Mercedes-Benz CLS 220 d AMG Premium: ตำนานคูเป้ 4 ประตู ที่ยังคงสะกดทุกสายตาในปี 2025
ในโลกยานยนต์ที่หมุนไปอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับกระแสรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่เข้ามาเปลี่ยนโฉมหน้าอุตสาหกรรมในทุกมิติ การหวนกลับมามองรถยนต์ดีไซน์สุดคลาสสิกที่ Mercedes-Benz ได้ยุติการผลิตไปแล้วอย่าง CLS อาจดูเหมือนเป็นการย้อนยุค แต่สำหรับผู้ที่คลุกคลีอยู่ในวงการยานยนต์มากว่าทศวรรษอย่างผม คำว่า “เหนือกาลเวลา” ไม่ได้เป็นเพียงแค่คำโฆษณา แต่เป็นสิ่งที่พิสูจน์ได้จริง และหนึ่งในนั้นคือ Mercedes-Benz CLS 220 d AMG Premium เจเนอเรชันสุดท้าย ซึ่งแม้ในปี 2025 นี้ มันยังคงยืนหยัดในฐานะรถยนต์ที่เปี่ยมด้วยเสน่ห์ สมรรถนะ และคุณค่าที่น่าค้นหาอย่างแท้จริง
หลายคนอาจตั้งคำถามว่า “ในเมื่อมันตกรุ่นไปแล้ว ยังน่าใช้หรือน่าจับจองอยู่ไหม?” จากประสบการณ์ตรงและมุมมองเชิงลึกในตลาดรถยนต์พรีเมียม ผมกล้าฟันธงว่า CLS 220 d AMG Premium ไม่ได้เป็นแค่รถยนต์มือสองธรรมดา แต่มันคือการลงทุนในงานศิลปะวิศวกรรมที่มาพร้อมราคาที่สมเหตุสมผลมากขึ้น ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบสำคัญใน ตลาดรถหรูมือสอง ปี 2025 นี้ เพราะในขณะที่รถยนต์รุ่นใหม่ๆ แข่งขันกันด้วยเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว CLS กลับมอบความมั่นคงทางดีไซน์และวิศวกรรมที่ได้รับการยอมรับมาอย่างยาวนาน
ดีไซน์ที่เหนือกาลเวลา: หัวใจของ CLS ที่ยังเต้นแรงในปี 2025
เมื่อพูดถึง Mercedes-Benz CLS สิ่งแรกที่ทุกคนนึกถึงย่อมเป็น “ดีไซน์” ที่โดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งริเริ่มแนวคิด “รถคูเป้ 4 ประตู” ที่ผสมผสานความสง่างามของรถซีดานเข้ากับความสปอร์ตโฉบเฉี่ยวของรถคูเป้ได้อย่างลงตัว CLS เจเนอเรชันนี้ ไม่เพียงแต่ต่อยอดปรัชญา “Sensual Purity” ของ Mercedes-Benz ได้อย่างสมบูรณ์แบบ แต่ยังเป็นบทพิสูจน์ว่าดีไซน์ที่แท้จริงไม่เคยล้าสมัย
ในยุคที่รถยนต์หลายรุ่นพยายามฉีกแนวด้วยเส้นสายที่หวือหวาเพื่อดึงดูดความสนใจ CLS กลับเลือกความเรียบง่ายแต่ทรงพลัง ด้วยหลังคาลาดเอียงจรดท้ายรถ (Fastback) อันเป็นเอกลักษณ์ กรอบประตูแบบไร้ขอบ (Frameless Doors) ที่เพิ่มความหรูหราและความสปอร์ตในคราวเดียวกัน เส้นสายด้านข้างตัวรถที่ลื่นไหลราวกับน้ำ สร้างมิติที่น่าหลงใหลยามแสงตกกระทบ ไฟหน้า MultiBeam LED ที่ไม่เพียงให้ทัศนวิสัยที่ดีเยี่ยม แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งที่สร้างความโดดเด่นให้กับส่วนหน้าของรถ และชุดแต่ง AMG Premium ที่เสริมความดุดันด้วยกันชนหน้า-หลังดีไซน์สปอร์ต และล้ออัลลอยขนาดใหญ่ ยิ่งขับเน้นความน่าเกรงขามบนท้องถนน
