[ตอนต่อไป] 068T1129 AB68 แม่สามีเลือกลูกสะใภ้ ด้วยวิธีนี้.mp4

เจาะลึก Mercedes-Benz CLS 220d AMG Premium ปี 2025: ตำนานสปอร์ตคูเป้ 4 ประตู ที่ยังคงสะกดทุกสายตาและคุ้มค่าน่าครอบครองอยู่หรือไม่?

ในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการรถยนต์มากว่าทศวรรษ ผมได้เห็นวิวัฒนาการของยานยนต์มามากมาย แต่มีไม่กี่รุ่นหรอกครับที่สามารถทิ้งร่องรอยอันโดดเด่นไว้ได้ในความทรงจำของผู้คน และหนึ่งในนั้นคือ Mercedes-Benz CLS ซึ่งแม้สายการผลิตจะสิ้นสุดลงไปแล้วตั้งแต่ปี 2023 แต่ในปี 2025 นี้ CLS 220d AMG Premium ก็ยังคงเป็นหัวข้อที่ถูกพูดถึงในตลาดรถยนต์มือสองระดับพรีเมียม ด้วยรูปลักษณ์ที่สง่างามเหนือกาลเวลา ผสานกับสมรรถนะอันเป็นเลิศ ทำให้เกิดคำถามที่น่าสนใจว่า “ในยุคที่เทคโนโลยีรถยนต์ก้าวไปอย่างไม่หยุดยั้ง CLS เจเนอเรชันสุดท้ายคันนี้ ยังคงเป็นตัวเลือกที่น่าลงทุนและน่าครอบครองอยู่หรือไม่?” วันนี้ ผมจะพาคุณไปสำรวจทุกซอกทุกมุมของรถคันนี้ จากประสบการณ์ตรง เพื่อให้คุณได้คำตอบที่ชัดเจนที่สุด

การออกแบบที่อยู่เหนือกาลเวลา: นิยามของสปอร์ตคูเป้ 4 ประตูที่แท้จริง

เมื่อพูดถึง Mercedes-Benz CLS สิ่งแรกที่ทุกคนนึกถึงย่อมหนีไม่พ้น “ดีไซน์” ครับ ตั้งแต่แรกเห็น คุณจะรู้สึกได้ถึงความพิเศษของเส้นสายตัวถังที่ผสานความพลิ้วไหวของรถคูเป้เข้ากับความโอ่อ่าของซีดานได้อย่างลงตัว นี่ไม่ใช่แค่รถยนต์ แต่เป็นงานศิลปะเคลื่อนที่ที่สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับรถยนต์ประเภท “สปอร์ตคูเป้ 4 ประตู” ดีไซน์นี้ถือเป็นเอกลักษณ์ที่ CLS สร้างขึ้นมาและไม่มีใครเลียนแบบได้สำเร็จเท่า มันไม่ใช่แค่ความสวยงามฉาบฉวย แต่เป็นการออกแบบที่ผ่านการคิดมาอย่างถี่ถ้วน ให้ความรู้สึกทั้งโฉบเฉี่ยว ดุดัน และหรูหราไปพร้อมๆ กัน

ในยุคที่รถยนต์หลายรุ่นหันมาใช้ภาษาการออกแบบที่คล้ายคลึงกัน CLS กลับฉีกกฎด้วยเส้นสายหลังคาที่ลาดเอียงจรดท้ายรถ ประตูแบบไร้กรอบ (frameless doors) และสัดส่วนตัวถังที่สมบูรณ์แบบ สิ่งเหล่านี้ทำให้ CLS ยังคงดูทันสมัยและโดดเด่นบนท้องถนน แม้จะเป็นรถที่เปิดตัวมาหลายปีแล้วก็ตาม ในปี 2025 นี้ ดีไซน์ของ CLS 220d AMG Premium ยังคงสะกดทุกสายตาของผู้คน ไม่ว่าใครที่ได้เห็นก็ต้องเหลียวมอง และนี่คือจุดแข็งที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งของรถคันนี้ เป็นการลงทุนด้านความงามที่ไม่เคยเสื่อมคลาย ไม่ตกรุ่นง่ายๆ และยังคงเป็นสิ่งที่นักขับที่มองหารถยนต์หรูที่มีสไตล์เป็นของตัวเองปรารถนา

