[ครบชุด] 2211046 Facebook (47)

พลิกโฉม SUV ไฟฟ้าปี 2025: ZEEKR 7X ยนตรกรรมแห่งอนาคตที่พร้อมลุยทุกเส้นทาง

ในฐานะผู้เชี่ยวชาญในวงการยานยนต์ไฟฟ้ามานานกว่าทศวรรษ ผมได้เฝ้าสังเกตวิวัฒนาการของรถ EV ที่ก้าวข้ามข้อจำกัดเดิมๆ และในปี 2025 นี้เอง เรากำลังจะได้พบกับการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ โดยเฉพาะในเซกเมนต์ SUV ไฟฟ้า ที่กำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดด และหนึ่งในผู้เล่นที่น่าจับตาที่สุดคือ ZEEKR 7X ซึ่งไม่ใช่แค่รถยนต์ไฟฟ้าธรรมดา แต่เป็นนิยามใหม่ของความหรูหรา สมรรถนะ และความอเนกประสงค์ ที่พร้อมจะเข้ามาเขย่าตลาด รถ EV ในประเทศไทย ให้ตื่นตัวอีกครั้ง ด้วยการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างเทคโนโลยีล้ำสมัย การออกแบบที่โดดเด่น และความสามารถในการขับขี่ที่เหนือความคาดหมาย ZEEKR 7X จึงเป็นมากกว่าพาหนะ แต่คือสัญลักษณ์แห่งการเดินทางยุคใหม่ ที่ตอบโจทย์ทั้งชีวิตในเมืองและการผจญภัยในโลกกว้าง

ZEEKR 7X ได้รับการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในฐานะ รถยนต์ไฟฟ้า SUV 5 ที่นั่ง ที่ไม่เพียงแต่โดดเด่นด้วยพละกำลังอันมหาศาล แต่ยังมาพร้อมความสามารถในการลุยแบบออฟโรดได้ในระดับที่น่าทึ่ง ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่หาได้ยากยิ่งในตลาด รถยนต์ไฟฟ้าหรู ปัจจุบัน สำหรับนักขับที่กำลังมองหา รถครอบครัวไฟฟ้า ที่ไม่ทิ้งความตื่นเต้นและศักยภาพในการสำรวจ ZEEKR 7X คือคำตอบที่ใช่ที่สุด ด้วยรูปลักษณ์ที่หลายคนมองว่าเป็น SUV ที่หรูหรา ผสมผสานกับเทคโนโลยีที่ใส่มาแบบจัดเต็ม ทำให้ ZEEKR 7X กลายเป็นตัวเลือกที่เหนือกว่ามาตรฐานทั่วไป และจะเปิดราคาอย่างเป็นทางการในประเทศไทยในวันที่ 15 สิงหาคม 2025 นี้ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นสำหรับผู้ที่กำลังพิจารณา การซื้อรถยนต์ไฟฟ้า รุ่นใหม่

กำหนดทิศทางราคาและแพ็กเกจการดูแลที่ไม่เป็นรองใคร

สำหรับผู้ที่กังวลเรื่องราคาและบริการหลังการขาย ZEEKR ประเทศไทย ได้เตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่เพื่อให้ ZEEKR 7X เป็นเจ้าของได้ไม่ยาก และมั่นใจได้ในระยะยาว คาดการณ์ราคาโดย ZEEKR ประเทศไทย สำหรับรุ่นนำเข้า CBU จากจีน จะอยู่ในช่วงที่แข่งขันได้และคุ้มค่าอย่างยิ่ง โดยมี 2 รุ่นย่อยให้เลือก:

7X Long Range RWD: คาดการณ์ช่วงราคาประมาณ 1,700,000 บาท
7X Performance AWD: คาดการณ์ช่วงราคาไม่เกิน 1,900,000 บาท

นอกจากราคาที่น่าสนใจแล้ว แผนการรับประกันคุณภาพตัวรถและบริการช่วยเหลือยังเป็นจุดแข็งสำคัญที่ตอกย้ำความมุ่งมั่นของ ZEEKR ในการมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดแก่ลูกค้า:

รับประกันคุณภาพตัวรถ (Warranty): นาน 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร (แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน)
รับประกันแบตเตอรี่ และ มอเตอร์: นาน 8 ปี หรือ 180,000 กิโลเมตร (แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน) – นี่คือการรับประกันที่มอบความอุ่นใจสูงสุดสำหรับหัวใจหลักของ รถ EV
บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน: นาน 8 ปี หรือ 180,000 กิโลเมตร (แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน) – การันตีว่าทุกการเดินทางของคุณจะราบรื่นไร้กังวล