สำหรับปี 2025 นี้ ท่ามกลางรถยนต์ไฟฟ้าที่มีดีไซน์ล้ำยุค CLS ยังคงเป็นรถที่สามารถ สะกดทุกสายตา ได้อย่างง่ายดาย ทุกครั้งที่ผมเห็น CLS ขับเคลื่อนผ่านไปบนถนน ไม่ว่าจะรุ่นไหนหรือสีอะไร มันยังคงดึงดูดให้ต้องเหลียวมอง และนั่นคือสิ่งที่ยืนยันว่า ดีไซน์รถยนต์เหนือกาลเวลา ไม่ได้มีอยู่แค่ในตำรา แต่มันปรากฏอยู่จริงใน CLS คันนี้ ไม่ว่าจะเป็นอีก 5 ปี หรือ 10 ปีข้างหน้า ผมเชื่อว่า CLS เจเนอเรชันนี้จะยังคงความสง่างามและโดดเด่นไม่เปลี่ยนแปลง เป็นรถที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความแตกต่าง ต้องการรถที่สะท้อนรสนิยม และไม่ต้องการให้รถของตนเอง “ตกรุ่น” ในระยะเวลาอันสั้น
สมรรถนะเหนือระดับ พร้อมความประหยัดที่น่าทึ่ง: หัวใจดีเซลที่ยังคงแข็งแกร่ง
ภายใต้รูปลักษณ์ที่สง่างามของ Mercedes-Benz CLS 220 d AMG Premium คือ สมรรถนะเครื่องยนต์ดีเซล อันทรงพลังและเปี่ยมประสิทธิภาพ ด้วยเครื่องยนต์ดีเซลรหัส OM654 ขนาด 2.0 ลิตร (1,950 ซีซี) 4 สูบ เทอร์โบ ที่มอบพละกำลังสูงสุด 194 แรงม้า ที่ 3,800 รอบ/นาที และแรงบิดมหาศาลถึง 400 นิวตันเมตร ที่ช่วงรอบต่ำ 1,600-2,800 รอบ/นาที ซึ่งถ่ายทอดกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ 9G-TRONIC ที่ขึ้นชื่อเรื่องความราบรื่นและแม่นยำ ทำให้การเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ทำได้ภายในเวลาเพียง 7.5 วินาที ซึ่งถือว่ารวดเร็วเกินพอสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันและนอกเมือง
แต่จุดเด่นที่แท้จริงของเครื่องยนต์ OM654 ไม่ได้อยู่ที่ตัวเลขสมรรถนะเพียงอย่างเดียว หากแต่เป็นการผนวกเทคโนโลยี Mild Hybrid (EQ Boost) เข้ามาช่วยเสริมการทำงานได้อย่างชาญฉลาด ระบบนี้ช่วยให้การออกตัวของรถเป็นไปอย่างนุ่มนวลและไร้รอยต่อ ลดภาระของเครื่องยนต์หลักในช่วงแรกของการเคลื่อนที่ ซึ่งเป็นช่วงที่เครื่องยนต์ใช้เชื้อเพลิงมากที่สุด นอกจากนี้ ยังช่วยในการปั่นไฟกลับเข้าสู่แบตเตอรี่และสามารถให้กำลังเสริมในบางจังหวะ ทำให้ CLS 220 d ไม่ใช่แค่รถที่มีสมรรถนะดี แต่ยังเป็น เบนซ์ดีเซลประหยัดน้ำมัน อย่างแท้จริง
จากประสบการณ์การขับขี่ในหลากหลายสภาพถนนและสถานการณ์ ผมยืนยันได้ว่า อัตราสิ้นเปลือง CLS 220d นั้นน่าประทับใจเป็นอย่างยิ่ง:
การขับขี่ในเมืองที่การจราจรหนาแน่น: อาจเห็นตัวเลขประมาณ 10-12 กม./ลิตร ซึ่งถือว่าดีมากสำหรับรถยนต์ขนาดใหญ่ระดับนี้ในสภาพการจราจรติดขัดของกรุงเทพฯ
การขับขี่นอกเมืองหรือบนทางหลวงที่ความเร็วคงที่: ตัวเลขสามารถพุ่งไปถึง 18-22 กม./ลิตร ได้อย่างไม่น่าเชื่อ โดยเฉพาะเมื่อขับขี่ด้วยความเร็วตามกฎหมายกำหนดและใช้ Cruise Control
