้เล่นหลักในเกมนี้ ด้วยการผสมผสานทุกองค์ประกอบที่กล่าวมาได้อย่างลงตัว จนกลายเป็นปรากฏการณ์ใหม่ที่น่าจับตามองอย่างแท้จริง

หลายคนอาจจะคุ้นเคยกับ Toyota Yaris ATIV ในรุ่นเครื่องยนต์ 1.2 ลิตรกันมาบ้างแล้ว แต่เมื่อพูดถึงรุ่น HEV (Hybrid Electric Vehicle) ใหม่นี้ ต้องบอกว่านี่ไม่ใช่แค่การนำระบบไฮบริดมาใส่เท่านั้น แต่เป็นการ “ยกเครื่อง” ประสบการณ์การขับขี่ทั้งหมดให้ก้าวไปอีกขั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ “ช่วงล่างรถยนต์” ที่ได้รับการปรับจูนอย่างพิถีพิถัน จนสามารถพูดได้อย่างเต็มปากว่าเป็นช่วงล่างที่ดีที่สุดรุ่นหนึ่งในกลุ่มรถยนต์ระดับเดียวกัน หากคุณกำลังมองหารถยนต์ไฮบริดที่ให้ความคุ้มค่าครบทุกมิติ พร้อมที่จะตอบสนองทุกการเดินทางในปี 2025 นี้ Yaris ATIV HEV คือคำตอบที่คุณต้องพิจารณาอย่างจริงจัง

Toyota Yaris ATIV HEV: มากกว่าแค่เครื่องยนต์ไฮบริด

ในโลกยานยนต์ยุคใหม่ที่ “เทคโนโลยีไฮบริด” เป็นหัวใจสำคัญของ “รถประหยัดน้ำมัน” การที่ Toyota ตัดสินใจนำขุมพลังไฮบริดมาสู่ Yaris ATIV ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ แต่สิ่งที่น่าประทับใจยิ่งกว่าคือความใส่ใจในรายละเอียดทางวิศวกรรมที่โตโยต้าได้ทุ่มเทลงไปในรุ่น HEV นี้ นี่ไม่ใช่แค่การนำเครื่องยนต์ 1.5 ลิตรไฮบริดของ Yaris Cross มาใส่ในโครงสร้างเดิม แต่เป็นการปรับปรุงและเสริมสร้างตัวรถในหลายจุด เพื่อรองรับและดึงศักยภาพของระบบไฮบริดออกมาให้ได้มากที่สุด และนั่นรวมไปถึงการยกระดับ “สมรรถนะการขับขี่” ให้เหนือกว่าที่เคย

หัวใจหลักของ Yaris ATIV HEV คือเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.5 ลิตร ผสานการทำงานกับมอเตอร์ไฟฟ้า ซึ่งให้พละกำลังที่ตอบสนองได้อย่างทันใจและต่อเนื่อง แต่เบื้องหลังความราบรื่นนี้คือการปรับแต่งที่ละเอียดอ่อน โตโยต้าได้ทำการปรับปรุงการไหลเวียนของอากาศภายในเครื่องยนต์ใหม่, เปลี่ยนปั๊มน้ำใหม่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมอุณหภูมิ ทำให้การจุดระเบิดสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น และที่สำคัญที่สุดคือการจูน ECU ใหม่ทั้งหมด เพื่อให้ได้อัตราการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงสูงสุด โดยที่ไม่จำเป็นต้องเพิ่มแรงม้าสูงสุด แต่กลับเน้นไปที่การส่งกำลังที่ราบรื่นและมีประสิทธิภาพในทุกช่วงความเร็ว

นอกเหนือจากเครื่องยนต์แล้ว โครงสร้างตัวถังก็เป็นอีกหนึ่งจุดที่ได้รับการยกระดับอย่างเห็นได้ชัด ส่วนท้ายของตัวถังได้ถูกยกมาจากแพลตฟอร์มของ Yaris Cross ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่ามีโครงสร้างที่แข็งแกร่ง และยังเสริมความแข็งแรงให้กับตัวถังในส่วนต่างๆ เพิ่มเติม นั่นหมายความว่า Yaris ATIV HEV ไม่ได้เป็นเพียงรถที่มีน้ำหนักเพิ่มขึ้นจากระบบไฮบริดเท่านั้น แต่ยังเป็นรถที่มี “ความแข็งแกร่งของตัวถัง” เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ส่งผลโดยตรงต่อ “ความปลอดภัยรถยนต์” และ “การควบคุมรถ” โดยรวมที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เมื่อตัวถังแข็งแรงขึ้น การตอบสนองของช่วงล่างก็จะมีประสิทธิภาพมากขึ้นตามไปด้วย