การตกแต่งภายในของรุ่น AMG Premium ก็ยังคงรักษามาตรฐานความหรูหราและสปอร์ตไว้อย่างยอดเยี่ยม วัสดุคุณภาพสูง เบาะหนังแท้ดีไซน์สปอร์ต พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันหุ้มหนัง Nappa แป้นเหยียบสเตนเลสสตีลพร้อมปุ่มยาง และองค์ประกอบของ AMG ที่ถูกแทรกเข้ามาอย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นการตัดเย็บหรือการเลือกใช้วัสดุ ล้วนสะท้อนถึงความประณีตและใส่ใจในทุกรายละเอียด แผงหน้าปัดดิจิทัลขนาดใหญ่สองจอที่เชื่อมต่อกัน (Widescreen Cockpit) ยังคงให้ความรู้สึกทันสมัยและใช้งานง่าย แสดงข้อมูลการขับขี่และระบบมัลติมีเดียได้อย่างครบถ้วนและสวยงาม แม้ในปี 2025 ระบบนี้ก็ยังคงความน่าประทับใจและใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวันอย่างไม่เคอะเขิน

สมรรถนะและประสิทธิภาพที่ยังคงโดดเด่นในยุคปัจจุบัน

หัวใจสำคัญที่ทำให้ CLS 220d AMG Premium ยังคงน่าสนใจในตลาดรถยนต์มือสองปี 2025 คือ “เครื่องยนต์ดีเซล” ครับ หลายคนอาจกังวลว่าเครื่องยนต์ดีเซลจะล้าสมัยไปแล้วหรือไม่ แต่สำหรับ Mercedes-Benz ในรหัส 220d นั้นแตกต่างออกไป เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร (1,950 ซีซี) พ่วงเทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 194 แรงม้า ที่ 3,800 รอบ/นาที และแรงบิดมหาศาลถึง 400 นิวตันเมตร ที่รอบเครื่องยนต์ต่ำเพียง 1,600-2,800 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ (9G-TRONIC) ที่ได้รับการยอมรับเรื่องความนุ่มนวลและตอบสนองฉับไว

จุดเด่นสำคัญคือการทำงานร่วมกับระบบ Mild Hybrid (EQ Boost) ซึ่งไม่เพียงช่วยลดภาระของเครื่องยนต์หลัก แต่ยังให้พละกำลังเสริมในจังหวะออกตัวและการเร่งแซง ทำให้การขับขี่ราบรื่นและลดอาการหน่วงได้อย่างชัดเจน ระบบนี้ยังช่วยให้เครื่องยนต์สามารถดับตัวเองได้ในบางจังหวะของการขับขี่ (Coasting) เพื่อประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงสูงสุด ซึ่งในยุคที่ราคาน้ำมันยังคงผันผวน เครื่องยนต์ดีเซลประหยัดน้ำมันคันนี้จึงเป็นตัวเลือกที่ชาญฉลาดอย่างยิ่ง

จากประสบการณ์การขับขี่จริงบนเส้นทางที่หลากหลาย ผมสามารถยืนยันได้ว่า CLS 220d คันนี้คือหนึ่งในรถยนต์ที่ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้อย่างน่าทึ่งในกลุ่มรถยนต์หรู การวิ่งระยะทางไกลข้ามจังหวัดทำได้เฉลี่ยสูงถึง 18-20 กิโลเมตรต่อลิตรได้อย่างสบายๆ หากขับขี่ด้วยความเร็วคงที่และไม่เร่งรีบ ส่วนการใช้งานในเมืองที่มีการจราจรหนาแน่น ตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองจะอยู่ที่ประมาณ 10-12 กิโลเมตรต่อลิตร ซึ่งถือว่าดีเยี่ยมสำหรับรถยนต์ขนาดใหญ่ระดับนี้ และหากเป็นการขับขี่แบบผสมผสานทั้งในเมืองและนอกเมือง อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยจะตกอยู่ที่ประมาณ 14-16 กิโลเมตรต่อลิตร ซึ่งตัวเลขเหล่านี้ยังคงน่าประทับใจอย่างมากในปี 2025 เมื่อเทียบกับค่าใช้จ่ายในการเดินทางในปัจจุบัน ทำให้ Mercedes-Benz CLS 220d เป็นรถยนต์หรูที่ยังคงคุ้มค่าในด้านการประหยัดพลังงาน ไม่เป็นภาระค่าใช้จ่ายระยะยาว

