ZEEKR 7X: พลิกโฉม SUV ไฟฟ้าเหนือระดับ พร้อมลุยทุกเส้นทางในยุค 2025
ในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการยานยนต์ไฟฟ้ามานานกว่าทศวรรษ ผมได้เห็นการเปลี่ยนแปลงและการเติบโตของตลาด EV ในประเทศไทยอย่างก้าวกระโดด จากเพียงทางเลือกหนึ่ง สู่กระแสหลักที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย และในปี 2025 นี้ ZEEKR 7X (ซีคเคอร์ 7X) คือหนึ่งในรถยนต์ไฟฟ้าที่จะเข้ามาสร้างนิยามใหม่ให้กับคำว่า “SUV ไฟฟ้าอเนกประสงค์” ด้วยการผสมผสานความหรูหรา ประสิทธิภาพอันทรงพลัง และที่สำคัญคือความสามารถในการ “ลุย” ได้อย่างไม่น่าเชื่อ ซึ่งเป็นสิ่งที่หาได้ยากยิ่งในรถยนต์ไฟฟ้าปัจจุบัน
ZEEKR (ซีคเคอร์) แบรนด์ยานยนต์ไฟฟ้าพรีเมียมภายใต้กลุ่ม Geely ได้เผยโฉม ZEEKR 7X อย่างเป็นทางการในตลาดไทย และด้วยประสบการณ์ที่ผมสั่งสมมา ผมกล้าพูดได้เลยว่านี่คือรถยนต์ที่ถูกสร้างมาเพื่อตอบโจทย์ผู้ขับขี่ในยุคใหม่ ที่มองหามากกว่าแค่การเดินทาง แต่คือ “ประสบการณ์” ที่ครบครัน ไม่ว่าจะเป็นการใช้ชีวิตในเมืองใหญ่ หรือการผจญภัยในเส้นทางที่ไม่คุ้นเคย มาดูกันว่าทำไม ZEEKR 7X จึงเป็นหนึ่งในยานยนต์ที่คุณไม่ควรมองข้ามในปี 2025
ดีไซน์ที่สะกดทุกสายตา: ความหรูหราที่แฝงความแกร่ง
จากมุมมองของดีไซน์ ZEEKR 7X ถือเป็น SUV ไฟฟ้าหรู ที่โดดเด่นอย่างแท้จริง รูปลักษณ์ภายนอกถูกออกแบบมาอย่างประณีต แต่ก็แฝงไว้ซึ่งความบึกบึนตามแบบฉบับ SUV เส้นสายที่เฉียบคมและลื่นไหล ให้ความรู้สึกถึงอนาคตที่ผสมผสานกับความสง่างาม ไฟหน้าแบบ Stargate Front Light Panel ที่สามารถปรับเปลี่ยนกราฟิกได้หลากหลายรูปแบบ ไม่เพียงเพิ่มความปลอดภัย แต่ยังเป็นเหมือนงานศิลปะที่เคลื่อนไหวได้ บ่งบอกถึงความเป็นเอกลักษณ์ของ ZEEKR ยิ่งไปกว่านั้น การติดตั้งประตูทั้ง 4 บานที่สามารถเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า ไม่เพียงแค่เพิ่มความสะดวกสบาย แต่ยังยกระดับประสบการณ์การเข้าถึงรถให้เทียบเท่ารถยนต์ระดับ พรีเมียม SUV ไฟฟ้า อย่างแท้จริง ล้อ Forged ขนาด 21 นิ้ว (ในรุ่น Performance) ไม่เพียงเสริมความงามสง่า แต่ยังช่วยลดน้ำหนักและเพิ่มประสิทธิภาพในการขับขี่อย่างเห็นได้ชัด
สุนทรียภาพแห่งห้องโดยสาร: นิยามใหม่ของความสบายและการเชื่อมต่อ
