[ครบชุด] 2211045 Facebook (5)

ZEEKR 7X: นิยามใหม่ของ SUV ไฟฟ้าปี 2025 ที่ผสานความหรูหรา สมรรถนะ และการผจญภัยในหนึ่งเดียว

ในฐานะผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้ามานับทศวรรษ ผมได้เห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่จากยุคแรกเริ่มจนถึงปัจจุบันที่รถยนต์ไฟฟ้ากลายเป็นกระแสหลัก และในปี 2025 นี้ ตลาด SUV ไฟฟ้า กำลังจะถูกเขย่าอีกครั้งด้วยการมาถึงของ ZEEKR 7X ยานยนต์ที่ไม่ได้เป็นเพียงแค่พาหนะ แต่เป็นสัญลักษณ์ของนวัตกรรมที่กล้าท้าทายทุกข้อจำกัดที่เคยมีมาสำหรับรถยนต์ในกลุ่มนี้ ZEEKR 7X ไม่ใช่แค่รถยนต์ไฟฟ้าทั่วไป แต่คือผลลัพธ์ของการผสมผสานอย่างลงตัวระหว่างดีไซน์อันล้ำสมัย สมรรถนะสูง ระดับรถสปอร์ต เทคโนโลยี 800V อันก้าวหน้า ความสะดวกสบายระดับพรีเมียม และที่สำคัญที่สุดคือความสามารถในการพาคุณออกไป ลุย เส้นทางที่ไม่คุ้นเคยได้อย่างไม่น่าเชื่อ บทความนี้จะเจาะลึกทุกแง่มุมของ ZEEKR 7X เพื่อให้คุณเห็นภาพว่าทำไมรถคันนี้ถึงเป็นตัวเลือกที่น่าจับตามองที่สุดสำหรับอนาคต

การออกแบบที่สะกดทุกสายตา: ความหรูหราที่มาพร้อมวิสัยทัศน์แห่งอนาคต

สิ่งแรกที่ดึงดูดใจทันทีที่เห็น ZEEKR 7X คือภาษาการออกแบบที่โดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ มันคือการผสมผสานระหว่างความแข็งแกร่งของ SUV เข้ากับความพลิ้วไหวของเส้นสายแบบรถสปอร์ตซีดาน ทำให้ ZEEKR 7X มีรูปลักษณ์ที่สง่างามแต่แฝงไว้ด้วยความดุดัน สิ่งที่เตะตาที่สุดคือแผงไฟหน้า Stargate Front Light Panel ที่ไม่ได้เป็นเพียงแค่ระบบไฟส่องสว่าง แต่เป็นผืนผ้าใบดิจิทัลที่สามารถแสดงกราฟิกได้หลากหลายรูปแบบ สร้างมิติใหม่ให้กับการสื่อสารระหว่างรถกับผู้คน และเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่มีใครเหมือนบนท้องถนน

เมื่อพิจารณาในเชิงมิติ ZEEKR 7X ถูกออกแบบมาเพื่อความสมดุลที่ลงตัวสำหรับรถ SUV ไฟฟ้าขนาดกลาง ที่สามารถใช้งานได้หลากหลายมิติ ด้วยความยาว 4,787 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,930 มิลลิเมตร และความสูง 1,650 มิลลิเมตร ทำให้รถคันนี้มีมิติที่ใหญ่พอจะมอบพื้นที่ภายในที่กว้างขวาง แต่ยังคงความคล่องตัวในการขับขี่ในเมืองใหญ่ ระยะฐานล้อที่ยาวถึง 2,900 มิลลิเมตร ไม่เพียงแต่ทำให้ห้องโดยสารกว้างขวางเป็นพิเศษ แต่ยังช่วยให้การขับขี่มีความมั่นคงสูงในทุกย่านความเร็ว ความสูงจากพื้นถนน (Ground Clearance) ที่ 173 มิลลิเมตร นั้นเป็นค่าที่น่าสนใจ เพราะมันบ่งบอกถึงความสามารถในการใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างไร้กังวลบนสภาพถนนที่หลากหลายในประเทศไทย และเมื่อถึงเวลาผจญภัย ระบบช่วงล่างถุงลมยังพร้อมที่จะปรับเพิ่มความสูงได้อีก ซึ่งเราจะลงรายละเอียดในภายหลัง ส่วนพื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายขนาด 539 ลิตรที่สามารถขยายได้ถึง 1,978 ลิตรเมื่อพับเบาะหลัง พร้อมด้วย Frunk (ที่เก็บสัมภาระด้านหน้า) ขนาด 66 ลิตร ยิ่งตอกย้ำถึงความอเนกประสงค์ของ รถครอบครัวไฟฟ้า คันนี้