สองบุคลิกที่แตกต่าง: Premium กับ GR SPORT

สิ่งที่ทำให้ Yaris ATIV HEV โดดเด่นยิ่งขึ้นคือการนำเสนอสองรุ่นย่อยที่มีบุคลิกแตกต่างกันอย่างชัดเจน ได้แก่ รุ่น HEV Premium และ HEV GR SPORT ซึ่งแต่ละรุ่นได้รับการปรับจูนช่วงล่างและพวงมาลัยที่แตกต่างกัน เพื่อตอบสนองการใช้งานที่หลากหลายของลูกค้า โดยน้ำหนักของตัวรถที่เพิ่มขึ้นประมาณ 100 กิโลกรัมในรุ่น Premium และ 120 กิโลกรัมในรุ่น GR SPORT จากระบบไฮบริด ได้รับการชดเชยด้วยการปรับจูนช่วงล่างใหม่ทั้งหมด ทำให้รถมีเสถียรภาพและสมดุลที่ยอดเยี่ยม

ในฐานะผู้เชี่ยวชาญที่ได้มีโอกาสสัมผัสและทดลองขับ Yaris ATIV HEV ทั้งสองรุ่นบนเส้นทางที่หลากหลาย ตั้งแต่การจราจรหนาแน่นในกรุงเทพฯ ไปจนถึงถนนที่ใช้ความเร็วสูงระหว่างกรุงเทพฯ-ระยอง-พัทยา ผมสามารถยืนยันได้ว่าความแตกต่างระหว่างสองรุ่นนี้ไม่ใช่แค่เพียงชุดแต่งภายนอก แต่เป็นความแตกต่างใน “ประสบการณ์การขับขี่” โดยรวมที่ชัดเจน

Yaris ATIV HEV GR SPORT: คมกริบ สปอร์ต เร้าใจ

เริ่มต้นจากการทดสอบรุ่น GR SPORT ซึ่งเป็นรุ่นที่ได้รับการปรับแต่งมาอย่างหนักหน่วงที่สุด ตั้งแต่ก้าวเข้ามานั่งในห้องโดยสาร ผมสัมผัสได้ถึงความแตกต่างทันทีจากรุ่น 1.2 ลิตร ไม่ว่าจะเป็นในฐานะผู้โดยสารหรือผู้ขับขี่ ช่วงล่างของ GR SPORT ให้ความรู้สึกกระชับและหนึบอย่างน่าประทับใจ การเก็บอาการของตัวรถเมื่อเจอหลุมบ่อหรือพื้นผิวถนนที่ไม่เรียบเป็นไปอย่างยอดเยี่ยม ตัวรถไม่โคลงเคลง เก็บอาการได้ดีเยี่ยม แม้โตโยต้าจะระบุว่ารุ่นนี้มีการเซ็ตอัพที่แข็งที่สุด แต่ในความเป็นจริงแล้ว มันคือความแข็งที่มาพร้อมความยืดหยุ่น ทำให้รู้สึกมั่นใจและสบาย ไม่ได้แข็งกระด้างจนอึดอัดเลยแม้แต่น้อย

เมื่อสลับมาเป็นผู้ขับขี่ ความรู้สึกประทับใจยิ่งทวีคูณ “ช่วงล่างรถยนต์” ของ GR SPORT ตอบสนองได้คมกริบ การเข้าโค้งทำได้อย่างแม่นยำและมั่นคง พวงมาลัยได้รับการปรับจูนมาอย่างลงตัว มีน้ำหนักกำลังดี ไม่เบาจนเกินไป ทำให้การควบคุมรถในความเร็วสูงเป็นไปอย่างมั่นใจและให้ฟีดแบ็คที่ดีเยี่ยม นี่คือรถที่พร้อมพาคุณสนุกไปกับการขับขี่ได้อย่างแท้จริง

