• Privacy Policy
  • Sample Page
Film
No Result
View All Result
No Result
View All Result
Film
No Result
View All Result

[ตอนต่อไป] 045T1129 AB45 เพระข้างใน สำคัญกว่าที่เห็น.mp4

admin79 by admin79
November 27, 2025
in Uncategorized
0
[ตอนต่อไป] 045T1129 AB45 เพระข้างใน สำคัญกว่าที่เห็น.mp4

Mercedes-Benz CLS 220 d AMG Premium ในปี 2025: ตำนานคูเป้ 4 ประตูที่ยังคงคุณค่าและน่าจับตามอง

ในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการยานยนต์มานานกว่าทศวรรษ ผมได้เห็นรถยนต์หลากหลายรุ่นผ่านเข้ามาและจากไป แต่มีบางรุ่นที่ทิ้งมรดกอันล้ำค่าไว้ และยังคงยืนหยัดท้าทายกาลเวลาได้อย่างน่าประหลาดใจ หนึ่งในนั้นคือ Mercedes-Benz CLS เจเนอเรชั่นสุดท้าย โดยเฉพาะรุ่น CLS 220 d AMG Premium ที่แม้จะยุติสายการผลิตไปแล้วในช่วงปลายปี 2023 แต่ในปี 2025 นี้ รถคันนี้กลับยิ่งน่าสนใจขึ้นไปอีกขั้นในตลาดรถยนต์หรูมือสอง ด้วยองค์ประกอบที่ลงตัวทั้งดีไซน์ สมรรถนะ และความคุ้มค่าที่ยากจะหาใครเทียบได้

หลายท่านอาจสงสัยว่า ในยุคที่รถยนต์ไฟฟ้า (EV) กำลังเข้ามามีบทบาทอย่างรวดเร็ว และเทคโนโลยีใหม่ๆ หลั่งไหลเข้ามาไม่หยุดหย่อน การพิจารณา Mercedes-Benz CLS 220 d AMG Premium ซึ่งเป็นรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายใน โดยเฉพาะเครื่องยนต์ดีเซล จะยังเป็นการลงทุนที่ชาญฉลาดอยู่หรือไม่? คำตอบของผมในฐานะผู้เชี่ยวชาญคือ “ใช่” ครับ ยิ่งกว่านั้น มันอาจเป็น “โอกาสทอง” สำหรับผู้ที่มองหารถยนต์ที่แตกต่างและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

พลิกโฉมวงการกับดีไซน์เหนือกาลเวลา

Mercedes-Benz CLS ได้ชื่อว่าเป็นผู้บุกเบิกตลาดรถยนต์ “คูเป้ 4 ประตู” นับตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรกในปี 2004 และเจเนอเรชั่นสุดท้าย (รหัสตัวถัง C257) ก็ได้ยกระดับแนวคิดนี้ไปอีกขั้น ด้วยการผสมผสานความสง่างามของรถซีดานเข้ากับเส้นสายที่โฉบเฉี่ยวเร้าใจของรถคูเป้ได้อย่างลงตัว ไม่ใช่แค่การออกแบบที่สวยงาม แต่เป็นการสร้างสรรค์งานศิลปะบนเรือนร่างของยานยนต์ที่ยังคงสะกดทุกสายตาได้แม้เวลาจะผ่านมาหลายปี

เมื่อปี 2025 เรามองย้อนกลับไป CLS เจเนอเรชั่นนี้ยังคงดูทันสมัยและไม่ล้าสมัยแม้แต่น้อย เส้นสายตัวถังที่ลาดเอียงจากเสา A ไปจนถึงท้ายรถอย่างต่อเนื่อง (Shooting Brake-inspired) ไฟหน้า MultiBeam LED ที่เรียวเล็กทรงเอกลักษณ์ และไฟท้าย LED ที่ออกแบบให้ล้อไปกับรูปทรงของตัวรถ ล้วนเป็นองค์ประกอบที่ผสมผสานกันอย่างลงตัวและไร้ที่ติ ชุดแต่ง AMG Premium ที่มาพร้อมกับความดุดันของกันชนหน้า-หลัง สเกิร์ตข้าง และล้ออัลลอยด์ขนาด 20 นิ้ว ยิ่งเสริมให้ CLS 220 d AMG Premium มีบุคลิกที่โดดเด่นและสปอร์ตเต็มตัว