ก้าวเข้ามาภายใน ZEEKR 7X คุณจะพบกับอาณาจักรแห่งความหรูหราที่ออกแบบมาเพื่อการผ่อนคลายอย่างแท้จริง เบาะนั่งหุ้มด้วยหนัง Nappa Leather คุณภาพสูง ไม่ใช่แค่สัมผัสที่นุ่มนวล แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของรสนิยมชั้นเลิศ ระบบนวดและเป่าลมสำหรับเบาะคู่หน้าคือฟีเจอร์ที่ช่วยคลายความเมื่อยล้าจากการเดินทางไกล หรือหลังจากวันทำงานที่หนักหน่วง เปลี่ยนการขับขี่ให้กลายเป็นการบำบัดที่เหนือระดับ ส่วนเบาะหลังที่สามารถปรับเอนด้วยระบบไฟฟ้า คือความใส่ใจที่ ZEEKR มอบให้กับผู้โดยสารทุกคน ไม่ว่าจะเพื่อการพักผ่อน การทำงาน หรือการชมความบันเทิง เบาะหลังก็สามารถปรับเปลี่ยนเป็นพื้นที่ส่วนตัวที่สมบูรณ์แบบได้ทันที สะท้อนให้เห็นถึงความลึกซึ้งในการออกแบบที่คำนึงถึงทุกอิริยาบถ
ในด้าน เทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้า 2025 ZEEKR 7X ไม่เป็นสองรองใคร จอแสดงผล Mini LED ตรงกลางขนาด 16 นิ้ว ความละเอียด 3.5K มอบภาพที่คมชัด สีสันสดใสทุกรายละเอียด ไม่ว่าจะเป็นการนำทาง ดูหนัง ฟังเพลง หรือควบคุมฟังก์ชันต่างๆ ของรถ ข้อมูลสำคัญทั้งหมดจะถูกฉายขึ้นบนหน้าจอ AR HUD ขนาด 36.21 นิ้ว บนกระจกหน้ารถ ช่วยให้ผู้ขับขี่ไม่ต้องละสายตาจากถนน เพิ่มความปลอดภัย และความสะดวกสบายในการขับขี่อย่างมาก นอกจากนี้ หน้าจอ Cluster ขนาด 13.02 นิ้ว ยังแสดงข้อมูลการขับขี่อย่างละเอียดและสวยงาม หัวใจสำคัญที่ขับเคลื่อนระบบเหล่านี้คือชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 8295 Processor เทคโนโลยี 5nm Process Technology ซึ่งรับประกันการประมวลผลที่รวดเร็วและลื่นไหล มอบประสบการณ์การใช้งานที่ไร้รอยต่อ
สำหรับผู้รักเสียงเพลง ระบบเสียง ZEEKR Sound Pro พร้อมลำโพงคุณภาพระดับสตูดิโอ 21 จุดรอบคัน จะเปลี่ยนห้องโดยสารให้เป็นโรงภาพยนตร์เคลื่อนที่ มอบ ประสบการณ์ขับขี่ ZEEKR 7X ที่ดื่มด่ำไปกับสุนทรียภาพแห่งเสียงอย่างแท้จริง
มิติและพื้นที่ใช้สอย: ความลงตัวเพื่อทุกการใช้งาน
ในฐานะ รถครอบครัวไฟฟ้า ZEEKR 7X มีมิติตัวถังที่เหมาะสมกับการใช้งานในประเทศไทยอย่างยิ่ง ด้วยความยาว 4,787 มม. กว้าง 1,930 มม. สูง 1,650 มม. และระยะฐานล้อ 2,900 มม. ทำให้ห้องโดยสารกว้างขวาง นั่งสบายสำหรับ 5 ที่นั่ง ระยะต่ำสุดถึงพื้น (ground clearance) ที่ 173 มม. ซึ่งถือว่าค่อนข้างสูงสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าทั่วไป สะท้อนให้เห็นถึงความตั้งใจในการออกแบบที่ต้องการให้ ZEEKR 7X สามารถลุยได้ในระดับหนึ่ง พื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายขนาด 539 ลิตร สามารถขยายได้ถึง 1,978 ลิตร เมื่อพับเบาะหลัง เพิ่มความยืดหยุ่นในการบรรทุกสัมภาระขนาดใหญ่ และยังมี Frunk (ที่เก็บสัมภาระด้านหน้า) ขนาด 66 ลิตร ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับการเก็บสายชาร์จ หรือของใช้ส่วนตัวที่ต้องการความสะดวกในการหยิบใช้