มิติใหม่แห่งการออกแบบและความลงตัว

ในฐานะผู้เชี่ยวชาญ ผมมองว่ามิติตัวถังของ ZEEKR 7X ได้รับการออกแบบมาอย่างชาญฉลาด เพื่อให้ได้สมดุลที่สมบูรณ์แบบทั้งในด้านความสวยงาม ประโยชน์ใช้สอย และความคล่องตัว การมีขนาด: ยาว 4,787 มิลลิเมตร, กว้าง 1,930 มิลลิเมตร, สูง 1,650 มิลลิเมตร และระยะฐานล้อ 2,900 มิลลิเมตร ทำให้รถคันนี้ดูบึกบึน แต่ยังคงความปราดเปรียว อีกทั้งยังมอบพื้นที่ภายในที่กว้างขวางและสะดวกสบายสำหรับผู้โดยสารทุกคน ด้วยระยะต่ำสุดถึงพื้น (ground clearance) ที่ 173 มิลลิเมตร ซึ่งสามารถเพิ่มขึ้นได้อีกด้วยระบบช่วงล่างถุงลม ZEEKR 7X จึงพร้อมเผชิญกับสภาพถนนที่ท้าทายได้อย่างมั่นใจ

พื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายขนาด 539 ลิตร ซึ่งสามารถขยายได้ถึง 1,978 ลิตร เมื่อพับเบาะหลังลง เป็นตัวเลขที่น่าประทับใจสำหรับ รถ EV ในกลุ่มนี้ ตอบสนองความต้องการของครอบครัวและนักเดินทางที่ต้องการพื้นที่บรรทุกสัมภาระจำนวนมาก นอกจากนี้ ยังมีพื้นที่เก็บสัมภาระด้านหน้า (Frunk) ขนาด 66 ลิตร ซึ่งเป็นอีกหนึ่งความได้เปรียบของ รถยนต์ไฟฟ้า ที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการจัดเก็บของใช้จุกจิก หรือสายชาร์จได้อย่างเป็นระเบียบ

ขุมพลังไฟฟ้า 800V: สมรรถนะเหนือระดับและประสิทธิภาพสูงสุด

หัวใจสำคัญที่ทำให้ ZEEKR 7X โดดเด่นเหนือกว่า รถยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะสูง ทั่วไป คือการเลือกใช้แพลตฟอร์ม 800V Technology Lithium-ion (NMC) ซึ่งเป็นเทคโนโลยี แบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า ล่าสุดที่ช่วยให้การชาร์จไฟรวดเร็วขึ้นอย่างมหาศาล และยังเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบขับเคลื่อน นี่คือหนึ่งใน นวัตกรรมรถยนต์ไฟฟ้า ที่สำคัญที่สุดที่กำลังจะกลายเป็นมาตรฐานในอนาคต

รุ่น Long Range RWD:
มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า 1 ตัว ขับเคลื่อนล้อหลัง (RWD) ให้พละกำลังสูงสุด 422 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 440 นิวตันเมตร
แบตเตอรี่ความจุ 100 kWh
อัตราเร่ง 0-100 km/h ภายใน 6.0 วินาที – เพียงพอต่อการใช้งานในชีวิตประจำวันและมอบความสนุกในการขับขี่ที่น่าประทับใจ
ความเร็วสูงสุด 210 km/h
ระยะทางวิ่งมากกว่า 700 km. (มาตรฐาน NEDC) – นี่คือ ระยะทางวิ่งรถยนต์ไฟฟ้า ที่น่าอิจฉา ทำให้การเดินทางไกลเป็นเรื่องง่ายและไร้กังวล
ช่วงล่างด้านหน้าอิสระ Double Wishbone และด้านหลังอิสระ Multi-Link พร้อมล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว ยางขนาด 255/50 R19 ที่ให้ความสมดุลระหว่างความนุ่มนวลและการยึดเกาะ

