[ตอนต่อไป] 064T1129 AB64 ความรักที่ไม่มีข้อแม้ ขอแค่เป็นเธอ.mp4

Mercedes-Benz CLS 220 d AMG Premium ในปี 2025: ตำนานดีไซน์เหนือกาลเวลาที่ยังน่าครอบครองหรือไม่?

ในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการยานยนต์มากว่าทศวรรษ ผมได้เห็นวิวัฒนาการของรถยนต์มากมาย ตั้งแต่ยุคของเครื่องยนต์สันดาปภายในที่รุ่งเรือง ไปจนถึงกระแส รถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่ถาโถมเข้ามา แต่ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วนี้ มีรถยนต์บางรุ่นที่ยังคงยืนหยัดด้วยคุณค่าและเสน่ห์เฉพาะตัว หนึ่งในนั้นคือ Mercedes-Benz CLS โดยเฉพาะรุ่น CLS 220 d AMG Premium โฉมสุดท้ายนี้ แม้ว่าสายการผลิตจะสิ้นสุดลงไปแล้วตั้งแต่ช่วงปลายปี 2023 และในปัจจุบันปี 2025 นี้ การจะหารถใหม่เอี่ยมป้ายแดงแทบจะเป็นไปไม่ได้ สิ่งที่น่าสนใจจึงอยู่ที่ตลาด รถยนต์พรีเมียมมือสอง ซึ่ง CLS 220 d AMG Premium ยังคงเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่โดดเด่นและสร้างความกังขาให้กับหลายๆ คนว่า “ในเมื่อเป็นรถที่เลิกผลิตไปแล้ว ยังน่าลงทุนอยู่ไหม?” บทความนี้ ผมจะพาคุณเจาะลึกทุกแง่มุมแบบผู้เชี่ยวชาญ เพื่อตอบคำถามนี้อย่างหมดจด

ดีไซน์ที่อยู่เหนือกาลเวลา: เอกลักษณ์ของ “คูเป้ 4 ประตู”

สิ่งแรกที่ต้องพูดถึงเมื่อเอ่ยถึง Mercedes-Benz CLS คือ ดีไซน์รถคูเป้ 4 ประตู อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งเป็นแนวคิดที่ Mercedes-Benz บุกเบิกและประสบความสำเร็จอย่างงดงาม แม้ใน ปี 2025 นี้ เราจะเห็นรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ที่มีเส้นสายโฉบเฉี่ยวมากมาย แต่ CLS โฉมนี้ยังคงเปล่งประกายความหรูหรา สง่างาม และความสปอร์ตได้อย่างไม่เสื่อมคลาย ผมกล้าพูดได้เลยว่ามันคือ งานออกแบบที่อยู่เหนือกาลเวลา ไม่ว่าจะผ่านไปอีกกี่ปี รูปทรงโค้งมนของหลังคาที่ลาดเอียงจรดท้ายรถ ประสานเข้ากับบุคลิกของ รถซีดาน สี่ประตูได้อย่างลงตัว สร้างมิติที่แตกต่างจากรถทั่วไปบนท้องถนน

สำหรับผู้ที่ชื่นชอบความสปอร์ตแต่ยังต้องการความสะดวกสบายในการใช้งานจริงสำหรับครอบครัวหรือผู้โดยสารตอนหลัง ดีไซน์ของ CLS คือคำตอบที่ไม่ต้องประนีประนอมใดๆ มันคือรถที่ทำให้คุณได้สัมผัสถึงความพิเศษทุกครั้งที่ก้าวขึ้นรถ และทุกสายตาที่จับจ้องเมื่อขับผ่าน ดีไซน์ด้านหน้าอันบึกบึนพร้อมกระจังหน้า Diamond Grille ที่เป็นเอกลักษณ์ของ AMG ผสานกับไฟหน้า Multibeam LED อันเฉียบคม และเส้นสายด้านข้างที่ลื่นไหลไปจนถึงไฟท้ายแบบ Two-piece LED Design ล้วนเป็นองค์ประกอบที่ประกอบกันเป็นความสมบูรณ์แบบทางสุนทรียภาพที่ยากจะหาคู่แข่งมาเทียบเคียงได้อย่างแท้จริง การตัดสินใจครอบครอง CLS ในปี 2025 จึงไม่ใช่แค่การซื้อรถยนต์ แต่เป็นการลงทุนใน งานศิลปะเคลื่อนที่ ที่จะยังคงสร้างความประทับใจไปอีกนาน

