Mercedes-Benz CLS 220 d AMG Premium ในปี 2025: ยังคงเป็นรถหรูมือสองที่น่าจับตา และคุ้มค่าแก่การลงทุนหรือไม่?
ในวงการยานยนต์ คำว่า “ความคลาสสิกเหนือกาลเวลา” นั้นไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นบ่อยนัก แต่สำหรับ Mercedes-Benz CLS เจเนอเรชันที่ 3 รหัสตัวถัง C257 โดยเฉพาะรุ่น CLS 220 d AMG Premium นั้น ต้องยอมรับว่ารถคันนี้ได้พิสูจน์ตัวเองแล้วว่าคู่ควรกับคำกล่าวนี้อย่างแท้จริง แม้ว่าสายการผลิตของ CLS จะสิ้นสุดลงไปตั้งแต่ช่วงปลายปี 2023 ตามนโยบายของ Mercedes-Benz ที่มุ่งปรับไลน์อัพผลิตภัณฑ์ให้เข้ากับยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไป แต่ในฐานะผู้เชี่ยวชาญที่คลุกคลีอยู่ในวงการรถยนต์มากว่าทศวรรษ ผมกล้าพูดได้เลยว่า ณ ปี 2025 นี้ CLS 220 d AMG Premium ยังคงเป็นหนึ่งใน “รถหรูมือสอง” ที่มีเสน่ห์ดึงดูดใจ และยังคงคุณค่าที่หลายคนมองหา ไม่ใช่แค่ในแง่ของดีไซน์ แต่ยังรวมถึงสมรรถนะ เทคโนโลยี และความคุ้มค่าโดยรวมอีกด้วย
การที่เราจะพิจารณา “การลงทุนรถยนต์” สักคันในตลาดรถมือสอง โดยเฉพาะรถยนต์พรีเมียมจากค่ายดาวสามแฉก เราต้องมองให้ลึกซึ้งกว่าแค่ราคาซื้อขาย แต่ต้องพิจารณาถึงประสบการณ์การขับขี่ในระยะยาว ค่าบำรุงรักษา และที่สำคัญคือ “คุณค่า” ที่รถคันนั้นยังคงมอบให้ได้ในยุคปัจจุบัน และนี่คือมุมมองจากประสบการณ์จริง ที่จะพาคุณไปสำรวจทุกแง่มุมของ Mercedes-Benz CLS 220 d AMG Premium ในปี 2025 ว่าทำไมมันถึงยังเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่กำลังมองหาสมดุลระหว่างความหรูหรา ความสปอร์ต และความประหยัด
ดีไซน์ที่ยังคง “สดใหม่” และสะกดทุกสายตา
หนึ่งในเหตุผลสำคัญที่ทำให้ Mercedes-Benz CLS ยังคงเป็นรถที่ดูไม่ตกยุคแม้ในปี 2025 คือ “ดีไซน์” อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรกในปี 2018 รถคันนี้ได้สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับตลาดรถยนต์ประเภท “คูเป้ 4 ประตู” หรือ “Gran Coupe” ด้วยการผสมผสานเส้นสายอันพลิ้วไหวของรถคูเป้เข้ากับความโอ่อ่ากว้างขวางของรถซีดานได้อย่างลงตัว การออกแบบที่ได้รับอิทธิพลจากปรัชญา “Sensual Purity” ทำให้ CLS มีทรวดทรงที่ดูสง่างาม แต่แฝงไว้ด้วยความสปอร์ตที่พร้อมทะยานไปข้างหน้า
เมื่อมองจากภายนอก ส่วนหน้าที่ยาวโค้งมนจรดกระจังหน้าแบบ Diamond Grille พร้อมไฟหน้า MULTIBEAM LED อันล้ำสมัย (ซึ่งยังคงเป็นเทคโนโลยีไฟหน้าที่ยอดเยี่ยมในปี 2025) ไปจนถึงเส้นสายตัวถังที่ลาดเอียงลงอย่างนุ่มนวลบริเวณท้ายรถ ทำให้ CLS ดูกลืนไปกับอากาศพลศาสตร์ได้อย่างไร้ที่ติ และนี่คือเหตุผลว่าทำไมผมถึงยังคงเหลียวมองทุกครั้งที่เห็น CLS แล่นผ่านบนท้องถนน แม้ในปัจจุบันที่มีรถยนต์ไฟฟ้ารูปทรงล้ำยุคมากมายเข้ามาในตลาด แต่ CLS ก็ยังคงมี “ออร่า” ที่โดดเด่นไม่ซ้ำใคร ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่ในเมืองใหญ่ที่พลุกพล่าน หรือบนเส้นทางหลวงที่เปิดโล่ง CLS ก็ยังคงเป็นจุดสนใจเสมอ การออกแบบภายในห้องโดยสารก็ยังคงรักษามาตรฐานความหรูหราของ Mercedes-Benz ได้เป็นอย่างดี ด้วยการใช้วัสดุคุณภาพสูง การตกแต่งด้วยลายไม้หรือโลหะ ผสมผสานกับไฟ Ambient Lighting ที่ปรับเปลี่ยนได้หลายเฉดสี สร้างบรรยากาศที่เหนือระดับ การจัดวางปุ่มควบคุมและหน้าจอแสดงผลต่างๆ ล้วนออกแบบมาให้ใช้งานง่ายและดูทันสมัย ทำให้ผู้โดยสารรู้สึกได้ถึงความพิเศษตั้งแต่แรกเห็น นี่คือรถที่แสดงออกถึงรสนิยม และเป็นคำตอบสำหรับผู้ที่ต้องการรถที่ไม่ใช่แค่พาหนะ แต่คือสัญลักษณ์แห่งสไตล์ที่ไม่มีวันจืดจาง
พลังดีเซลที่ “ประหยัดเหลือเชื่อ” พร้อมเทคโนโลยี Mild Hybrid
หัวใจสำคัญที่ทำให้ Mercedes-Benz CLS 220 d AMG Premium ยังคงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในยุคที่ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงยังคงผันผวน คือ “เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร (รหัส OM654)” พ่วงด้วยระบบ Mild Hybrid (EQ Boost) ขนาด 48V ซึ่งเป็นชุดขุมพลังที่ได้รับการยอมรับในเรื่องของประสิทธิภาพและความประหยัด เครื่องยนต์บล็อกนี้ให้กำลังสูงสุด 194 แรงม้า ที่ 3,800 รอบ/นาที และแรงบิดมหาศาลถึง 400 นิวตันเมตร ที่ 1,600-2,800 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ 9G-TRONIC ที่นุ่มนวลและตอบสนองได้ทันใจ
จากประสบการณ์การใช้งานจริง ผมสามารถยืนยันได้ว่าเครื่องยนต์ดีเซลรุ่นนี้เป็นหนึ่งในขุมพลังที่ “ประหยัดน้ำมัน” ที่สุดในกลุ่มรถหรูขนาดกลาง ยิ่งไปกว่านั้น การผนวกระบบ Mild Hybrid เข้ามาช่วยเสริมการทำงาน ทำให้การออกตัวเป็นไปอย่างราบรื่นและลดภาระการทำงานของเครื่องยนต์ในช่วงรอบต่ำได้อย่างชัดเจน ซึ่งส่งผลโดยตรงต่ออัตราสิ้นเปลืองที่น่าประทับใจอย่างไม่น่าเชื่อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อขับขี่บนเส้นทางไกลข้ามจังหวัด
การขับขี่ในเมือง (รถติด): อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยประมาณ 10-12 กม./ลิตร ถือว่ายอดเยี่ยมสำหรับรถยนต์ขนาดใหญ่ระดับนี้
การขับขี่ทางไกล (รถไม่ติด): ผมเคยทำได้สูงถึง 19-22 กม./ลิตร ซึ่งเป็นตัวเลขที่รถอีโคคาร์บางคันยังอาย
การขับขี่แบบผสมผสาน (เมือง 50% ทางไกล 50%): โดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 14-16 กม./ลิตร
ตัวเลขเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความคุ้มค่าในการใช้งานประจำวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องเดินทางไกลบ่อยครั้ง หรือผู้ที่ต้องการรถหรูแต่ยังคงกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายด้านเชื้อเพลิง CLS 220 d ตอบโจทย์ได้อย่างลงตัว นอกจากนี้ แรงบิดที่มาตั้งแต่รอบต่ำยังช่วยให้การเร่งแซงเป็นไปอย่างมั่นใจ ทำให้การขับขี่ทั้งในเมืองและนอกเมืองเป็นเรื่องง่ายและสนุกสนาน
ประสบการณ์การขับขี่ที่ “ครบเครื่อง” และความปลอดภัยที่ “อุ่นใจ”