ผมมักจะเปรียบดีไซน์ของ CLS กับ “สูทสั่งตัดชั้นดี” ที่ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ซีซัน ก็ยังคงดูดีมีระดับและไม่ตกเทรนด์ มันตอบโจทย์ทั้งผู้ที่ต้องการรถซีดานที่ใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน แต่ไม่อยากทิ้งความพิเศษเฉพาะตัวของรถคูเป้ และผู้ที่หลงใหลในความสปอร์ตแต่ก็ยังต้องการความสะดวกสบายสำหรับผู้โดยสาร ผมกล้าพูดได้เลยว่า CLS 220 d AMG Premium จะยังคงเป็นรถที่ผู้คนต้องเหลียวมองบนท้องถนนไปอีกนาน และในอนาคต อาจจะกลายเป็น “คลาสสิกสมัยใหม่” ที่มีคุณค่าทางใจสำหรับนักสะสมก็เป็นได้

สมรรถนะดีเซลผสานความประหยัด: หัวใจที่ยังเต้นแรงในยุคใหม่

หัวใจหลักของ Mercedes-Benz CLS 220 d AMG Premium คือเครื่องยนต์ดีเซลรหัส OM654 ขนาด 2.0 ลิตร 4 สูบ เทอร์โบ ที่ได้รับการยอมรับในเรื่องของความประหยัดและความทนทาน เครื่องยนต์บล็อกนี้ให้กำลังสูงสุด 194 แรงม้า ที่ 3,800 รอบ/นาที และแรงบิดมหาศาลถึง 400 นิวตันเมตร ที่ช่วงรอบต่ำ 1,600-2,800 รอบ/นาที ซึ่งถูกส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ (9G-TRONIC) ที่ขึ้นชื่อเรื่องความนุ่มนวลและตอบสนองได้รวดเร็ว การผสมผสานของเครื่องยนต์และเกียร์ชุดนี้ทำให้ CLS 220 d มีอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 7.5 วินาที ซึ่งถือว่าจัดจ้านเกินพอสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันและการเดินทางไกล

สิ่งที่ทำให้เครื่องยนต์ดีเซลบล็อกนี้โดดเด่นเป็นพิเศษคือระบบ Mild Hybrid (EQ Boost) ที่เข้ามาช่วยเสริมการทำงานได้อย่างชาญฉลาด โดยเฉพาะในจังหวะออกตัว ระบบจะให้แรงบิดเสริม ทำให้รถเคลื่อนที่ได้อย่างนุ่มนวล ไม่มีอาการหน่วงหรือกระตุก ประหยัดน้ำมันได้ดีขึ้น และลดมลพิษในเมือง นอกจากนี้ ยังช่วยในเรื่องของการเดินเครื่องยนต์ที่เงียบและราบรื่นขึ้นอีกด้วย

ในฐานะผู้ใช้งานจริงที่เดินทางบ่อย ผมขอยืนยันว่า CLS 220 d AMG Premium เป็นรถยนต์ที่ประหยัดน้ำมันได้อย่างน่าเหลือเชื่อสำหรับรถยนต์ระดับพรีเมียมขนาดนี้:

การขับขี่ในเมืองที่การจราจรติดขัด: อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 10-12 กม./ลิตร ซึ่งถือว่าดีมากเมื่อเทียบกับขนาดและน้ำหนักของรถ
การขับขี่บนทางหลวงหรือนอกเมือง (ทางโล่ง): สามารถทำตัวเลขได้สูงถึง 20-22 กม./ลิตร หรือมากกว่านั้นหากขับขี่ด้วยความเร็วคงที่และไม่เร่งรีบ นี่คือจุดเด่นที่ทำให้ CLS 220 d เป็นรถที่เหมาะสำหรับการเดินทางระยะไกลอย่างแท้จริง
การใช้งานแบบผสมผสาน (ในเมืองและนอกเมือง): เฉลี่ยแล้วจะอยู่ที่ประมาณ 14-16 กม./ลิตร

ในยุค 2025 ที่ราคาน้ำมันยังคงมีความผันผวน เครื่องยนต์ดีเซลประสิทธิภาพสูงผสานกับระบบ Mild Hybrid แบบนี้ จึงยังคงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการความประหยัดในการใช้งานในระยะยาว โดยที่ยังคงได้รับสมรรถนะและความหรูหราที่คู่ควรกับตราสัญลักษณ์ดาวสามแฉก

ประสบการณ์ขับขี่ที่เหนือชั้น และเทคโนโลยีที่ยังล้ำสมัย

การขับขี่ Mercedes-Benz CLS 220 d AMG Premium ไม่ได้เป็นเพียงการเดินทาง แต่คือ “ประสบการณ์” ที่เต็มไปด้วยความมั่นใจและความเพลิดเพลิน ด้วยโหมดการขับขี่ที่ปรับเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์:

โหมด ECO: เหมาะที่สุดสำหรับการขับขี่ในเมืองที่การจราจรหนาแน่น และต้องการความประหยัดสูงสุด การตอบสนองของคันเร่งจะนุ่มนวลและไม่กระโชกโฮกฮาก ช่วยให้การเคลื่อนที่ในสภาพรถติดเป็นไปอย่างราบรื่นและไม่เหนื่อยล้า
โหมด Comfort: นี่คือโหมดที่ครอบคลุมการใช้งานได้ดีที่สุด เป็นการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างความนุ่มนวลและอัตราเร่งที่เพียงพอสำหรับการขับขี่ทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางในเมืองหรือการขับขี่บนทางหลวง รถจะตอบสนองได้อย่างเป็นธรรมชาติและให้ความรู้สึกที่ผ่อนคลาย
โหมด Sport: หากคุณต้องการปลดปล่อยสมรรถนะที่ซ่อนอยู่ของ CLS 220 d โหมด Sport จะเปลี่ยนบุคลิกของรถไปอย่างสิ้นเชิง คันเร่งจะตอบสนองไวขึ้น พวงมาลัยกระชับขึ้น และเกียร์จะคงรอบเครื่องยนต์ไว้สูงขึ้น เพื่อให้พร้อมสำหรับการเร่งแซงหรือขับขี่แบบสปอร์ตอย่างเต็มที่ แม้จะเป็นเครื่องยนต์ดีเซล แต่ความเร็วและแรงบิดที่มาอย่างทันใจในโหมดนี้ก็สามารถสร้างความประทับใจให้กับผู้ขับขี่ได้อย่างแน่นอน

แม้ตัวถังของ CLS จะมีขนาดใหญ่ แต่การควบคุมรถกลับทำได้อย่างคล่องตัวและแม่นยำ พวงมาลัยมีน้ำหนักกำลังดี และช่วงล่างที่ได้รับการปรับจูนมาในสไตล์สปอร์ตก็มอบความมั่นใจในการเข้าโค้งสูงๆ โดยไม่มีอาการโคลงเคลงหรือร่อน ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของรถยนต์จาก Mercedes-Benz ที่เน้นสมดุลระหว่างความสะดวกสบายและสมรรถนะ

ด้านเทคโนโลยีและระบบช่วยเหลือการขับขี่ (ADAS) CLS 220 d AMG Premium ก็จัดเต็มมาให้จนถึงทุกวันนี้ก็ยังถือว่าล้ำสมัยและมีประโยชน์อย่างยิ่ง:

ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา (Blind Spot Assist): ระบบนี้ไม่เพียงแค่เตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดบอด แต่ยังสามารถแจ้งเตือนได้แม้หลังจากดับเครื่องยนต์และคุณกำลังจะเปิดประตูรถ ทำให้เพิ่มความปลอดภัยในการจอดรถในเมืองได้อย่างมาก
ระบบเบรกอัตโนมัติ (Active Brake Assist): สามารถตั้งค่าระดับการทำงานได้ตั้งแต่การเตือนด้วยภาพและเสียง ไปจนถึงการเบรกอัตโนมัติหากตรวจพบความเสี่ยงที่จะชน ช่วยลดโอกาสเกิดอุบัติเหตุจากการประมาทหรือความไม่ตั้งใจ
ระบบช่วยจอดอัตโนมัติ (Active Parking Assist): ฟังก์ชันนี้ช่วยให้การจอดรถเข้าซองหรือจอดเทียบข้างเป็นเรื่องง่ายสำหรับทุกคน เพียงแค่กดปุ่ม ระบบจะค้นหาช่องว่างที่เหมาะสมและควบคุมพวงมาลัยให้เอง ผู้ขับขี่เพียงแค่ควบคุมคันเร่งและเบรกเท่านั้น
กล้องมองภาพรอบทิศทาง 360 องศา: นี่คือหนึ่งในฟีเจอร์ที่ผมใช้บ่อยที่สุด ช่วยให้มองเห็นสภาพแวดล้อมรอบตัวรถได้อย่างชัดเจน ทำให้การขับขี่ในที่แคบหรือการจอดเทียบฟุตบาทเป็นไปอย่างปลอดภัย ไร้กังวล

เรื่องการเก็บเสียงภายในห้องโดยสาร Mercedes-Benz CLS ยังคงรักษามาตรฐานระดับพรีเมียมไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม แม้จะใช้ความเร็วสูงถึง 140 กม./ชม. เสียงลมและเสียงรบกวนจากภายนอกก็แทบจะไม่ได้ยินเลย สิ่งนี้ช่วยให้การเดินทางระยะไกลเป็นไปอย่างผ่อนคลายและสบายหู อย่างไรก็ตาม ด้วยการใช้ยางรันแฟลต (Run-flat tires) ที่มีโครงสร้างยางแข็งกว่าปกติ ทำให้มีเสียงยางบดถนนและแรงสะเทือนจากพื้นผิวถนนที่ไม่เรียบเข้ามาในห้องโดยสารบ้าง ซึ่งเป็นข้อสังเกตที่พบได้ในรถยนต์ระดับพรีเมียมหลายรุ่นที่ใช้ยางชนิดนี้ และเป็นเรื่องของความสมดุลระหว่างความปลอดภัยจากการไม่มีลมยาง กับความนุ่มนวลในการขับขี่

สำหรับระบบช่วงล่าง แม้จะถูกจูนมาในสไตล์สปอร์ต แต่ก็ไม่ได้แข็งกระด้างจนเกินไป ให้ความรู้สึกที่มั่นคงและเกาะถนนได้ดีเยี่ยม ทว่าข้อที่มักถูกถกเถียงกันในหมู่ผู้ใช้งานคือขนาดของล้ออัลลอยด์ขนาด 20 นิ้ว พร้อมยางที่แก้มยางบาง (245/35R20 ที่ล้อหน้า และ 275/30R20 ที่ล้อหลัง) ซึ่งให้ความสวยงามและเติมเต็มความเป็น AMG ได้อย่างสมบูรณ์แบบ แต่ก็ต้องแลกมาด้วยความกังวลเมื่อต้องขับผ่านพื้นผิวขรุขระ หรือหลุมบ่อบนถนนเมืองไทย แรงสะเทือนที่ส่งเข้ามาในห้องโดยสารจะรู้สึกได้ชัดเจนกว่า และมีความเสี่ยงต่อความเสียหายของล้อและยางสูงกว่า หากเน้นความนุ่มนวลในการขับขี่ ผู้เชี่ยวชาญหลายท่านอาจแนะนำให้พิจารณาการเปลี่ยนไปใช้ล้อขนาด 19 นิ้ว ที่สามารถใส่ยางที่มีแก้มยางหนาขึ้น เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นและการซับแรงกระแทกได้ดีกว่า เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพถนนในประเทศไทยมากยิ่งขึ้น