ประสบการณ์การขับขี่: มุมมองจากผู้เชี่ยวชาญ

ในฐานะผู้ที่คลุกคลีกับยานยนต์มานาน ผมกล้าพูดได้เลยว่า Mercedes-Benz CLS 220d AMG Premium มอบประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือกว่าความคาดหมายของหลายๆ คน ไม่ใช่แค่เรื่องความเร็วสูงสุด แต่เป็นการผสมผสานระหว่าง “สมรรถนะ” “ความสบาย” และ “ความมั่นใจ” ที่ลงตัว

การตอบสนองของเครื่องยนต์ในแต่ละโหมด:
ECO Mode: โหมดนี้เหมาะสำหรับการขับขี่ในเมือง หรือเมื่อคุณต้องการความประหยัดสูงสุด การตอบสนองของคันเร่งจะถูกหน่วงไว้นิดหน่อย เพื่อให้การออกตัวและการเปลี่ยนเกียร์เป็นไปอย่างนุ่มนวลที่สุด ลดการใช้เชื้อเพลิงโดยไม่จำเป็น ในสภาพการจราจรที่ติดขัด โหมด ECO ช่วยให้คุณควบคุมรถได้อย่างง่ายดายและผ่อนคลาย
Comfort Mode: นี่คือโหมดที่ผมมักจะแนะนำให้ใช้งานในชีวิตประจำวัน เพราะเป็นโหมดที่ครอบคลุมการใช้งานมากที่สุด การตอบสนองของเครื่องยนต์มีความสมดุล ไม่ช้าหรือเร็วเกินไป เกียร์ 9G-TRONIC ทำงานได้อย่างราบรื่น นุ่มนวล เหมาะสำหรับการเดินทางไกล หรือการขับขี่ที่ต้องการความคล่องตัวในระดับหนึ่ง กำลังของเครื่องยนต์มาแบบต่อเนื่อง ทำให้การขับขี่เป็นไปอย่างสบายและมั่นคง
Sport Mode: สำหรับผู้ที่ชื่นชอบความเร้าใจ โหมด Sport จะปลุกสัญชาตญาณความเป็น AMG ของ CLS ออกมาอย่างเต็มที่ คันเร่งตอบสนองไวขึ้นทันตาเห็น เกียร์เปลี่ยนเร็วขึ้นและลากรอบเครื่องยนต์ไปสูงขึ้น ช่วงล่างและพวงมาลัยจะปรับให้แข็งขึ้นเพื่อความแม่นยำในการควบคุม อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 7.5 วินาทีนั้นเป็นตัวเลขที่น่าประทับใจ แต่ความรู้สึกจริงเมื่อคุณกดคันเร่งในโหมด Sport คือ “ความพุ่งทะยาน” ที่ทำให้คุณสัมผัสได้ถึงพละกำลังอันเหลือเฟือ ไม่ว่าจะเป็นการเร่งแซงบนถนนสองเลน หรือการรักษาความเร็วบนไฮเวย์ รถคันนี้ไม่เคยทำให้คุณผิดหวัง

ช่วงล่างและการควบคุม: แม้ตัวถังของ CLS จะดูใหญ่โต แต่การควบคุมกลับทำได้อย่างคล่องแคล่วและแม่นยำ พวงมาลัยมีน้ำหนักกำลังดี ตอบสนองฉับไว ทำให้การหักเลี้ยวหรือการขับขี่ซอกแซกในเมืองเป็นเรื่องง่าย ช่วงล่างของรุ่น AMG Premium ได้รับการปรับแต่งมาในแนวสปอร์ต ไม่ได้นุ่มนวลแบบยวบยาบ แต่ให้ความรู้สึกหนักแน่น มั่นคง ยึดเกาะถนนเป็นเยี่ยม ไม่ว่าจะเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง หรือเปลี่ยนเลนกะทันหัน รถก็ยังคงให้ความมั่นใจได้อย่างเต็มเปี่ยม ลดอาการโคลงตัวได้อย่างยอดเยี่ยม ทำให้การเดินทางราบรื่นและลดความเหนื่อยล้าได้อย่างมาก