ขุมพลังและสมรรถนะ: การขับเคลื่อนแห่งอนาคต
ZEEKR 7X มีให้เลือก 2 รุ่นย่อย เพื่อตอบโจทย์การใช้งานที่แตกต่างกัน:
ZEEKR 7X Long Range RWD:
มอเตอร์ไฟฟ้า: 1 ตัว ขับเคลื่อนล้อหลัง (RWD)
พละกำลังสูงสุด: 422 แรงม้า (PS)
แรงบิดสูงสุด: 440 นิวตันเมตร
แบตเตอรี่: เทคโนโลยี 800V Lithium-ion (NMC) ความจุ 100 kWh
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.: ภายใน 6.0 วินาที
ความเร็วสูงสุด: 210 กม./ชม.
ระยะทางวิ่งสูงสุด: มากกว่า 700 กม. (มาตรฐาน NEDC) ด้วย รถไฟฟ้าวิ่งได้ไกล ขนาดนี้ ตอบโจทย์การเดินทางข้ามจังหวัดได้อย่างสบาย
ZEEKR 7X Performance AWD:
มอเตอร์ไฟฟ้า: 2 ตัว ขับเคลื่อนสี่ล้อ (AWD)
พละกำลังสูงสุด: 646 แรงม้า (PS)
แรงบิดสูงสุด: 710 นิวตันเมตร
แบตเตอรี่: เทคโนโลยี 800V Lithium-ion (NMC) ความจุ 100 kWh
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.: ภายใน 3.8 วินาที ซึ่งถือเป็น รถ EV ประสิทธิภาพสูง ที่สามารถท้าชนรถสปอร์ตหลายคันได้
ความเร็วสูงสุด: 210 กม./ชม.
ระยะทางวิ่งสูงสุด: มากกว่า 600 กม. (มาตรฐาน NEDC)
ทั้งสองรุ่นมาพร้อมกับ เทคโนโลยีแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า 800V ที่ล้ำสมัย ซึ่งไม่เพียงให้ประสิทธิภาพด้านพละกำลังที่เหนือกว่า แต่ยังรองรับ ระบบชาร์จเร็ว DC สูงสุดถึง 420 kW การชาร์จ DC ที่ 360 kW สามารถเพิ่มพลังงานจาก 10-80% ได้ภายในเวลาเพียง 13-16 นาที ซึ่งถือว่าเร็วที่สุดในตลาดปัจจุบัน ลดเวลาการรอคอยที่สถานีชาร์จได้อย่างมหาศาล และด้วยระบบจ่ายกระแสไฟฟ้าให้อุปกรณ์ภายนอก (V2L) สูงสุด 3.3 kW (3,300 วัตต์) ZEEKR 7X จึงกลายเป็นแหล่งพลังงานเคลื่อนที่ ที่เป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการเดินทางแคมปิ้ง หรือกิจกรรมกลางแจ้ง
ช่วงล่างและการควบคุม: ความสมดุลระหว่างความนุ่มนวลและสมรรถนะ
ZEEKR 7X ใช้ระบบช่วงล่างอิสระแบบ Double Wishbone ที่ด้านหน้า และ Multi-Link ที่ด้านหลัง ซึ่งเป็นชุดช่วงล่างที่ให้ความนุ่มนวลในการขับขี่ และการยึดเกาะถนนที่ดีเยี่ยม ยิ่งไปกว่านั้น รุ่น Performance ยังมาพร้อมกับช่วงล่างถุงลม Active Air Suspension with CCD ที่สามารถปรับระดับความสูงและความแข็งอ่อนได้อัตโนมัติ ช่วยให้รถมีการทรงตัวที่ยอดเยี่ยมในทุกสภาพถนน ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่ด้วยความเร็วสูง หรือการวิ่งผ่านเส้นทางขรุขระ พร้อมด้วยระบบเบรกดิสก์ 4pot และคาลิปเปอร์เบรก Akebono สีส้ม ที่ไม่เพียงให้ประสิทธิภาพการหยุดรถที่มั่นใจ แต่ยังเพิ่มความสปอร์ตให้กับการออกแบบ