รุ่น Performance AWD:
สำหรับผู้ที่ต้องการสุดยอดสมรรถนะ รุ่นนี้มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ขับเคลื่อนสี่ล้อ (AWD) ให้พละกำลังสูงสุด 646 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 710 นิวตันเมตร
แบตเตอรี่ความจุ 100 kWh
อัตราเร่ง 0-100 km/h ภายใน 3.8 วินาที – ตัวเลขที่บ่งบอกถึงพละกำลังดิบๆ ที่พร้อมจะพาคุณพุ่งทะยานไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว เป็น รถไฟฟ้าสมรรถนะสูง ที่แท้จริง
ความเร็วสูงสุด 210 km/h
ระยะทางวิ่งมากกว่า 600 km. (มาตรฐาน NEDC) – ยังคงเป็น รถ EV ระยะไกล ที่น่าประทับใจ แม้จะมีพละกำลังที่สูงกว่า

ทั้งสองรุ่นรองรับหัวชาร์จ Type 2 / CCS Combo พร้อมระบบการชาร์จที่ล้ำยุค:
กระแสสลับ AC รองรับสูงสุด 22 kW
กระแสตรง DC Fast Charging รองรับสูงสุด 420 kW – นี่คือความเร็วระดับซูเปอร์คาร์!
การชาร์จ DC 360 kW จาก 10-80% ภายในเวลาเพียง 13-16 นาที – ทำให้การแวะชาร์จเป็นเพียงช่วงเวลาสั้นๆ คล้ายกับการแวะพักดื่มกาแฟ
ระบบจ่ายกระแสไฟฟ้าให้อุปกรณ์ภายนอก V2L สูงสุด 3.3 kW (3,300 วัตต์) – เปลี่ยนรถของคุณให้เป็นแหล่งพลังงานเคลื่อนที่ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์กิจกรรมกลางแจ้ง หรือเป็นพลังงานสำรองในยามฉุกเฉิน

ประสบการณ์การขับขี่: พิสูจน์แล้วว่าเหนือชั้นทั้งทางเรียบและทางลุย

ในฐานะผู้ที่มีประสบการณ์ในการทดสอบยานยนต์มาอย่างยาวนาน ผมยอมรับว่าก่อนการทดสอบ ZEEKR 7X ในรูปแบบออฟโรดนั้น ผมไม่ได้คาดหวังอะไรมากนัก เพราะ รถ EV ออฟโรด ถือเป็นของใหม่ที่ยังไม่ค่อยมีใครทำได้ดีจริง แต่ ZEEKR 7X ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงศักยภาพที่เหนือความคาดหมายอย่างสิ้นเชิง ทีมงาน ZEEKR ได้จัดให้มีการทดสอบที่เขาใหญ่ เพื่อให้สื่อมวลชนและผู้เชี่ยวชาญได้สัมผัสถึงประสิทธิภาพของรถอย่างเต็มที่ และจุดไฮไลท์สำคัญที่ทำให้ทุกคนต้องทึ่งคือการทดสอบแบบออฟโรด

ในสนามทดสอบที่จำลองสถานการณ์ต่างๆ ZEEKR 7X ได้เผยให้เห็นถึงความอัจฉริยะของ ช่วงล่างถุงลม (Active Air Suspension with CCD) เมื่อเข้าสู่โหมดออฟโรด ระยะความสูงจากพื้นจะเพิ่มขึ้นอัตโนมัติถึง 230 มิลลิเมตร ทำให้รถสามารถผ่านอุปสรรคได้อย่างง่ายดาย ในสถานีเนินสลับ ล้อที่ลอยออกจากพื้นไม่ได้เป็นอุปสรรค เพราะระบบสามารถถ่ายเทกำลังไปยังล้อที่ยังคงยึดเกาะพื้นได้อย่างแม่นยำ ทำให้รถเคลื่อนตัวไปได้อย่างต่อเนื่อง สิ่งที่น่าประทับใจคือ การให้ตัวของช่วงล่างที่ยอดเยี่ยม ตัวรถโคลงเคลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แสดงให้เห็นถึงการออกแบบทางวิศวกรรมที่คำนึงถึงความสบายของผู้โดยสาร แม้ในสภาพถนนที่สมบุกสมบันที่สุด

