ZEEKR 7X: นิยามใหม่ของ SUV ไฟฟ้าพรีเมียมที่พร้อมพาคุณไปได้ทุกที่ในยุค 2025
ในฐานะผู้ที่คลุกคลีอยู่ในวงการยานยนต์ไฟฟ้ามากว่าทศวรรษ ผมได้เห็นการเปลี่ยนแปลงและการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศไทยที่กระแสความสนใจพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และในปี 2025 นี้เอง เรากำลังจะได้สัมผัสกับอีกหนึ่งปรากฏการณ์ที่น่าจับตา นั่นคือการมาถึงของ ZEEKR 7X รถยนต์ SUV ไฟฟ้า 5 ที่นั่ง ที่ไม่ได้เป็นเพียงยานพาหนะสำหรับการเดินทาง แต่คือการประกาศนิยามใหม่ของคำว่า “รถยนต์ไฟฟ้าอเนกประสงค์” ที่รวมเอาความหรูหรา สมรรถนะอันทรงพลัง และความสามารถในการลุยได้อย่างเหนือความคาดหมายเข้าไว้ด้วยกัน
ZEEKR 7X ไม่ใช่แค่รถยนต์ไฟฟ้าทั่วไป แต่เป็นผลผลิตจากการวิจัยและพัฒนาระดับสูงของแบรนด์ ZEEKR ภายใต้ Geely Holding Group ซึ่งมีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนในการสร้างสรรค์ประสบการณ์การขับขี่ที่แตกต่างและยั่งยืน โดย ZEEKR 7X ถูกวางตำแหน่งให้เป็น SUV ไฟฟ้าหรู 2025 ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ที่มองหานวัตกรรม ประสิทธิภาพ และความโดดเด่นไม่ซ้ำใคร และจากที่ผมได้มีโอกาสสัมผัสตัวจริงและเจาะลึกข้อมูลทางเทคนิคทั้งหมด ต้องบอกเลยว่ารถคันนี้มีศักยภาพที่จะพลิกโฉมตลาด SUV ไฟฟ้าสมรรถนะสูง ในประเทศไทยได้อย่างแน่นอน
มิติใหม่แห่งราคาและการรับประกันที่สร้างความมั่นใจ
จากข้อมูลที่เราได้รับ ZEEKR 7X จะถูกนำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยแบบ CBU (Completely Built Up) จากประเทศจีน โดยมีการคาดการณ์ช่วงราคาที่น่าสนใจ ทำให้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคที่มองหารถยนต์ไฟฟ้าพรีเมียมได้ง่ายขึ้น:
7X Long Range RWD: ช่วงราคาประมาณ 1,700,000 บาท
7X Performance AWD: ช่วงราคาไม่เกิน 1,900,000 บาท
การประกาศราคาอย่างเป็นทางการในวันที่ 15 สิงหาคม 2025 นี้ จะเป็นหมุดหมายสำคัญที่ตอกย้ำความตั้งใจของ ZEEKR ในการเข้าสู่ตลาดไทยอย่างจริงจัง และสิ่งที่สร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคได้อย่างแท้จริงคือแพ็คเกจการรับประกันที่ ZEEKR ประเทศไทยจัดมาให้แบบจัดเต็ม ซึ่งถือเป็นมาตรฐานใหม่ที่ผู้เล่นในตลาด รถยนต์ไฟฟ้า ต้องจับตามอง:
รับประกันคุณภาพตัวรถ (Warranty): นานถึง 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร (แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน)
รับประกันแบตเตอรี่ และ มอเตอร์: นานถึง 8 ปี หรือ 180,000 กิโลเมตร (แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน)
บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน: นานถึง 8 ปี หรือ 180,000 กิโลเมตร (แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน)
