[ครบชุด] 2211063 Facebook (23)

ZEEKR 7X ปี 2025: เมื่ออนาคตของ SUV ไฟฟ้าสมรรถนะสูงพร้อมลุย หลอมรวมความหรูหราเหนือระดับ

ในฐานะผู้ที่คลุกคลีอยู่ในวงการรถยนต์ไฟฟ้ามากว่าทศวรรษ ผมได้เห็นการเปลี่ยนแปลงและการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของเทคโนโลยีนี้ จากรถยนต์ที่เน้นแค่การประหยัดพลังงาน สู่ยานยนต์ที่พลิกโฉมประสบการณ์การขับขี่ และในปี 2025 นี้ ZEEKR 7X ได้ก้าวเข้ามาในตลาดด้วยนิยามใหม่ของคำว่า “SUV ไฟฟ้า” ที่ไม่เพียงมอบความหรูหรา สมรรถนะอันเร้าใจ แต่ยังมาพร้อมความสามารถในการบุกตะลุยที่เหนือความคาดหมาย นี่ไม่ใช่แค่รถยนต์อีกคันหนึ่งในตลาด แต่คือการประกาศศักดาของ ZEEKR ในการสร้างสรรค์ รถยนต์ไฟฟ้า 2025 ที่พร้อมตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์อย่างแท้จริง

การมาถึงของ ZEEKR 7X: จุดเปลี่ยนในตลาด SUV ไฟฟ้าประเทศไทย

ตลาด SUV ไฟฟ้า ในประเทศไทยในปี 2025 กำลังเติบโตอย่างร้อนแรง ผู้บริโภคไม่ได้มองหารถยนต์ไฟฟ้าเพียงเพื่อความประหยัดอีกต่อไป แต่ต้องการยานยนต์ที่สะท้อนถึงรสนิยม ความพรีเมียม และสมรรถนะที่เหนือกว่า ZEEKR 7X เข้ามาเติมเต็มช่องว่างนี้ได้อย่างลงตัว ด้วยรูปลักษณ์ที่สง่างาม ดีไซน์ที่โดดเด่นสะดุดตาตั้งแต่แรกเห็น หลายคนอาจมองว่านี่คือ รถยนต์ไฟฟ้าหรู ที่เน้นการขับขี่บนท้องถนนเรียบ แต่แท้จริงแล้ว 7X ซ่อนเร้นความสามารถอันน่าทึ่งในการพาคุณออกผจญภัยในเส้นทางที่ไม่คุ้นเคย นี่คือจุดที่ทำให้ ZEEKR 7X แตกต่างและน่าจับตามองอย่างยิ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อ ราคา ZEEKR 7X ที่ประกาศออกมานั้น คาดว่าจะอยู่ในช่วงที่เข้าถึงได้ง่ายกว่าที่หลายคนคิด สำหรับ รถยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะสูง ระดับนี้

ZEEKR ประเทศไทยได้เปิดเผยรายละเอียดอย่างเป็นทางการ พร้อมราคาคาดการณ์ที่น่าสนใจ:
7X Long Range RWD: ช่วงราคาประมาณ 1,700,000 บาท
7X Performance AWD: ช่วงราคาไม่เกิน 1,900,000 บาท

การประกาศราคาอย่างเป็นทางการในวันที่ 15 สิงหาคม 2025 นี้ ถือเป็นหมุดหมายสำคัญที่Z ZEEKR จะเข้ามาเขย่าวงการ EV Market Thailand อย่างแน่นอน พร้อมการรับประกันคุณภาพที่มอบความอุ่นใจ:
รับประกันคุณภาพตัวรถ: 5 ปี หรือ 150,000 กม.
รับประกันแบตเตอรี่และมอเตอร์: 8 ปี หรือ 180,000 กม.
บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน: 8 ปี หรือ 180,000 กม.