ประสบการณ์ “ออฟโรด” ที่เหนือความคาดหมาย: จุดเด่นที่พลิกเกม
สิ่งที่ทำให้ ZEEKR 7X โดดเด่นเหนือ SUV ไฟฟ้า 2025 รุ่นอื่นๆ คือความสามารถในการ รถไฟฟ้าออฟโรด ได้อย่างน่าทึ่ง จากการทดสอบก่อนการเปิดตัวอย่างเป็นทางการที่เขาใหญ่ ผมยอมรับว่าตอนแรกก็ไม่ได้คาดหวังอะไรมากนักกับรถยนต์ไฟฟ้าที่จะลุยออฟโรดได้ดี แต่สิ่งที่ได้เห็นกลับทำให้ผมต้องเปลี่ยนความคิดโดยสิ้นเชิง
ในสนามทดสอบที่จำลองสถานการณ์ออฟโรดต่างๆ ZEEKR 7X ได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่ซ่อนอยู่ เมื่อปรับเข้าสู่โหมดออฟโรด ช่วงล่างถุงลมจะยกตัวขึ้นอัตโนมัติถึง 230 มม. เพิ่มระยะ Ground Clearance ให้สูงพอที่จะผ่านอุปสรรคได้อย่างสบายๆ
สถานีเนินสลับ: เมื่อล้อข้างหนึ่งลอยจากพื้น ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อไฟฟ้า ของ ZEEKR 7X สามารถถ่ายกำลังไปยังล้อที่ยังยึดเกาะพื้นได้อย่างรวดเร็ว ทำให้รถเคลื่อนตัวผ่านเนินได้อย่างง่ายดาย ที่น่าประทับใจยิ่งกว่าคือการให้ตัวของช่วงล่างที่ยอดเยี่ยม ทำให้ตัวรถโคลงเคลงน้อยมาก สร้างความมั่นใจให้กับผู้ขับขี่
เนินชัน: พละกำลังมหาศาลจากมอเตอร์ไฟฟ้า ช่วยให้ ZEEKR 7X ไต่เนินชันได้อย่างไม่ยากเย็น และที่สำคัญคือเมื่อหยุดรถกลางเนิน แล้วกดคันเร่งออกตัว ระบบการจัดการพลังงานของรถทำงานได้อย่างฉลาด ไม่ส่งกำลังที่รุนแรงจนล้อฟรีทิ้ง ทำให้การขึ้นเนินเป็นไปอย่างนุ่มนวลและมั่นคง และในจังหวะลงเนินสูง ระบบ HDC (Hill Descent Control) หรือระบบควบคุมความเร็วของรถยนต์ขณะลงทางลาดชันอัตโนมัติ ก็ทำงานได้อย่างราบรื่นราวกับรถยนต์ยุโรปพรีเมียม ช่วยให้การลงเนินเป็นไปอย่างปลอดภัยและสบายใจ
เส้นทางขรุขระ: แม้ในเส้นทางที่เต็มไปด้วยหลุมบ่อและหินก้อนใหญ่ ช่วงล่างถุงลมก็ยังคงมอบความนุ่มนวลได้อย่างน่าประทับใจ แต่สิ่งที่ทำให้ผมประหลาดใจยิ่งกว่าคือพวงมาลัยที่นิ่งสนิท ไม่มีอาการสั่นหรือสะท้านมือให้เห็นเลย ซึ่งเป็นสิ่งที่หาได้ยากในรถยนต์ที่ต้องวิ่งผ่านทางขรุขระเช่นนี้
กล่าวโดยสรุปคือ ในด้าน การขับขี่ SUV ไฟฟ้า แบบออฟโรด ZEEKR 7X สอบผ่านอย่างงดงาม และเป็นจุดเด่นที่แทบจะไม่มีรถยนต์ไฟฟ้าคู่แข่งรายใดในตลาดสามารถทำได้ในเวลานี้
ประสิทธิภาพบนทางเรียบ: ความแรงที่มาพร้อมความนุ่มนวล