การใช้งานแบบผสมผสาน (ในเมือง 50% และนอกเมือง 50%): ค่าเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 14-16 กม./ลิตร ซึ่งเป็นตัวเลขที่สมเหตุสมผลและน่าพึงพอใจเป็นอย่างยิ่ง
ในปี 2025 ที่ราคาน้ำมันยังคงผันผวน การมีรถยนต์ดีเซลประสิทธิภาพสูงที่ให้ทั้งพละกำลังและความประหยัดเช่นนี้ ถือเป็นข้อได้เปรียบที่สำคัญ และสำหรับผู้ที่กังวลเรื่อง ค่าบำรุงรักษาเบนซ์ เครื่องยนต์ดีเซล OM654 นี้ได้รับการพัฒนาให้มีความทนทานและประสิทธิภาพสูง การบำรุงรักษาตามระยะเวลาอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้รถคันนี้ยังคงวิ่งได้อย่างไร้ปัญหาไปอีกหลายปี และด้วยความแพร่หลายของอะไหล่และการบริการจากศูนย์ Mercedes-Benz ทั่วประเทศ ทำให้มั่นใจได้ว่าจะสามารถดูแลรักษาได้เป็นอย่างดี
ประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือความคาดหมาย: สุนทรียะแห่งการเดินทาง
เมื่อพูดถึงการขับขี่ Mercedes-Benz CLS 220 d AMG Premium เป็นรถที่มอบประสบการณ์ที่เหนือความคาดหมายในทุกมิติ ด้วยความเชี่ยวชาญกว่า 10 ปีในแวดวงยานยนต์ ผมกล้าพูดว่าการขับขี่ CLS เจเนอเรชันนี้ คือการผสมผสานระหว่างความสปอร์ตและความสบายได้อย่างลงตัว
โหมดการขับขี่ที่ปรับได้ตามใจ:
ECO Mode: เหมาะสำหรับการขับขี่ในเมืองที่ต้องการความประหยัดสูงสุด การตอบสนองของคันเร่งจะถูกหน่วงลงเล็กน้อย เกียร์จะเปลี่ยนที่รอบต่ำเพื่อลดการใช้น้ำมัน แม้จะไม่ใช่โหมดสำหรับการเร่งแซงที่ฉับไว แต่ก็เพียงพอสำหรับการขับเคลื่อนในจังหวะปกติ และสัมผัสได้ถึงความลื่นไหลจากการทำงานของระบบ Mild Hybrid
Comfort Mode: คือโหมดที่สมดุลที่สุดสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน การตอบสนองของเครื่องยนต์มีความกระฉับกระเฉงขึ้นเล็กน้อย การเปลี่ยนเกียร์ราบรื่น ช่วงล่าง (หากเป็นรุ่นที่มีช่วงล่างปรับได้) จะให้ความนุ่มนวลที่เหมาะสม โหมดนี้เหมาะสำหรับทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะขับในเมือง ออกต่างจังหวัด หรือแม้แต่การเร่งแซงที่ต้องการพละกำลังที่เพียงพอ
Sport Mode: สำหรับผู้ที่ต้องการรีดเค้นสมรรถนะสูงสุดจาก CLS คันนี้ การตอบสนองของคันเร่งจะไวขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เกียร์จะเปลี่ยนที่รอบเครื่องยนต์สูงขึ้นเพื่อรักษาพละกำลัง และบางครั้งอาจมีการ Hold เกียร์ต่ำไว้เพื่อให้พร้อมสำหรับการเร่งแซงในทุกเมื่อ ช่วงล่างจะแข็งขึ้นเล็กน้อยเพื่อเพิ่มความมั่นคงในการเข้าโค้ง และพวงมาลัยอาจมีการปรับน้ำหนักให้กระชับมือมากขึ้น ผมกล้าท้าให้ลองขับในโหมดนี้ แล้วจะรู้ว่าคำว่า “อืด” ไม่ได้มีอยู่ในพจนานุกรมของ CLS คันนี้เลย
การควบคุมและความคล่องตัว:
แม้จะมีขนาดตัวถังที่ค่อนข้างใหญ่ แต่ CLS 220 d กลับให้ความรู้สึกที่คล่องตัวเกินคาด การควบคุมพวงมาลัยมีความแม่นยำ น้ำหนักกำลังดี ทำให้การ ขับมุดซอกแซก ในเมือง หรือการเปลี่ยนเลนบนทางหลวงเป็นไปอย่างมั่นใจ และเมื่อต้องเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง ช่วงล่างรถสปอร์ต ที่ได้รับการปรับจูนมาอย่างดีจะช่วยให้รถเกาะถนนได้อย่างยอดเยี่ยม ลดอาการโยนตัว และให้ความมั่นใจในการควบคุมสูงสุด
ระบบเบรก:
ระบบเบรกของ CLS ให้ความรู้สึกที่หนักแน่นและสามารถชะลอความเร็วได้อย่างมั่นใจ พร้อมด้วยระบบเบรกอัตโนมัติที่สามารถตั้งค่าความไวในการทำงานได้ ผมเคยทดสอบในสถานการณ์จริงที่รถคันหน้าเบรกกะทันหัน ระบบจะส่งสัญญาณเตือนที่หน้าจอ และหากระยะกระชั้นชิดเกินไป ระบบจะเข้าช่วยเบรกให้อัตโนมัติ ซึ่งเป็น ระบบความปลอดภัยรถยนต์ ที่มีประโยชน์อย่างยิ่งในสภาพการจราจรที่คาดเดาได้ยากของปี 2025
เทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ สำหรับยุค 2025: ขับขี่มั่นใจทุกเส้นทาง
ในยุคที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญในการขับขี่ Mercedes-Benz CLS 220 d AMG Premium ไม่ได้เป็นแค่รถที่สวยงาม แต่ยังอัดแน่นไปด้วย ระบบช่วยขับขี่ Mercedes และเทคโนโลยีความปลอดภัยที่ล้ำสมัย ซึ่งยังคงทันสมัยและตอบโจทย์การใช้งานในปี 2025 ได้อย่างดีเยี่ยม
Blind Spot Assist: ระบบช่วยเตือนจุดอับสายตา ที่ไม่เพียงแค่เตือนขณะขับขี่ แต่ยังรวมถึงฟังก์ชัน “Exit Warning” ที่จะเตือนเมื่อเราเปิดประตูรถแล้วมีรถยนต์หรือจักรยานยนต์วิ่งมาจากด้านหลัง ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่เพิ่มความปลอดภัยในการจอดรถในเมืองได้อย่างยอดเยี่ยม
Active Parking Assist: สำหรับมือใหม่หรือผู้ที่ต้องการความสะดวกสบายสูงสุด ระบบนี้จะช่วยค้นหาช่องจอดและนำรถเข้าจอดแบบขนาน (Parallel Parking) หรือเข้าซอง (Perpendicular Parking) ให้เองอัตโนมัติ โดยผู้ขับขี่ไม่จำเป็นต้องหมุนพวงมาลัยหรือเปลี่ยนเกียร์เองเลย ช่วยลดความกังวลในการจอดรถในพื้นที่แคบได้อย่างมาก
กล้องมองภาพรอบคัน 360 องศา: นี่คือสิ่งที่ผมใช้บ่อยที่สุด ช่วยให้มองเห็นภาพรอบคันรถได้อย่างชัดเจน ทั้งด้านหน้า ด้านหลัง และด้านข้าง สามารถเลือกดูมุมมองแต่ละมุมได้ ทำให้การขับขี่ในที่แคบ การจอดเทียบฟุตบาท หรือการออกจากที่จอดเป็นไปอย่างปลอดภัยและมั่นใจ ไม่ต้องกลัวการเฉี่ยวชนอีกต่อไป
Active Brake Assist (หรือ Adaptive Brake Assist): นอกจากระบบเบรกอัตโนมัติพื้นฐานแล้ว CLS ยังมีระบบที่ช่วยเตือนและสามารถเบรกเพื่อป้องกันการชนด้านหน้า หรือลดความรุนแรงจากการชนได้ ซึ่งถือเป็นมาตรฐานความปลอดภัยที่สำคัญ
PRE-SAFE® system: ระบบเตรียมความพร้อมก่อนเกิดอุบัติเหตุที่จะทำงานร่วมกับระบบความปลอดภัยอื่นๆ เช่น เมื่อตรวจจับได้ว่าอาจเกิดการชน เข็มขัดนิรภัยจะกระชับขึ้น หน้าต่างและซันรูฟจะปิดอัตโนมัติ เพื่อปกป้องผู้โดยสารอย่างสูงสุด