การลงทุนที่คุ้มค่า: โอกาสทองในตลาดรถมือสองปี 2025

ในตลาดรถยนต์ใหม่ปี 2025 ที่ราคาพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง การพิจารณา Mercedes-Benz CLS 220 d AMG Premium มือสอง จึงกลายเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าอย่างยิ่ง ด้วยราคาเปิดตัวเดิมที่สูงถึง 4,640,000 บาท ในปีที่ผ่านมาได้มีการปรับลดราคาจำหน่ายลงไปถึง 760,000 บาท เหลือ 3,880,000 บาท สำหรับรถใหม่ล็อตสุดท้าย ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึง “จุดคุ้มค่า” ที่น่าสนใจในปัจจุบัน และเมื่อเข้ามาสู่ตลาดรถมือสองในปี 2025 ราคาของ CLS 220 d AMG Premium ยิ่งเข้าถึงได้ง่ายขึ้นไปอีก

การที่ CLS เป็นรุ่นสุดท้ายของตระกูลนี้โดยไม่มีรุ่นต่อยอด ทำให้รถคันนี้เป็น “ตำนาน” ที่จะไม่ตกรุ่นในแง่ของดีไซน์และแนวคิด การลงทุนใน CLS 220 d AMG Premium ในปีนี้ จึงเปรียบเสมือนการได้ครอบครองรถยนต์หรูระดับพรีเมียมที่มีดีไซน์เฉพาะตัว สมรรถนะที่ยอดเยี่ยม เทคโนโลยีที่ครบครัน และความประหยัดในระดับที่น่าทึ่ง ในราคาที่สมเหตุสมผลอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

อย่างไรก็ตาม ในฐานะผู้เชี่ยวชาญ ผมขอแนะนำให้ผู้ที่สนใจควรพิจารณาประวัติการเข้ารับบริการของรถยนต์มือสองอย่างละเอียด ตรวจสอบสภาพเครื่องยนต์ดีเซล ระบบส่งกำลัง และช่วงล่างอย่างถี่ถ้วน ควรเลือกรถที่มีประวัติการบำรุงรักษาที่ดีจากศูนย์บริการมาตรฐาน หรืออู่ที่เชี่ยวชาญ Mercedes-Benz โดยเฉพาะ เพื่อให้มั่นใจว่าจะได้รับรถที่สมบูรณ์ที่สุด และยังคงได้รับประสบการณ์การขับขี่ระดับพรีเมียมไปได้อีกนาน

ใครคือเจ้าของ CLS 220 d AMG Premium ที่แท้จริง?

Mercedes-Benz CLS 220 d AMG Premium คือรถยนต์ที่ถูกสร้างมาสำหรับผู้ที่:

ชื่นชอบดีไซน์ที่ไม่เหมือนใคร: ผู้ที่ต้องการรถยนต์ที่โดดเด่น มีเอกลักษณ์ และสะท้อนรสนิยมที่ไม่ธรรมดา
ต้องการความหรูหราพร้อมความสปอร์ต: ผู้ที่มองหารถยนต์ที่ผสมผสานความสง่างามของรถหรูเข้ากับความโฉบเฉี่ยวและสมรรถนะในแบบสปอร์ต
ให้ความสำคัญกับความประหยัดและประสิทธิภาพ: ผู้ที่ต้องการรถยนต์ระดับพรีเมียมที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์ดีเซลที่ประหยัดน้ำมันอย่างน่าทึ่ง เหมาะสำหรับการใช้งานทั้งในเมืองและนอกเมือง
มองหารถยนต์ที่มีเทคโนโลยีความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกครบครัน: ผู้ที่ต้องการความมั่นใจในทุกการเดินทาง ด้วยระบบช่วยเหลือการขับขี่ที่ทันสมัย
กำลังมองหา “คุณค่า” ที่เหนือกว่า “ราคา”: ผู้ที่เข้าใจว่าการลงทุนในรถยนต์มือสองที่มีคุณภาพและดีไซน์เหนือกาลเวลา สามารถให้ผลตอบแทนทั้งในด้านการใช้งานและความสุขในการขับขี่ที่คุ้มค่ากว่ารถยนต์ใหม่บางรุ่น

