[ตอนต่อไป] 084T1129 AB84 บางครั้ง ความรักไม่ต้องการคำสัญญา .mp4

Mercedes-Benz CLS 220 d AMG Premium ในปี 2025: ยังคงเป็นสุดยอดรถหรูมือสองที่น่าจับตาหรือไม่?

ในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการยานยนต์มายาวนานกว่าทศวรรษ ผมได้เห็นการเปลี่ยนแปลงและวิวัฒนาการของรถยนต์หรูมานับไม่ถ้วน และหนึ่งในรถยนต์ที่ยังคงตราตรึงอยู่ในใจของหลายๆ คน รวมถึงผมด้วย นั่นคือ Mercedes-Benz CLS เจเนอเรชั่นสุดท้าย รหัสตัวถัง W257 โดยเฉพาะรุ่น 220 d AMG Premium ที่แม้ว่าจะยุติสายการผลิตไปแล้วในช่วงปี 2023 แต่ในปี 2025 นี้ กลับกลายเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจอย่างยิ่งในตลาดรถยนต์มือสอง ด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่นและราคาที่จับต้องได้มากขึ้น บทความนี้จะเจาะลึกทุกแง่มุมว่าทำไม CLS คันนี้ยังคงเป็น “รถหรูมือสอง” ที่ไม่ควรมองข้าม และคุ้มค่ากับการลงทุนในยุคปัจจุบัน

ดีไซน์เหนือกาลเวลาที่ยังคงสะกดทุกสายตา

Mercedes-Benz CLS ถือกำเนิดขึ้นด้วยแนวคิดที่จะผสมผสานความสง่างามของรถซีดานเข้ากับความสปอร์ตโฉบเฉี่ยวของรถคูเป้ และในเจเนอเรชั่น W257 นี้ ได้ถูกยกระดับดีไซน์ไปอีกขั้น จนกลายเป็น “รถคูเป้ 4 ประตู” ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและยากจะเลียนแบบ ในปี 2025 ที่โลกของยานยนต์เต็มไปด้วยดีไซน์ที่เน้นความล้ำสมัยและบางครั้งก็ดูแปลกตา CLS กลับโดดเด่นด้วยเส้นสายที่ลื่นไหล โค้งมน แต่ยังคงไว้ซึ่งความแข็งแกร่งและพลังงานแฝง ผมขอยืนยันว่าเมื่อคุณเห็น CLS คันนี้โลดแล่นอยู่บนท้องถนน คุณจะอดเหลียวมองไม่ได้ ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน ดีไซน์ที่เป็นอมตะนี้ทำให้ CLS ไม่เคยตกยุค และยังคงเป็น “รถหรูอมตะ” ที่สะท้อนรสนิยมอันเป็นเลิศของผู้ขับขี่

กระจังหน้า Diamond Grille อันเป็นเอกลักษณ์ ไฟหน้า MULTIBEAM LED ที่เฉียบคมจรดกับเส้นสายบนฝากระโปรงหน้าอย่างลงตัว ผสานกับหลังคาที่ลาดเอียงจรดท้ายรถแบบ Fastback สร้างมิติที่สวยงามและแฝงด้วยความสปอร์ต ภายในห้องโดยสารก็ไม่แพ้กัน ด้วยการออกแบบที่เน้นความหรูหราและเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย วัสดุคุณภาพสูง หนังแท้ คาร์บอนไฟเบอร์ หรือลายไม้ ตัดสลับกับเส้นสายโครเมียมอย่างประณีต แผงหน้าปัดดิจิทัลขนาดใหญ่ 12.3 นิ้วสองจอเชื่อมต่อกันอย่างต่อเนื่อง สร้างประสบการณ์การขับขี่ที่ทันสมัย แสงไฟ Ambient Light ที่ปรับได้หลากหลายสีสัน ช่วยสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสารให้ตรงกับอารมณ์ของผู้ขับขี่ได้อย่างไร้ที่ติ แม้จะเป็นรถที่ออกแบบมาหลายปีแล้ว แต่ในปี 2025 ดีไซน์ภายในของ CLS ก็ยังคงความพรีเมียมและน่าประทับใจ ไม่แพ้รถรุ่นใหม่ๆ ในตลาด “ดีไซน์รถยนต์หรู” เช่นนี้คือสิ่งที่ทำให้ CLS เป็นมากกว่าแค่ยานพาหนะ แต่เป็นงานศิลปะเคลื่อนที่ที่ยังคงมีคุณค่าสูง

