[ตอนต่อไป] 057T1129 AB57 หัวหน้าคนต้องเข้าใจ ไม่ใช่เอาเปรียบ.mp4

เมอร์เซเดส-เบนซ์ CLS 220 d AMG Premium: การลงทุนที่ไร้กาลเวลาในตลาดรถหรูปี 2025

ในโลกยานยนต์ที่หมุนไปอย่างรวดเร็วของปี 2025 ซึ่งเต็มไปด้วยนวัตกรรมไฟฟ้า (EVs) เทคโนโลยีขับขี่อัตโนมัติ และการเปลี่ยนแปลงในนิยามของความหรูหรา คำถามที่น่าสนใจกลับผุดขึ้นมาว่า รถยนต์ที่แม้จะถูกยุติสายการผลิตไปแล้วอย่าง Mercedes-Benz CLS 220 d AMG Premium โฉมล่าสุด ยังคงมีมนต์ขลังและคุณค่าที่น่าจับตาอยู่หรือไม่? ในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการรถยนต์พรีเมียมมากว่าทศวรรษ ผมขอยืนยันว่า CLS คันนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่ “อดีต” แต่เป็น “ปัจจุบัน” ที่เปี่ยมด้วยคุณค่า และ “อนาคต” ของการลงทุนที่ชาญฉลาดสำหรับผู้ที่มองหาความพิเศษที่แตกต่าง

การตัดสินใจของเมอร์เซเดส-เบนซ์ในการยุติการผลิตตระกูล CLS อาจทำให้บางคนรู้สึกเสียดาย แต่สำหรับนักเลงรถและผู้ที่มองการณ์ไกล นี่กลับเป็นการประกาศสถานะของ CLS ให้กลายเป็น “Classic in the making” หรือ “ของสะสมในอนาคต” ทันที มันคือบทสรุปของปรัชญาการออกแบบที่กล้าหาญ การผสมผสานที่ลงตัวระหว่างความสง่างามของรถซีดานและความเร้าใจของรถคูเป้ 4 ประตู ที่ไม่เพียงแต่เป็นผู้นำเทรนด์ในยุคของมัน แต่ยังคงความโดดเด่นไม่เหมือนใครมาจนถึงปัจจุบันนี้ ในปี 2025 ที่ตลาดรถยนต์พรีเมียมเต็มไปด้วยตัวเลือกที่หลากหลาย CLS 220 d AMG Premium จึงไม่ใช่แค่รถยนต์ แต่เป็นแถลงการณ์ถึงรสนิยมที่ไม่จำกัดด้วยกาลเวลา และนี่คือเหตุผลที่ผมยังคงแนะนำให้พิจารณาการครอบครองอัญมณีคันนี้

มนต์เสน่ห์แห่งดีไซน์: สุนทรียภาพที่อยู่เหนือกาลเวลา

Mercedes-Benz CLS เป็นรุ่นที่ได้รับการยกย่องเรื่องการออกแบบมาโดยตลอด และในโฉม 220 d AMG Premium นี้ มันได้บรรจบกันอย่างสมบูรณ์แบบระหว่างความสง่างามตามแบบฉบับของเมอร์เซเดส-เบนซ์ กับเส้นสายที่พลิ้วไหวและแข็งแกร่งของรถคูเป้ มันเป็นรถยนต์ที่นิยามคำว่า “ซีดานคูเป้” ได้อย่างชัดเจน ด้วยหลังคาที่ลาดลงอย่างนุ่มนวลราวกับรถคูเป้สองประตู แต่ยังคงไว้ซึ่งความสะดวกสบายและพื้นที่ใช้สอยของรถซีดาน 4 ประตู แม้จะเปิดตัวมาหลายปีแล้ว แต่ทุกครั้งที่ CLS แล่นผ่านบนท้องถนน ผมยังคงเห็นผู้คนเหลียวมองด้วยความชื่นชม มันมี “บุคลิก” ที่ไม่สามารถเลียนแบบได้