การรับประกันที่ครอบคลุมและยาวนานนี้ แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในคุณภาพของผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีที่ใช้ใน ZEEKR 7X เป็นการลดความกังวลเรื่องการบำรุงรักษาและอายุการใช้งานของ แบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของยานยนต์ยุคใหม่ ให้ผู้ขับขี่ได้สัมผัสกับ ประสบการณ์ขับขี่รถยนต์ไฟฟ้า ที่ไร้กังวล
ดีไซน์ที่ผสมผสานความหรูหราและความแกร่ง
ZEEKR 7X มีสัดส่วนตัวถังที่ลงตัวและโดดเด่นสะดุดตาตั้งแต่แรกเห็น:
ความยาว: 4,787 มิลลิเมตร
ความกว้าง: 1,930 มิลลิเมตร
ความสูง: 1,650 มิลลิเมตร
ระยะฐานล้อ (Wheelbase): 2,900 มิลลิเมตร
ระยะต่ำสุดถึงพื้น (Ground Clearance): 173 มิลลิเมตร
พื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้าย: 539 – 1,978 ลิตร (เมื่อพับเบาะหลัง)
ที่เก็บสัมภาระด้านหน้า (Frunk): 66 ลิตร
ด้วยระยะฐานล้อที่ยาวเกือบ 3 เมตร ทำให้ภายในห้องโดยสารกว้างขวางเป็นพิเศษ มอบความสะดวกสบายสูงสุดสำหรับผู้โดยสาร 5 ที่นั่ง ส่วนความสูงจากพื้นที่ 173 มิลลิเมตรนั้น อาจดูไม่สูงเท่ารถยนต์ SUV ออฟโรดทั่วไป แต่ด้วยการออกแบบช่วงล่างและการจัดการพลังงานที่ยอดเยี่ยม มันกลับให้ความสามารถในการลุยได้มากกว่าที่ตัวเลขจะบอก และที่สำคัญคือ พื้นที่เก็บสัมภาระที่มากถึง 539 ลิตร และขยายได้เกือบ 2,000 ลิตรเมื่อพับเบาะหลัง รวมถึง Frunk ด้านหน้าที่ช่วยเพิ่มพื้นที่เก็บของอีก 66 ลิตร ทำให้ ZEEKR 7X ตอบโจทย์ทุกการเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นการไปจ่ายตลาด การเดินทางไกล หรือการผจญภัยในวันหยุดสุดสัปดาห์
ขุมพลังไฟฟ้าแห่งอนาคต: สมรรถนะที่เลือกได้
ZEEKR 7X นำเสนอทางเลือกของขุมพลังที่ตอบสนองความต้องการที่แตกต่างกันของผู้ขับขี่ โดยหัวใจหลักของทั้งสองรุ่นคือ เทคโนโลยีแบตเตอรี่ 800V Lithium-ion (NMC) ขนาดความจุ 100 kWh ซึ่งเป็นเทคโนโลยีล้ำสมัยที่ช่วยให้การชาร์จเร็วขึ้นและประสิทธิภาพการทำงานของระบบไฟฟ้าโดยรวมดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดใน นวัตกรรมรถยนต์ไฟฟ้า ยุค 2025 นี้
รุ่น Long Range RWD:
มอเตอร์ไฟฟ้า: 1 ตัว ขับเคลื่อนล้อหลัง (Rear-Wheel Drive)
พละกำลังสูงสุด: 422 แรงม้า
แรงบิดสูงสุด: 440 นิวตันเมตร
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.: ภายใน 6.0 วินาที
ความเร็วสูงสุด (Top Speed): 210 กม./ชม.
ระยะทางวิ่งสูงสุด: มากกว่า 700 กม. (มาตรฐาน NEDC ซึ่งในสภาพการใช้งานจริงอาจแตกต่างออกไป แต่ก็ถือว่าอยู่ในกลุ่ม รถไฟฟ้าวิ่งระยะไกล ที่น่าประทับใจ)
รุ่น Long Range RWD เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการ รถยนต์ไฟฟ้า ที่เน้นประสิทธิภาพด้านระยะทาง การขับขี่ที่นุ่มนวล และการประหยัดพลังงานเป็นหลัก ด้วยพละกำลัง 422 แรงม้า ก็เพียงพอแล้วสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันและการเดินทางไกลที่ต้องการความคล่องตัว
รุ่น Performance AWD:
มอเตอร์ไฟฟ้า: 2 ตัว ขับเคลื่อนสี่ล้อ (All-Wheel Drive)
พละกำลังสูงสุด: 646 แรงม้า
แรงบิดสูงสุด: 710 นิวตันเมตร
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.: ภายใน 3.8 วินาที
ความเร็วสูงสุด (Top Speed): 210 กม./ชม.