สมรรถนะเครื่องยนต์ดีเซลอันชาญฉลาดและการประหยัดน้ำมันที่น่าทึ่ง

หัวใจของ Mercedes-Benz CLS 220 d AMG Premium คือเครื่องยนต์ดีเซลรหัส OM654 ขนาด 2.0 ลิตร 1,950 ซีซี 4 สูบ เทอร์โบ ที่มาพร้อมกับพละกำลัง 194 แรงม้า ที่ 3,800 รอบ/นาที และแรงบิดมหาศาล 400 นิวตันเมตร ในช่วง 1,600-2,800 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ (9G-TRONIC) ที่ขึ้นชื่อเรื่องความนุ่มนวลและตอบสนองฉับไว อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 7.5 วินาที ซึ่งถือว่ารวดเร็วทันใจสำหรับ “รถดีเซล 4 ประตู” ในปี 2025 ที่ผู้คนเริ่มให้ความสำคัญกับ “ประสิทธิภาพเครื่องยนต์ดีเซล” และ “เทคโนโลยี Mild Hybrid” มากขึ้น CLS 220 d คันนี้จึงยิ่งโดดเด่น ด้วยระบบ Mild Hybrid ที่เข้ามาช่วยเสริมการทำงานของเครื่องยนต์ โดยเฉพาะในจังหวะออกตัวและลดความเร็ว ทำให้การขับขี่ลื่นไหล ลดการกระตุก และที่สำคัญที่สุดคือ ช่วยเพิ่ม “อัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน” ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด

จากการทดสอบและประสบการณ์ขับขี่ในสภาพการจราจรที่หลากหลาย ผมสามารถยืนยันได้ว่า CLS 220 d คือหนึ่งใน “รถดีเซลประหยัดน้ำมัน” ที่สุดในตลาด “รถพรีเมียม”
การขับขี่ในเมืองที่รถติดหนาแน่น (Peak Traffic): หากต้องเผชิญกับสภาพจราจรที่ติดขัดอย่างหนักในกรุงเทพฯ หรือเมืองใหญ่ๆ อัตราสิ้นเปลืองอาจอยู่ที่ประมาณ 10-12 กม./ลิตร ซึ่งถือว่าน่าประทับใจสำหรับรถยนต์ขนาดใหญ่เช่นนี้
การขับขี่บนทางหลวงหรือนอกเมือง (Highway Cruising): นี่คือจุดที่ CLS 220 d เปล่งประกายอย่างแท้จริง ด้วยความเร็วคงที่บนถนนโล่ง คุณจะสัมผัสได้ถึง “การประหยัดน้ำมันเหลือเชื่อ” ที่อาจทะลุไปได้ถึง 20-22 กม./ลิตร หรือมากกว่านั้น ทำให้การ “ขับขี่ทางไกล” เป็นเรื่องที่สนุกและประหยัดค่าใช้จ่ายอย่างคาดไม่ถึง
การขับขี่แบบผสมผสาน (Mixed Driving): หากเป็นการใช้งานในชีวิตประจำวันที่มีทั้งการขับในเมืองและนอกเมือง อัตราสิ้นเปลืองโดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 14-16 กม./ลิตร ซึ่งเป็นตัวเลขที่ยอดเยี่ยมเมื่อเทียบกับขนาดและสมรรถนะของรถ

ในยุคที่ราคาน้ำมันดีเซลมีความผันผวน การมีรถที่ให้ “อัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน” ที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้ ถือเป็นข้อได้เปรียบสำคัญที่ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในการเป็นเจ้าของ “รถหรู” ลงได้อย่างมาก