ขุมพลังไฟฟ้า 800V: สมรรถนะเหนือระดับสำหรับทุกการเดินทาง

ZEEKR 7X ไม่ได้เป็นเพียงแค่ SUV ไฟฟ้าพรีเมียม ที่ดูดี แต่ยังอัดแน่นด้วยหัวใจสำคัญของเทคโนโลยีแห่งอนาคต นั่นคือแพลตฟอร์ม 800V ที่เป็นมาตรฐานใหม่ของ รถยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะสูง เทคโนโลยี 800V ไม่เพียงแต่หมายถึงการชาร์จที่เร็วขึ้นอย่างก้าวกระโดด แต่ยังช่วยให้ระบบส่งกำลังมีประสิทธิภาพสูงขึ้น ลดการสูญเสียพลังงาน และทำให้การควบคุมมอเตอร์ไฟฟ้ามีความแม่นยำและเสถียรยิ่งขึ้น ZEEKR 7X นำเสนอทางเลือกของขุมพลัง 2 รูปแบบ เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของผู้ขับขี่:

รุ่น Long Range RWD: ประสิทธิภาพและระยะทางที่ไร้กังวล

สำหรับผู้ที่มองหา รถไฟฟ้าวิ่งไกล ที่ตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันและการเดินทางไกลได้อย่างมั่นใจ รุ่น Long Range RWD คือคำตอบที่สมบูรณ์แบบ ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 422 แรงม้า (PS) พร้อมแรงบิดมหาศาลถึง 440 นิวตันเมตร มอเตอร์ตัวเดียวนี้ถูกติดตั้งที่เพลาหลัง มอบการขับขี่แบบ RWD (Rear-Wheel Drive) ที่ให้ความรู้สึกเร้าใจตามแบบฉบับรถยนต์สมรรถนะสูง

แบตเตอรี่ Lithium-ion (NMC) ขนาดความจุ 100 kWh ที่รองรับเทคโนโลยี 800V เป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้ ZEEKR 7X รุ่นนี้สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ได้ภายในเวลาเพียง 6.0 วินาที ซึ่งถือว่าเร็วมากสำหรับ รถยนต์อเนกประสงค์พลังงานไฟฟ้า และที่น่าประทับใจยิ่งกว่าคือระยะทางวิ่งสูงสุดที่เคลมไว้มากกว่า 700 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC (ซึ่งในการใช้งานจริงอาจแตกต่างกันเล็กน้อย แต่ก็ยังคงเป็นระยะทางที่น่าพอใจอย่างยิ่ง) ความเร็วสูงสุด 210 กม./ชม. ก็บ่งบอกถึงพละกำลังที่ไม่เป็นรองใครบนทางหลวง

ช่วงล่างอิสระแบบ Double Wishbone ที่ด้านหน้า และ Multi-Link ที่ด้านหลัง ทำงานร่วมกันเพื่อให้การขับขี่ที่นุ่มนวล มั่นคง และควบคุมได้ง่ายบนทุกสภาพถนน ล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว พร้อมยางขนาด 255/50 R19 ก็ถูกเลือกสรรมาอย่างดีเพื่อให้การยึดเกาะถนนที่ดีเยี่ยมและเพิ่มความสบายในการเดินทาง

รุ่น Performance AWD: สุดยอดความเร้าใจไร้ขีดจำกัด

สำหรับผู้ที่หลงใหลในความเร็วและต้องการ รถยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะสูงที่สุด รุ่น Performance AWD คือคำตอบที่แท้จริง ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าถึง 2 ตัว มอบพละกำลังรวมสูงสุดถึง 646 แรงม้า (PS) และแรงบิดมหาศาลถึง 710 นิวตันเมตร ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ AWD (All-Wheel Drive) ที่ชาญฉลาดช่วยให้การถ่ายทอดพละกำลังลงสู่พื้นเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ทำให้ ZEEKR 7X รุ่นนี้ทะยานจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลาอันน่าทึ่งเพียง 3.8 วินาที ซึ่งเป็นตัวเลขที่สามารถท้าชนรถสปอร์ตซูเปอร์คาร์หลายๆ รุ่นได้เลยทีเดียว