เมื่อเข้าสู่เนินชัน ZEEKR 7X ก็ใช้พละกำลังอันมหาศาลส่งให้รถไต่ขึ้นไปได้อย่างง่ายดาย และที่สำคัญคือในจังหวะที่หยุดกลางเนินแล้วออกตัวใหม่ ระบบจัดการพลังงานทำงานได้อย่างละมุน ไม่ส่งกำลังออกมารุนแรงจนเกินไป ทำให้ล้อไม่ฟรีทิ้ง ซึ่งเป็นปัญหาทั่วไปของรถที่มีแรงม้าสูง ส่วนในจังหวะลงเนินสูง ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชันอัตโนมัติ (HDC) ก็ทำงานได้อย่างราบรื่นและแม่นยำ มอบความมั่นใจและปลอดภัยเสมือนขับรถยุโรปหรู ทำให้ผู้ขับขี่สามารถลงเนินได้อย่างสบายใจไร้กังวล

การวิ่งผ่านเส้นทางขรุขระด้วย ช่วงล่างถุงลม ให้ความนุ่มนวลอย่างน่าเหลือเชื่อ แต่สิ่งที่น่าประทับใจยิ่งกว่าคือพวงมาลัยที่นิ่งสนิท ไม่มีอาการสั่นสะเทือนหรือตีมือแม้แต่น้อยเวลาวิ่งผ่านทางที่เต็มไปด้วยหลุมบ่อ ซึ่งต้องยอมรับเลยว่าในเรื่อง รถ EV ออฟโรด ZEEKR 7X สอบผ่านได้อย่างยอดเยี่ยมเกินความคาดหมาย

สำหรับทางเรียบ ZEEKR 7X ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง พละกำลังตามที่ระบุในคู่มือถูกถ่ายทอดออกมาอย่างเต็มเปี่ยม แรงดึงมหาศาล โดยเฉพาะในรุ่น Performance AWD ที่มาพร้อมความนุ่มนวลและความแม่นยำในการควบคุม ส่วนในรุ่น Long Range RWD ก็มีแรงดึงที่ทำได้ดีไม่แพ้กัน เพียงพอต่อการใช้งานในทุกสถานการณ์ ช่วงล่างของรุ่น Performance ให้ความนุ่มนวลที่โดดเด่น ในขณะที่รุ่น Long Range ก็ยังคงความสบายในการขับขี่ อาจจะรู้สึกกระด้างกว่า Performance เล็กน้อย แต่ก็ยังอยู่ในระดับที่น่าพอใจสำหรับ SUV ไฟฟ้า ที่มีสมรรถนะสูง

ห้องโดยสารพรีเมียม: นวัตกรรมที่หลอมรวมความหรูหราและความสะดวกสบาย

ก้าวเข้าสู่ห้องโดยสารของ ZEEKR 7X คุณจะสัมผัสได้ทันทีถึงความใส่ใจในรายละเอียดและการออกแบบที่มุ่งเน้นความหรูหราและความสะดวกสบายสูงสุด นี่คือพื้นที่แห่งการผ่อนคลายขั้นสูงที่ออกแบบมาเพื่อมอบประสบการณ์ที่เหนือระดับในทุกการเดินทาง เบาะนั่งหุ้มด้วยหนัง Nappa Leather ที่ขึ้นชื่อเรื่องความนุ่มนวลและสัมผัสอันหรูหรา ไม่เพียงแต่ให้ความสบายในการนั่ง แต่ยังสะท้อนรสนิยมระดับสูงของเจ้าของรถได้อย่างชัดเจน ระบบนวดและเป่าลมในเบาะคู่หน้าจะช่วยคลายความเมื่อยล้าหลังจากวันทำงานที่หนักหน่วง ทำให้การขับรถระยะไกลไม่ใช่ภาระ แต่กลายเป็นช่วงเวลาแห่งการฟื้นฟูพลังงานและผ่อนคลาย

เบาะหลังที่ปรับเอนด้วยระบบไฟฟ้าช่วยให้ผู้โดยสารสามารถปรับองศาการนั่งให้เหมาะกับกิจกรรมต่างๆ ได้อย่างอิสระ ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน การพักผ่อน หรือการชมภาพยนตร์ เปลี่ยนห้องโดยสารด้านหลังให้กลายเป็นห้องนั่งเล่นส่วนตัวที่สมบูรณ์แบบ สะท้อนให้เห็นถึงความใส่ใจในรายละเอียดทุกมิติของการออกแบบภายในที่คำนึงถึงทุกอิริยาบถของผู้โดยสาร และความผ่อนคลายที่เหนือระดับ นอกจากนี้ ฟีเจอร์พิเศษอย่างประตูทั้ง 4 บานที่เปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า และม่านบังแดดประตูคู่หลังที่เปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า ยังเพิ่มความสะดวกสบายและบ่งบอกถึงความเป็น รถยนต์ไฟฟ้าหรู อย่างแท้จริง