คุณค่าที่เหนือกว่าราคา: การลงทุนในตลาดรถหรูมือสอง 2025

หนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ Mercedes-Benz CLS 220 d AMG Premium กลายเป็น “รถหรูมือสอง” ที่น่าจับตามองอย่างยิ่งในปี 2025 คือเรื่องของ “มูลค่า CLS” ที่คุ้มค่าอย่างเหลือเชื่อ เมื่อครั้งเปิดตัว รถรุ่นนี้มีราคาเริ่มต้นที่ 4,640,000 บาท ซึ่งเป็นราคาที่สมเหตุสมผลสำหรับ “รถพรีเมียม” ระดับนี้ แต่ในตลาดมือสองปัจจุบัน คุณสามารถเป็นเจ้าของ CLS คันงามนี้ได้ในราคาที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ตัวอย่างเช่น อาจจะอยู่ในช่วง 2 ล้านกลางๆ ถึง 3 ล้านบาทต้นๆ ขึ้นอยู่กับปีและสภาพรถ ซึ่งนับเป็นการ “ลงทุนรถยนต์” ที่คุ้มค่าอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการ “ประสบการณ์ขับขี่รถหรู” ในราคาที่จับต้องได้

การตัดสินใจซื้อ “รถยุโรปมือสอง” อย่าง CLS ในปี 2025 เป็นการตัดสินใจที่ชาญฉลาดสำหรับผู้ที่มองหาความหรูหรา สมรรถนะ และความประหยัด ในแพ็คเกจที่สมบูรณ์แบบ คุณจะได้รถที่มีดีไซน์ไม่ตกยุค เทคโนโลยีที่ยังคงทันสมัย และเครื่องยนต์ที่พิสูจน์แล้วว่าประหยัดและทนทาน ในราคาที่เทียบเท่ากับรถคอมแพคต์พรีเมียมรุ่นใหม่ๆ ซึ่งนี่คือ “ข้อได้เปรียบของรถมือสอง” ที่ชัดเจนที่สุด

ประสบการณ์การขับขี่และเทคโนโลยีที่เสริมความมั่นใจ

เมื่อพูดถึง “สมรรถนะรถยนต์” และ “ประสบการณ์ขับขี่” ของ CLS 220 d AMG Premium ผมขอยืนยันว่ามันเป็นหนึ่งในรถที่มอบความสุขในการขับขี่ได้อย่างแท้จริง Mercedes-Benz ได้ออกแบบมาให้ตอบสนองต่อทุกรูปแบบการใช้งาน ด้วยโหมดการขับขี่ที่หลากหลาย:
โหมด ECO: เหมาะสำหรับการขับขี่ในเมืองที่การจราจรหนาแน่น หรือเมื่อต้องการ “ประหยัดน้ำมัน” สูงสุด คันเร่งจะตอบสนองอย่างนุ่มนวลและเกียร์จะเปลี่ยนในรอบต่ำ ทำให้การขับขี่เป็นไปอย่างราบรื่นและผ่อนคลาย
โหมด Comfort: นี่คือโหมดที่ผมแนะนำสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันทั่วไป เป็นการผสมผสานที่ลงตัวระหว่าง “ความนุ่มนวลและสมรรถนะ” เครื่องยนต์จะตอบสนองได้ดีขึ้นเล็กน้อย พวงมาลัยและช่วงล่างยังคงให้ความสบาย แต่ก็พร้อมที่จะปลุกพละกำลังเมื่อคุณต้องการ
โหมด Sport/Sport+: สำหรับผู้ที่ต้องการความเร้าใจ “การตอบสนองของเครื่องยนต์” ในโหมดนี้จะเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง คันเร่งจะไวขึ้น เกียร์จะลากรอบสูงขึ้นเพื่อดึงสมรรถนะสูงสุดออกมา พวงมาลัยจะหน่วงมือขึ้นเล็กน้อยเพื่อความแม่นยำในการเข้าโค้ง แม้จะเป็นรถดีเซล แต่ความเร็วที่พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วก็ทำให้คุณรู้สึกสนุกและมั่นใจในทุกการเร่งแซง หากใครบอกว่ารุ่นนี้อืด ผมขอบอกว่าคุณยังไม่ได้สัมผัสโหมด Sport อย่างแท้จริง