แบตเตอรี่ Lithium-ion (NMC) ขนาดความจุ 100 kWh เช่นเดียวกับรุ่น RWD ยังคงเป็นขุมพลังหลัก แต่ด้วยพละกำลังที่เพิ่มขึ้น ทำให้ระยะทางวิ่งสูงสุดตามมาตรฐาน NEDC อยู่ที่มากกว่า 600 กิโลเมตร ซึ่งยังคงเป็นระยะทางที่เพียงพอต่อการใช้งานและการเดินทางไกลได้อย่างสะดวกสบาย ความเร็วสูงสุดยังคงถูกจำกัดไว้ที่ 210 กม./ชม. เพื่อความสมดุลด้านประสิทธิภาพและความปลอดภัย

สำหรับรุ่น Performance AWD ยังมาพร้อมกับอุปกรณ์ที่อัปเกรดเพื่อรองรับสมรรถนะที่เหนือกว่า อาทิ ล้อ Forged ขนาด 21 นิ้ว พร้อมยางขนาด 265/40 R21 ที่ให้การยึดเกาะถนนที่ดีเยี่ยม และระบบเบรกดิสก์เบรก 4-pot พร้อมคาลิปเปอร์เบรก Akebono สีส้ม ที่ไม่เพียงแต่เพิ่มประสิทธิภาพในการหยุดรถได้อย่างมั่นใจ แต่ยังเป็นอีกหนึ่งรายละเอียดที่บ่งบอกถึงความพิเศษของรุ่นนี้

ปฏิวัติการชาร์จ: ประสบการณ์ที่รวดเร็วและไร้รอยต่อ

หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้ รถยนต์ไฟฟ้าปี 2025 มีความน่าสนใจมากขึ้นคือ เทคโนโลยีการชาร์จที่รวดเร็ว และ ZEEKR 7X ได้ก้าวข้ามขีดจำกัดไปอีกขั้นด้วยการรองรับการชาร์จกระแสตรง (DC Fast Charging) ที่กำลังไฟสูงสุดถึง 420 kW ซึ่งเป็นหนึ่งในรถยนต์ไม่กี่รุ่นในตลาดที่สามารถทำได้ ด้วยความสามารถนี้ ทำให้การชาร์จแบตเตอรี่จาก 10% ไปยัง 80% ใช้เวลาเพียง 13-16 นาที เมื่อชาร์จด้วยสถานีชาร์จกำลังไฟ 360 kW ซึ่งหมายความว่าการแวะชาร์จระหว่างการเดินทางไกลจะไม่ใช่เรื่องน่ากังวลอีกต่อไป คุณสามารถแวะพัก ดื่มกาแฟ และรถก็พร้อมเดินทางต่อได้อย่างรวดเร็ว

นอกจากนี้ ZEEKR 7X ยังรองรับการชาร์จกระแสสลับ (AC Charging) สูงสุด 22 kW ทำให้การชาร์จที่บ้านหรือที่ทำงานเป็นไปอย่างสะดวกสบายและรวดเร็วสำหรับชาร์จข้ามคืน หรือช่วงที่จอดทิ้งไว้นานๆ โดยรองรับหัวชาร์จ Type 2 / CCS Combo ที่เป็นมาตรฐานสากล

และอีกหนึ่งฟังก์ชันที่เพิ่มความอเนกประสงค์ให้กับ ZEEKR 7X คือระบบจ่ายกระแสไฟฟ้าให้อุปกรณ์ภายนอก V2L (Vehicle-to-Load) สูงสุด 3.3 kW (3,300 watts) ทำให้รถของคุณกลายเป็นแหล่งพลังงานเคลื่อนที่ได้ ไม่ว่าจะเป็นการจ่ายไฟให้เครื่องมือไฟฟ้าในไซต์งาน จัดปาร์ตี้กลางแจ้ง หรือแม้กระทั่งเป็นแหล่งพลังงานสำรองยามฉุกเฉิน นี่คือคุณสมบัติที่ตอกย้ำว่า ZEEKR 7X คือมากกว่าแค่ รถยนต์ไฟฟ้า แต่คือพาร์ทเนอร์ที่พร้อมตอบรับทุกไลฟ์สไตล์

ZEEKR 7X: SUV ไฟฟ้าคันแรกที่กล้าลุย (ในแบบที่ EV ควรจะเป็น)