ระบบสารสนเทศและความบันเทิง: ศูนย์รวมเทคโนโลยีแห่งอนาคต

ZEEKR 7X ยกระดับประสบการณ์การเชื่อมต่อและความบันเทิงไปอีกขั้นด้วยระบบที่ล้ำสมัย:

หน้าจอกลาง Mini LED ขนาด 16 นิ้ว: ความละเอียด 3.5K มอบภาพที่คมชัด รายละเอียดครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นการดูแผนที่ การรับชมสื่อบันเทิง หรือการใช้งานแอปพลิเคชันต่างๆ การแสดงผลที่สวยงามและตอบสนองรวดเร็ว ทำให้ทุกการสัมผัสเป็นไปอย่างราบรื่น
หน้าจอ AR HUD (Augmented Reality Head-Up Display) ขนาด 36.21 นิ้ว: ฉายข้อมูลสำคัญขึ้นมาบนกระจกหน้ารถแบบเสมือนจริง ทำให้ผู้ขับขี่สามารถติดตามข้อมูลการขับขี่ได้อย่างปลอดภัย โดยไม่ต้องละสายตาจากถนน เพิ่มความปลอดภัยและความสะดวกในการขับขี่ขั้นสูงสุด
หน้าจอ Cluster ขนาด 13.02 นิ้ว: ทำหน้าที่แสดงข้อมูลการขับขี่ทั้งหมดในรูปแบบที่สวยงามและเข้าใจง่าย
ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 8295 Processor: เทคโนโลยี 5nm Process Technology เป็นหัวใจสำคัญที่ขับเคลื่อนการทำงานของหน้าจอและระบบต่างๆ ให้ประมวลผลได้อย่างรวดเร็วและราบรื่น ทำให้การใช้งานฟังก์ชันต่างๆ บนหน้าจอทำได้อย่างสะดวกสบายไร้รอยต่อ ตอบสนองคำสั่งการได้ทันทีทันใด – นี่คือการการันตี เทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้า ระดับพรีเมียม
ระบบเสียง ZEEKR Sound Pro พร้อมลำโพง 21 จุด: คุณภาพระดับสตูดิโอ สร้างมิติเสียงรอบทิศทางเสมือนโรงภาพยนตร์เคลื่อนที่ ช่วยสร้างประสบการณ์ความดื่มด่ำในสุนทรียภาพของเสียงเพลงตลอดการเดินทาง

นอกจากนี้ ZEEKR 7X ยังมาพร้อมกับล้อ Forged ขนาด 21 นิ้ว พร้อมยางขนาด 265/40 R21 และ ระบบเบรกดิสก์เบรก 4 pot พร้อมคาลิปเปอร์เบรก Akebono สีส้ม ซึ่งไม่เพียงแต่ให้ประสิทธิภาพการเบรกที่ยอดเยี่ยม แต่ยังเพิ่มความโดดเด่นทางสุนทรียภาพอีกด้วย และระบบไฟหน้า Stargate Front Light Panel ที่สามารถเปลี่ยนกราฟิกได้หลายรูปแบบ เป็นอีกหนึ่งความพิเศษที่สะท้อนถึงการออกแบบที่ล้ำสมัย

ความปลอดภัย: ปัจจัยสำคัญที่ไม่เคยมองข้าม

ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านยานยนต์ ผมให้ความสำคัญกับ ความปลอดภัยรถยนต์ไฟฟ้า เป็นอันดับแรก ZEEKR 7X สร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม SEA (Sustainable Experience Architecture) ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมที่ออกแบบมาเพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพสูงสุด ความมุ่งมั่นด้านความปลอดภัยได้รับการรับรองด้วยมาตรฐาน Euro NCAP 5 ดาว โดยได้คะแนน 91% สำหรับการปกป้องผู้โดยสารผู้ใหญ่ และ 90% สำหรับการปกป้องผู้โดยสารเด็ก ซึ่งสะท้อนถึงความใส่ใจในความปลอดภัยของทุกคนในครอบครัวอย่างแท้จริง