ระยะทางวิ่งสูงสุด: มากกว่า 600 กม. (มาตรฐาน NEDC)
สำหรับผู้ที่หลงใหลในความแรงและต้องการ SUV ไฟฟ้าสมรรถนะสูง ที่พร้อมพุ่งทะยาน ZEEKR 7X Performance AWD คือคำตอบ ด้วยมอเตอร์คู่ที่ส่งพละกำลังรวมกันถึง 646 แรงม้า ทำให้การเร่งแซงเป็นเรื่องง่ายดาย และการขับขี่สี่ล้อ AWD ยังมอบการยึดเกาะถนนที่ดีเยี่ยมในทุกสภาพเส้นทาง ไม่ว่าจะเป็นถนนแห้ง ถนนเปียก หรือแม้แต่การขับขี่แบบออฟโรดเบาๆ
การชาร์จไฟ: รวดเร็วและยืดหยุ่นเพื่อไลฟ์สไตล์ที่ไม่หยุดนิ่ง
หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้ รถยนต์ไฟฟ้า ได้รับความนิยมคือความสะดวกสบายในการชาร์จ ZEEKR 7X ตอบโจทย์นี้ได้อย่างดีเยี่ยมด้วยระบบการชาร์จที่รองรับทั้ง Type 2 และ CCS Combo:
กระแสสลับ (AC): รองรับสูงสุด 22 kW ซึ่งถือว่าสูงมากสำหรับระบบ AC ทำให้การชาร์จที่บ้านหรือตามสถานีชาร์จสาธารณะเป็นไปอย่างรวดเร็ว
กระแสตรง (DC Fast Charging): รองรับสูงสุดถึง 420 kW ซึ่งจัดว่าเป็นหนึ่งใน ระบบชาร์จเร็ว EV ที่ล้ำหน้าที่สุดในตลาด สามารถชาร์จจาก 10% ถึง 80% ภายในเวลาเพียง 13-16 นาที เมื่อใช้สถานีชาร์จ DC ที่มีกำลังไฟ 360 kW ขึ้นไป ความสามารถในการชาร์จที่รวดเร็วนี้ช่วยลดความกังวลเรื่องระยะทางและเวลาในการเดินทางไกลได้อย่างมาก
ระบบจ่ายกระแสไฟฟ้าให้อุปกรณ์ภายนอก (V2L – Vehicle-to-Load): สูงสุด 3.3 kW (3,300 วัตต์) ฟังก์ชัน V2L ทำให้ ZEEKR 7X ไม่ใช่แค่รถยนต์ แต่เป็นแหล่งพลังงานเคลื่อนที่ สามารถจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าภายนอกได้ ไม่ว่าจะเป็นการตั้งแคมป์ การทำงานนอกสถานที่ หรือในสถานการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่เพิ่มความอเนกประสงค์ให้กับ รถไฟฟ้าลุยได้ อย่างแท้จริง
ช่วงล่างและการควบคุม: ความสมดุลของความสบายและประสิทธิภาพ
ZEEKR 7X มาพร้อมกับช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระ Double Wishbone และด้านหลังแบบอิสระ Multi-Link ซึ่งเป็นโครงสร้างที่มอบการยึดเกาะถนนที่ดีเยี่ยม การควบคุมที่แม่นยำ และความนุ่มนวลในการขับขี่ที่โดดเด่น
ล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว: พร้อมยางขนาด 255/50 R19 ในรุ่น Long Range RWD ให้ความสมดุลระหว่างความสบายและการยึดเกาะ
ล้อ Forged ขนาด 21 นิ้ว: พร้อมยางขนาด 265/40 R21 ในรุ่น Performance AWD และคาลิปเปอร์เบรก Akebono สีส้ม 4 pot เพิ่มประสิทธิภาพในการเบรกและรูปลักษณ์ที่ดุดันยิ่งขึ้น
ช่วงล่างถุงลม Active Air Suspension with CCD: ที่เป็นจุดเด่นสำคัญ ช่วยให้รถสามารถปรับระดับความสูงและความนุ่มนวลได้อย่างอัตโนมัติ ตอบสนองต่อสภาพถนนและโหมดการขับขี่ที่เลือกได้
บททดสอบสมรรถนะ: เปิดมิติใหม่ของ SUV ไฟฟ้าที่ลุยได้จริง