นี่คือจุดเด่นที่ทำให้ ZEEKR 7X แตกต่างจาก รถยนต์ไฟฟ้า รุ่นอื่นๆ ในตลาดอย่างชัดเจน ในขณะที่ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าส่วนใหญ่มักเน้นสมรรถนะบนทางเรียบ ZEEKR 7X กลับกล้าที่จะนำเสนอความสามารถในการ ลุยออฟโรด ได้เล็กน้อย ซึ่งจากประสบการณ์การทดสอบของผม ต้องบอกว่า “เล็กน้อย” นี้มีความหมายมากกว่าที่คิด

หัวใจสำคัญที่ทำให้ ZEEKR 7X สามารถทำเช่นนั้นได้คือ ช่วงล่างถุงลม Active Air Suspension with CCD ระบบนี้มีความสามารถในการปรับความสูงของตัวรถได้อัตโนมัติ ในโหมดออฟโรด ตัวรถสามารถยกสูงขึ้นได้อีก 230 มิลลิเมตร (รวมกับระยะ Ground Clearance ปกติ 173 มม.) เพื่อหลีกเลี่ยงอุปสรรคบนเส้นทางขรุขระ นอกจากนี้ ระบบช่วงล่างถุงลมยังช่วยให้การขับขี่นุ่มนวลอย่างน่าเหลือเชื่อบนเส้นทางที่ไม่ราบเรียบ ลดแรงกระแทกและแรงสะเทือนที่ส่งมาถึงห้องโดยสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ

จากการทดสอบในสนามออฟโรดที่จำลองสถานการณ์ต่างๆ ZEEKR 7X ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงศักยภาพที่เหนือความคาดหมาย
เนินสลับ (Articulation Test): เมื่อล้อข้างใดข้างหนึ่งลอยจากพื้น ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ AWD ของรุ่น Performance สามารถถ่ายเทกำลังไปยังล้อที่ยังคงยึดเกาะกับพื้นได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ทำให้รถเคลื่อนตัวผ่านอุปสรรคไปได้อย่างง่ายดาย โดยที่ตัวรถมีการโคลงตัวเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แสดงให้เห็นถึงการให้ตัวของช่วงล่างที่ดีเยี่ยม
ทางลาดชัน: ด้วยพละกำลังและแรงบิดมหาศาลจากมอเตอร์ไฟฟ้า ทำให้การไต่ขึ้นเนินชันเป็นเรื่องง่ายดาย และที่สำคัญคือระบบการจัดการพลังงานที่ยอดเยี่ยม เมื่อหยุดกลางเนินแล้วออกตัว รถจะส่งกำลังอย่างนุ่มนวล ไม่รุนแรงจนล้อฟรีทิ้ง ส่วนการลงเนินสูง ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชันอัตโนมัติ (HDC – Hill Descent Control) ทำงานได้อย่างราบรื่นและแม่นยำ เทียบเท่ารถยุโรประดับพรีเมียม ช่วยให้ผู้ขับขี่มั่นใจได้ในทุกสถานการณ์
เส้นทางขรุขระ: ในการวิ่งผ่านเส้นทางที่เต็มไปด้วยหลุมบ่อและหิน ด้วยช่วงล่างถุงลมทำให้การเดินทางเป็นไปอย่างนุ่มนวล แต่สิ่งที่น่าประหลาดใจคือพวงมาลัยที่ยังคงนิ่งสนิท ไม่มีอาการสั่นหรือตีมือแม้แต่น้อย ซึ่งเป็นสิ่งที่หาได้ยากในรถยนต์ที่เน้นสมรรถนะบนทางเรียบ ทำให้ ZEEKR 7X สอบผ่านการทดสอบออฟโรดได้อย่างน่าทึ่ง

ดังนั้น ZEEKR 7X จึงไม่ใช่แค่ รถยนต์ไฟฟ้าสำหรับใช้ในเมือง เท่านั้น แต่ยังเป็นพาหนะที่พร้อมพาคุณออกไปผจญภัยในโลกกว้างได้อย่างมั่นใจ ไม่ว่าจะไปตั้งแคมป์ริมลำธาร หรือขับรถชมวิวบนเส้นทางธรรมชาติที่ท้าทาย

ภายในที่เหนือระดับ: ห้องโดยสารพรีเมียมที่หรูหราและชาญฉลาด

ก้าวเข้าสู่ห้องโดยสารของ ZEEKR 7X คุณจะพบกับอาณาจักรแห่งความหรูหราและเทคโนโลยีที่ได้รับการออกแบบมาอย่างพิถีพิถันทุกรายละเอียด การออกแบบที่คำนึงถึงหลักสรีรศาสตร์และสุนทรียภาพ ทำให้ทุกการเดินทางกลายเป็นประสบการณ์ที่น่าประทับใจ