การรับประกันที่ครอบคลุมเช่นนี้ ตอกย้ำความมั่นใจในคุณภาพและ เทคโนโลยีแบตเตอรี่ EV ของ ZEEKR ที่ทนทานและเชื่อถือได้ ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาว

มิติใหม่แห่งการออกแบบและวิศวกรรม: ขนาดที่บ่งบอกถึงความแกร่งและความสง่างาม

เมื่อพูดถึง SUV ไฟฟ้า สิ่งแรกที่หลายคนนึกถึงคือพื้นที่ใช้สอยและความแข็งแกร่ง ZEEKR 7X ไม่ทำให้ผิดหวังด้วยมิติตัวถังที่ลงตัว:
ยาว: 4,787 มม.
กว้าง: 1,930 มม.
สูง: 1,650 มม.
ระยะฐานล้อ (Wheelbase): 2,900 มม.
ระยะต่ำสุดถึงพื้น (Ground Clearance): 173 มม.

ด้วยระยะฐานล้อที่กว้างเกือบ 3 เมตร ทำให้ห้องโดยสารกว้างขวางเป็นพิเศษ มอบความสะดวกสบายสูงสุดสำหรับผู้โดยสาร 5 คน ขณะที่ระยะต่ำสุดถึงพื้นที่ 173 มม. นั้น แม้จะไม่สูงเท่า รถยนต์ออฟโรด โดยเฉพาะ แต่เมื่อผนวกกับช่วงล่างถุงลมปรับระดับได้ (Active Air Suspension) ก็เพียงพอที่จะพาคุณผ่านอุปสรรคที่ไม่คาดฝันได้อย่างสบาย ที่เก็บสัมภาระด้านท้ายขนาด 539 ลิตร และขยายได้มากถึง 1,978 ลิตรเมื่อพับเบาะหลัง พร้อมช่องเก็บสัมภาระด้านหน้า (Frunk) ขนาด 66 ลิตร สะท้อนให้เห็นถึงการออกแบบที่คำนึงถึงการใช้งานจริงในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางในเมืองหรือการผจญภัยระยะไกล

หัวใจแห่งพลังขับเคลื่อน: เทคโนโลยี 800V สู่สมรรถนะเหนือชั้น

ZEEKR 7X ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังไฟฟ้าที่มาพร้อม เทคโนโลยี 800V ซึ่งเป็นมาตรฐานของ รถยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะสูง ยุคใหม่ เทคโนโลยีนี้ไม่เพียงแต่ช่วยให้การชาร์จไฟเร็วขึ้นอย่างก้าวกระโดด แต่ยังช่วยให้การจัดการพลังงานมีประสิทธิภาพสูงสุด ลดการสูญเสียพลังงาน และเพิ่มความทนทานให้กับ แบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า

รุ่น Long Range RWD: สมดุลแห่งพลังและระยะทาง
มอเตอร์ไฟฟ้า 1 ตัว: มอบพละกำลังสูงสุด 422 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 440 นิวตันเมตร
แบตเตอรี่: Lithium-ion (NMC) ขนาดความจุ 100 kWh
ขับเคลื่อน: ล้อหลัง (RWD)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.: ภายใน 6.0 วินาที
ความเร็วสูงสุด: 210 กม./ชม.
ระยะทางวิ่ง (NEDC): มากกว่า 700 กม.

สำหรับรุ่น Long Range RWD นี้ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการ รถ EV ที่วิ่งระยะทางไกลได้จริง การเร่งแซงที่มั่นใจได้ และการขับขี่ที่นุ่มนวล นี่คือ รถยนต์ไฟฟ้า ที่ตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันและการเดินทางข้ามจังหวัดได้อย่างไร้กังวล

รุ่น Performance AWD: ปลดปล่อยขุมพลังอันเร้าใจ
มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว: มอบพละกำลังสูงสุด 646 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 710 นิวตันเมตร
แบตเตอรี่: Lithium-ion (NMC) ขนาดความจุ 100 kWh
ขับเคลื่อน: สี่ล้อ (AWD)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.: ภายใน 3.8 วินาที
ความเร็วสูงสุด: 210 กม./ชม.
ระยะทางวิ่ง (NEDC): มากกว่า 600 กม.

รุ่น Performance AWD คือตัวเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์ รถยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะสูง อย่างแท้จริง การออกตัวที่ดุดัน การยึดเกาะถนนที่ดีเยี่ยมในทุกสภาพอากาศด้วยระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ทำให้การขับขี่เต็มไปด้วยความเร้าใจและความมั่นใจสูงสุด แม้ระยะทางวิ่งจะลดลงเล็กน้อย แต่สมรรถนะที่ได้มานั้นคุ้มค่าเกินราคาอย่างแน่นอน

การชาร์จไฟที่ก้าวล้ำ: สู่ยุคแห่งการชาร์จเร็วไร้ขีดจำกัด

หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ผู้ใช้ รถ EV กังวลคือเรื่องการชาร์จ ZEEKR 7X เข้าใจดีและได้ติดตั้งระบบการชาร์จที่ล้ำสมัยที่สุด:
หัวชาร์จ: Type 2 / CCS Combo
กระแสสลับ (AC): รองรับสูงสุด 22 kW
กระแสตรง (DC Fast Charging): รองรับสูงสุด 420 kW
ชาร์จ DC 360 kW (จาก 10-80%): ภายใน 13-16 นาที
ระบบจ่ายกระแสไฟฟ้าให้อุปกรณ์ภายนอก (V2L): สูงสุด 3.3 kW

ด้วยความสามารถในการ ชาร์จเร็ว ระดับ 420 kW ทำให้ ZEEKR 7X เป็นหนึ่งใน รถยนต์ไฟฟ้า 2025 ที่ชาร์จได้เร็วที่สุดในตลาด การชาร์จจาก 10% ไป 80% ในเวลาเพียง 13-16 นาที หมายถึงคุณสามารถแวะพักชาร์จกาแฟหนึ่งแก้ว รถก็พร้อมสำหรับการเดินทางต่อได้อีกหลายร้อยกิโลเมตร หมดปัญหาเรื่อง “Range Anxiety” ไปได้เลย นอกจากนี้ ระบบ V2L ยังเพิ่มความอเนกประสงค์ ให้คุณสามารถใช้รถเป็นแหล่งพลังงานเคลื่อนที่สำหรับอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นการตั้งแคมป์ หรือใช้เป็นพลังงานสำรองในยามฉุกเฉิน ซึ่งเป็นฟังก์ชันที่กำลังเป็นที่นิยมอย่างมากในหมู่ผู้ใช้งาน รถยนต์ไฟฟ้า ยุคใหม่

ช่วงล่างและระบบควบคุม: ความสบายที่มาพร้อมความมั่นใจ

ZEEKR 7X มาพร้อมช่วงล่างด้านหน้าอิสระแบบ Double Wishbone และด้านหลังอิสระแบบ Multi-Link ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมที่ให้ความนุ่มนวลและเกาะถนนได้ดีเยี่ยม เมื่อรวมกับล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว (รุ่น Long Range) หรือล้อ Forged ขนาด 21 นิ้ว พร้อมยางขนาด 265/40 R21 (ในบางรุ่นย่อยหรือเป็นตัวเลือก) ยิ่งเสริมสมรรถนะการยึดเกาะ และความสวยงามของตัวรถ

แต่ไฮไลท์ที่แท้จริงคือ ช่วงล่างถุงลมแบบ Active Air Suspension with CCD ที่มาพร้อมกับการปรับระดับความสูงอัตโนมัติ 230 มม. ฟังก์ชันนี้ไม่เพียงช่วยเพิ่มความนุ่มนวลในการขับขี่บนทางเรียบ แต่ยังเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้ ZEEKR 7X กลายเป็น รถยนต์ไฟฟ้าลุยได้ อย่างไม่น่าเชื่อ

ประสบการณ์จริงจากการทดสอบ ZEEKR 7X: เมื่อ SUV ไฟฟ้าท้าทายเส้นทางออฟโรด

ในฐานะผู้เชี่ยวชาญ ผมยอมรับว่าตอนแรกผมก็ไม่ได้คาดหวังอะไรมากนักกับประสิทธิภาพการลุยของ SUV ไฟฟ้า คันนี้ แต่การทดสอบที่เขาใหญ่ได้เปิดประสบการณ์ใหม่ทั้งหมดให้กับผม