ในฐานะนักขับทดสอบที่มีประสบการณ์ ผมมักจะตั้งข้อสงสัยกับรถยนต์ไฟฟ้าที่มีการกล่าวอ้างถึงความสามารถในการลุยแบบออฟโรด เพราะโดยธรรมชาติแล้ว รถยนต์ไฟฟ้าไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อการนี้โดยตรง แต่ ZEEKR 7X ได้พิสูจน์ให้ผมเห็นว่ามันไม่ธรรมดาจริงๆ ในการทดสอบที่เขาใหญ่ก่อนการประกาศราคาอย่างเป็นทางการ ทีมงาน ZEEKR ได้จัดสถานีทดสอบออฟโรดที่หลากหลาย และผลลัพธ์ที่ได้นั้นน่าประทับใจจนต้องยกให้เป็นจุดเด่นอย่างไม่น่าเชื่อ
เมื่อปรับเข้าสู่โหมดออฟโรด ช่วงล่างถุงลมรถยนต์ไฟฟ้า ทำงานอัตโนมัติ ยกรถให้สูงขึ้นถึง 230 มิลลิเมตร เพื่อเพิ่มระยะห่างจากพื้น ผ่านอุปสรรคได้อย่างง่ายดาย
เนินสลับ: ZEEKR 7X ผ่านไปได้อย่างราบรื่น แม้ล้อบางข้างจะลอยจากพื้น แต่ระบบก็ถ่ายเทกำลังไปยังล้อที่ยังสัมผัสพื้นได้อย่างชาญฉลาด ทำให้รถเคลื่อนตัวไปได้โดยไม่ติดขัด ที่สำคัญคือการให้ตัวของช่วงล่างนั้นยอดเยี่ยมมาก ตัวรถโคลงเคลงน้อยมาก สร้างความมั่นใจให้กับผู้ขับขี่
เนินชัน: พละกำลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าอันมหาศาลทำให้การไต่เนินชันเป็นเรื่องง่าย และเมื่อหยุดรถกลางเนินแล้วออกตัวใหม่ ระบบก็จัดการพลังงานได้ดีเยี่ยม ไม่ส่งกำลังออกมาอย่างรุนแรงจนล้อฟรีทิ้ง ทำให้การควบคุมทำได้อย่างแม่นยำ
ลงเนินสูง: ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชันอัตโนมัติ (HDC) ทำงานได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพไม่แพ้รถยนต์ SUV พรีเมียมจากยุโรป มอบความสบายใจและปลอดภัยในการขับลงทางลาดชันที่สูงชัน
เส้นทางขรุขระ: ด้วยช่วงล่างถุงลม ทำให้การขับขี่บนเส้นทางขรุขระมีความนุ่มนวลอย่างน่าทึ่ง แต่สิ่งที่น่าประทับใจยิ่งกว่าคือพวงมาลัยที่นิ่งสนิท ไม่มีอาการสั่นหรือตีมือแม้แต่น้อย ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการออกแบบระบบบังคับเลี้ยวและช่วงล่างที่ดีเยี่ยม ผมต้องยอมรับเลยว่า ZEEKR 7X SUV ไฟฟ้าที่พอลุยได้ ได้สอบผ่านบททดสอบออฟโรดได้อย่างเหนือความคาดหมาย
ส่วนการทดสอบบนทางเรียบนั้น ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ZEEKR 7X มอบประสบการณ์ที่เร้าใจและนุ่มนวลไปพร้อมกัน
อัตราเร่ง: ในรุ่น Performance AWD แรงดึงมหาศาลทำให้การเร่งความเร็วเป็นไปอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง สร้างความตื่นเต้นในทุกครั้งที่กดคันเร่ง ขณะที่รุ่น Long Range RWD แม้จะมีพละกำลังน้อยกว่า แต่ก็ยังคงมอบแรงดึงที่ดีเยี่ยมและเพียงพอต่อการใช้งานทั่วไปอย่างเหลือเฟือ