ความสะดวกสบายระดับเฟิร์สคลาส: เบาะนั่งหุ้มด้วยหนัง Nappa Leather คุณภาพสูง ไม่เพียงแต่มอบความนุ่มสบายในการสัมผัส แต่ยังสะท้อนถึงรสนิยมอันประณีตของเจ้าของรถ เบาะคู่หน้ามาพร้อมระบบนวดและเป่าลม (Ventilation) ที่ช่วยลดความเมื่อยล้าและเพิ่มความสดชื่นในการเดินทางไกลได้อย่างดีเยี่ยม ส่วนเบาะหลังสามารถปรับเอนด้วยระบบไฟฟ้า ทำให้ผู้โดยสารด้านหลังสามารถปรับท่านั่งให้เหมาะกับการพักผ่อน ชมภาพยนตร์ หรือแม้แต่ทำงานได้อย่างสะดวกสบาย พร้อมด้วยม่านบังแดดประตูคู่หลังที่เปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า ช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวและลดแสงแดดที่รบกวน

ระบบสารสนเทศและความบันเทิงที่ไร้ขีดจำกัด: ZEEKR 7X ยกระดับประสบการณ์ดิจิทัลไปอีกขั้นด้วยชุดจอแสดงผลอัจฉริยะ:
หน้าจอกลาง Mini LED ขนาด 16 นิ้ว ความละเอียด 3.5K: มอบภาพที่คมชัด สีสันสดใส และรายละเอียดที่แม่นยำ ไม่ว่าจะเป็นการนำทาง การเข้าถึงแอปพลิเคชัน หรือการรับชมสื่อบันเทิง
หน้าจอ AR HUD ขนาด 36.21 นิ้ว: ฉายข้อมูลสำคัญต่างๆ เช่น ความเร็ว ทิศทาง หรือข้อมูลจากระบบช่วยเหลือการขับขี่ขึ้นบนกระจกหน้ารถโดยตรง ทำให้ผู้ขับขี่ไม่จำเป็นต้องละสายตาจากถนน เพิ่มความปลอดภัยและความสะดวกสบาย
หน้าจอ Cluster ขนาด 13.02 นิ้ว: แสดงข้อมูลการขับขี่ทั้งหมดในรูปแบบที่อ่านง่ายและสวยงาม
ขุมพลังประมวลผล Qualcomm Snapdragon 8295 Processor (5nm Process Technology): ชิปประมวลผลระดับเรือธงนี้คือสมองที่อยู่เบื้องหลังการทำงานที่ลื่นไหล รวดเร็ว และตอบสนองฉับไวของระบบอินโฟเทนเมนต์ ทำให้ทุกคำสั่งเป็นไปอย่างราบรื่น ไม่มีสะดุด และยังรองรับการอัปเดตซอฟต์แวร์แบบ Over-the-Air (OTA) ในอนาคต

ประสบการณ์เสียงระดับสตูดิโอ: ZEEKR Sound Pro พร้อมลำโพงคุณภาพสูง 21 ตำแหน่งรอบคัน มอบมิติเสียงรอบทิศทางที่ดื่มด่ำ เสมือนมีโรงภาพยนตร์เคลื่อนที่ส่วนตัว ไม่ว่าจะเป็นเพลงโปรดหรือพอดแคสต์ การเดินทางของคุณจะเต็มไปด้วยสุนทรียภาพทางเสียงที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน

ความปลอดภัย: หัวใจสำคัญของ ZEEKR 7X

ZEEKR 7X ถูกสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม SEA (Sustainable Experience Architecture) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่ออกแบบมาโดยคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นอันดับแรก โครงสร้างตัวถังที่แข็งแกร่งและนวัตกรรมด้านความปลอดภัยทำให้ ZEEKR 7X ได้รับการรับรองมาตรฐาน Euro NCAP 5 ดาว ด้วยคะแนนที่น่าประทับใจถึง 91% สำหรับการปกป้องผู้โดยสารผู้ใหญ่ และ 90% สำหรับการปกป้องผู้โดยสารเด็ก ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันถึงความมุ่งมั่นในการปกป้องทุกคนในครอบครัว