หัวใจแห่งสมรรถนะและความประหยัด: เครื่องยนต์ดีเซล Mild Hybrid ที่ยังคงน่าสนใจ

ภายใต้เรือนร่างอันงดงามของ CLS 220 d AMG Premium คือขุมพลัง เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร (OM654) ที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในด้านประสิทธิภาพและความทนทาน เครื่องยนต์รหัส OM654 นี้ไม่ใช่แค่เครื่องยนต์ดีเซลธรรมดา แต่เป็นเครื่องยนต์ 4 สูบ เทอร์โบ ความจุ 1,950 ซีซี ที่ให้กำลังสูงสุด 194 แรงม้า ที่ 3,800 รอบ/นาที และแรงบิดมหาศาลถึง 400 นิวตันเมตร ที่ช่วงรอบต่ำ 1,600-2,800 รอบ/นาที ซึ่งถูกจับคู่กับระบบส่งกำลัง เกียร์อัตโนมัติ 9G-TRONIC อันชาญฉลาด ทำให้การขับขี่นั้นลื่นไหลและตอบสนองได้ทันใจ อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 7.5 วินาที ถือว่าเพียงพอและเหลือเฟือสำหรับการใช้งานทั้งในเมืองและนอกเมือง

จุดเด่นที่ทำให้ CLS 220 d ยังคงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจในยุค ปี 2025 คือการผสานเทคโนโลยี Mild Hybrid (EQ Boost) เข้ามาช่วยเสริมการทำงาน ระบบนี้ไม่ได้แค่ช่วยลดการปล่อยมลพิษ แต่ยังช่วยเพิ่มความนุ่มนวลในการออกตัวและลดภาระของเครื่องยนต์ในบางช่วงเวลา ส่งผลให้ อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันดีเซล ทำได้อย่างน่าประทับใจอย่างไม่น่าเชื่อ จากประสบการณ์การขับขี่และทดสอบมาหลายต่อหลายครั้ง ผมสามารถสรุปได้ว่า CLS 220 d เป็นหนึ่งใน รถดีเซลไฮบริด ที่ประหยัดเชื้อเพลิงได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อขับขี่เดินทางไกลข้ามจังหวัด

จากสถิติและข้อมูลการใช้งานจริงที่ผมได้รวบรวมมาตลอดหลายปี ในสภาพการจราจรที่หลากหลาย:
การขับขี่ในเมืองที่มีสภาพจราจรติดขัด: อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยประมาณ 10-12 กม./ลิตร ซึ่งถือว่าดีเยี่ยมสำหรับ รถหรูดีเซล ขนาดนี้
การขับขี่บนทางหลวงที่โล่งสบายด้วยความเร็วคงที่: สามารถทำได้สูงถึง 18-20 กม./ลิตร หรืออาจจะมากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับปัจจัยด้านการขับขี่
การขับขี่แบบผสมผสาน (ในเมืองและนอกเมือง): อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 14-16 กม./ลิตร

ในยุคที่ราคาน้ำมันยังคงผันผวน CLS 220 d AMG Premium จึงยังคงเป็นตัวเลือกที่ชาญฉลาดสำหรับผู้ที่ต้องการ ความคุ้มค่ารถยนต์ ในระยะยาว โดยไม่ลดทอนประสบการณ์การขับขี่แบบพรีเมียม การบำรุงรักษาเครื่องยนต์ดีเซล OM654 ก็ถือว่าไม่ซับซ้อนมากนักเมื่อเทียบกับเครื่องยนต์ดีเซลสมัยใหม่รุ่นอื่นๆ ทำให้ค่าใช้จ่ายใน การบำรุงรักษารถหรู ในระยะยาวนั้นยังคงอยู่ในระดับที่ยอมรับได้

ประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือระดับ: สมรรถนะที่ปรับเปลี่ยนได้ดั่งใจ

การขับขี่ Mercedes-Benz CLS 220 d AMG Premium ไม่ได้เป็นแค่การเดินทางจากจุด A ไปจุด B แต่เป็นการได้สัมผัสถึง ประสบการณ์ขับขี่รถเบนซ์ ที่ได้รับการปรุงแต่งมาอย่างพิถีพิถัน ด้วยระบบ Dynamic Select ที่ให้ผู้ขับขี่สามารถเลือกโหมดการขับขี่ได้ตามต้องการ ทำให้รถคันนี้สามารถปรับเปลี่ยนบุคลิกได้อย่างน่าทึ่ง:

โหมด ECO: เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการขับขี่ในเมืองที่มีการจราจรหนาแน่น หรือเมื่อต้องการ ความประหยัดน้ำมันสูงสุด คันเร่งจะตอบสนองอย่างนุ่มนวล การเปลี่ยนเกียร์ราบรื่น ช่วยลดภาระของเครื่องยนต์และระบบส่งกำลังได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นโหมดที่มอบ ความคุ้มค่ารถยนต์ ในด้านเชื้อเพลิงได้อย่างชัดเจน
โหมด Comfort: นี่คือโหมดที่ผมแนะนำว่าครอบคลุมการใช้งานมากที่สุด เป็นการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างความนุ่มนวลและความคล่องตัว ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่ในชีวิตประจำวัน การเดินทางไกล หรือแม้แต่การเร่งแซงที่จำเป็น กำลังของเครื่องยนต์จะมาแบบต่อเนื่องและเพียงพอต่อการใช้งาน ตอบสนองได้เป็นธรรมชาติ ทำให้การขับขี่ผ่อนคลายแต่ก็ยังคงความสนุกสนานไว้
โหมด Sport: สำหรับผู้ที่ต้องการ สมรรถนะเครื่องยนต์ดีเซล แบบเต็มขั้น โหมดนี้จะเปลี่ยนบุคลิกของ CLS ให้กลายเป็นรถสปอร์ตทันที คันเร่งจะตอบสนองไวขึ้นอย่างเห็นได้ชัด รอบเครื่องยนต์จะถูกรักษาระดับให้สูงขึ้น เกียร์เปลี่ยนได้รวดเร็วและกระชับขึ้น สัมผัสได้ถึงแรงผลักที่หนักแน่น เมื่อต้องการเร่งแซงหรือขับขี่บนเส้นทางที่คดเคี้ยว โหมด Sport จะมอบความมั่นใจและเร้าใจได้อย่างเต็มที่ สำหรับใครที่บอกว่า CLS 220d เป็นรถที่อืด ผมขอเถียงขาดใจเลยว่าคุณยังไม่ได้ลองสัมผัสโหมด Sport อย่างแท้จริง

แม้ว่าตัวถังของ CLS จะมีขนาดใหญ่และดูภูมิฐาน แต่ในทางปฏิบัติแล้ว การขับขี่ซอกแซก หรือการเลี้ยวเข้าออกในพื้นที่จำกัดกลับทำได้อย่างคล่องตัวกว่าที่คิด ด้วยการออกแบบช่วงล่างที่เน้นความสปอร์ตและความมั่นคง ทำให้ ช่วงล่างสปอร์ต ของ CLS โฉมนี้มอบความมั่นใจในการเข้าโค้งที่ความเร็วสูงได้อย่างไร้กังวล อาการโยนตัวมีน้อยมาก สร้างความรู้สึกเกาะถนนได้อย่างดีเยี่ยม และยังคงรักษา การเก็บเสียงในห้องโดยสาร ได้ในระดับพรีเมียม แม้จะใช้ความเร็วสูงถึง 140 กม./ชม. ก็แทบจะไม่ได้ยินเสียงลมปะทะเข้ามารบกวน ทำให้การเดินทางไกลเป็นไปอย่างสงบและสบาย

อย่างไรก็ตาม ในฐานะผู้เชี่ยวชาญ ผมมีข้อสังเกตเกี่ยวกับยางและล้อที่เป็นจุดที่สามารถปรับปรุงได้ รุ่น CLS 220 d AMG Premium มาพร้อมล้อขนาด 20 นิ้ว พร้อมยางรันแฟลต (Run-flat Tyres) คู่หน้าขนาด 245/35R20 และคู่หลังขนาด 275/30R20 ซึ่งยางที่มีแก้มยางบางขนาดนี้ เมื่อขับผ่านพื้นผิวถนนที่ขรุขระหรือตกหลุม จะส่งผลให้รู้สึกถึงแรงสะเทือนเข้ามาในห้องโดยสารค่อนข้างมาก และยังเพิ่มความเสี่ยงที่ล้อและยางจะเสียหายได้ง่ายกว่ายางที่มีแก้มยางหนา ผมแนะนำว่า หากต้องการเพิ่มความนุ่มนวลในการขับขี่และลดความกังวลเรื่องความเสียหายของล้อและยาง การพิจารณา ลดขนาดล้อลงมาเป็น 19 นิ้ว แล้วเลือกใช้ยางที่มีแก้มยางหนาขึ้น เช่น 245/40R19 และ 275/35R19 จะช่วยให้ ประสบการณ์การขับขี่ ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยไม่สูญเสียความสปอร์ตของรถไปมากนัก นี่เป็นคำแนะนำที่ผมมักจะให้ลูกค้าที่ต้องการครอบครอง CLS ในตลาด รถยนต์มือสอง เสมอ