โหมดออฟโรดอัจฉริยะ: ทันทีที่เข้าสู่โหมดออฟโรด ช่วงล่างถุงลมจะยกตัวรถขึ้นอัตโนมัติ ทำให้ระยะห่างจากพื้นเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เตรียมพร้อมสำหรับการเผชิญหน้ากับอุปสรรค
เนินสลับและล้อลอย: ในสถานีเนินสลับ ที่ล้อต้องลอยจากพื้น ZEEKR 7X สามารถถ่ายเทกำลังไปยังล้อที่ยังคงยึดเกาะได้อย่างชาญฉลาด ทำให้รถเคลื่อนที่ผ่านไปได้อย่างง่ายดาย สิ่งที่น่าประทับใจยิ่งกว่าคือ การให้ตัวของช่วงล่างที่ยอดเยี่ยม ตัวรถโคลงเคลงน้อยมาก รักษาความมั่นคงและให้ความรู้สึกปลอดภัย
การไต่และลงเนินชัน: พละกำลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าอันมหาศาลทำให้การไต่เนินชันเป็นเรื่องง่าย แม้จะหยุดกลางเนินแล้วออกตัวใหม่ ระบบก็จัดการกำลังได้อย่างนุ่มนวล ไม่ทำให้ล้อฟรีทิ้ง ส่วนในจังหวะลงเนินสูง ระบบ HDC (Hill Descent Control) ทำงานได้อย่างราบรื่นและแม่นยำ ราวกับเป็นรถยนต์หรูจากยุโรปที่ออกแบบมาเพื่อการผจญภัย ทำให้การลงเนินเป็นไปอย่างสบายใจ ไร้กังวล
เส้นทางขรุขระ: การวิ่งผ่านเส้นทางขรุขระด้วยช่วงล่างถุงลม มอบความนุ่มนวลอย่างน่าเหลือเชื่อ แต่ที่โดดเด่นคือพวงมาลัยที่นิ่งสนิท ไม่มีอาการสั่นหรือสะท้านมือใดๆ นี่เป็นข้อพิสูจน์ถึงวิศวกรรมช่วงล่างและการควบคุมที่เหนือชั้น ทำให้ ZEEKR 7X ผ่านการทดสอบ ออฟโรด ไปได้อย่างไร้ที่ติ

สรุปคือ ZEEKR 7X ไม่ใช่แค่ SUV ไฟฟ้า ที่ “พอจะลุยได้” แต่มันคือ รถยนต์ไฟฟ้าลุยได้ อย่างแท้จริง ที่กล้าท้าทายขีดจำกัดของยานยนต์ไฟฟ้าในปัจจุบัน เป็นจุดเด่นที่ทำให้มันแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญในตลาด

สมรรถนะบนทางเรียบ: ความแรงที่มาพร้อมความนุ่มนวล

เมื่อกลับมายังทางเรียบ ZEEKR 7X ยังคงไม่ทำให้ผิดหวัง ในรุ่น Performance AWD แรงดึงมหาศาลที่คุณสัมผัสได้นั้น ชัดเจนตามตัวเลขที่ระบุไว้ในสเปก การออกตัวที่รวดเร็วทันใจ การเร่งแซงที่ฉับไว มอบประสบการณ์การขับขี่ที่น่าตื่นเต้น และมาพร้อมความนุ่มนวลจากช่วงล่างถุงลม

ส่วนรุ่น Long Range RWD แม้จะไม่ได้ดุดันเท่า แต่ก็มีพละกำลังที่เหลือเฟือสำหรับการใช้งานทั่วไป ทั้งการขับขี่ในเมืองและการเดินทางไกล แรงดึงที่ทำได้นั้นเพียงพอต่อการใช้งานอย่างมั่นใจ ช่วงล่างให้ความนุ่มนวลในระดับที่น่าพอใจ อาจจะให้ความรู้สึกแข็งกว่ารุ่น Performance เล็กน้อย แต่ก็ยังคงความสบายในการขับขี่ไว้อย่างครบถ้วน

