[ครบชุด] 2211052 Facebook (59)

ZEEKR 7X: พลิกโฉม SUV ไฟฟ้า 2025 นิยามใหม่แห่งสมรรถนะหรูหรา และการผจญภัย

ในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการยานยนต์ไฟฟ้ามานานกว่าทศวรรษ ผมได้เห็นพัฒนาการของอุตสาหกรรมนี้จากจุดเริ่มต้นที่หลายคนยังคลางแคลงใจ มาสู่ยุคทองแห่งนวัตกรรมอย่างเช่นทุกวันนี้ และในปี 2025 นี้เอง สิ่งที่เราเคยคิดว่าเป็นไปไม่ได้ในรถยนต์ไฟฟ้ากำลังกลายเป็นความจริง ZEEKR 7X คือหนึ่งในปรากฏการณ์ที่เข้ามาเขย่าวงการ SUV ไฟฟ้าอย่างแท้จริง ไม่ใช่แค่รถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า แต่คือการหลอมรวมสุดยอดวิศวกรรม ความหรูหรา และความสามารถรอบด้านไว้ในคันเดียว เป็นการประกาศว่ารถยนต์ไฟฟ้าไม่ได้จำกัดอยู่แค่บนถนนเรียบอีกต่อไป แต่พร้อมที่จะพาคุณไปผจญภัยในทุกเส้นทาง

ในห้วงเวลาที่ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยเติบโตอย่างก้าวกระโดด ผู้บริโภคไม่ได้มองหาแค่พาหนะที่ประหยัดพลังงานอีกต่อไป แต่ต้องการประสบการณ์ที่เหนือกว่า ทั้งในด้านดีไซน์ สมรรถนะ เทคโนโลยี และความอเนกประสงค์ ZEEKR 7X ได้ก้าวเข้ามาในสมการนี้ด้วยความมั่นใจ พร้อมนำเสนอแพ็กเกจที่ครบครัน ซึ่งไม่เพียงตอบโจทย์ความต้องการในปัจจุบัน แต่ยังนำหน้าเทรนด์ในอนาคตอีกหลายก้าว จากการศึกษาและสัมผัสรถยนต์รุ่นนี้อย่างใกล้ชิด ผมสามารถยืนยันได้ว่า ZEEKR 7X ไม่ใช่แค่การเปลี่ยนแปลง แต่คือการปฏิวัติวงการ SUV ไฟฟ้าอย่างแท้จริง

การออกแบบที่สะท้อนวิสัยทัศน์แห่งอนาคต

แรกสัมผัสกับ ZEEKR 7X คุณจะตระหนักทันทีว่านี่คือ SUV ที่ได้รับการรังสรรค์อย่างพิถีพิถัน เส้นสายตัวถังที่โฉบเฉี่ยว ลื่นไหล แต่ยังคงความแข็งแกร่งตามแบบฉบับของรถ SUV สะท้อนปรัชญาการออกแบบที่ผสมผสานความสง่างามเข้ากับความดุดันได้อย่างลงตัว แผงไฟหน้า Stargate Front Light Panel ไม่ใช่เพียงแค่ชุดไฟส่องสว่าง แต่เป็นผืนผ้าใบดิจิทัลที่สามารถปรับเปลี่ยนกราฟิกได้หลากหลายรูปแบบ สร้างเอกลักษณ์และความโดดเด่นไม่ซ้ำใครบนท้องถนน ราวกับดวงตาของยานอวกาศที่จ้องมองอนาคต การออกแบบด้านหน้าเน้นความลู่ลมตามหลักอากาศพลศาสตร์ ลดแรงต้านเพื่อประสิทธิภาพการขับขี่สูงสุด ขณะที่ด้านข้างเผยให้เห็นสัดส่วนที่ลงตัวของรถ SUV 5 ที่นั่งขนาดกลาง ที่ให้ความรู้สึกมั่นคงและพร้อมสำหรับการผจญภัยทุกรูปแบบ