ระบบความปลอดภัยและเทคโนโลยีช่วยขับขี่อัจฉริยะในมุมมองปี 2025: Mercedes-Benz CLS 220d AMG Premium มาพร้อมระบบความปลอดภัยและเทคโนโลยีช่วยขับขี่ที่ล้ำสมัยในยุคนั้น และยังคงใช้งานได้ดีเยี่ยมในปี 2025:
Blind Spot Assist: ระบบแจ้งเตือนจุดอับสายตาที่ทำงานได้อย่างแม่นยำ ไม่ใช่แค่แจ้งเตือนขณะขับขี่ แต่ยังทำงานแม้คุณจะจอดรถและดับเครื่องยนต์แล้ว หากคุณเปิดประตูรถแล้วมีรถยนต์หรือมอเตอร์ไซค์วิ่งมาจากด้านหลัง ระบบจะแจ้งเตือนด้วยสัญญาณไฟและเสียง ช่วยป้องกันอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิด
ระบบเบรกอัตโนมัติ (Active Brake Assist): ระบบนี้สามารถตั้งค่าการตอบสนองได้หลายระดับ และสามารถปิดการทำงานได้ หากคุณขับรถกระชั้นชิดคันหน้ามากเกินไป ระบบจะแสดงสัญญาณเตือนบนหน้าจอ และหากยังคงกระชั้นชิดอยู่ ระบบจะทำการเบรกอัตโนมัติเพื่อลดความเสี่ยงของการชน ระบบนี้เป็นประโยชน์อย่างยิ่งในสภาพการจราจรที่ติดขัดในเมืองหลวง
ระบบช่วยจอดรถอัตโนมัติ (Active Parking Assist): หนึ่งในฟีเจอร์ที่น่าประทับใจที่สุด โดยเฉพาะสำหรับมือใหม่หรือผู้ที่ต้องการความสะดวกสบายสูงสุด ระบบสามารถค้นหาช่องจอดที่เหมาะสม และทำการบังคับเลี้ยว เข้าจอดทั้งแบบขนานและแบบเข้าซองให้เอง โดยที่ผู้ขับขี่เพียงแค่ควบคุมคันเร่งและเบรกเท่านั้น ในปี 2025 ฟังก์ชันนี้ยังคงเป็นที่ต้องการและเป็นเครื่องยืนยันถึงความล้ำหน้าของ Mercedes-Benz
กล้องมองภาพรอบทิศทาง 360 องศา (360° Camera): ระบบกล้องที่แสดงภาพรอบตัวรถแบบ Bird’s-eye view ช่วยให้การจอดรถในพื้นที่แคบหรือการหลีกเลี่ยงสิ่งกีดขวางเป็นเรื่องง่าย ผมเองใช้ฟังก์ชันนี้บ่อยครั้งเวลาจอดเทียบฟุตบาท หรือถอยเข้าซองที่มองเห็นได้ยาก ช่วยเพิ่มความมั่นใจและลดความเสี่ยงที่จะเกิดรอยขีดข่วนได้อย่างมาก

การเก็บเสียงภายในห้องโดยสาร: Mercedes-Benz CLS 220d AMG Premium ยังคงรักษามาตรฐานการเก็บเสียงไว้ได้อย่างดีเยี่ยม แม้จะใช้ความเร็วสูงถึง 140 กม./ชม. เสียงลมที่เข้ามาในห้องโดยสารก็ยังคงเบาบางจนแทบไม่ได้ยิน ทำให้การสนทนาภายในรถยังคงเป็นไปอย่างราบรื่นและผ่อนคลาย

ล้อและยาง: จุดที่ต้องพิจารณาอย่างถี่ถ้วน:
มาถึงจุดที่ผมในฐานะผู้เชี่ยวชาญอยากจะให้คำแนะนำเป็นพิเศษในมุมมองของรถมือสองปี 2025 นั่นคือ “ล้อและยาง” ของรุ่นนี้ครับ CLS 220d AMG Premium มาพร้อมล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว ยางหน้าขนาด 245/35R20 และยางหลังขนาด 275/30R20 ซึ่งเป็นยางรันแฟลต ยางที่มีแก้มบางขนาดนี้ ผสานกับช่วงล่างที่ออกแนวสปอร์ต ทำให้การขับขี่บนพื้นผิวถนนที่ไม่เรียบ หรือการตกหลุมบ่อ จะรู้สึกสะท้านเข้ามาในห้องโดยสารค่อนข้างชัดเจน และมีความเสี่ยงที่ยางและล้อจะเสียหายได้ง่ายกว่ายางแก้มหนา