เมื่อกลับมาสู่การขับขี่บนทางเรียบ ZEEKR 7X ยังคงไม่ทำให้ผิดหวัง พละกำลังความแรงนั้นเป็นไปตามสเปกที่ระบุไว้ทุกประการ รุ่น Performance AWD มอบแรงดึงมหาศาลที่กดคุณจมเบาะได้ทันทีที่กดคันเร่ง พร้อมความนุ่มนวลของช่วงล่างถุงลมที่ดูดซับแรงกระแทกจากพื้นผิวถนนได้อย่างไร้ที่ติ ในขณะที่รุ่น Long Range RWD แม้จะมีพละกำลังน้อยกว่า แต่ก็ยังคงมอบแรงดึงที่เพียงพอต่อการใช้งานในชีวิตประจำวันอย่างสบายๆ ช่วงล่างของรุ่น RWD ก็ยังคงให้ความนุ่มนวลในระดับที่น่าพอใจ อาจจะรู้สึกเฟิร์มกว่ารุ่น Performance เล็กน้อย แต่ก็ยังคงความสบายในการเดินทางไกล
ระบบความปลอดภัยระดับโลก: มั่นใจในทุกเส้นทาง
ZEEKR 7X สร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม SEA (Sustainable Experience Architecture) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่ออกแบบมาเพื่อ ระบบความปลอดภัยรถยนต์ไฟฟ้า และประสิทธิภาพสูงสุดโดยเฉพาะ ความมุ่งมั่นด้านความปลอดภัยของ ZEEKR 7X ได้รับการรับรองด้วยมาตรฐาน Euro NCAP 5 ดาว โดยได้คะแนนสูงถึง 91% สำหรับการปกป้องผู้โดยสารผู้ใหญ่ และ 90% สำหรับการปกป้องผู้โดยสารเด็ก ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันถึงความใส่ใจในความปลอดภัยของผู้โดยสารทุกคนในครอบครัว
นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับระบบช่วยขับขี่ ZEEKR AD ที่ทำงานร่วมกับ Dual Mobileye Chips เพิ่มความแม่นยำและปลอดภัยในการขับขี่ โครงสร้างตัวรถแบบ Dome-Shaped และโครงสร้างตัวถังด้านหลังแบบ Single Piece Die-Cast แบบชิ้นเดียวไร้รอยต่อ ไม่เพียงเพิ่มความแข็งแกร่งและปลอดภัยในการชน แต่ยังช่วยลดน้ำหนักของตัวรถ ซึ่งส่งผลให้การใช้พลังงานมีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้นอีกด้วย
ZEEKR 7X ราคาและการรับประกัน: ความคุ้มค่าที่เหนือกว่า
ZEEKR ประเทศไทย ได้ประกาศราคาคาดการณ์สำหรับ ZEEKR 7X (นำเข้าแบบ CBU จากจีน) ดังนี้:
7X Long Range RWD: ช่วงราคา 1,700,000 บาท
7X Performance AWD: ช่วงราคาไม่เกิน 1,900,000 บาท
โดยราคาอย่างเป็นทางการจะเปิดตัวในวันที่ 15 สิงหาคม 2025 นี้ ซึ่งเมื่อพิจารณาจากฟีเจอร์ เทคโนโลยี และสมรรถนะที่ได้รับมา ผมมองว่า ZEEKR 7X ราคา นี้มีความน่าสนใจและแข่งขันได้สูงในตลาด รถ EV หรู และ SUV ไฟฟ้า ระดับพรีเมียม
ZEEKR ประเทศไทย ยังมอบความอุ่นใจให้กับลูกค้าด้วยการรับประกันคุณภาพตัวรถที่ครอบคลุม:
รับประกันคุณภาพตัวรถ (Warranty): 5 ปี หรือ 150,000 กม.