เทคโนโลยีเหล่านี้ทำให้ CLS 220 d ไม่ใช่แค่รถหรู แต่ยังเป็น รถยนต์ขับขี่ปลอดภัย ที่ตอบสนองความต้องการของผู้ขับขี่ในยุคปัจจุบันได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ความหรูหราสะดวกสบาย ภายในห้องโดยสาร: สุนทรียภาพที่สัมผัสได้
ภายในห้องโดยสารของ Mercedes-Benz CLS 220 d AMG Premium คืออีกหนึ่งจุดแข็งที่สะท้อนถึงมาตรฐานระดับพรีเมียมของแบรนด์ได้อย่างชัดเจน การออกแบบภายในยังคงความหรูหรา ทันสมัย และมอบความสะดวกสบายอย่างเหนือระดับ
ดีไซน์และการตกแต่ง: ห้องโดยสารที่ได้รับอิทธิพลจาก E-Class ผสมผสานความสปอร์ตและความหรูหราได้อย่างลงตัว ด้วยเส้นสายที่ไหลลื่น แผงหน้าปัดแบบดิจิทัลขนาดใหญ่สองจอที่เชื่อมต่อกัน (Widescreen Cockpit) แสดงผลข้อมูลการขับขี่และระบบ Infotainment ได้อย่างคมชัดและสวยงาม
วัสดุคุณภาพสูง: การเลือกใช้วัสดุระดับพรีเมียม เช่น หนังแท้คุณภาพดี ลายไม้ หรืออลูมิเนียมขัดเงา ที่ผ่านการประกอบอย่างประณีต ทำให้ทุกสัมผัสภายในห้องโดยสารเต็มไปด้วยความหรูหรา และยังคงสภาพดีเยี่ยมแม้จะผ่านการใช้งานมาบ้าง
ระบบแสงไฟ Ambient Lighting: ไฟสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสารที่มีให้เลือกถึง 64 สี ช่วยสร้างความรู้สึกผ่อนคลายและปรับเปลี่ยนอารมณ์ให้เข้ากับการเดินทางในแต่ละช่วงเวลาได้อย่างลงตัว
เบาะนั่ง: เบาะนั่งด้านหน้าที่โอบกระชับและรองรับสรีระได้ดีเยี่ยม ให้ความสบายในการขับขี่ทางไกล ส่วนเบาะนั่งด้านหลัง แม้จะเป็นรถคูเป้ 4 ประตูที่หลังคาลาดเอียง แต่ก็ยังคงมีพื้นที่ headrooom และ legroom ที่พอเหมาะสำหรับการเดินทางระยะกลาง ทำให้ผู้โดยสารตอนหลังไม่รู้สึกอึดอัด
ระบบ Infotainment และการเชื่อมต่อ: ระบบ MBUX (Mercedes-Benz User Experience) ที่มาพร้อมหน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่ รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto ทำให้สามารถเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนและใช้งานแอปพลิเคชันต่างๆ ได้อย่างสะดวกสบาย รวมถึงระบบนำทางที่แม่นยำและ เทคโนโลยี MBUX ที่ยังคงทันสมัยในปี 2025
การเก็บเสียง: เป็นจุดที่ Mercedes-Benz ทำได้ดีมาโดยตลอด CLS 220 d ก็เช่นกัน ที่ความเร็ว 140 กม./ชม. เสียงลมและเสียงรบกวนจากภายนอกยังคงเข้ามาในห้องโดยสารน้อยมาก สร้างบรรยากาศที่เงียบสงบสำหรับการเดินทาง อย่างไรก็ตาม ด้วยการใช้ยาง Run-flat ที่มีโครงสร้างแข็งแรงกว่ายางธรรมดา อาจทำให้ได้ยินเสียงยางบดถนนหรือรู้สึกถึงแรงสะท้านจากการขับผ่านพื้นผิวขรุขระบ้างเล็กน้อย ซึ่งเป็นข้อแลกเปลี่ยนเล็กน้อยที่ต้องยอมรับสำหรับคุณสมบัติด้านความปลอดภัยและความสะดวกสบายในการขับขี่ที่เหนือกว่าเมื่อยางแบน