บทสรุปและคำเชิญชวน

Mercedes-Benz CLS 220 d AMG Premium ไม่ได้เป็นเพียงรถยนต์ที่ “ยังน่าใช้” ในปี 2025 แต่เป็นรถยนต์ที่ “น่าครอบครอง” อย่างยิ่ง ด้วยดีไซน์ที่ไม่มีวันตกยุค สมรรถนะของเครื่องยนต์ดีเซลที่ประหยัดน้ำมันได้อย่างไม่น่าเชื่อ เทคโนโลยีความปลอดภัยที่ครบครัน และประสบการณ์การขับขี่ที่ยังคงเป็นมาตรฐานระดับพรีเมียม การที่มันได้กลายเป็นรถยนต์มือสองที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้นยิ่งทำให้ CLS 220 d AMG Premium เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

หากคุณกำลังมองหารถยนต์ที่ผสมผสานความหรูหรา สมรรถนะ และดีไซน์เหนือกาลเวลาเข้าไว้ด้วยกัน ในงบประมาณที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้นในยุค 2025 นี้ Mercedes-Benz CLS 220 d AMG Premium คือคำตอบที่คุณไม่ควรมองข้าม ลองสัมผัสประสบการณ์ด้วยตัวคุณเอง แล้วคุณจะเข้าใจว่าทำไมรถคันนี้ถึงยังเป็นที่หนึ่งในใจของใครหลายคน อย่ารอช้า โอกาสที่จะเป็นเจ้าของตำนานอาจอยู่ใกล้แค่เอื้อม สำรวจตลาดรถยนต์มือสองวันนี้ แล้วคุณอาจจะได้พบกับคู่หูสี่ล้อที่คุณตามหามานาน!

Previous Post

[ตอนต่อไป] 044T1129 AB44 เพราะไม่สวย เลยโดนทิ้ง.mp4

Next Post

[ตอนต่อไป] 046T1129 AB46 ทำไมรับบพนักงาน ที่เดินไม่ได้เข้าทำงาน.mp4

Next Post
[ตอนต่อไป] 046T1129 AB46 ทำไมรับบพนักงาน ที่เดินไม่ได้เข้าทำงาน.mp4

[ตอนต่อไป] 046T1129 AB46 ทำไมรับบพนักงาน ที่เดินไม่ได้เข้าทำงาน.mp4

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Recent Posts

  • [ตอนต่อไป] 250T1129 AB250 ผู้จัดการตัวดี ทดสอบคนงานใหม่.mp4
  • [ตอนต่อไป] 249T1129 AB249 เป็นคุณจะทำยังไง ถ้ามีหุ้นส่วนแบบนี้.mp4
  • [ตอนต่อไป] 248T1129 AB248 พนักงานด้วยกัน ไม่มีแบ่งชนชั้น.mp4
  • [ตอนต่อไป] 247T1129 AB247 น้ำใจที่มอบให้ในวันนั้น มีค่ามากสำหรับผม.mp4
  • [ตอนต่อไป] 245T1129 AB245 รปภ. เฟิร์ส ทำไมต้องมาทำงานวันหยุด.mp4

Recent Comments

No comments to show.

Archives

  • November 2025
  • October 2025

Categories

  • Uncategorized

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.

No Result
View All Result

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.