“ช่วงล่าง AMG” ที่ติดตั้งมากับรุ่นนี้ ได้รับการปรับแต่งมาอย่างดีเยี่ยม เน้นความกระชับและมั่นคงในทุกย่านความเร็ว แม้จะไม่ได้เน้นความนุ่มนวลแบบย้วยๆ แต่ก็ซับแรงกระแทกได้ดีเยี่ยม ให้ความรู้สึกสปอร์ต “เข้าโค้งมั่นใจ” ไม่มีอาการโคลงเคลง เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบ “รถสปอร์ตซีดาน” ที่ขับสนุกและให้ความปลอดภัยสูง อย่างไรก็ตาม ในฐานะผู้เชี่ยวชาญ ผมขอย้ำถึงจุดที่หลายท่านอาจรู้สึกขัดใจ นั่นคือเรื่องของ “ล้อขนาด 20 นิ้ว” ที่รัดด้วยยางรันแฟลตซีรีส์บาง (หน้า 245/35R20, หลัง 275/30R20) ยางที่บางเฉียบนี้ แม้จะให้ความสวยงามและเพิ่มความคมในการบังคับเลี้ยว แต่ก็มีผลต่อ “ความสบายในการขับขี่” บนพื้นผิวถนนที่ไม่เรียบ หรือเมื่อต้องตกหลุม แรงกระแทกจะส่งผ่านเข้ามาในห้องโดยสารได้ง่ายกว่ายางปกติ และมีความเสี่ยงที่ “ยางและล้อจะเสียหายได้ง่าย” หากไม่ระมัดระวัง สำหรับผู้ที่ต้องการความนุ่มนวลมากขึ้น ผมแนะนำให้พิจารณา “เปลี่ยนไปใช้ยางที่ไม่ใช่รันแฟลต” และอาจจะลดขนาดล้อลงมาเป็น 19 นิ้ว เพื่อเพิ่มความหนาของแก้มยาง ซึ่งจะช่วยให้การขับขี่นุ่มนวลและสบายกว่าอย่างเห็นได้ชัด โดยที่ยังคงรักษา “สมรรถนะการขับขี่” ที่ดีเยี่ยมของ CLS ไว้ได้

นอกจากสมรรถนะแล้ว CLS 220 d AMG Premium ยังมาพร้อม “ระบบความปลอดภัย Mercedes” และ “เทคโนโลยีรถเบนซ์” ที่ล้ำสมัยมากมาย ช่วยเพิ่มความมั่นใจในการขับขี่:
ระบบ Blind Spot Assist: ระบบจะคอยแจ้งเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตา ช่วยป้องกันอุบัติเหตุจากการเปลี่ยนเลนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังมีระบบเตือนเมื่อเปิดประตูรถในขณะที่มีรถวิ่งมาจากด้านหลัง ซึ่งเป็นฟังก์ชันที่ “มีประโยชน์มากในยุคปัจจุบัน”
ระบบ Active Brake Assist (เบรกอัตโนมัติ): ระบบนี้สามารถปรับระดับการทำงานได้ หากตรวจพบว่ารถเข้าใกล้คันหน้ามากเกินไป จะมีสัญญาณเตือนบนหน้าจอ หากผู้ขับขี่ยังไม่ตอบสนอง ระบบจะทำการเบรกอัตโนมัติเพื่อลดความรุนแรงของอุบัติเหตุ หรือป้องกันการชน
ระบบช่วยจอดอัตโนมัติ (Parking Pilot): ฟังก์ชันนี้เป็นเสมือนผู้ช่วยส่วนตัวในการจอดรถ ระบบสามารถค้นหาที่จอดและนำรถเข้าจอดในช่องว่างได้อย่างแม่นยำ ไม่ว่าจะเป็นการจอดเทียบข้างหรือจอดเข้าซอง โดยที่ผู้ขับขี่ไม่จำเป็นต้องหมุนพวงมาลัยหรือเปลี่ยนเกียร์เอง เหมาะอย่างยิ่งสำหรับมือใหม่หรือในสถานการณ์ที่การจอดรถเป็นเรื่องท้าทาย
กล้อง 360 องศา: “กล้องรอบคัน” นี้ช่วยให้มองเห็นภาพรอบตัวรถได้อย่างชัดเจนแบบ Bird’s Eye View สามารถเลือกดูมุมมองต่างๆ ได้ ทำให้การ “ขับขี่ปลอดภัย” มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในที่แคบหรือขณะจอดรถเทียบฟุตบาท ช่วยลดความเสี่ยงจากการเฉี่ยวชน