เมื่อมองไปที่รายละเอียดปลีกย่อย ล้ออัลลอยด์ Forged ขนาด 21 นิ้ว ที่มาพร้อมยางขนาด 265/40 R21 ไม่เพียงเสริมความงาม แต่ยังบ่งบอกถึงสมรรถนะที่ซ่อนเร้นไว้ ระบบเบรกดิสก์เบรก 4 pot พร้อมคาลิปเปอร์ Akebono สีส้มสดใส ไม่เพียงสร้างความมั่นใจในการหยุดรถ แต่ยังเป็นองค์ประกอบทางดีไซน์ที่สะดุดตา แสดงถึงการให้ความสำคัญทั้งเรื่องฟังก์ชันและสุนทรียภาพ ประตูทั้ง 4 บานที่เปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า รวมถึงม่านบังแดดประตูคู่หลังที่ควบคุมด้วยไฟฟ้า เป็นรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่เพิ่มความสะดวกสบายและยกระดับประสบการณ์การใช้งานให้หรูหราทัดเทียมรถยนต์ระดับพรีเมียมจากยุโรปได้อย่างน่าประทับใจ ZEEKR 7X จึงไม่ได้เป็นเพียงรถยนต์ที่สวยงาม แต่เป็นงานศิลปะเคลื่อนที่ที่ผสมผสานความล้ำสมัยเข้ากับความประณีตได้อย่างลงตัว

ห้องโดยสาร: สุนทรียภาพแห่งความพรีเมียมและเทคโนโลยีล้ำอนาคต

ก้าวเข้าสู่ภายในของ ZEEKR 7X คุณจะพบกับอาณาจักรแห่งความหรูหราและเทคโนโลยีที่ถูกรังสรรค์มาอย่างปราณีตบรรจงเพื่อมอบประสบการณ์การเดินทางที่เหนือระดับ เบาะนั่งหุ้มด้วยหนัง Nappa คุณภาพสูง ให้สัมผัสที่นุ่มนวลและละเอียดอ่อน เป็นการสื่อถึงรสนิยมอันเป็นเลิศของผู้ครอบครอง ไม่เพียงแค่ความสบายในการนั่ง แต่ยังมาพร้อมฟังก์ชันอำนวยความสะดวกสบายขั้นสุดยอด ไม่ว่าจะเป็นระบบนวดและเป่าลมในเบาะคู่หน้า ที่จะช่วยผ่อนคลายความเมื่อยล้าจากการขับขี่ระยะทางไกล หรือหลังจากวันทำงานอันหนักหน่วง ให้การเดินทางกลายเป็นช่วงเวลาแห่งการฟื้นฟูพลังงานและเติมเต็มความสดชื่น

สำหรับผู้โดยสารด้านหลัง ZEEKR 7X ยกระดับความสะดวกสบายให้ไม่ต่างจากห้องโดยสารชั้นเฟิร์สคลาส เบาะหลังสามารถปรับเอนด้วยระบบไฟฟ้า ให้คุณสามารถเลือกองศาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการพักผ่อน การทำงาน หรือแม้กระทั่งการชมภาพยนตร์ผ่านระบบความบันเทิงอันล้ำสมัย ห้องโดยสารด้านหลังจึงแปรเปลี่ยนเป็นห้องนั่งเล่นส่วนตัวที่สมบูรณ์แบบ สะท้อนให้เห็นถึงความใส่ใจในทุกรายละเอียดและทุกอิริยาบถของผู้โดยสาร การจัดวางตำแหน่งที่นั่ง การออกแบบพื้นที่ และการเลือกใช้วัสดุ ล้วนแล้วแต่ผ่านการคิดค้นมาอย่างดี เพื่อมอบประสบการณ์ที่เหนือกว่ามาตรฐานของรถยนต์ไฟฟ้า SUV ทั่วไป