การดีไซน์ภายนอกโดดเด่นด้วยชุดแต่ง AMG Bodystyling ที่เสริมความสปอร์ตดุดัน กระจังหน้า Diamond Grille อันเป็นเอกลักษณ์พร้อมโลโก้ดาวสามแฉกขนาดใหญ่ ไฟหน้า MULTIBEAM LED ที่ไม่เพียงให้ทัศนวิสัยที่ยอดเยี่ยม แต่ยังเป็นงานศิลปะในตัวเอง ด้วยการออกแบบที่เฉียบคมและเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย เส้นสายด้านข้างตัวรถที่ลื่นไหลจากด้านหน้าจรดท้าย ไม่มีมุมหรือเหลี่ยมคมที่ดูไม่เป็นธรรมชาติ การออกแบบประตูไร้กรอบ (Frameless Doors) ที่เป็นเสน่ห์เฉพาะของรถคูเป้ ยิ่งตอกย้ำความพิเศษของ CLS ทุกองค์ประกอบล้วนถูกรังสรรค์อย่างพิถีพิถันเพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่หรูหรา สปอร์ต และมีระดับ ซึ่งเป็นความงามที่ “ไม่ตกรุ่น” อย่างแท้จริง ต่อให้กาลเวลาผ่านไปอีก 10 ปี ดีไซน์ของ CLS ก็ยังคงความหล่อเหลาและดึงดูดสายตาได้ไม่เสื่อมคลาย ในยุคที่รถยนต์หลายรุ่นมีดีไซน์ที่ “คล้ายกัน” มากขึ้นเรื่อยๆ CLS จึงเป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการความ “เป็นตัวของตัวเอง” และความ “แตกต่าง” อย่างมีรสนิยม

ภายในห้องโดยสารก็ไม่แพ้กัน ด้วยการผสมผสานวัสดุคุณภาพสูงเข้ากับงานฝีมือประณีต แผงคอนโซลกลางที่ออกแบบมาเพื่อผู้ขับขี่ จอแสดงผลดิจิทัลขนาดใหญ่สองจอที่เชื่อมต่อกันคล้ายกับห้องนักบินของเครื่องบิน หุ้มด้วยหนัง ARTICO และตกแต่งด้วยอลูมิเนียมหรือลายไม้สีเข้ม แสงไฟ Ambient Light ที่ปรับได้ถึง 64 เฉดสี สร้างบรรยากาศที่หรูหราและผ่อนคลาย พวงมาลัยสปอร์ตมัลติฟังก์ชัน AMG พวงมาลัยหุ้มหนัง Nappa แบบ 3 ก้านพร้อมปุ่มควบคุมแบบสัมผัส ให้ความรู้สึกที่เหนือระดับ เบาะนั่งทรงสปอร์ตที่โอบกระชับและให้ความสบายในการเดินทางไกล แม้จะเป็นรถยนต์ที่มีรูปลักษณ์แบบคูเป้ แต่ CLS ยังคงมอบพื้นที่สำหรับผู้โดยสารด้านหลังได้อย่างน่าประทับใจ (สำหรับผู้ใหญ่ 2-3 คนในระยะทางที่ไม่ไกลนัก) การออกแบบที่ใส่ใจในทุกรายละเอียดนี้ ทำให้ CLS 220 d AMG Premium ยังคงเป็นหนึ่งในรถยนต์ที่มีห้องโดยสารที่สวยงามและใช้งานได้จริงที่สุดในตลาดรถหรูปี 2025

หัวใจแห่งประสิทธิภาพ: ขุมพลังดีเซล Mild Hybrid ที่ยังคงน่าประทับใจในปี 2025

ภายใต้เรือนร่างอันสง่างามของ Mercedes-Benz CLS 220 d AMG Premium คือขุมพลังดีเซลที่ยังคงความล้ำสมัยและประหยัดน้ำมันอย่างเหลือเชื่อ นั่นคือเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร (รหัส OM 654) พร้อมเทอร์โบชาร์จเจอร์ ให้กำลังสูงสุด 194 แรงม้า ที่ 3,800 รอบ/นาที และแรงบิดมหาศาลถึง 400 นิวตันเมตร ที่ช่วงรอบต่ำ 1,600-2,800 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ (9G-TRONIC) ที่ได้รับการยอมรับในเรื่องความนุ่มนวลและแม่นยำ