ห้องโดยสารพรีเมียมสมบูรณ์แบบ: นิยามใหม่ของความหรูหราและเทคโนโลยีอัจฉริยะ

ภายในห้องโดยสารของ ZEEKR 7X คือสิ่งที่ผมกล้าพูดได้ว่าคือที่สุดของ ภายในรถยนต์ไฟฟ้าพรีเมียม การออกแบบที่ใส่ใจในทุกรายละเอียด สะท้อนถึงรสนิยมและความหรูหราที่ ZEEKR ต้องการมอบให้กับผู้ใช้งาน
เบาะนั่งหนัง Nappa: คุณภาพของหนัง Nappa เป็นที่ยอมรับในเรื่องความนุ่มนวล ความหรูหรา และความทนทาน เบาะคู่หน้ามาพร้อมระบบนวดและเป่าลม ที่ช่วยคลายความเมื่อยล้าจากการเดินทางไกล หรือหลังจากวันทำงานที่หนักหน่วง ทำให้การขับขี่ไม่เป็นเพียงภาระ แต่เป็นช่วงเวลาแห่งการผ่อนคลายและฟื้นฟูพลังงาน
เบาะหลังปรับเอนไฟฟ้า: ความใส่ใจในผู้โดยสารตอนหลังปรากฏชัดเจนด้วยเบาะที่สามารถปรับเอนด้วยระบบไฟฟ้า ทำให้ผู้โดยสารสามารถเลือกท่าที่สบายที่สุดได้ ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน พักผ่อน หรือรับชมความบันเทิง สร้างสรรค์พื้นที่ด้านหลังให้กลายเป็นห้องนั่งเล่นส่วนตัวที่สมบูรณ์แบบ
ประตูไฟฟ้าและม่านบังแดดไฟฟ้า: ประตูทั้งสี่บานเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า เพิ่มความสะดวกสบายและความหรูหรา รวมถึงม่านบังแดดประตูคู่หลังที่สามารถเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้าได้เช่นกัน สะท้อนถึงความพรีเมียมที่ ZEEKR มอบให้ในทุกรายละเอียด

ระบบสารสนเทศและบันเทิง: ห้องโดยสารอัจฉริยะแห่งอนาคต

ZEEKR 7X ไม่เพียงหรูหรา แต่ยังชาญฉลาดด้วย ห้องโดยสารอัจฉริยะ ที่ล้ำสมัย:
หน้าจอกลาง Mini LED ขนาด 16 นิ้ว ความละเอียด 3.5K: หน้าจอหลักที่มีความละเอียดคมชัดสูง แสดงผลได้สวยงามและชัดเจนทุกรายละเอียด ไม่ว่าจะเป็นแผนที่ ระบบนำทาง หรือความบันเทิงต่างๆ
หน้าจอ AR HUD ขนาด 36.21 นิ้ว: ระบบ Head-Up Display แบบ Augmented Reality ที่ฉายข้อมูลสำคัญขึ้นบนกระจกหน้ารถโดยตรง ทำให้ผู้ขับขี่ไม่ต้องละสายตาจากถนน เพิ่มความปลอดภัยและความสะดวกสบายอย่างมหาศาล ถือเป็นหนึ่งใน ระบบช่วยเหลือการขับขี่ ที่ล้ำสมัย
หน้าจอ Cluster ขนาด 13.02 นิ้ว: แสดงข้อมูลการขับขี่ทั้งหมดในรูปแบบที่เข้าใจง่ายและสวยงาม
ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 8295 Processor (5nm Process Technology): หัวใจสำคัญที่ขับเคลื่อนระบบทั้งหมดนี้ ให้การประมวลผลที่รวดเร็ว ลื่นไหล ตอบสนองทุกคำสั่งได้อย่างฉับไว มอบ Digital Experience ที่ไร้รอยต่อ
ระบบเสียง ZEEKR Sound Pro พร้อมลำโพง 21 จุด: มอบประสบการณ์เสียงรอบทิศทางระดับสตูดิโอ เปลี่ยนห้องโดยสารให้เป็นโรงภาพยนตร์เคลื่อนที่ มอบสุนทรียภาพแห่งเสียงเพลงตลอดการเดินทาง