ความปลอดภัยและเทคโนโลยีอัจฉริยะ: มรดกแห่งวิศวกรรมจาก Mercedes-Benz

ในยุค ปี 2025 ที่ เทคโนโลยีความปลอดภัยรถยนต์ และ ระบบขับขี่อัจฉริยะ กลายเป็นมาตรฐานสำคัญของรถยนต์สมัยใหม่ Mercedes-Benz CLS 220 d AMG Premium ยังคงโดดเด่นด้วยชุดระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่และฟังก์ชันความปลอดภัยที่ครบครัน ซึ่งเป็นมรดกจากวิศวกรรมอันล้ำหน้าของแบรนด์:

ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา (Blind Spot Assist): ระบบนี้ไม่เพียงแค่เตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตาขณะขับขี่ แต่ยังทำงานแม้กระทั่งหลังจากจอดรถและดับเครื่องยนต์ หากคุณกำลังจะเปิดประตูและมีรถวิ่งมาจากด้านหลัง ระบบจะส่งสัญญาณเตือนเพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุได้อย่างชาญฉลาด เป็นฟีเจอร์ที่เพิ่มความปลอดภัยในการใช้งานจริงในชีวิตประจำวันได้อย่างมาก
ระบบช่วยเบรกแบบแอคทีฟ (Active Brake Assist): สามารถตั้งค่าระดับการทำงานได้ตามความต้องการ หากขับจี้ท้ายรถคันหน้ามากเกินไป ระบบจะส่งสัญญาณเตือนที่หน้าจอเรือนไมล์ และหากยังคงขับจี้จนถึงระยะอันตราย ระบบจะทำการเบรกอัตโนมัติเพื่อลดความรุนแรงของอุบัติเหตุหรือหลีกเลี่ยงการชน เป็น ออฟชั่นรถเบนซ์ ที่มีประโยชน์อย่างยิ่งในสภาพจราจรที่คาดเดาได้ยากของประเทศไทย
ระบบช่วยนำรถเข้าจอดอัตโนมัติ (Parking Pilot with PARKTRONIC): สำหรับมือใหม่หรือผู้ที่ประสบปัญหาในการจอดรถ ระบบนี้จะช่วยให้การจอดรถเข้าซองหรือจอดขนานเป็นเรื่องง่ายดาย เพียงแค่รถค้นหาช่องจอดที่เหมาะสม ระบบจะเข้าควบคุมการบังคับเลี้ยว การเปลี่ยนเกียร์ และการควบคุมคันเร่ง/เบรกให้เองทั้งหมด โดยผู้ขับขี่เพียงแค่สังเกตการณ์และพร้อมเข้าควบคุมได้ทุกเมื่อ มันคือความสะดวกสบายที่ยกระดับประสบการณ์การจอดรถไปอีกขั้น
กล้องมองภาพรอบคัน 360 องศา: นี่คืออีกหนึ่งฟีเจอร์ที่ผมใช้งานบ่อยมาก กล้องรอบคันช่วยให้เห็นมุมมองรอบรถได้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นการขับในที่แคบ การหลีกเลี่ยงสิ่งกีดขวาง หรือการจอดเทียบฟุตบาท ทำให้การขับขี่มีความปลอดภัยและมั่นใจยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ คุณภาพของวัสดุที่ใช้ในห้องโดยสาร งานประกอบที่ประณีต และเทคโนโลยีต่างๆ ยังคงรักษามาตรฐานระดับสูงของ Mercedes-Benz ไว้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ แม้จะเป็นรถที่ผลิตมาแล้วหลายปี แผงควบคุมและจอแสดงผลต่างๆ ยังคงใช้งานได้ดีเยี่ยม และระบบ Infotainment ก็ยังคงตอบสนองการใช้งานได้อย่างราบรื่น แม้จะไม่ใช่ MBUX เวอร์ชั่นล่าสุด แต่ก็ยังคงมอบประสบการณ์การเชื่อมต่อและความบันเทิงที่น่าพอใจสำหรับปี 2025