หัวใจของระบบสารสนเทศและความบันเทิงคือหน้าจอกลาง Mini LED ขนาด 16 นิ้ว ความละเอียด 3.5K ที่ให้ภาพคมชัดสมจริงทุกรายละเอียด ไม่ว่าจะเป็นการนำทาง การเข้าถึงแอปพลิเคชัน หรือการรับชมสื่อบันเทิงต่างๆ ทุกข้อมูลจะถูกนำเสนออย่างชัดเจนและสวยงาม สอดประสานกับการทำงานของหน้าจอ AR HUD (Augmented Reality Head-Up Display) ขนาด 36.21 นิ้ว ที่ฉายข้อมูลการขับขี่และนำทางที่สำคัญขึ้นบนกระจกหน้ารถโดยตรง ทำให้ผู้ขับขี่ไม่จำเป็นต้องละสายตาจากถนน เพิ่มความปลอดภัยและความสะดวกสบายในการขับขี่อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน นอกจากนี้ หน้าจอ Cluster ขนาด 13.02 นิ้ว ยังแสดงข้อมูลการขับขี่ทั้งหมดได้อย่างครบครันและอ่านง่าย

พลังในการประมวลผลทั้งหมดนี้มาจากชิป Qualcomm Snapdragon 8295 Processor ที่ผลิตด้วยเทคโนโลยี 5nm ทำให้การทำงานของระบบเป็นไปอย่างรวดเร็ว ลื่นไหล และตอบสนองต่อทุกคำสั่งได้อย่างฉับไว ไร้รอยต่อ ปิดท้ายด้วยประสบการณ์เสียงที่เหนือระดับจากระบบ ZEEKR Sound Pro พร้อมลำโพงคุณภาพระดับสตูดิโอ 21 จุดรอบคัน สร้างมิติเสียงรอบทิศทางเสมือนอยู่ในโรงภาพยนตร์เคลื่อนที่ ทำให้ทุกการเดินทางเต็มเปี่ยมไปด้วยสุนทรียภาพแห่งเสียงเพลง

ขุมพลังไฟฟ้าแห่งอนาคต: สมรรถนะที่ไร้ขีดจำกัด

เมื่อพูดถึงหัวใจสำคัญของ ZEEKR 7X ในฐานะรถยนต์ไฟฟ้า ผมต้องกล่าวถึงแพลตฟอร์ม 800V อันเป็นรากฐานสำคัญที่ส่งมอบทั้งประสิทธิภาพการชาร์จที่รวดเร็วและการจ่ายพลังงานที่เสถียร ZEEKR 7X มีให้เลือกสองรุ่นตามความต้องการของผู้ใช้งาน ซึ่งแต่ละรุ่นก็มอบประสบการณ์การขับขี่ที่น่าประทับใจแตกต่างกันไป:

รุ่น Long Range RWD: ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวที่ล้อหลัง ให้พละกำลังสูงสุดถึง 422 แรงม้า (PS) พร้อมแรงบิดมหาศาลที่ 440 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ Lithium-ion (NMC) ขนาด 100 kWh ช่วยให้รถสามารถวิ่งได้ระยะทางมากกว่า 700 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง (ตามมาตรฐาน NEDC) อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายใน 6.0 วินาที ถือว่ารวดเร็วเกินพอสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน และมอบประสบการณ์การขับขี่ที่สนุกสนานและตอบสนองได้ทันใจ ในขณะที่ความเร็วสูงสุดถูกจำกัดไว้ที่ 210 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งเป็นขีดจำกัดที่เหมาะสมและปลอดภัย