ในส่วนของ “การเก็บเสียง” ภายในห้องโดยสาร CLS ยังคงรักษามาตรฐานของ Mercedes-Benz ไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม ที่ความเร็วสูงถึง 140 กม./ชม. เสียงลมภายนอกยังแทบไม่ได้ยิน ทำให้การเดินทางเป็นไปอย่างเงียบสงบและผ่อนคลาย ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่สำคัญของ “รถยนต์หรู”

บทสรุปสำหรับปี 2025: CLS 220 d AMG Premium ยังคงเป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยม

โดยสรุปแล้ว Mercedes-Benz CLS 220 d AMG Premium ในปี 2025 ยังคงเป็น “รถยนต์มือสอง” ที่เปี่ยมด้วยเสน่ห์และคุณค่าอย่างแท้จริง “ดีไซน์สปอร์ต” ที่มีเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใคร ทำให้รถคันนี้ดูดีเหนือกาลเวลา ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปีก็ตาม “เครื่องยนต์ดีเซลประหยัดน้ำมัน” พร้อม “เทคโนโลยี Mild Hybrid” มอบทั้งสมรรถนะและความประหยัดที่โดดเด่น “ระบบความปลอดภัยและเทคโนโลยี” ที่ติดตั้งมาอย่างครบครัน ช่วยให้ทุกการเดินทางเต็มไปด้วยความมั่นใจและสะดวกสบาย แม้จะเป็นรถที่ยุติการผลิตไปแล้ว แต่ “มาตรฐานวัสดุ งานประกอบ” และ “เทคโนโลยีต่างๆ” ของ Mercedes-Benz ยังคงรักษาคุณภาพไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม ทำให้ CLS เป็น “รถที่ใช้งานได้ทุกวัน” ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่ในเมือง หรือการเดินทางไกลข้ามจังหวัด

สำหรับผู้ที่กำลังมองหา “รถหรู” ที่ไม่ซ้ำใคร ให้ “ความสปอร์ต หรูหรา” พร้อมด้วย “ความกว้างขวางและสะดวกสบาย” ในรูปแบบ “Coupé 4 ประตู” ที่มีราคาเข้าถึงได้ง่ายขึ้นในตลาดมือสอง Mercedes-Benz CLS 220 d AMG Premium คือคำตอบที่คุณไม่ควรมองข้าม มันไม่ใช่แค่รถยนต์ แต่คือประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือระดับ ที่พร้อมจะพาคุณไปถึงจุดหมายอย่างปลอดภัยและมีสไตล์

ในตลาด “รถยนต์หรูมือสอง” ปี 2025 CLS คันนี้คือตัวเลือกที่ฉลาดและคุ้มค่าอย่างยิ่ง ด้วยคุณสมบัติที่ครบครัน และการออกแบบที่ไม่เคยล้าสมัย หากคุณกำลังพิจารณาที่จะเป็นเจ้าของ “รถพรีเมียม” ที่มอบทั้ง “สมรรถนะ” “ความประหยัด” และ “ความหรูหรา” ในราคาที่สมเหตุสมผล CLS 220 d AMG Premium คือรถที่คุณควรนำไปทดลองสัมผัสและพิจารณาอย่างจริงจัง

อย่ารอช้าที่จะเป็นส่วนหนึ่งของตำนาน!

หากคุณพร้อมที่จะสัมผัสประสบการณ์การขับขี่ที่แตกต่างและโดดเด่นกับ Mercedes-Benz CLS 220 d AMG Premium ในปี 2025 เราขอเชิญชวนให้คุณออกสำรวจตลาดรถยนต์มือสอง เพื่อค้นหา CLS คันที่ใช่สำหรับคุณ และร่วมเดินทางไปกับ “รถหรู” ที่ยังคงความน่าหลงใหลไม่เสื่อมคลาย!