สิ่งที่ทำให้เครื่องยนต์นี้โดดเด่นยิ่งขึ้นในบริบทของปี 2025 คือระบบ Mild Hybrid (EQ Boost) ที่ผสานการทำงานกับเครื่องยนต์ดีเซลได้อย่างลงตัว ระบบนี้ไม่เพียงแต่ช่วยให้การออกตัวเป็นไปอย่างราบรื่น ไม่มีอาการรอรอบหรือหน่วง ช่วยลดภาระของเครื่องยนต์หลักในช่วงที่ต้องการกำลังเสริม แต่ยังช่วยให้ระบบ Start/Stop ทำงานได้อย่างไร้รอยต่อ และยังสามารถ “แล่นฟรี” (gliding) โดยดับเครื่องยนต์ในบางจังหวะการขับขี่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันสูงสุด ด้วยเทคโนโลยี Mild Hybrid นี้ CLS 220 d สามารถตอบสนองต่อการขับขี่ในเมืองได้อย่างคล่องตัว และยังคงมอบอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงที่น่าทึ่งเมื่อเดินทางไกล ซึ่งเป็นจุดแข็งที่รถยนต์พรีเมียมหลายรุ่นในปัจจุบันยังทำได้ไม่ดีเท่า

จากประสบการณ์การขับขี่ที่หลากหลายทั้งในสภาพการจราจรหนาแน่นของกรุงเทพฯ และการเดินทางไกลข้ามจังหวัด ผมสามารถยืนยันได้ว่า CLS 220 d AMG Premium เป็นรถยนต์ประหยัดน้ำมันที่แท้จริงสำหรับเซกเมนต์รถหรู:

ขับขี่ในเมืองที่รถติด: อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยประมาณ 10-12 กม./ลิตร (ขึ้นอยู่กับความหนาแน่นของการจราจร) ซึ่งถือว่ายอดเยี่ยมสำหรับรถยนต์พรีเมียมขนาดใหญ่
ขับขี่บนทางหลวงที่โล่ง: อัตราสิ้นเปลืองสามารถพุ่งสูงไปถึง 18-20 กม./ลิตรได้อย่างไม่น่าเชื่อ ด้วยความเร็วคงที่และเกียร์ 9G-TRONIC ที่ช่วยให้รอบเครื่องยนต์ต่ำ
ขับขี่แบบผสมผสาน (เมือง 50% / ทางหลวง 50%): อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยประมาณ 14-16 กม./ลิตร เป็นตัวเลขที่สมเหตุสมผลและน่าพึงพอใจอย่างยิ่ง

ในยุคที่ราคาน้ำมันยังคงผันผวน และผู้บริโภคเริ่มตระหนักถึงสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ขุมพลังดีเซล Mild Hybrid ของ CLS 220 d จึงไม่ใช่แค่เครื่องยนต์ที่แรงและประหยัด แต่ยังเป็นทางเลือกที่ “ฉลาด” และ “ยั่งยืน” สำหรับผู้ที่ต้องการสมรรถนะและความหรูหรา โดยไม่ทิ้งความรับผิดชอบต่อการใช้พลังงาน

การลงทุนที่คุ้มค่า: ตำแหน่งในตลาดรถยนต์พรีเมียม 2025

ประเด็นเรื่องราคาถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้ Mercedes-Benz CLS 220 d AMG Premium กลายเป็น “การลงทุนที่ชาญฉลาด” ในปี 2025 ด้วยการที่เมอร์เซเดส-เบนซ์ได้ปรับลดราคาจำหน่ายลงถึง 760,000 บาท ทำให้ราคาเหลือเพียง 3,880,000 บาท จากราคาปกติ 4,640,000 บาท ตัวเลขนี้เป็นสิ่งที่น่าสนใจอย่างยิ่งเมื่อเทียบกับคู่แข่งในเซกเมนต์เดียวกัน หรือแม้แต่รถยนต์รุ่นใหม่ๆ ที่มีราคาแพงกว่ามาก แต่กลับไม่ได้นำเสนอแพ็คเกจความหรูหรา ดีไซน์ และเทคโนโลยีที่ครบครันเท่า CLS