รุ่น Performance AWD: สำหรับผู้ที่แสวงหาสมรรถนะที่เร้าใจยิ่งกว่า รุ่นนี้มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ขับเคลื่อนสี่ล้อ (AWD) มอบพละกำลังรวมสูงสุดถึง 646 แรงม้า (PS) และแรงบิดมหาศาลถึง 710 นิวตันเมตร ด้วยแบตเตอรี่ขนาด 100 kWh เช่นเดียวกัน แต่ด้วยการจัดการพลังงานที่แตกต่างกัน ทำให้วิ่งได้ระยะทางมากกว่า 600 กิโลเมตร (NEDC) จุดเด่นที่แท้จริงของรุ่น Performance คืออัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงที่ทำได้ภายในเพียง 3.8 วินาที ซึ่งเป็นตัวเลขที่สามารถท้าทายซูเปอร์คาร์หลายๆ คันได้อย่างสบาย นี่คือความแรงที่มาพร้อมความมั่นใจในการควบคุม มอบประสบการณ์การขับขี่ที่เร้าใจและตื่นเต้นในทุกย่างก้าว โดยยังคงความเร็วสูงสุดที่ 210 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ทั้งสองรุ่นถูกออกแบบมาเพื่อส่งมอบสมรรถนะที่เหนือความคาดหมายของรถยนต์ไฟฟ้าในตลาดปี 2025 ด้วยระบบส่งกำลังที่ตอบสนองได้ทันท่วงที ไร้เสียงรบกวน และปราศจากการสั่นสะเทือนแบบรถยนต์สันดาปภายใน ทำให้ทุกการเดินทางราบรื่นและเปี่ยมด้วยพลัง

การชาร์จไฟ: รวดเร็วไร้กังวล

หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับรถยนต์ไฟฟ้าคือความสามารถในการชาร์จไฟ ZEEKR 7X เข้าใจในจุดนี้เป็นอย่างดี จึงมาพร้อมเทคโนโลยีการชาร์จที่ก้าวล้ำ รองรับหัวชาร์จ Type 2 และ CCS Combo ทำให้การเข้าถึงสถานีชาร์จเป็นเรื่องง่าย

การชาร์จกระแสสลับ (AC): รองรับสูงสุด 22 kW ซึ่งถือว่าสูงมากสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าในปัจจุบัน ทำให้การชาร์จที่บ้านหรือตามจุดชาร์จสาธารณะเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ลดเวลาในการรอคอยได้อย่างเห็นได้ชัด

การชาร์จกระแสตรง (DC Fast Charging): คือจุดเด่นที่แท้จริง ZEEKR 7X รองรับการชาร์จสูงสุดถึง 420 kW บนแพลตฟอร์ม 800V ซึ่งเป็นเทคโนโลยีระดับแนวหน้าของอุตสาหกรรม และด้วยความสามารถในการชาร์จ DC ที่ 360 kW ทำให้สามารถชาร์จจาก 10% ถึง 80% ได้ภายในเวลาเพียง 13-16 นาทีเท่านั้น! นี่คือตัวเลขที่เปลี่ยนแปลงวิธีการเดินทางด้วยรถยนต์ไฟฟ้าอย่างสิ้นเชิง ทำให้การหยุดพักเพื่อชาร์จไฟไม่ต่างจากการแวะพักเข้าห้องน้ำหรือซื้อกาแฟอีกต่อไป เป็นการลดความกังวลเรื่องระยะทาง (range anxiety) ได้อย่างแท้จริง

นอกจากนี้ ZEEKR 7X ยังมาพร้อมระบบจ่ายกระแสไฟฟ้าให้อุปกรณ์ภายนอก (V2L – Vehicle-to-Load) ที่รองรับกำลังไฟสูงสุด 3.3 kW (3,300 วัตต์) ฟังก์ชันนี้ช่วยเพิ่มความอเนกประสงค์ให้กับรถอย่างมาก ทำให้คุณสามารถใช้รถเป็นแหล่งพลังงานเคลื่อนที่สำหรับอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นการตั้งแคมป์ การทำงานนอกสถานที่ หรือในสถานการณ์ฉุกเฉิน นี่คืออีกหนึ่งนวัตกรรมที่ทำให้ ZEEKR 7X เป็นมากกว่าแค่พาหนะ

ช่วงล่างและการขับขี่: นุ่มนวล ทรงตัวเยี่ยม และพร้อมลุย

ในฐานะผู้เชี่ยวชาญ ผมขอยืนยันว่า ZEEKR 7X ได้สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับรถยนต์ SUV ไฟฟ้าในเรื่องของช่วงล่างและการขับขี่ ระบบช่วงล่างอิสระด้านหน้าแบบ Double Wishbone และด้านหลังแบบ Multi-Link ทำงานร่วมกันได้อย่างยอดเยี่ยม มอบความนุ่มนวลในการซับแรงกระแทก ขณะเดียวกันก็ให้การทรงตัวที่ดีเยี่ยมเมื่อเข้าโค้งด้วยความเร็ว