ความปลอดภัยคือหัวใจ: SEA Platform และมาตรฐาน 5 ดาว Euro NCAP

หนึ่งในสิ่งที่ ZEEKR ให้ความสำคัญสูงสุดคือ ความปลอดภัย ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้ใช้งาน รถยนต์ไฟฟ้า ทุกคนคาดหวัง ZEEKR 7X ถูกสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม SEA (Sustainable Experience Architecture) ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมที่ออกแบบมาเพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพสูงสุดโดยเฉพาะ
มาตรฐาน Euro NCAP 5 ดาว: การันตีความปลอดภัยระดับสูงสุด ด้วยคะแนน 91% สำหรับการปกป้องผู้โดยสารผู้ใหญ่ และ 90% สำหรับผู้โดยสารเด็ก สะท้อนถึงการออกแบบที่คำนึงถึงทุกคนในครอบครัว
ระบบช่วยขับขี่ ZEEKR AD พร้อม Dual Mobileye Chips: ระบบช่วยเหลือการขับขี่ขั้นสูง ที่ทำงานร่วมกับชิป Mobileye สองตัว ช่วยเพิ่มความแม่นยำและเสถียรภาพในการตรวจจับสภาพแวดล้อม ทำให้การขับขี่ปลอดภัยยิ่งขึ้น
โครงสร้างตัวรถ Dome-Shaped และโครงสร้างตัวถังหลัง Single Piece Die-Cast: โครงสร้างที่แข็งแกร่งและน้ำหนักเบา เพิ่มความปลอดภัยในกรณีเกิดการชน และยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้พลังงานอีกด้วย

นี่คือการออกแบบที่ไม่ได้มองแค่ความสวยงามหรือสมรรถนะ แต่ยังคำนึงถึงชีวิตของผู้โดยสารทุกคนเป็นสำคัญ ทำให้ ZEEKR 7X เป็นตัวเลือกที่น่าเชื่อถือสำหรับครอบครัว

สรุป: ZEEKR 7X, SUV ไฟฟ้าที่นิยามอนาคตแห่งการขับขี่

จากประสบการณ์ของผมในฐานะผู้เชี่ยวชาญ ผมกล้าพูดได้เลยว่า ZEEKR 7X ไม่ใช่แค่ รถยนต์ไฟฟ้า 2025 ทั่วไป แต่เป็นนวัตกรรมที่มาพร้อมกับความโดดเด่นอย่างแท้จริงในตลาด SUV ไฟฟ้า ที่กำลังแข่งขันกันอย่างดุเดือด ด้วยการผสมผสานความหรูหรา ดีไซน์ที่ล้ำสมัย สมรรถนะอันทรงพลังจาก เทคโนโลยี 800V ความสามารถในการ ออฟโรด ที่เหนือความคาดหมาย และระบบความปลอดภัยที่ครบครัน นี่คือยานยนต์ที่สร้างขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ผู้ขับขี่ที่ต้องการทั้งความตื่นเต้น ความสบาย และความมั่นใจในทุกการเดินทาง

ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้ที่มองหา รถยนต์ไฟฟ้าหรู ที่มอบประสบการณ์การขับขี่ระดับพรีเมียม หรือเป็นผู้ที่ต้องการ รถ EV ลุยได้ ที่พร้อมพาคุณออกผจญภัยในทุกเส้นทาง ZEEKR 7X มีคำตอบให้คุณครบถ้วน และถ้าคุณยังไม่ได้สนใจในเรื่องการลุย แต่เน้นการใช้งานในชีวิตประจำวันและวิ่งทางไกล รุ่น Long Range RWD ก็สามารถตอบโจทย์ได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยช่วงล่างและออปชันที่ไม่ได้ด้อยกว่ากันเลย

ได้เวลาสัมผัสอนาคตแล้ว!

อย่ารอช้าที่จะเป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์การขับขี่แห่งอนาคตที่ ZEEKR 7X พร้อมมอบให้คุณ ผมขอแนะนำให้ทุกท่านได้สัมผัสและทดลองขับ ZEEKR 7X ด้วยตัวเอง เพื่อพิสูจน์ถึงความเหนือระดับของ SUV ไฟฟ้า คันนี้ ที่จะพลิกโฉมทุกมุมมองที่คุณเคยมีต่อยานยนต์ไฟฟ้า เยี่ยมชมโชว์รูม ZEEKR ใกล้บ้านคุณวันนี้ และก้าวเข้าสู่โลกของการขับเคลื่อนที่ยั่งยืนและไร้ขีดจำกัดไปพร้อมกัน