แต่สิ่งที่เหนือความคาดหมายและเป็นนวัตกรรมที่น่าทึ่งสำหรับรถขนาดเล็กในคลาสนี้คือ “ชุดแต่งแอโรไดนามิก” ของ GR SPORT หลายคนอาจมองว่าเป็นเพียงการตกแต่งเพื่อความสวยงาม แต่ในความเป็นจริงแล้ว ชุดแต่งนี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อเพิ่ม “แรงกดอากาศ” (Downforce) ให้กับตัวรถ ในความเร็วที่เกิน 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ชุดแต่งนี้จะช่วยเพิ่มแรงกดอากาศได้ประมาณ 30% ส่งผลให้รถเกาะถนนได้ดียิ่งขึ้นอย่างชัดเจน ลองจินตนาการว่าเมื่อคุณขับขี่ด้วยความเร็ว 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง Yaris ATIV HEV GR SPORT จะให้ความรู้สึกมั่นคง นิ่ง และสบาย เหมือนคุณกำลังขับรถด้วยความเร็วเพียง 90-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในรถรุ่น 1.2 ลิตร ซึ่งความแตกต่างนี้เป็นสิ่งที่สัมผัสได้จริง และเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ GR SPORT เหนือกว่าคู่แข่งในด้าน “สมรรถนะการขับขี่” บนความเร็วสูง

ในส่วนของอัตราเร่ง Yaris ATIV HEV GR SPORT ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อเป็นรถซิ่งทางตรงที่เน้นความแรงสูงสุด แต่ด้วยพละกำลังจากระบบไฮบริด การออกตัวและการเร่งแซงในชีวิตประจำวันเป็นไปอย่างราบรื่นและทันใจ มอเตอร์ไฟฟ้าช่วยเสริมแรงบิดในรอบต่ำ ทำให้การขับขี่ในเมืองเป็นไปอย่างคล่องตัว และที่สำคัญคือ “อัตราการประหยัดน้ำมัน” ที่โดดเด่นอย่างแท้จริง ผมสามารถทำตัวเลขได้สูงถึง 32 กิโลเมตรต่อลิตรในการขับขี่แบบเน้นประหยัด และแม้จะขับขี่แบบไม่สนใจตัวเลขมากนัก ก็ยังคงทำได้ดีที่ 24-25 กิโลเมตรต่อลิตร ซึ่งเป็นตัวเลขที่เหนือกว่าค่าเฉลี่ยของ “รถประหยัดน้ำมัน” ทั่วไปในตลาดอย่างมาก และยังเป็นไปตามที่โรงงานเคลมไว้ที่ 29.4 กิโลเมตรต่อลิตรอย่างน่าชื่นชม

Yaris ATIV HEV Premium: นุ่มนวล สบาย เหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวัน

ถัดมาที่รุ่น HEV Premium ซึ่งเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่เน้นความนุ่มนวลและสะดวกสบายในการขับขี่ เครื่องยนต์และระบบไฮบริดในรุ่น Premium ไม่มีความแตกต่างจาก GR SPORT ในด้านพละกำลัง ทำให้ยังคงให้การตอบสนองที่ดีและ “อัตราการประหยัดน้ำมัน” ที่ยอดเยี่ยมเช่นเดียวกัน อาจจะทำตัวเลขได้ดีกว่าเล็กน้อยด้วยขนาดล้อที่เล็กกว่า

แต่ความแตกต่างที่ชัดเจนที่สุดคือ “ช่วงล่างรถยนต์” ที่ได้รับการปรับแต่งมาโดยเฉพาะสำหรับรุ่น Premium การเซ็ตอัพช่วงล่างนี้เน้นไปที่ความนุ่มนวลและความสบายในการขับขี่เป็นหลัก ช่วยซับแรงกระแทกและลดแรงสั่นสะเทือนจากพื้นผิวถนนที่ไม่เรียบได้อย่างยอดเยี่ยม ทำให้การเดินทางระยะไกลหรือการขับขี่ในเมืองเป็นไปอย่างผ่อนคลาย พวงมาลัยมีน้ำหนักที่เบากว่ารุ่น GR SPORT ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการขับขี่ในเมือง การเลี้ยวกลับรถ หรือการจอดรถ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้ใช้งานในชีวิตประจำวันจะชื่นชอบเป็นพิเศษ

แม้จะเน้นความนุ่มนวล แต่ก็อย่าเข้าใจผิดว่าช่วงล่างของรุ่น Premium จะย้วยหรือยวบยาบ เพราะด้วยพื้นฐานโครงสร้างตัวถังที่แข็งแกร่งและ “ช่วงล่างรถยนต์” ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ทั้งหมด ทำให้ Premium ยังคงให้ความมั่นคงและ “การควบคุมรถ” ที่ดีกว่า Yaris ATIV รุ่น 1.2 ลิตรอย่างเห็นได้ชัด ผู้ขับขี่จะรู้สึกได้ถึงความมั่นใจที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องเจอทางโค้งหรือพื้นผิวถนนที่ไม่สม่ำเสมอ