สำหรับผู้ที่กำลังพิจารณา CLS คันนี้ในปี 2025 ผมขอแนะนำให้พิจารณาการ “ดาวน์ไซส์ล้อ” ลงมาเป็นขนาด 19 นิ้ว และเลือกใช้ยางที่มีแก้มหนาขึ้น (เช่น 245/40R19 หรือ 275/35R19) ซึ่งจะช่วยเพิ่มความนุ่มนวลในการขับขี่ได้อย่างมาก ลดแรงสะท้าน และเพิ่มความทนทานของยางต่อสภาพถนนที่ไม่สมบูรณ์ในประเทศไทยได้ดียิ่งขึ้น การลงทุนเปลี่ยนชุดล้อและยางนี้จะช่วยยกระดับประสบการณ์การขับขี่ของคุณให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น โดยที่ยังคงความสวยงามของตัวรถไว้ได้ไม่ต่างกัน

คุณค่าที่แท้จริงในปี 2025: Mercedes-Benz CLS 220d AMG Premium คุ้มค่าแค่ไหนในตลาดรถยนต์มือสองระดับพรีเมียม?

ณ ปี 2025 สถานะของ Mercedes-Benz CLS 220d AMG Premium ได้เปลี่ยนจากรถยนต์ใหม่เอี่ยมมาเป็น “รถยนต์มือสองระดับพรีเมียม” อย่างเต็มตัว นี่คือรถยนต์ที่เคยมีราคาจำหน่ายเริ่มต้นสูงถึง 4,640,000 บาท (และลดลงเหลือ 3,880,000 บาทในช่วงปลายของการจำหน่าย) แต่ในตลาดรถยนต์มือสองปัจจุบัน คุณสามารถหา CLS เจเนอเรชันสุดท้ายที่ดูแลรักษาดีๆ ได้ในราคาที่น่าดึงดูดใจอย่างยิ่ง ซึ่งนับเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าเมื่อเทียบกับสิ่งที่คุณจะได้รับ

ความคุ้มค่าด้านราคา: ในปี 2025 ราคาในตลาดรถยนต์มือสองของ CLS 220d AMG Premium ได้ปรับลดลงจากราคาป้ายแดงอย่างมีนัยสำคัญ ทำให้มันกลายเป็นรถยนต์หรูที่มีคุณค่าต่อราคา (Value for Money) สูงมาก เมื่อเทียบกับรถยนต์ใหม่ในราคาใกล้เคียงกัน คุณจะได้รับรถยนต์ที่มีดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ สมรรถนะที่ยอดเยี่ยม และเทคโนโลยีที่ยังคงทันสมัย รวมถึงความรู้สึกในการขับขี่ที่พรีเมียมกว่าอย่างชัดเจน
สถานะ “รุ่นสุดท้าย”: การที่ Mercedes-Benz ได้ยกเลิกสายการผลิต CLS ไปแล้ว ทำให้ CLS เจเนอเรชันสุดท้ายคันนี้มีสถานะที่พิเศษ มันไม่ใช่แค่รถยนต์ แต่เป็นชิ้นส่วนประวัติศาสตร์ของ Mercedes-Benz ที่จะไม่มีการต่อยอดภายใต้ชื่อ CLS อีกต่อไป สิ่งนี้อาจทำให้ CLS กลายเป็น “Future Classic” ที่สามารถรักษามูลค่าได้ดีในระยะยาว โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบและเห็นคุณค่าในดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์นี้ รถคันนี้จะไม่ “ตกรุ่น” ในแง่ของความสวยงามและสไตล์ แม้เวลาจะผ่านไปอีกนานแค่ไหนก็ตาม
ค่าบำรุงรักษาและการดูแล: แน่นอนครับว่าการเป็นเจ้าของรถยนต์หรูระดับ Mercedes-Benz ย่อมมาพร้อมกับค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาที่สูงกว่ารถยนต์ทั่วไปเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่ CLS 220d ใช้เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร ที่ได้รับการยอมรับเรื่องความทนทานและประหยัดเชื้อเพลิง รวมถึงเกียร์ 9G-TRONIC ที่พิสูจน์แล้วว่าเชื่อถือได้ ทำให้ค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาทั่วไปไม่สูงจนเกินไปนัก หากได้รับการบำรุงรักษาตามกำหนดอย่างสม่ำเสมอ คุณก็จะสามารถใช้งานรถคันนี้ได้อย่างไร้กังวลไปอีกหลายปี การเลือกซื้อรถมือสองจากผู้ขายที่น่าเชื่อถือ มีประวัติการบำรุงรักษาครบถ้วน จะช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มความมั่นใจในการเป็นเจ้าของ

