[ตอนต่อไป] 088T1129 AB88 ภรรยาผู้จัดการ ทำไมต้องจ่ายเงิuด้วย .mp4

Mercedes-Benz CLS 220 d AMG Premium: ยืนหนึ่งรถสปอร์ตซีดานหรูในตลาดมือสองปี 2025 ยังน่าครอบครองอยู่ไหม?

ในฐานะที่คลุกคลีอยู่ในวงการรถยนต์หรูมานานกว่า 10 ปี ผมได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของตลาดและเทคโนโลยีมาอย่างต่อเนื่อง รถยนต์บางรุ่นผ่านมาแล้วก็ผ่านไป แต่มีบางรุ่นที่ยังคงทิ้งตำนานและความประทับใจไว้ไม่เสื่อมคลาย หนึ่งในนั้นคือ Mercedes-Benz CLS โดยเฉพาะรุ่น CLS 220 d AMG Premium ที่แม้การผลิตจะยุติลงแล้ว แต่กลับกลายเป็นเพชรเม็ดงามในตลาดรถมือสองของปี 2025 คำถามยอดฮิตที่ผมมักได้รับฟังอยู่เสมอคือ “เจ้า CLS โฉมนี้ ยังน่าใช้อยู่ไหม?” ในบทความนี้ ผมจะพาทุกท่านเจาะลึกทุกแง่มุมด้วยประสบการณ์จริง เพื่อไขข้อข้องใจว่าทำไม CLS คันนี้ถึงยังเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มองหารถหรูที่คุ้มค่าและมีสไตล์ในยุคปัจจุบัน

ดีไซน์ที่ “เหนือกาลเวลา” ความงดงามที่ยังคงดึงดูดทุกสายตา

Mercedes-Benz CLS ได้สร้างนิยามใหม่ให้กับเซ็กเมนต์รถยนต์ด้วยการผสมผสานเส้นสายอันสง่างามของรถคูเป้เข้ากับความหรูหราและประโยชน์ใช้สอยของรถซีดานได้อย่างลงตัว นี่ไม่ใช่แค่การออกแบบ แต่เป็นการรังสรรค์งานศิลปะบนยานยนต์ที่หาตัวจับยาก และในรุ่น CLS 220 d AMG Premium นี้ ยิ่งถูกเสริมแต่งด้วยชุดแต่ง AMG ที่เน้นย้ำความสปอร์ตและความดุดัน ไม่ว่าจะเป็นกันชนหน้า-หลัง, สเกิร์ตข้าง, หรือแม้กระทั่งล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้วลาย AMG Multi-spoke ที่เพิ่มความโดดเด่นและบ่งบอกความเป็นตัวตนของเจ้าของได้อย่างชัดเจน

ในขณะที่รถยนต์รุ่นใหม่ๆ ออกมาอย่างต่อเนื่องด้วยดีไซน์ที่หวือหวาเพื่อดึงดูดความสนใจ แต่บ่อยครั้งที่การออกแบบเหล่านั้นก็ดู “ล้าสมัย” ได้อย่างรวดเร็วเมื่อเวลาผ่านไป แต่สำหรับ CLS เจเนอเรชันนี้ ผมกล้าพูดได้เลยว่าดีไซน์ของมันถูกคิดค้นมาอย่างรอบคอบ มีความคลาสสิกแฝงอยู่ในความโมเดิร์น เส้นสายตัวถังที่โค้งมนลาดเอียงจากหลังคาไปจรดฝากระโปรงท้าย หรือที่เรียกว่า “Four-door Coupe” นั้นยังคงเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใครและไม่เคยตกยุค แม้ในปี 2025 เมื่อผมขับ CLS คันนี้ผ่านไปบนท้องถนน ก็ยังคงเห็นผู้คนเหลียวมองด้วยความชื่นชมเสมอ นี่คือความมหัศจรรย์ของ “ดีไซน์เหนือกาลเวลา” ที่ทำให้ CLS ไม่ใช่แค่รถยนต์ แต่เป็นชิ้นงานศิลปะที่เคลื่อนที่ได้บนท้องถนน เป็น รถ Coupe 4 ประตู ที่ตอบโจทย์ทั้งความสวยงามและความใช้งานจริง