แต่จุดที่น่าทึ่งที่สุดคือความสามารถในการลุยออฟโรด ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมไม่เคยคาดหวังจากรถยนต์ไฟฟ้า SUV มาก่อน ในการทดสอบภาคสนาม ZEEKR 7X ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงศักยภาพที่ไม่ธรรมดา ด้วยระบบช่วงล่างถุงลม Active Air Suspension with CCD ที่สามารถปรับความสูงได้โดยอัตโนมัติ โดยเฉพาะในโหมดออฟโรดที่สามารถเพิ่ม Ground Clearance ได้สูงถึง 230 มิลลิเมตร ช่วยให้สามารถผ่านอุปสรรคได้อย่างง่ายดาย

ในสนามทดสอบที่จำลองสถานการณ์ออฟโรดต่างๆ ZEEKR 7X ทำได้อย่างน่าทึ่ง:

เนินสลับ: การวิ่งผ่านเนินสลับที่ทำให้ล้อลอยจากพื้น ตัวรถสามารถถ่ายเทกำลังไปยังล้อที่ยังยึดเกาะกับพื้นได้อย่างชาญฉลาด ทำให้รถเคลื่อนที่ไปข้างหน้าได้อย่างต่อเนื่อง ที่สำคัญคือการให้ตัวของช่วงล่างที่ยอดเยี่ยม ทำให้ตัวรถโคลงเคลงน้อยมาก
เนินชัน: การขึ้นเนินชันทำได้อย่างง่ายดายด้วยพละกำลังมหาศาลของมอเตอร์ไฟฟ้า และในจังหวะที่หยุดกลางเนินแล้วออกตัวใหม่ ระบบก็จัดการพลังงานได้อย่างราบรื่น ไม่เกิดอาการล้อฟรีทิ้ง ทำให้การควบคุมเป็นไปอย่างมั่นใจ
การลงเนินสูง: ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชันอัตโนมัติ (HDC) ทำงานได้อย่างนุ่มนวลและมีประสิทธิภาพสูง คล้ายคลึงกับรถยนต์ออฟโรดระดับพรีเมียมจากยุโรป ทำให้ผู้ขับขี่สามารถลงเนินได้อย่างสบายใจและปลอดภัย
เส้นทางขรุขระ: ด้วยช่วงล่างถุงลม ทำให้การวิ่งผ่านเส้นทางขรุขระเต็มไปด้วยความนุ่มนวล แต่สิ่งที่น่าประทับใจยิ่งกว่าคือพวงมาลัยที่นิ่งสนิท ไร้อาการสั่นสะเทือนหรือตีมือแม้แต่น้อย แสดงให้เห็นถึงการออกแบบระบบบังคับเลี้ยวที่แข็งแกร่งและแม่นยำ

กล่าวโดยสรุปคือ ในด้านออฟโรด ZEEKR 7X สอบผ่านได้อย่างเหนือความคาดหมายอย่างแท้จริง

ส่วนการขับขี่บนทางเรียบนั้น ทั้งรุ่น Long Range RWD และ Performance AWD ต่างก็มอบประสบการณ์ที่น่าประทับใจ รุ่น Performance มอบแรงดึงมหาศาลที่มาพร้อมความนุ่มนวลของช่วงล่าง ขณะที่รุ่น Long Range ก็ไม่ได้น้อยหน้า มีแรงดึงที่เพียงพอต่อการใช้งานในทุกสถานการณ์ แม้ช่วงล่างจะออกแนวแข็งกว่า Performance เล็กน้อย แต่ก็ยังคงความนุ่มนวลในระดับที่น่าพอใจ ทำให้ ZEEKR 7X เป็นรถยนต์ที่ขับขี่สนุก มั่นใจ และสบายทั้งบนทางเรียบและเส้นทางท้าทาย