ช่วงล่างบนทางเรียบ: ในรุ่น Performance ให้ความนุ่มนวลและเกาะถนนที่ดีเยี่ยม ส่วนรุ่น Long Range ก็มอบความนุ่มนวลในระดับที่น่าพอใจเช่นกัน แต่จะมีความรู้สึกเฟิร์มกว่ารุ่น Performance เล็กน้อย ซึ่งยังคงให้ความรู้สึกมั่นคงและควบคุมง่าย
ห้องโดยสารพรีเมียม: โอเอซิสแห่งความผ่อนคลายและเทคโนโลยีอัจฉริยะ
ภายในห้องโดยสารของ ZEEKR 7X คือการรังสรรค์พื้นที่แห่งความสะดวกสบายและเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย เพื่อมอบประสบการณ์การเดินทางที่เหนือระดับ
เบาะนั่งหนัง Nappa: วัสดุระดับพรีเมียมที่ขึ้นชื่อเรื่องความนุ่มนวลและหรูหรา ไม่เพียงให้ความสบายในการนั่ง แต่ยังสะท้อนรสนิยมอันโดดเด่นของผู้เป็นเจ้าของ พร้อมระบบนวดและเป่าลมในเบาะคู่หน้า ช่วยลดความเมื่อยล้าจากการเดินทางไกล
เบาะหลังปรับเอนด้วยระบบไฟฟ้า: ผู้โดยสารด้านหลังสามารถปรับองศาการนั่งได้อย่างอิสระ ทำให้ห้องโดยสารด้านหลังกลายเป็นห้องนั่งเล่นส่วนตัวที่สมบูรณ์แบบ ตอบโจทย์ทุกกิจกรรม ไม่ว่าจะเป็นการพักผ่อน การทำงาน หรือการรับชมความบันเทิง
ประตูและม่านบังแดดคู่หลังระบบไฟฟ้า: เพิ่มความสะดวกสบายและความหรูหราในการใช้งาน
ระบบสารสนเทศและความบันเทิง: เชื่อมต่ออย่างไร้ขีดจำกัด
ZEEKR 7X มาพร้อมกับระบบสารสนเทศและความบันเทิงที่ล้ำสมัย ขับเคลื่อนด้วย ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 8295 Processor เทคโนโลยี 5nm ที่มอบการประมวลผลที่รวดเร็วและราบรื่น รองรับการใช้งานฟังก์ชันต่างๆ ได้อย่างไม่มีสะดุด:
หน้าจอกลาง Mini LED ขนาด 16 นิ้ว ความละเอียด 3.5K: มอบภาพที่คมชัด รายละเอียดครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นแผนที่ สื่อบันเทิง หรือแอปพลิเคชันต่างๆ
หน้าจอ AR HUD ขนาด 36.21 นิ้ว: ฉายข้อมูลสำคัญขึ้นบนกระจกหน้ารถ ช่วยให้ผู้ขับขี่มองเห็นข้อมูลต่างๆ โดยไม่ต้องละสายตาจากถนน เพิ่มความปลอดภัยและความสะดวกสบาย
หน้าจอ Cluster ขนาด 13.02 นิ้ว: แสดงข้อมูลการขับขี่ทั้งหมดในรูปแบบที่สวยงามและเข้าใจง่าย
ระบบเสียง ZEEKR Sound Pro พร้อมลำโพง 21 จุด: สร้างมิติเสียงรอบทิศทาง มอบประสบการณ์ดนตรีระดับสตูดิโอภายในรถ เสมือนโรงภาพยนตร์เคลื่อนที่ส่วนตัว
ความปลอดภัยคือสิ่งสำคัญสูงสุด
ZEEKR 7X ถูกสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม SEA (Sustainable Experience Architecture) ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมที่ออกแบบมาเพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพสูงสุด ความมุ่งมั่นด้านความปลอดภัยได้รับการรับรองด้วยมาตรฐาน Euro NCAP 5 ดาว โดยได้คะแนนสูงถึง 91% สำหรับการปกป้องผู้โดยสารผู้ใหญ่ และ 90% สำหรับการปกป้องผู้โดยสารเด็ก ซึ่งสะท้อนถึงความใส่ใจในความปลอดภัยของทุกคนในครอบครัวอย่างแท้จริง