ความคุ้มค่าในปี 2025: การลงทุนในรถมือสองระดับตำนาน

ในขณะที่ราคาเปิดตัวในอดีตของ CLS 220 d AMG Premium อาจสูงถึง 4,640,000 บาท และมีช่วงเวลาที่ลดราคาพิเศษเหลือ 3,880,000 บาท ในยุคที่รถยังคงมีจำหน่ายแบบใหม่ป้ายแดง แต่สำหรับ ปี 2025 นี้ สถานะของ CLS 220 d ได้เปลี่ยนไปสู่ตลาด รถยนต์พรีเมียมมือสอง อย่างเต็มตัว สิ่งนี้กลับสร้างโอกาสทองให้กับผู้ที่ต้องการครอบครอง เบนซ์ CLS ที่มาพร้อมดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์และสมรรถนะที่ยอดเยี่ยมในราคาที่เข้าถึงได้มากขึ้น

ราคา CLS มือสอง ในตลาดปัจจุบันมีความหลากหลายขึ้นอยู่กับปีที่ผลิต สภาพรถ และระยะทางการใช้งาน แต่โดยรวมแล้วถือว่าปรับตัวลงจากราคาป้ายแดงอย่างมีนัยสำคัญ ทำให้ CLS 220 d AMG Premium กลายเป็นหนึ่งใน รถหรูประหยัดน้ำมัน ที่มีความคุ้มค่าสูงมากในตลาดรถยนต์มือสอง คุณกำลังมองหารถที่มอบประสบการณ์การขับขี่แบบสปอร์ต หรูหรา สะดวกสบาย และยังคงมีดีไซน์ที่โดดเด่นเหนือกาลเวลา CLS คันนี้คือตัวเลือกที่คุณไม่ควรมองข้าม

การเป็น “โฉมสุดท้าย” ของตระกูล CLS ยังเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่เพิ่มคุณค่าให้กับรถรุ่นนี้ เพราะมันหมายความว่าดีไซน์ภายนอกของมันจะไม่ “ตกรุ่น” ในความหมายของการถูกแทนที่ด้วยรุ่นใหม่กว่าไปอีกนานแสนนาน ทำให้ ราคาขายต่อรถยนต์ ในอนาคตมีความผันผวนน้อยกว่ารถที่ยังมีรุ่นใหม่ๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง

สรุปและคำเชิญชวน

จากการวิเคราะห์อย่างละเอียดในฐานะผู้เชี่ยวชาญ ผมขอยืนยันว่า Mercedes-Benz CLS 220 d AMG Premium โฉมนี้ ยังคงเป็น รถหรูที่น่าครอบครอง อย่างยิ่งในปี 2025 ด้วยดีไซน์ที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร สมรรถนะที่เร้าใจพร้อมความประหยัดเชื้อเพลิงอันน่าทึ่งจากขุมพลังดีเซล Mild Hybrid เทคโนโลยีความปลอดภัยที่ครบครัน และการขับขี่ที่มอบทั้งความสบายและความมั่นใจ CLS คันนี้คือการลงทุนใน งานฝีมือยานยนต์ ที่จะยังคงสร้างความภาคภูมิใจและประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือระดับให้กับเจ้าของได้อย่างยาวนาน มันคือรถที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความพิเศษ ไม่ชอบตามกระแส และต้องการรถที่สามารถใช้งานได้ในทุกวัน ไม่ว่าจะในเมืองที่แออัด หรือการเดินทางไกลข้ามจังหวัด

หากคุณกำลังมองหา รถยนต์พรีเมียมมือสอง ที่มอบความสมบูรณ์แบบทั้งในด้านสุนทรียภาพ วิศวกรรม และความคุ้มค่า อย่ารอช้าที่จะเปิดใจให้กับ Mercedes-Benz CLS 220 d AMG Premium คันนี้ ผมขอเชิญชวนคุณให้ลองสัมผัสและทดลองขับด้วยตัวคุณเอง แล้วคุณจะเข้าใจว่าทำไมรถยนต์ที่เลิกผลิตไปแล้วคันนี้ จึงยังคงเป็นตำนานที่ยังคงมีชีวิต และเป็นตัวเลือกที่ชาญฉลาดอย่างแท้จริงในโลกยานยนต์ปี 2025

อย่าปล่อยให้โอกาสในการครอบครองรถยนต์ระดับตำนานคันนี้หลุดมือไป! ลองค้นหารถ CLS 220 d AMG Premium สภาพดีในตลาดรถมือสองวันนี้ แล้วคุณจะได้สัมผัสกับความหมายที่แท้จริงของ “ดีไซน์เหนือกาลเวลา” ด้วยตัวคุณเอง