ช่วงล่างและล้อ: การปรับจูนสู่ความสมบูรณ์แบบและการเลือกที่ลงตัว
ประเด็นเรื่องช่วงล่างและล้อเป็นสิ่งที่ผู้เชี่ยวชาญอย่างผมมักจะให้ความสำคัญเป็นพิเศษ และเป็นจุดที่ CLS 220 d AMG Premium มีทั้งส่วนที่น่าชื่นชมและส่วนที่สามารถปรับปรุงได้
ช่วงล่าง: Mercedes-Benz CLS เจเนอเรชันนี้ ไม่ได้ถูกออกแบบมาให้เน้นความนุ่มนวลแบบรถซีดานทั่วไป แต่เน้นไปที่ความมั่นคงและความสปอร์ตเป็นหลัก การเซ็ตอัพช่วงล่างให้ความรู้สึกที่กระชับแน่น หนึบ และให้ความมั่นใจอย่างมากในการเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง ไม่มีอาการร่อนหรือย้วยให้เห็น ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้ที่ชื่นชอบการขับขี่แบบสปอร์ตจะชื่นชอบเป็นพิเศษ เป็นการตอกย้ำว่านี่คือ รถคูเป้ 4 ประตู หรูหรา ที่พร้อมมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เร้าใจ
ล้อและยาง: จุดนี้เป็นสิ่งที่ผมเห็นด้วยกับข้อคิดเห็นเดิม และยังคงเป็นประเด็นที่พูดถึงกันอยู่ สำหรับรุ่น AMG Premium ที่มาพร้อมล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว พร้อมยางขนาด 245/35R20 ที่ล้อคู่หน้า และ 275/30R20 ที่ล้อคู่หลัง ซึ่งเป็นขนาดยางที่ค่อนข้างบางมาก เพื่อความสวยงามและประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนนที่ดีเยี่ยมในสภาวะปกติ อย่างไรก็ตาม ยางแก้มเตี้ยขนาด 35 และ 30 นี้ ค่อนข้างมีความอ่อนไหวต่อพื้นผิวถนนที่ไม่เรียบ หากขับขี่ผ่านทางขรุขระ หรือตกหลุมบ่อใหญ่ๆ จะรู้สึกถึงแรงสะเทือนที่ส่งเข้ามาในห้องโดยสารค่อนข้างชัดเจน และมีความเสี่ยงที่ล้อและยางจะเกิดความเสียหายได้ง่ายกว่า ผมขอแนะนำว่าหากต้องการความนุ่มนวลในการขับขี่ในชีวิตประจำวันมากขึ้น หรือต้องการลดความกังวลเรื่องความเสียหายของล้อและยาง การเปลี่ยนไปใช้ล้อขนาด 19 นิ้ว แล้วรัดด้วยยางที่มีแก้มยางหนาขึ้นเล็กน้อย (เช่น 245/40R19 และ 275/35R19) จะช่วยเพิ่มความสบายในการขับขี่ได้อย่างมีนัยสำคัญ และยังคงรักษาสมรรถนะการควบคุมไว้ได้เป็นอย่างดี ซึ่งเป็นสิ่งที่รุ่นนำเข้าในยุคแรกๆ เคยทำมาแล้วและให้ความรู้สึกที่น่าประทับใจมากกว่า
คุณค่าเหนือกาลเวลา ในฐานะตำนานบทสุดท้าย: CLS มือสอง ที่น่าจับตาในปี 2025
ในฐานะ CLS มือสอง เจเนอเรชันสุดท้าย ราคาของ Mercedes-Benz CLS 220 d AMG Premium ในปี 2025 นี้ ถือว่าน่าดึงดูดใจอย่างยิ่ง เมื่อเทียบกับราคาเริ่มต้นเมื่อครั้งเปิดตัว (ซึ่งลดลง 760,000 บาทเหลือ 3,880,000 บาทในปี 2024 ตามที่ระบุในบทความต้นฉบับ) ปัจจุบัน คุณสามารถเป็นเจ้าของ CLS คันนี้ได้ใน ราคา CLS ที่เข้าถึงง่ายขึ้นมาก ซึ่งนับเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าสำหรับรถยนต์พรีเมียมที่มีดีไซน์และเทคโนโลยีที่ไม่ล้าสมัย