ความปลอดภัย: รากฐานที่ไม่เคยประนีประนอม

ในโลกยานยนต์ยุคใหม่ โดยเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้า ความปลอดภัยคือสิ่งที่ผู้ผลิตไม่อาจมองข้าม ZEEKR 7X ถูกสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม SEA (Sustainable Experience Architecture) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่ออกแบบมาเพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพสูงสุดโดยเฉพาะ ความมุ่งมั่นด้านความปลอดภัยของ ZEEKR 7X ได้รับการรับรองด้วยมาตรฐาน Euro NCAP 5 ดาว ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันถึงความน่าเชื่อถือในระดับสากล โดยทำคะแนนได้อย่างน่าประทับใจถึง 91% สำหรับการปกป้องผู้โดยสารผู้ใหญ่ และ 90% สำหรับการปกป้องผู้โดยสารเด็ก สะท้อนให้เห็นถึงความใส่ใจในความปลอดภัยของทุกคนในครอบครัวอย่างแท้จริง

นอกจากโครงสร้างพื้นฐานที่แข็งแแกร่งแล้ว ZEEKR 7X ยังมาพร้อมระบบช่วยขับขี่ ZEEKR AD ที่ทำงานร่วมกับ Dual Mobileye Chips ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้พัฒนาเทคโนโลยีระบบช่วยเหลือการขับขี่ขั้นสูงที่มีชื่อเสียงระดับโลก การทำงานร่วมกันนี้ช่วยเพิ่มความแม่นยำและความปลอดภัยในการตรวจจับสภาพแวดล้อมรอบคัน ลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ และช่วยให้การขับขี่เป็นไปอย่างราบรื่นและผ่อนคลายยิ่งขึ้น

โครงสร้างตัวรถแบบ Dome-Shaped และโครงสร้างตัวถังด้านหลังแบบ Single Piece Die-Cast หรือการขึ้นรูปเป็นชิ้นเดียวไร้รอยต่อ ไม่เพียงช่วยเพิ่มความแข็งแรงของโครงสร้างและลดน้ำหนักโดยรวมของตัวรถ แต่ยังช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการชนได้อย่างมีนัยสำคัญ เมื่อเกิดการกระแทก แรงจะถูกกระจายไปทั่วโครงสร้างอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยปกป้องผู้โดยสารได้อย่างสูงสุด การออกแบบทางวิศวกรรมที่ล้ำสมัยเหล่านี้ ทำให้ ZEEKR 7X เป็นหนึ่งในรถยนต์ไฟฟ้าที่มีความปลอดภัยสูงสุดในตลาดปี 2025

ราคาและข้อเสนอที่คุ้มค่าในปี 2025

สำหรับ ZEEKR 7X ที่นำเข้าแบบ CBU (Completely Built Up) จากจีน คาดการณ์ราคาโดย ZEEKR ประเทศไทยจะอยู่ในช่วงที่น่าสนใจและแข่งขันได้ในตลาด SUV ไฟฟ้าพรีเมียมของปี 2025

7X Long Range RWD: ช่วงราคาประมาณ 1,700,000 บาท
7X Performance AWD: ช่วงราคาไม่เกิน 1,900,000 บาท

ราคาอย่างเป็นทางการจะมีการประกาศในวันที่ 15 สิงหาคม 2025 นี้ ซึ่งจะเป็นช่วงเวลาที่สำคัญสำหรับผู้ที่กำลังมองหารถยนต์ไฟฟ้าคุณภาพสูง

นอกจากราคาที่น่าสนใจแล้ว ZEEKR ประเทศไทยยังมอบการรับประกันคุณภาพตัวรถที่น่าเชื่อถือ:

รับประกันคุณภาพตัวรถ (Warranty): นาน 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน
รับประกันแบตเตอรี่และมอเตอร์: นาน 8 ปี หรือ 180,000 กิโลเมตร แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน
บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน: นาน 8 ปี หรือ 180,000 กิโลเมตร แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน

การรับประกันที่ยาวนานนี้สะท้อนความมั่นใจของ ZEEKR ในคุณภาพของผลิตภัณฑ์ และมอบความอุ่นใจให้กับผู้เป็นเจ้าของในระยะยาว เป็นข้อเสนอที่เสริมความคุ้มค่าให้กับ ZEEKR 7X ในตลาดที่มีการแข่งขันสูงของรถยนต์ไฟฟ้า

บทสรุป: ZEEKR 7X เหนือกว่าทุกความคาดหมาย

จากประสบการณ์ในวงการยานยนต์ไฟฟ้ากว่าสิบปี ผมสามารถพูดได้อย่างเต็มปากว่า ZEEKR 7X ไม่ใช่แค่ SUV ไฟฟ้าอีกหนึ่งรุ่นที่เข้ามาในตลาด แต่คือการยกระดับมาตรฐานและนำเสนอความสามารถที่เหนือกว่าความคาดหมายของรถยนต์ไฟฟ้าในปัจจุบันและอนาคต ด้วยการผสมผสานดีไซน์ที่หรูหรา ห้องโดยสารที่เปี่ยมด้วยเทคโนโลยีและฟังก์ชันอำนวยความสะดวกสบายระดับพรีเมียม สมรรถนะที่เร้าใจจากขุมพลังไฟฟ้า 800V เทคโนโลยีการชาร์จที่รวดเร็วอย่างไม่เคยมีมาก่อน และที่สำคัญที่สุดคือความสามารถในการลุยออฟโรดได้อย่างน่าทึ่ง ซึ่งเป็นจุดเด่นที่หาได้ยากยิ่งในรถยนต์ไฟฟ้า ทำให้ ZEEKR 7X เป็นตัวเลือกที่โดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์อย่างแท้จริง

ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้ที่กำลังมองหารถยนต์ไฟฟ้าสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน ที่ต้องการความหรูหราและความสะดวกสบาย หรือเป็นผู้ที่ชื่นชอบการผจญภัยและต้องการรถยนต์ที่พร้อมลุยไปกับคุณในทุกเส้นทาง ZEEKR 7X มีคำตอบให้คุณครบถ้วน หากคุณไม่ได้เน้นการขับขี่แบบออฟโรดเป็นหลัก แต่ต้องการรถยนต์ที่วิ่งได้ระยะทางไกล พร้อมสมรรถนะที่เหนือกว่า และห้องโดยสารที่เต็มไปด้วยออปชั่นครบครัน รุ่น Long Range RWD ก็สามารถตอบโจทย์การใช้งานของคุณได้อย่างสมบูรณ์แบบ ทั้งช่วงล่างที่นุ่มนวลและฟังก์ชันอำนวยความสะดวกต่างๆ ก็ไม่ได้น้อยหน้าแต่อย่างใด

ZEEKR 7X คือการลงทุนในอนาคตของการเดินทางที่ยั่งยืน โดยไม่ละทิ้งความตื่นเต้น ความสะดวกสบาย และความปลอดภัย ทุกองค์ประกอบถูกรังสรรค์ขึ้นมาอย่างพิถีพิถันเพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เป็นเลิศและเหนือกว่าทุกความคาดหวัง

อย่ารอช้าที่จะเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลง!

ZEEKR 7X พร้อมแล้วที่จะพาคุณไปสัมผัสกับนิยามใหม่ของ SUV ไฟฟ้าที่แท้จริง เราขอเชิญชวนทุกท่านที่สนใจ เข้าร่วมเป็นประจักษ์พยานกับนวัตกรรมยานยนต์แห่งอนาคตนี้ เยี่ยมชมโชว์รูม ZEEKR ประเทศไทย หรือลงทะเบียนเพื่อทดลองขับ ZEEKR 7X วันนี้! สัมผัสด้วยตัวคุณเองว่าทำไม ZEEKR 7X ถึงเป็นผู้นำเทรนด์ยานยนต์ไฟฟ้าของปี 2025 และจะสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยได้อย่างไร ประสบการณ์ที่น่าทึ่งกำลังรอคุณอยู่!