นอกจากนี้ ZEEKR 7X ยังติดตั้ง ระบบช่วยขับขี่ ZEEKR AD ที่ทำงานร่วมกับชิป Dual Mobileye Chips อันทรงพลัง เพิ่มความแม่นยำในการตรวจจับและประมวลผลข้อมูลรอบคัน ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุได้อย่างมีนัยสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบปรับได้ ระบบช่วยรักษาช่องทางเดินรถ หรือระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ ทุกฟังก์ชันทำงานร่วมกันเพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับการเดินทาง โครงสร้างตัวรถแบบ Dome-Shaped และโครงสร้างตัวถังด้านหลังแบบ Single Piece Die-Cast แบบชิ้นเดียวไร้รอยต่อ ยังช่วยเพิ่มความแข็งแรงของโครงสร้างและลดน้ำหนัก ทำให้ประสิทธิภาพการใช้พลังงานดียิ่งขึ้น

การเป็นเจ้าของ ZEEKR 7X: คุ้มค่าและไร้กังวลในปี 2025

สำหรับผู้ที่กำลังพิจารณา ราคา EV 2025 ZEEKR 7X คาดการณ์ราคาโดย ZEEKR ประเทศไทย (นำเข้าแบบ CBU จากจีน) ไว้ดังนี้:
7X Long Range RWD: ช่วงราคา 1,700,000 บาท
7X Performance AWD: ช่วงราคาไม่เกิน 1,900,000 บาท

ราคาอย่างเป็นทางการจะประกาศในไทยในวันที่ 15 สิงหาคม 2025 นี้ ซึ่งเมื่อพิจารณาจากเทคโนโลยี สมรรถนะ และฟีเจอร์ระดับพรีเมียมที่ได้รับ ถือว่า ZEEKR 7X มอบ ความคุ้มค่า ที่โดดเด่นในตลาด รถยนต์ไฟฟ้า

นอกจากนี้ ZEEKR ประเทศไทย ยังมอบการรับประกันที่ครอบคลุม เพื่อให้คุณมั่นใจในการเป็นเจ้าของ:
รับประกันคุณภาพตัวรถ (Warranty): นาน 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร
รับประกันแบตเตอรี่และมอเตอร์: นาน 8 ปี หรือ 180,000 กิโลเมตร
บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน: นาน 8 ปี หรือ 180,000 กิโลเมตร

การรับประกันที่ยาวนานและครอบคลุมนี้ตอกย้ำถึงความมั่นใจในคุณภาพของผลิตภัณฑ์ และช่วยลดความกังวลในการบำรุงรักษา รถยนต์ไฟฟ้า ในระยะยาว

สรุปและบทเชิญชวน

ZEEKR 7X คือปรากฏการณ์ใหม่ในตลาด SUV ไฟฟ้า 2025 ที่ยากจะหาใครเทียบได้ มันคือการหลอมรวมสุดยอดวิศวกรรม ความหรูหรา และสมรรถนะเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว ตอบโจทย์ทั้งผู้ที่ต้องการ รถยนต์ไฟฟ้า ที่ขับขี่ได้สนุกเร้าใจบนทางเรียบ และผู้ที่ต้องการออกไปผจญภัยในเส้นทางที่ท้าทายได้อย่างมั่นใจ ด้วย เทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้าล่าสุด และฟังก์ชันอำนวยความสะดวกสบายที่จัดเต็ม ZEEKR 7X ไม่ใช่แค่การเดินทาง แต่คือการยกระดับประสบการณ์ชีวิต

ไม่ว่าคุณจะเป็นนักธุรกิจที่ต้องการความสะดวกสบายระดับผู้บริหารในชีวิตประจำวัน ผู้ที่ชื่นชอบความเร็วและสมรรถนะระดับสูง หรือครอบครัวที่มองหา รถครอบครัวไฟฟ้า ที่ปลอดภัยและพร้อมสำหรับการผจญภัย ZEEKR 7X พร้อมที่จะเป็นคำตอบที่สมบูรณ์แบบของคุณ

อย่ารอช้าที่จะเป็นส่วนหนึ่งของอนาคต! สัมผัสประสบการณ์การขับขี่อันล้ำเลิศที่ ZEEKR 7X มอบให้ด้วยตัวคุณเอง เชิญเข้าร่วมงานเปิดตัวอย่างเป็นทางการและทดลองขับ ZEEKR 7X ได้ที่ผู้จำหน่าย ZEEKR ทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 15 สิงหาคม 2025 เป็นต้นไป เตรียมพร้อมสำหรับยุคใหม่แห่งการเดินทางที่ผสานความหรูหรา สมรรถนะ และความอิสระได้อย่างไร้ขีดจำกัด!