ระบบช่วยเหลือการขับขี่ ZEEKR AD ทำงานร่วมกับ Dual Mobileye Chips เพิ่มความแม่นยำและปลอดภัยในการขับขี่ในทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นการรักษาระยะห่าง การเตือนการชน หรือการช่วยจอดรถ ยิ่งไปกว่านั้น โครงสร้างตัวรถแบบ Dome-Shaped และโครงสร้างตัวถังด้านหลังแบบ Single Piece Die-Cast แบบชิ้นเดียวไร้รอยต่อ ยังช่วยเพิ่มความแข็งแกร่ง ปลอดภัย และมีน้ำหนักเบา ส่งผลให้ประสิทธิภาพการใช้พลังงานดียิ่งขึ้น นี่คือการผสมผสานระหว่างการออกแบบเชิงวิศวกรรมที่ล้ำสมัยและ ระบบขับขี่อัจฉริยะ ที่มอบความอุ่นใจในการเดินทางสูงสุด

สรุปและก้าวสู่อนาคตที่น่าตื่นเต้น

ZEEKR 7X คือ รถยนต์ไฟฟ้า 2025 ที่น่าจับตามองอย่างแท้จริง และเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในตลาด SUV ไฟฟ้า ด้วยความสามารถที่โดดเด่นทั้งในด้านสมรรถนะบนทางเรียบ การลุยแบบออฟโรดที่เหนือความคาดหมาย เทคโนโลยีที่อัดแน่น และความหรูหราภายในห้องโดยสาร ทำให้ ZEEKR 7X มีความโดดเด่นเหนือคู่แข่งในตลาดที่หา รถ EV ออฟโรด ที่ทำได้ดีรอบด้านได้ยาก หากคุณกำลังมองหา รถ EV ที่ไม่ได้มีดีแค่ความแรงและออฟชั่น แต่ยังให้ความสามารถในการขับขี่ที่หลากหลาย ZEEKR 7X คือตัวเลือกที่ไม่ควรมองข้าม

ไม่ว่าคุณจะเป็นนักผจญภัยที่ต้องการ รถยนต์ไฟฟ้าอนาคต ที่พร้อมพาคุณไปทุกที่ หรือเป็นผู้บริหารที่มองหา รถยนต์ไฟฟ้าหรู ที่มอบความสบายและเทคโนโลยีล้ำสมัย ZEEKR 7X สามารถตอบโจทย์ได้อย่างลงตัว หากคุณไม่ได้สนใจในเรื่องออฟโรดเป็นหลัก แต่เน้นการเดินทางไกลและประสิทธิภาพในชีวิตประจำวัน รุ่น Long Range RWD ก็สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้เป็นอย่างดี ด้วยช่วงล่างและออปชั่นต่างๆ ที่ไม่ได้น้อยหน้าไปกว่ารุ่น Performance เลยแม้แต่น้อย

ZEEKR 7X ไม่ใช่แค่การเดินทาง แต่คือการลงทุนในอนาคตแห่งการขับขี่ที่เหนือกว่า พร้อมยกระดับประสบการณ์ของคุณไปอีกขั้น ด้วยการผสมผสานที่ลงตัวของดีไซน์, สมรรถนะ, ความสะดวกสบาย, และความปลอดภัย ทำให้รถคันนี้เป็นมากกว่าพาหนะ แต่เป็นคู่หูที่รู้ใจในทุกเส้นทาง

ถึงเวลาแล้วที่จะก้าวสู่โลกแห่งยานยนต์ไฟฟ้าที่ไม่จำกัดอยู่แค่ในเมือง เปิดประสบการณ์ใหม่ไปพร้อมกับ ZEEKR 7X และสัมผัสอนาคตของการเดินทางที่แท้จริง

เชิญสัมผัสประสบการณ์ขับขี่แห่งอนาคตกับ ZEEKR 7X ด้วยตัวคุณเอง

หากคุณพร้อมที่จะยกระดับการเดินทางของคุณให้เหนือกว่าใคร และต้องการสัมผัสกับ นวัตกรรมรถยนต์ไฟฟ้า ที่แท้จริง เราขอเชิญชวนคุณมาเยี่ยมชมและทดลองขับ ZEEKR 7X ณ โชว์รูม ZEEKR ประเทศไทย หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเราเพื่อศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม และเตรียมตัวเป็นเจ้าของ รถ SUV ไฟฟ้า ที่จะพลิกโฉมทุกนิยามแห่งการขับขี่ พบกันในวันที่ 15 สิงหาคม 2025 นี้ และร่วมเป็นส่วนหนึ่งของยุคใหม่แห่งยานยนต์ไฟฟ้าไปกับ ZEEKR 7X!