ในฐานะผู้เชี่ยวชาญที่ได้ทดลองขับรถยนต์มาหลากหลายรุ่น ผมให้คะแนน CLS 220 d AMG Premium ในเรื่องของ “ประสบการณ์การขับขี่” ว่าทำได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยตัวถังขนาดใหญ่ที่ดูเหมือนจะเทอะทะ แต่เมื่อได้ลองขับขี่จริง คุณจะสัมผัสได้ถึงความคล่องตัวที่เหนือความคาดหมาย พวงมาลัยมีน้ำหนักกำลังดี ตอบสนองได้แม่นยำ ทำให้การบังคับเลี้ยวเข้าโค้ง หรือการลัดเลาะไปตามตรอกซอกซอยในเมืองไม่ใช่เรื่องยาก
Mercedes-Benz ได้ติดตั้งระบบ Dynamic Select มาให้ ซึ่งช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถปรับโหมดการขับขี่ให้เหมาะสมกับสถานการณ์และความต้องการได้อย่างง่ายดาย:
โหมด ECO: เหมาะสำหรับการขับขี่ในเมืองที่การจราจรหนาแน่น หรือเมื่อต้องการประหยัดน้ำมันสูงสุด คันเร่งจะตอบสนองอย่างนุ่มนวล เครื่องยนต์ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
โหมด Comfort: เป็นโหมดที่ผมใช้งานบ่อยที่สุด เพราะให้ความสมดุลระหว่างสมรรถนะและความนุ่มนวลในการขับขี่ เหมาะสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะรถติดหรือถนนโล่ง กำลังเครื่องยนต์มาแบบพอดีๆ
โหมด Sport: สำหรับผู้ที่ต้องการความเร้าใจ คันเร่งจะตอบสนองได้รวดเร็วทันใจ เกียร์เปลี่ยนที่รอบสูงขึ้นเพื่อดึงสมรรถนะสูงสุดของเครื่องยนต์ออกมา การเร่งแซงเป็นไปอย่างดุดัน และความเร็วสามารถไต่ระดับขึ้นไปได้อย่างรวดเร็ว
ในด้านของ “ช่วงล่าง” ซึ่งเป็นจุดที่ผมอยากจะเจาะลึกเป็นพิเศษ CLS 220 d AMG Premium มาพร้อมช่วงล่างแบบสปอร์ตที่ให้ความรู้สึกมั่นคงและหนึบแน่น ยิ่งในโหมด Sport ช่วงล่างจะยิ่งเฟิร์มขึ้น ทำให้การเข้าโค้งด้วยความเร็วสูงเป็นไปอย่างมั่นใจ ไม่มีอาการย้วยหรือร่อนให้รู้สึกไม่สบายใจ แต่ก็ต้องยอมรับว่าด้วยขนาดล้อ AMG ขนาด 20 นิ้วที่มาพร้อมยาง Run-flat ซึ่งมีแก้มยางบาง (ยางหน้า 245/35 R20, ยางหลัง 275/30 R20) อาจทำให้ความรู้สึกในการซับแรงกระแทกจากพื้นผิวถนนที่ไม่เรียบ หรือการตกหลุมบ่อเล็กน้อย อาจมีการสะท้านเข้ามาถึงห้องโดยสารบ้าง ซึ่งเป็นเรื่องปกติของยาง Run-flat และล้อขนาดใหญ่ สิ่งนี้สามารถแก้ไขได้โดยการพิจารณาเปลี่ยนไปใช้ล้อขนาด 19 นิ้วพร้อมยางที่มีซีรีส์หนาขึ้นในตลาดมือสอง เพื่อเพิ่มความนุ่มนวลในการขับขี่ให้มากยิ่งขึ้น ซึ่งผมเชื่อว่าผู้ซื้อรถมือสองหลายท่านก็อาจจะพิจารณาในจุดนี้เพื่อการใช้งานที่ตอบโจทย์ความสบายสูงสุด
ส่วนเรื่อง “การเก็บเสียง” นั้น CLS ทำได้ตามมาตรฐานรถหรูของ Mercedes-Benz ด้วยการลดเสียงลมที่เข้ามาในห้องโดยสารได้อย่างดีเยี่ยม แม้จะใช้ความเร็วสูงระดับ 140 กม./ชม. ก็ยังสามารถพูดคุยกันได้อย่างสบาย แต่ด้วยข้อจำกัดของยาง Run-flat เสียงยางบดถนนอาจมีเล็ดลอดเข้ามาบ้างเล็กน้อย ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องแลกกับความสะดวกสบายและความปลอดภัยที่ยางประเภทนี้มอบให้ในกรณีฉุกเฉิน
“ระบบความปลอดภัย” ถือเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นที่ทำให้ CLS 220 d AMG Premium ยังคงเป็นรถที่น่าใช้ในปี 2025 เทคโนโลยีช่วยเหลือผู้ขับขี่ที่ติดตั้งมาให้นั้น ถือว่าอยู่ในระดับแนวหน้าของยุคสมัย และยังคงเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็น:
ระบบ Blind Spot Assist: ช่วยเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตา ทั้งขณะขับขี่และแม้กระทั่งขณะจอดรถและกำลังจะเปิดประตูออก
ระบบ Active Brake Assist (ระบบเบรกอัตโนมัติ): สามารถตั้งค่าระดับการทำงานได้ ช่วยแจ้งเตือนเมื่อขับเข้าใกล้รถคันหน้ามากเกินไป และจะเบรกอัตโนมัติหากพบความเสี่ยงที่จะเกิดการชน
ระบบ Parking Pilot (ระบบช่วยจอดอัตโนมัติ): ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่หัดจอด หรือต้องการความสะดวกสบายสูงสุด ระบบนี้จะช่วยค้นหาที่จอดและนำรถเข้าจอดให้คุณได้อย่างแม่นยำ โดยที่คุณไม่ต้องควบคุมพวงมาลัยหรือเปลี่ยนเกียร์เองเลย
กล้องแสดงภาพรอบทิศทาง 360 องศา: ช่วยให้มองเห็นสภาพแวดล้อมรอบคันได้อย่างชัดเจน สามารถเลือกมุมมองได้หลากหลาย ทำให้การถอยจอดหรือการขับขี่ในที่แคบเป็นเรื่องง่ายและปลอดภัย
เทคโนโลยีเหล่านี้ ไม่ใช่แค่เพียงอุปกรณ์อำนวยความสะดวก แต่เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ และเพิ่มความมั่นใจในการขับขี่ให้กับผู้ใช้งานในทุกๆ เส้นทาง
ความคุ้มค่าในการเป็นเจ้าของในตลาด “รถมือสองปี 2025”
มาถึงประเด็นที่สำคัญที่สุดสำหรับใครที่กำลังพิจารณา CLS 220 d AMG Premium ในปี 2025 นั่นคือ “ความคุ้มค่า” ในฐานะรถมือสอง เมื่อครั้งที่เปิดตัวในปี 2024 ด้วยราคาที่ปรับลดลงมาเหลือ 3,880,000 บาท จากราคาปกติ 4,640,000 บาท ถือเป็นการสร้างความคุ้มค่าได้อย่างมหาศาล และ ณ ปี 2025 นี้เอง ตลาด “Mercedes-Benz CLS มือสอง” ได้เปิดโอกาสให้คุณเป็นเจ้าของรถยนต์คูเป้ 4 ประตูสุดหรูคันนี้ ด้วย “ราคา CLS มือสอง” ที่น่าเย้ายวนใจยิ่งกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด การลงทุนกับ CLS มือสองในปัจจุบันนั้น หมายถึงการได้รับรถยนต์ระดับพรีเมียมที่มีดีไซน์ล้ำสมัย เทคโนโลยีความปลอดภัยครบครัน และสมรรถนะที่ยังคงตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างดีเยี่ยม ในราคาที่เข้าถึงได้ง่ายกว่าการซื้อรถซีดานป้ายแดงระดับกลางบางรุ่นด้วยซ้ำ
แน่นอนว่า การซื้อ “รถหรูมือสอง” ย่อมมาพร้อมกับคำถามเรื่อง “ค่าบำรุงรักษา Mercedes” ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้ซื้อควรพิจารณา การมีประวัติการเข้าศูนย์บริการที่ชัดเจน การตรวจสอบสภาพรถอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจ และการเลือกซื้อจากแหล่งที่เชื่อถือได้ เช่น โปรแกรมรถยนต์มือสองคุณภาพดี (Certified Pre-Owned) ของ Mercedes-Benz หรือจากผู้จำหน่ายรถยนต์มือสองที่มีชื่อเสียง จะช่วยลดความกังวลในระยะยาวได้เป็นอย่างดี อะไหล่และศูนย์บริการสำหรับ Mercedes-Benz นั้นมีอยู่ทั่วไป ไม่ใช่เรื่องยากที่จะดูแลรักษา เพียงแต่ต้องคำนึงถึงค่าใช้จ่ายที่อาจจะสูงกว่ารถยนต์ทั่วไปเล็กน้อย แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือประสบการณ์การขับขี่และภาพลักษณ์ที่เหนือระดับ