รับประกันแบตเตอรี่และมอเตอร์: 8 ปี หรือ 180,000 กม.
บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน: 8 ปี หรือ 180,000 กม.
การรับประกันที่ครอบคลุมเช่นนี้ ตอกย้ำถึงความมั่นใจในคุณภาพและ นวัตกรรมยานยนต์ ZEEKR ที่พร้อมตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในระยะยาว
บทสรุป: ZEEKR 7X ผู้บุกเบิกแห่งยุค
ZEEKR 7X ไม่ใช่แค่รถยนต์ไฟฟ้าอีกคันในตลาด แต่คือผู้บุกเบิกที่ redefining นิยามของ SUV ไฟฟ้า ด้วยการผสมผสานความหรูหราล้ำสมัย สมรรถนะที่เร้าใจ เทคโนโลยีที่ชาญฉลาด และเหนือสิ่งอื่นใดคือความสามารถในการลุยแบบออฟโรดที่เหนือความคาดหมาย ซึ่งเป็นจุดที่ รถยนต์ไฟฟ้าพลังงานสูง ส่วนใหญ่ยังไม่สามารถทำได้ ทำให้ ZEEKR 7X กลายเป็นตัวเลือกที่โดดเด่นอย่างแท้จริงสำหรับผู้ที่ต้องการรถยนต์ที่สามารถเป็นได้ทั้ง รถยนต์ไฟฟ้าอเนกประสงค์ สำหรับการใช้งานในเมือง และเพื่อนร่วมทางที่ไว้วางใจได้สำหรับการผจญภัยนอกเส้นทาง
หากคุณกำลังมองหา SUV ไฟฟ้า 2025 ที่ไม่เพียงตอบโจทย์ด้านการเดินทางอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน แต่ยังต้องการประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือระดับ พร้อมความท้าทายในการสำรวจเส้นทางใหม่ๆ ZEEKR 7X คือคำตอบที่สมบูรณ์แบบที่จะเติมเต็มทุกความต้องการของคุณ
อย่ารอช้าที่จะเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิวัติยานยนต์ไฟฟ้าครั้งนี้! สัมผัสประสบการณ์เหนือระดับด้วยตัวคุณเอง และค้นพบว่าทำไม ZEEKR 7X จึงเป็นมากกว่าแค่รถยนต์ไฟฟ้า แต่คืออนาคตของการเดินทางที่พร้อมลุยไปกับคุณในทุกเส้นทาง ติดตามข่าวสาร หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ZEEKR ประเทศไทย แล้วคุณจะพบว่าการผจญภัยครั้งใหม่กำลังรอคุณอยู่!
![[ครบชุด] 2211037 เจอเพื่อนเป็นพนักงานเสิร์ฟ กิตติ์ จำโบ้ซีรี่ย์](https://filmthailan.moicaucachep.com/wp-content/uploads/2025/11/image-33-1.png)
![[ครบชุด] 2211038 Facebook (45)](https://filmthailan.moicaucachep.com/wp-content/uploads/2025/11/image-34-1.png)