การที่ CLS ถูกยุติสายการผลิต ไม่ได้แปลว่ามัน “ตกรุ่น” ในทางกลับกัน มันกลับมอบสถานะพิเศษที่ไม่มีรถรุ่นใหม่ใดจะเทียบได้ นั่นคือ “ความคลาสสิกที่รอวันเติบโต” และ “ความพิเศษเฉพาะตัว” ไม่มีรุ่นต่อยอดโดยใช้ชื่อ CLS อีกต่อไป ทำให้ดีไซน์และเอกลักษณ์ของ CLS โฉมนี้ยังคงอยู่ และจะดูดีไปอีกนานแสนนานโดยไม่ถูก “แทนที่” ด้วยรุ่นใหม่ ในตลาดรถหรูมือสอง หรือรถยนต์ที่ยังคงมีอยู่ในสต็อกในช่วงปี 2025 CLS 220 d AMG Premium กลายเป็นตัวเลือกที่มอบ “มูลค่า” ได้อย่างแท้จริง คุณจะได้รถยนต์พรีเมียมที่มีดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ สมรรถนะที่ยอดเยี่ยม และเทคโนโลยีที่ยังไม่ล้าสมัย ในราคาที่เข้าถึงได้ง่ายกว่าเดิมอย่างมหาศาล เมื่อพิจารณาถึงราคาที่คุ้มค่านี้ CLS จึงเป็นทางเลือกที่ไม่อาจมองข้ามได้สำหรับผู้ที่ต้องการรถยนต์หรูที่มีคาแรคเตอร์โดดเด่น และยังคงรักษาความสามารถในการแข่งขันกับรถรุ่นใหม่ได้อย่างน่าประหลาดใจ

ประสบการณ์ขับขี่: สปอร์ต สง่างาม และปลอดภัย

คำว่า “ขับดี” สำหรับ Mercedes-Benz CLS 220 d AMG Premium นั้นครอบคลุมหลายมิติ ตั้งแต่สมรรถนะ การควบคุม ไปจนถึงความสะดวกสบายและปลอดภัย

สมรรถนะและโหมดการขับขี่:

โหมด ECO: เหมาะสำหรับการขับขี่ในเมืองที่การจราจรติดขัดเป็นหลัก เน้นการประหยัดน้ำมันสูงสุด การตอบสนองของคันเร่งจะนุ่มนวลและไม่กระชาก เหมาะกับการเคลื่อนตัวแบบค่อยเป็นค่อยไป ทำให้การขับขี่ในเมืองเป็นเรื่องผ่อนคลาย แต่หากต้องการเร่งแซงอย่างรวดเร็ว โหมดนี้อาจทำให้รู้สึกหน่วงเล็กน้อย
โหมด Comfort: นี่คือโหมดที่ผมแนะนำว่าครอบคลุมการใช้งานมากที่สุด เป็นการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างความสบายและสมรรถนะ ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่ในเมืองหรือนอกเมือง การตอบสนองของเครื่องยนต์จะมาแบบต่อเนื่อง นุ่มนวล แต่ก็มีพละกำลังเพียงพอสำหรับการเร่งแซงและเดินทางไกล เหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวันอย่างแท้จริง
โหมด Sport: หากคุณเป็นผู้ที่ชื่นชอบความเร้าใจ โหมด Sport จะปลุกความเป็นสปอร์ตใน CLS ออกมาอย่างเต็มที่ คันเร่งจะตอบสนองไวขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เกียร์เปลี่ยนเร็วขึ้นและลากรอบได้สูงขึ้น ช่วงล่างจะเฟิร์มขึ้นเล็กน้อย (ในรุ่นที่มาพร้อมระบบช่วงล่างแบบปรับได้) ทำให้การเข้าโค้งเป็นไปอย่างมั่นใจ และเมื่อต้องการอัตราเร่งแบบทันใจ เพียงเหยียบคันเร่งลงไป คุณจะพบว่าความเร็วพุ่งขึ้นสู่ 180 กม./ชม. ได้อย่างรวดเร็วโดยไม่รู้สึกว่ารถ “อืด” แต่อย่างใด นี่คือเครื่องยืนยันว่า CLS 220 d มีสมรรถนะที่เพียงพอต่อการใช้งานในทุกสถานการณ์

การควบคุมและช่วงล่าง:
แม้ตัวถังจะมีขนาดใหญ่ แต่ CLS 220 d AMG Premium กลับมอบความคล่องตัวในการขับขี่ที่น่าทึ่ง พวงมาลัยมีน้ำหนักกำลังดี แม่นยำ และให้การตอบสนองที่ดี ทำให้การขับขี่ลัดเลาะในเมืองหรือการเลี้ยวเข้าออกซอยแคบๆ เป็นไปได้อย่างง่ายดาย

ระบบช่วงล่างของ CLS คันนี้ได้รับการปรับแต่งมาอย่างยอดเยี่ยม แม้จะไม่ได้เน้นความนุ่มนวลจ๋า แต่ก็ออกแนวสปอร์ตที่ให้ความมั่นคงและยึดเกาะถนนได้อย่างดีเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นการเข้าโค้งด้วยความเร็วสูงหรือการเปลี่ยนเลนกะทันหัน คุณจะรู้สึกได้ถึงความมั่นใจและเสถียรภาพ ตัวรถไม่มีอาการร่อนหรือโคลงเคลง ทำให้การเดินทางไกลเป็นเรื่องที่สนุกและปลอดภัย

ระบบความปลอดภัยและสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัย:
CLS 220 d AMG Premium มาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยและระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ที่ครบครัน ซึ่งยังคงความทันสมัยและเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในปี 2025:

Blind Spot Assist with Exit Warning: ระบบเตือนมุมอับสายตาที่มีประโยชน์อย่างมาก โดยเฉพาะในสภาพการจราจรที่หนาแน่น ไม่เพียงแต่จะเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตาขณะขับขี่ แต่ยังมีระบบแจ้งเตือนเมื่อคุณจอดรถและกำลังจะเปิดประตู หากมีรถคันอื่นกำลังเคลื่อนที่มาจากด้านหลัง ระบบจะเตือนด้วยภาพและเสียง ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดอุบัติเหตุได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Active Brake Assist (ระบบเบรกอัตโนมัติ): คุณสามารถตั้งค่าระดับความไวในการทำงานของระบบนี้ได้ หากขับขี่จี้ท้ายรถคันหน้ามากเกินไป ระบบจะส่งสัญญาณเตือนที่หน้าจอเรือนไมล์ และหากยังคงร่นระยะกระชั้นชิดเข้าไปอีก ระบบจะทำการเบรกอัตโนมัติเพื่อป้องกันการชน ซึ่งเป็นฟังก์ชันที่สำคัญอย่างยิ่งในการเพิ่มความปลอดภัยบนท้องถนน
ระบบช่วยจอดอัตโนมัติ (Parking Pilot with PARKTRONIC): สำหรับมือใหม่หรือผู้ที่ไม่ถนัดการจอดรถเข้าซอง ระบบนี้จะช่วยให้การจอดรถกลายเป็นเรื่องง่ายดาย เพียงแค่รถค้นหาพื้นที่จอดได้ ระบบจะนำรถเข้าจอดให้เอง โดยที่คุณไม่จำเป็นต้องหมุนพวงมาลัยหรือเปลี่ยนเกียร์เองเลย ช่วยประหยัดเวลาและลดความเครียดในการจอดรถในพื้นที่จำกัด
กล้องมองภาพรอบคัน 360 องศา: มอบทัศนวิสัยแบบรอบด้าน ทำให้คุณมองเห็นสิ่งกีดขวางรอบตัวรถได้อย่างชัดเจน ไม่ต้องกังวลว่าจะขับไปเบียดรถคันอื่นหรือขูดกับขอบฟุตบาท คุณสามารถเลือกดูกล้องในแต่ละมุมได้ตามต้องการ ซึ่งเป็นระบบที่ผมใช้งานบ่อยมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาจอดเทียบฟุตบาท ช่วยให้การขับขี่และจอดรถปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

การเก็บเสียงและความนุ่มนวล:
ในเรื่องของการเก็บเสียง CLS 220 d AMG Premium ยังคงรักษามาตรฐานของเมอร์เซเดส-เบนซ์ไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม แม้จะใช้ความเร็วสูงถึง 140 กม./ชม. เสียงลมจากภายนอกยังแทบไม่ได้ยินภายในห้องโดยสาร ทำให้การสนทนาหรือการฟังเพลงเป็นไปอย่างราบรื่น อย่างไรก็ตาม ด้วยการเลือกใช้ยางรันแฟลต ซึ่งมีโครงสร้างที่แข็งกว่ายางปกติทั่วไป อาจทำให้ได้ยินเสียงดังจากพื้นผิวถนนเข้ามาในห้องโดยสารบ้างเมื่อขับผ่านทางขรุขระ นี่คือข้อสังเกตเล็กน้อยที่อาจแตกต่างกันไปตามความอ่อนไหวของผู้ขับขี่แต่ละคน