การเป็นเจ้าของ CLS 220 d AMG Premium ในปี 2025 จึงเป็นการเลือก “รถยนต์มือสองคุ้มค่า” ที่ให้ความลงตัวระหว่างความหรูหรา ความสปอร์ต ประสิทธิภาพ และความประหยัด ในราคาที่จับต้องได้มากกว่าที่เคย นี่คือโอกาสที่จะได้สัมผัสกับความเหนือระดับของ Mercedes-Benz ที่ยังคงมอบประสบการณ์การขับขี่ที่น่าประทับใจไม่แพ้รถใหม่ๆ ในตลาดปัจจุบัน และที่สำคัญที่สุดคือ ดีไซน์ที่ไม่เคยล้าสมัย ทำให้รถคันนี้ยังคงเป็นที่ชื่นชอบไปอีกนานแสนนาน
สรุป: ทางเลือกที่ “ไม่ตกยุค” และ “น่าจับตา”
โดยสรุปแล้ว Mercedes-Benz CLS 220 d AMG Premium อาจเป็นรุ่นสุดท้ายภายใต้ชื่อ CLS แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ารถคันนี้ได้สร้างมาตรฐานและคุณค่าที่ยังคงส่งผ่านมายันปี 2025 ด้วยดีไซน์สปอร์ตที่สง่างามเหนือกาลเวลา เครื่องยนต์ดีเซล Mild Hybrid ที่ให้ทั้งสมรรถนะและความประหยัดน้ำมันอย่างเหลือเชื่อ ระบบความปลอดภัยและเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกที่ยังคงทันสมัย และที่สำคัญที่สุดคือ “ราคาในตลาดรถมือสอง” ที่ทำให้รถหรูระดับพรีเมียมคันนี้ กลายเป็น “ตัวเลือกที่น่าสนใจ” สำหรับผู้ที่มองหาความคุ้มค่าอย่างแท้จริง
จากประสบการณ์ 10 ปีในวงการ ผมเชื่อมั่นว่า CLS 220 d AMG Premium ยังคงเป็นหนึ่งใน “รถหรูมือสองน่าซื้อ” ที่มอบประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือกว่าราคาค่าตัวไปมาก มันคือรถที่ใช้งานได้ทุกวัน ไม่ว่าจะในเมืองที่ต้องเผชิญกับสภาพการจราจรที่ติดขัด หรือการเดินทางไกลข้ามจังหวัด Mercedes-Benz CLS คันนี้จะพาคุณและผู้โดยสารไปถึงที่หมายได้อย่างปลอดภัยและสะดวกสบาย ด้วยมาตรฐานงานประกอบ วัสดุ และเทคโนโลยีที่ยังคงรักษาคุณภาพไว้ได้อย่างดีเยี่ยม
หากคุณกำลังมองหารถยนต์ที่ผสมผสานความสปอร์ต หรูหรา มีเอกลักษณ์ และประหยัดน้ำมัน ในงบประมาณที่สมเหตุสมผลสำหรับปี 2025 Mercedes-Benz CLS 220 d AMG Premium คือคำตอบที่คุณไม่ควรมองข้าม นี่ไม่ใช่แค่การซื้อรถ แต่คือการเป็นเจ้าของ “งานศิลปะบนล้อ” ที่ยังคงพร้อมจะสร้างความประทับใจในทุกการเดินทาง
อย่ารอช้าที่จะสัมผัสประสบการณ์ขับขี่อันเหนือระดับด้วยตัวคุณเอง! เราขอเชิญชวนคุณเข้าเยี่ยมชมเต็นท์รถยนต์มือสองคุณภาพดีที่น่าเชื่อถือ หรือสำรวจตลาดรถยนต์ออนไลน์ เพื่อค้นหา Mercedes-Benz CLS 220 d AMG Premium คันที่ใช่สำหรับคุณ และเตรียมพร้อมที่จะเป็นส่วนหนึ่งของตำนานคันนี้ที่จะยังคงโลดแล่นบนท้องถนนไปอีกนานแสนนาน มาร่วมเป็นเจ้าของความสง่างามที่ยังคงโดดเด่นไม่แพ้ใครในทุกยุคทุกสมัยกันเถอะ!
![[ตอนต่อไป] 072T1129 AB72 แผนการทดสอบ ผู้จัดการ .mp4](https://filmthailan.moicaucachep.com/wp-content/uploads/2025/11/image-79-2.png)
![[ตอนต่อไป] 073T1129 AB73 ความจริงใจ จะได้จากเพื่อนแท้เท่านั้น .mp4](https://filmthailan.moicaucachep.com/wp-content/uploads/2025/11/image-80-2.png)