ภายในห้องโดยสาร เทคโนโลยี และความปลอดภัยสำหรับปี 2025

ไม่ว่าจะเป็นรุ่น Premium หรือ GR SPORT ภายในห้องโดยสารของ Yaris ATIV HEV ยังคงรักษามาตรฐานความทันสมัยและความกว้างขวางที่โดดเด่นสำหรับรถในกลุ่ม B-Segment ด้วยการออกแบบที่เน้นการใช้งาน หน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่ที่รองรับการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนได้อย่างสมบูรณ์แบบ (Apple CarPlay และ Android Auto) ทำให้การเข้าถึงความบันเทิงและข้อมูลต่างๆ เป็นไปอย่างง่ายดาย ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ และช่องเสียบ USB Type-C ที่เพิ่มเข้ามา ทำให้ Yaris ATIV HEV เป็น “รถยนต์ไฮบริด” ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนยุคดิจิทัลได้อย่างลงตัวในปี 2025

ในด้าน “ความปลอดภัยรถยนต์” โตโยต้ายังคงให้ความสำคัญอย่างสูงสุด Yaris ATIV HEV มาพร้อมกับระบบความปลอดภัยเชิงป้องกัน (Toyota Safety Sense) ซึ่งประกอบด้วยฟังก์ชันต่างๆ เช่น ระบบความปลอดภัยก่อนการชน (Pre-Collision System), ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกเลนพร้อมพวงมาลัยหน่วงกลับอัตโนมัติ (Lane Departure Alert with Steering Assist) และระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (Adaptive Cruise Control) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มความมั่นใจในการขับขี่ อย่างไรก็ตาม ในฐานะผู้เชี่ยวชาญ ผมยังคงแนะนำให้ผู้ขับขี่ใช้ความระมัดระวังและไม่พึ่งพาระบบเหล่านี้ 100% แต่ให้ถือเป็นผู้ช่วยที่สำคัญในการลดความเสี่ยงบนท้องถนน

สำหรับเรื่องระบบเครื่องเสียง แม้รุ่นท็อปจะมาพร้อมลำโพงของ Pioneer ซึ่งให้คุณภาพเสียงที่ถือว่า “พอใช้ได้” สำหรับรถในระดับนี้ แต่หากคุณเป็น Audiophile ตัวจริง อาจจะต้องพิจารณาการอัปเกรดเพิ่มเติมในอนาคต แต่โดยรวมแล้ว ฟังก์ชันและความบันเทิงภายในห้องโดยสารนั้นถือว่าครบครันและเพียงพอต่อการใช้งานทั่วไป

ความคุ้มค่าของการเป็นเจ้าของและ “การรับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด”

การตัดสินใจเป็นเจ้าของ “รถยนต์ไฮบริด” ในปี 2025 ไม่ได้มีเพียงแค่เรื่อง “ราคา” หรือ “อัตราการประหยัดน้ำมัน” เท่านั้น แต่ยังรวมถึง “ค่าบำรุงรักษารถไฮบริด” และ “ความมั่นใจในการใช้งานในระยะยาว” ซึ่งโตโยต้าได้เข้ามาแก้ข้อกังวลเหล่านี้ได้อย่างยอดเยี่ยม

Toyota Yaris ATIV HEV มาพร้อมกับราคาแนะนำช่วงเปิดตัวที่น่าสนใจ โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 719,000 บาทสำหรับรุ่น HEV Premium และ 769,000 บาทสำหรับรุ่น HEV GR SPORT ซึ่งถือเป็นราคาที่สมเหตุสมผลสำหรับ “เทคโนโลยีไฮบริด” ที่ได้รับมา และยังมีโปรโมชั่นพิเศษถึงสิ้นปี 2025 ก่อนที่จะมีการปรับขึ้นราคาเล็กน้อย ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในคุณค่าของผลิตภัณฑ์

สิ่งที่เป็นหัวใจสำคัญของการเป็นเจ้าของรถไฮบริดคือ “การรับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด” ซึ่ง Yaris ATIV HEV มาพร้อมการรับประกันแบตเตอรี่ไฮบริดที่ยาวนานถึง 10 ปี ไม่จำกัดระยะทาง ซึ่งเป็นสิ่งที่สร้างความอุ่นใจให้กับลูกค้าได้อย่างมหาศาล เพราะแบตเตอรี่คือหัวใจของระบบไฮบริด และการรับประกันที่ครอบคลุมนี้จะช่วยลดความกังวลเรื่อง “ค่าบำรุงรักษารถไฮบริด” ในระยะยาวได้อย่างแท้จริง นอกจากนี้ ยังมีการรับประกันคุณภาพตัวรถ (Warranty) นาน 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ตอกย้ำถึงความมั่นใจในคุณภาพและ “ความทนทาน” ของรถยนต์โตโยต้า