การปรับปรุงที่พึงประสงค์: ล้อและยาง

อย่างที่ผู้ใช้งาน CLS หลายท่านทราบกันดีว่า จุดหนึ่งที่อาจทำให้รู้สึก “ขัดใจ” เล็กน้อยคือขนาดของล้อและยางที่มาพร้อมกับรุ่นนี้ CLS 220 d AMG Premium มาพร้อมล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว โดยคู่หน้าใช้ยางขนาด 245/35R20 และคู่หลังใช้ยางขนาด 275/30R20 ซึ่งยางที่มีแก้มยางบางขนาดนี้ (ซีรีส์ 35 และ 30) ทำให้การขับขี่บนพื้นผิวที่ไม่เรียบ หรือการตกหลุมบ่อขนาดเล็ก รู้สึกถึงแรงกระแทกเข้ามาในห้องโดยสารอย่างชัดเจน และยังเพิ่มความเสี่ยงต่อความเสียหายของล้อและยางได้ง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาพถนนบางช่วงของประเทศไทยที่อาจไม่สมบูรณ์นัก

จากประสบการณ์ของผม หากมีการลดขนาดล้อลงมาเป็น 19 นิ้ว แล้วเลือกใช้ยางที่มีแก้มยางหนาขึ้น เช่น 245/40R19 สำหรับล้อหน้า และ 275/35R19 สำหรับล้อหลัง (ซึ่งเป็นขนาดใกล้เคียงกับรุ่นนำเข้าช่วงแรกๆ) จะช่วยเพิ่มความนุ่มนวลในการขับขี่ได้อย่างมีนัยสำคัญ โดยไม่สูญเสียความสปอร์ตและความสวยงามของรถมากเกินไป การปรับเปลี่ยนยางและล้อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ผู้ครอบครองสามารถพิจารณาได้ เพื่อยกระดับประสบการณ์การขับขี่ให้สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น โดยยังคงรักษามูลค่าของรถยนต์เอาไว้

สรุปและบทเชิญชวน

Mercedes-Benz CLS 220 d AMG Premium โฉมนี้ คือรถยนต์ที่ผสมผสานความสปอร์ตหรูหราเข้ากับความประณีตได้อย่างลงตัว เป็นรถยนต์สี่ประตูท้ายลาดที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความโดดเด่นไม่เหมือนใคร แต่ยังคงความกว้างขวางและความสะดวกสบายภายใต้โครงร่าง Coupé ที่น่าหลงใหล

ในมุมมองของปี 2025 ที่ตลาดรถยนต์กำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว CLS คันนี้ยังคงเป็นทางเลือกที่ “ฉลาด” และ “น่าสนใจ” อย่างยิ่ง ด้วยดีไซน์ที่ “ไร้กาลเวลา” สมรรถนะจากเครื่องยนต์ดีเซล Mild Hybrid ที่ยังคงประสิทธิภาพและความประหยัดน้ำมันได้อย่างยอดเยี่ยม เทคโนโลยีและระบบความปลอดภัยที่ยังคงความทันสมัย รวมถึงราคาที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้นอย่างมาก ทำให้ CLS 220 d AMG Premium มอบ “มูลค่า” ที่เหนือกว่ารถยนต์ใหม่หลายๆ รุ่นในระดับราคาเดียวกัน

มันคือรถยนต์ที่ใช้งานได้ทุกวัน ไม่ว่าจะขับขี่ในเมืองที่การจราจรหนาแน่น หรือเดินทางออกต่างจังหวัดในระยะทางไกล คุณจะมั่นใจได้ว่า CLS คันนี้จะพาคุณไปถึงที่หมายได้อย่างปลอดภัยและสะดวกสบาย ด้วยมาตรฐานของวัสดุ งานประกอบ และเทคโนโลยีที่ยังคงยอดเยี่ยมตามแบบฉบับของเมอร์เซเดส-เบนซ์

หากคุณกำลังมองหารถยนต์พรีเมียมที่ผสมผสานความหรูหรา สปอร์ต และเทคโนโลยีเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว เป็นการลงทุนที่ชาญฉลาดในตลาดรถหรูปี 2025 และต้องการรถที่มี “บุคลิก” โดดเด่นไม่เหมือนใคร การได้สัมผัส Mercedes-Benz CLS 220 d AMG Premium ด้วยตัวคุณเอง อาจเป็นการตัดสินใจที่ยอดเยี่ยมที่สุดในปีนี้ หรือหากต้องการคำแนะนำเพิ่มเติมในการเลือกรถยนต์พรีเมียมที่ตรงใจ และปรึกษาเรื่องการปรับแต่งให้เหมาะสมกับสไตล์ของคุณ อย่าลังเลที่จะติดต่อผู้เชี่ยวชาญของเราได้ทันที เพื่อเปิดประสบการณ์การขับขี่เหนือระดับที่แตกต่างและยั่งยืนไปอีกนาน!