ระบบช่วยขับขี่ ZEEKR AD: ทำงานร่วมกับ Dual Mobileye Chips เพิ่มความแม่นยำและปลอดภัยในการขับขี่ มอบระบบช่วยเหลือการขับขี่ระดับสูงที่ช่วยลดภาระของผู้ขับขี่และเพิ่มความปลอดภัยบนท้องถนน ซึ่งถือเป็นคุณสมบัติสำคัญของ ระบบช่วยเหลือการขับขี่อัจฉริยะ ในรถยนต์ไฟฟ้าปี 2025
โครงสร้างตัวรถแบบ Dome-Shaped และโครงสร้างตัวถังหลังแบบ Single Piece Die-Cast: โครงสร้างที่แข็งแกร่งและไร้รอยต่อนี้ไม่เพียงแต่เพิ่มความปลอดภัยในการชน แต่ยังช่วยลดน้ำหนักตัวรถ ส่งผลให้ประสิทธิภาพการใช้พลังงานดีขึ้น
บทสรุปจากประสบการณ์ 10 ปีในวงการ EV
ZEEKR 7X คือการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างความหรูหรา สมรรถนะ และความสามารถรอบด้านที่หาได้ยากในตลาด SUV ไฟฟ้า ปัจจุบัน ด้วยความโดดเด่นในการเป็น SUV ไฟฟ้าที่ลุยได้ ซึ่งแทบจะไม่มีคู่แข่งในตลาด ทำให้ ZEEKR 7X กลายเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มองหารถยนต์ไฟฟ้าที่แตกต่างและตอบโจทย์ได้มากกว่าการขับขี่บนถนนเรียบ
ไม่ว่าคุณจะมองหารถยนต์ไฟฟ้าที่เน้นพละกำลังและความเร็วในการขับขี่ที่เร้าใจจากรุ่น Performance AWD หรือต้องการรถที่วิ่งได้ระยะทางไกลเป็นพิเศษพร้อมความนุ่มนวลในการเดินทางจากรุ่น Long Range RWD ZEEKR 7X ก็มีคุณสมบัติที่ตอบโจทย์ได้อย่างครบถ้วน ออปชั่นและฟังก์ชันต่างๆ ที่จัดมาให้แบบเต็มพิกัด ไม่ว่าจะเป็นระบบชาร์จเร็ว 800V, เทคโนโลยี V2L, ห้องโดยสารพรีเมียมพร้อมจอ AR HUD และระบบเสียงระดับสตูดิโอ ล้วนยกระดับประสบการณ์การขับขี่ให้เหนือชั้นยิ่งขึ้น และที่สำคัญคือ ความมุ่งมั่นด้านความปลอดภัยที่ได้รับการรับรองระดับสากล ทำให้คุณมั่นใจได้ในทุกการเดินทาง
ZEEKR 7X ไม่ใช่เพียงยานพาหนะ แต่คือสัญลักษณ์ของอนาคตที่มาถึงแล้ว เป็นการลงทุนใน นวัตกรรมรถยนต์ไฟฟ้า ที่จะพาคุณไปสัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ และปลดล็อกศักยภาพของการเดินทางได้อย่างแท้จริงในยุค 2025
หากคุณคือผู้ที่มองหานิยามใหม่ของ SUV ไฟฟ้าที่เหนือกว่าทุกข้อจำกัด ผมขอเชิญชวนให้คุณมาสัมผัส ZEEKR 7X ด้วยตัวคุณเอง แล้วคุณจะเข้าใจว่าทำไมรถคันนี้ถึงเป็นปรากฏการณ์ที่ไม่ควรพลาดในตลาด รถยนต์ไฟฟ้าหรู 2025 ของประเทศไทย
อย่ารอช้า! มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางแห่งอนาคตกับ ZEEKR 7X ได้ที่ผู้แทนจำหน่าย ZEEKR ทั่วประเทศ และเตรียมพบกับการเปิดราคาอย่างเป็นทางการในวันที่ 15 สิงหาคม 2025 นี้
![[ครบชุด] 2211031 Facebook (49)](https://filmthailan.moicaucachep.com/wp-content/uploads/2025/11/image-27-1.png)
![[ครบชุด] 2211032 นัดเดทกับท่านประธาน กิตติ์ จำโบ้ซีรี่ย์](https://filmthailan.moicaucachep.com/wp-content/uploads/2025/11/image-28-1.png)