สรุป: ยังน่าครอบครองอยู่หรือไม่ในปี 2025?

จากมุมมองของผู้เชี่ยวชาญที่อยู่ในวงการมานานกว่า 10 ปี ผมสามารถตอบได้อย่างมั่นใจว่า Mercedes-Benz CLS 220d AMG Premium ในปี 2025 ยังคงเป็นรถยนต์ที่น่าครอบครองอย่างยิ่ง ครับ หากคุณกำลังมองหารถยนต์ที่มีคุณสมบัติดังต่อไปนี้:

ดีไซน์ที่หรูหรา สง่างาม และเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร: CLS คือนิยามของสปอร์ตคูเป้ 4 ประตู ที่ยังคงสะกดทุกสายตาและไม่ตกรุ่น
สมรรถนะการขับขี่ที่ยอดเยี่ยม: ทั้งความนุ่มนวล ความมั่นคง และพละกำลังที่ตอบสนองได้ทุกความต้องการ
ความประหยัดน้ำมันที่เป็นเลิศ: ด้วยเครื่องยนต์ดีเซล Mild Hybrid ที่มอบความคุ้มค่าในการใช้งานระยะยาว
เทคโนโลยีความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกที่ยังคงทันสมัย: ไม่ว่าจะเป็นระบบช่วยจอดอัตโนมัติหรือกล้อง 360 องศา
“คุณค่า” ที่เหนือกว่า “ราคา”: ในตลาดรถยนต์มือสอง CLS 220d AMG Premium มอบความคุ้มค่าในระดับที่รถใหม่ยากจะเทียบเคียง

Mercedes-Benz CLS 220d AMG Premium คันนี้ไม่ได้เป็นแค่ยานพาหนะ แต่มันคือ ประสบการณ์ มันคือ statement มันคือรถยนต์ที่ตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการความแตกต่าง ไม่ตามกระแส และชื่นชอบในงานวิศวกรรมที่ละเอียดอ่อนของเยอรมนี มันเป็นรถยนต์ที่ใช้งานได้ทุกวัน ไม่ว่าจะขับขี่ในเมืองไปทำงาน หรือเดินทางไกลท่องเที่ยวกับครอบครัว ก็สามารถพาคุณไปถึงจุดหมายได้อย่างปลอดภัยและสะดวกสบาย พร้อมกับรอยยิ้มแห่งความภาคภูมิใจ

หากคุณเป็นหนึ่งในผู้ที่กำลังมองหารถยนต์หรูมือสองที่มอบทั้งความงดงาม สมรรถนะ และความคุ้มค่าสูงสุดในปี 2025 Mercedes-Benz CLS 220d AMG Premium คือตัวเลือกที่คุณไม่ควรมองข้ามอย่างเด็ดขาด

อย่ารอช้า! หากคุณพร้อมที่จะสัมผัสประสบการณ์การขับขี่สุดพิเศษกับ Mercedes-Benz CLS 220d AMG Premium ที่ยังคงเป็นตำนานแห่งสไตล์และสมรรถนะในวันนี้ ติดต่อผู้จำหน่ายรถยนต์มือสองระดับพรีเมียมที่น่าเชื่อถือ เพื่อค้นหา CLS ในฝันของคุณและเริ่มต้นการเดินทางอันเหนือระดับ!