ในแง่ของอะไหล่และการบริการ โตโยต้าขึ้นชื่อเรื่องเครือข่ายศูนย์บริการที่ครอบคลุมทั่วประเทศ และ “ความพร้อมของอะไหล่” ที่ไม่ต้องรอนาน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ “รถยนต์โตโยต้า” มีมูลค่าในการขายต่อที่ดี และทำให้ผู้บริโภคมั่นใจได้ว่าการเป็นเจ้าของ Yaris ATIV HEV จะเป็นการลงทุนที่ “คุ้มค่าที่สุด” ในระยะยาว

สรุป: Yaris ATIV HEV – นิยามใหม่ของ B-Segment Sedan ในปี 2025

Toyota Yaris ATIV HEV ไม่ใช่แค่รถยนต์ไฮบริดที่เน้นการประหยัดน้ำมันเท่านั้น แต่เป็นการพลิกโฉม “รถซีดาน B-Segment” ทั้งในด้าน “สมรรถนะการขับขี่”, “การควบคุมรถ” และ “ความมั่นใจในการใช้งาน” อย่างแท้จริง ด้วยสองทางเลือกที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน:

สำหรับสายสปอร์ต ผู้ที่ชื่นชอบการขับขี่ที่คล่องตัวและมั่นใจในทุกย่านความเร็ว: Yaris ATIV HEV GR SPORT คือคำตอบที่ใช่ ด้วยช่วงล่างที่กระชับ พวงมาลัยที่แม่นยำ และชุดแต่งแอโรไดนามิกที่เพิ่มเสถียรภาพในความเร็วสูง มันคือรถที่พร้อมจะมอบความสนุกและมั่นใจในการเดินทาง
สำหรับผู้ที่เน้นความสบาย การขับขี่ที่ผ่อนคลาย และการใช้งานในชีวิตประจำวัน: Yaris ATIV HEV Premium จะตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี ด้วยช่วงล่างที่นุ่มนวล พวงมาลัยที่เบาแรง และยังคงมอบอัตราการประหยัดน้ำมันที่ยอดเยี่ยม

ไม่ว่าคุณจะเลือกบุคลิกแบบไหน สิ่งหนึ่งที่ Yaris ATIV HEV ทั้งสองรุ่นมีเหมือนกันคือ “ช่วงล่างรถยนต์ที่ดีที่สุดในคลาส” พร้อมด้วย “เทคโนโลยีไฮบริด” ที่ล้ำสมัย “อัตราการประหยัดน้ำมัน” ที่เป็นเลิศ และความน่าเชื่อถือในแบบฉบับของโตโยต้า ซึ่งทั้งหมดนี้ถูกรวมเข้าไว้ในแพ็คเกจที่ “คุ้มค่าที่สุด” สำหรับปี 2025 นี่คือรถที่ไม่ได้มีดีแค่ภายนอก แต่เต็มเปี่ยมไปด้วยวิศวกรรมที่ยอดเยี่ยมและคุณค่าที่จับต้องได้

อย่ารอช้าที่จะสัมผัสประสบการณ์ใหม่นี้ด้วยตัวคุณเอง!

หากบทความนี้จุดประกายความสนใจของคุณ และคุณพร้อมที่จะสัมผัสกับนิยามใหม่ของ “รถยนต์ไฮบริด” ที่มาพร้อม “ช่วงล่างรถยนต์” ระดับพรีเมียม และ “สมรรถนะการขับขี่” ที่เหนือกว่าในกลุ่ม B-Segment แล้ว ผมขอเชิญชวนคุณอย่างจริงใจให้มาลองสัมผัสและทดลองขับ Toyota Yaris ATIV HEV ทั้งรุ่น Premium และ GR SPORT ได้ที่ผู้แทนจำหน่ายโตโยต้าใกล้บ้านคุณ เพื่อที่คุณจะได้สัมผัสกับความแตกต่างที่ผมได้กล่าวมาด้วยตัวคุณเอง แล้วคุณจะรู้ว่าเหตุใด Yaris ATIV HEV จึงเป็น “รถยนต์รักษ์โลก” ที่พร้อมจะพลิกโฉมทุกการเดินทางของคุณให้พิเศษยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นในเมืองหรือต่างจังหวัด ค้นพบ “ความคุ้มค่าที่สุด” ที่รอคุณอยู่ได้แล้ววันนี้!