การเป็น “โฉมสุดท้าย” ของตระกูล CLS ทำให้รถคันนี้มีสถานะพิเศษ มันจะไม่ตกรุ่นด้วยโมเดลใหม่ๆ ที่มาแทนที่ และดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ของมันจะยังคงโดดเด่นและเป็นที่จดจำไปอีกนานหลายปี เปรียบได้กับของสะสมหายากที่ไม่ได้ลดทอนคุณค่าลงตามกาลเวลา แต่กลับเพิ่มเสน่ห์มากขึ้นในสายตาของผู้ที่มองเห็นคุณค่าที่แท้จริง
สำหรับผู้ที่กำลังมองหา รถยนต์พรีเมียมมือสอง ที่มอบความหรูหรา สมรรถนะ และดีไซน์ที่แตกต่าง ไม่ต้องการรถที่เหมือนใครบนท้องถนน แต่ก็ยังต้องการความน่าเชื่อถือและเทคโนโลยีความปลอดภัยที่ครบครัน Mercedes-Benz CLS 220 d AMG Premium คือตัวเลือกที่ตอบโจทย์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ เป็นรถที่สามารถใช้งานได้ทุกวัน ไม่ว่าจะขับขี่ในเมืองไปทำงาน หรือเดินทางไกลข้ามจังหวัด วัสดุ งานประกอบ และเทคโนโลยีต่างๆ ยังคงรักษามาตรฐานระดับโลกของ Mercedes-Benz ได้เป็นอย่างดี
บทสรุปที่ใช่ สำหรับผู้ที่มองหาความแตกต่าง
Mercedes-Benz CLS 220 d AMG Premium เจเนอเรชันสุดท้ายนี้ ไม่ใช่แค่รถยนต์คันหนึ่ง แต่เป็นสัญลักษณ์ของรสนิยม ความสง่างาม และสมรรถนะที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว แม้ในปี 2025 นี้ ที่โลกกำลังก้าวเข้าสู่ยุคของรถยนต์ไฟฟ้าเต็มตัว CLS ยังคงเป็นรถที่มีเสน่ห์ที่ยากจะต้านทาน ด้วยดีไซน์ที่เหนือกาลเวลา เครื่องยนต์ดีเซลที่ประหยัดและทรงพลัง เทคโนโลยีความปลอดภัยที่ครบครัน และประสบการณ์การขับขี่ที่มอบทั้งความสปอร์ตและความสะดวกสบาย
สำหรับผู้ที่ต้องการ ซื้อรถหรูมือสอง ที่ให้ความคุ้มค่าสูงสุด ต้องการรถที่สะท้อนบุคลิกที่โดดเด่น ไม่ตามกระแส แต่ยังคงไว้ซึ่งความทันสมัยและสมรรถนะที่ไว้วางใจได้ CLS 220 d AMG Premium คือคำตอบที่ใช่ของคุณอย่างแน่นอน
หากคุณพร้อมที่จะสัมผัสประสบการณ์การขับขี่ที่แตกต่างและเป็นเจ้าของตำนานบทสุดท้ายของ CLS อย่ารอช้า! แนะนำให้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านรถยนต์พรีเมียมมือสอง หรือติดต่อตัวแทนจำหน่าย Mercedes-Benz เพื่อค้นหา CLS 220 d AMG Premium ในสภาพดีเยี่ยม และทดลองขับด้วยตัวคุณเอง แล้วคุณจะเข้าใจว่าทำไมรถคันนี้จึงยังคงน่าครอบครองอย่างยิ่งในปี 2025 นี้
![[ตอนต่อไป] 033T1129 AB33 แนน..นี่เธอ มีแฟนเป็นขอทานเหรอ.mp4](https://filmthailan.moicaucachep.com/wp-content/uploads/2025/11/image-39-2.png)
![[ตอนต่อไป] 034T1129 AB34 น้องชายประธาน แต่ต้องสมัครงานเอง.mp4](https://filmthailan.moicaucachep.com/wp-content/uploads/2025/11/image-40-2.png)