ภายในห้องโดยสารเองก็ยังคงรักษามาตรฐานของ Mercedes-Benz ไว้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยการเลือกใช้วัสดุคุณภาพสูง ทั้งหนังแท้, ไม้, และโลหะ ผสานกับการออกแบบที่เน้นความหรูหราและความสะดวกสบาย แสงไฟ Ambient Light ที่ปรับได้หลายเฉดสียิ่งเพิ่มบรรยากาศที่น่ารื่นรมย์ในยามค่ำคืน ความพิถีพิถันเหล่านี้ทำให้ CLS 220 d AMG Premium ยังคงเป็นหนึ่งใน รถหรูดีไซน์พรีเมียม ที่สามารถมอบประสบการณ์การขับขี่และสุนทรียภาพที่ยากจะหาได้ในรถรุ่นใหม่ๆ ในระดับราคาเดียวกัน

สมรรถนะและขุมพลัง: ความประหยัดที่มาพร้อมความแรงอย่างน่าทึ่ง

หัวใจสำคัญที่ทำให้ CLS 220 d AMG Premium ยังคงน่าจับตาในตลาด รถมือสอง Mercedes-Benz CLS คือเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร (รหัส OM654) ขนาด 1,950 ซีซี 4 สูบเทอร์โบ ที่ให้พละกำลังสูงสุด 194 แรงม้า ที่ 3,800 รอบ/นาที และแรงบิดมหาศาลถึง 400 นิวตันเมตร ที่ช่วงรอบต่ำ 1,600-2,800 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ 9G-TRONIC ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องความนุ่มนวลและรวดเร็วในการเปลี่ยนเกียร์ การทำงานร่วมกันนี้ทำให้ CLS 220 d สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ได้ภายในเวลาเพียง 7.5 วินาที ซึ่งถือว่ารวดเร็วเกินพอสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันและยังให้ความรู้สึกสปอร์ตเมื่อต้องการ

สิ่งที่ทำให้เครื่องยนต์ดีเซลบล็อกนี้โดดเด่นเป็นพิเศษคือการผสานกับระบบ Mild Hybrid (EQ Boost) ซึ่งใช้มอเตอร์ไฟฟ้าเข้ามาช่วยเสริมกำลังในช่วงออกตัวและลดภาระของเครื่องยนต์หลัก ทำให้การออกตัวเป็นไปอย่างราบรื่น ไม่มีอาการรอรอบหรือหน่วง และที่สำคัญคือช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการประหยัดน้ำมันได้อย่างน่าเหลือเชื่อ ผมได้ทดสอบ อัตราสิ้นเปลือง CLS 220d ในหลากหลายสภาพการขับขี่ และผลลัพธ์ที่ได้นั้นทำให้ผมประทับใจเป็นอย่างมาก:

ขับขี่ในเมืองที่มีการจราจรหนาแน่น: เฉลี่ยประมาณ 10-12 กม./ลิตร (ซึ่งถือว่ายอดเยี่ยมสำหรับรถขนาดนี้ในสภาพรถติด)
ขับขี่ทางไกลนอกเมืองด้วยความเร็วคงที่: สามารถทำได้ถึง 20-22 กม./ลิตร นี่คือจุดเด่นที่ทำให้เป็น รถหรูประหยัดน้ำมัน อย่างแท้จริง
ขับขี่แบบผสมผสาน (ในเมืองและนอกเมือง): เฉลี่ยประมาณ 14-16 กม./ลิตร

ตัวเลขเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่า CLS 220 d AMG Premium ไม่ได้มีดีแค่ความหรูหราและดีไซน์ แต่ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์การใช้งานจริงในยุคปัจจุบันที่ราคาเชื้อเพลิงยังคงเป็นปัจจัยสำคัญ ทำให้การเป็นเจ้าของ รถยนต์ Mild Hybrid ประหยัด รุ่นนี้เป็นทางเลือกที่ชาญฉลาดในระยะยาว

ประสบการณ์การขับขี่: สปอร์ต นุ่มนวล และมั่นใจในทุกสถานการณ์

ในฐานะนักขับผู้มีประสบการณ์ ผมให้ความสำคัญกับฟิลลิ่งการขับขี่ที่สมดุล และ CLS 220 d AMG Premium ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง Mercedes-Benz ได้เซ็ตอัพรถคันนี้มาอย่างยอดเยี่ยม มีโหมดการขับขี่ให้เลือกปรับตามความต้องการ:

โหมด ECO: เหมาะสำหรับการขับขี่ในเมืองที่การจราจรติดขัด หรือต้องการประหยัดเชื้อเพลิงสูงสุด การตอบสนองของคันเร่งจะนุ่มนวลและไม่กระโชกโฮกฮาก ช่วยให้การควบคุมรถเป็นไปอย่างผ่อนคลาย
โหมด Comfort: นี่คือโหมดที่ผมใช้งานบ่อยที่สุด เพราะเป็นจุดที่สมดุลที่สุดระหว่างความนุ่มนวล ความประหยัด และพละกำลังที่พร้อมใช้งาน ตอบสนองได้ดีทั้งในเมืองและนอกเมือง พลังเครื่องยนต์มาแบบต่อเนื่องและเพียงพอต่อการเร่งแซงอย่างมั่นใจ
โหมด Sport: เมื่อต้องการความเร้าใจและความสปอร์ต โหมดนี้จะปลดปล่อยศักยภาพของเครื่องยนต์ออกมาอย่างเต็มที่ คันเร่งตอบสนองไวขึ้น เกียร์เปลี่ยนเร็วขึ้น และรักษาความเร็วรอบเครื่องยนต์ไว้ในย่านกำลัง ทำให้การเร่งแซงทำได้อย่างรวดเร็วและสนุกสนาน ใครที่เคยบอกว่ารถดีเซลอืด ผมขอเถียงขาดใจเลยว่า CLS 220 d ในโหมด Sport นั้น “เหลือเฟือ” จริงๆ

แม้ตัวถังรถจะมีขนาดใหญ่ แต่การควบคุมพวงมาลัยนั้นให้ความรู้สึกแม่นยำและมั่นคง ทำให้การขับขี่ซิกแซกในที่แคบหรือการเข้า-ออกซอยทำได้อย่างคล่องตัวผิดคาด ช่วงล่างของ CLS 220 d AMG Premium ถูกปรับแต่งมาในสไตล์สปอร์ต ให้ความมั่นคงและยึดเกาะถนนได้ดีเยี่ยม โดยเฉพาะเมื่อเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง ทำให้ผู้ขับขี่รู้สึกมั่นใจได้ในทุกจังหวะการเดินทาง นี่คือ สมรรถนะการขับขี่ ที่คุณคาดหวังได้จากรถยนต์หรูสัญชาติเยอรมัน

อย่างไรก็ตาม จุดหนึ่งที่ผมอยากจะพูดถึงในฐานะผู้ใช้งานจริงคือเรื่องของล้อและยาง รุ่น AMG Premium มาพร้อมล้อขนาด 20 นิ้ว รัดด้วยยางหน้า 245/35R20 และยางหลัง 275/30R20 ซึ่งเป็นยางแก้มเตี้ยมาก ทำให้เมื่อขับผ่านผิวถนนที่ไม่เรียบ หลุมบ่อ หรือฝาท่อ จะรู้สึกสะเทือนเข้ามาในห้องโดยสารค่อนข้างชัดเจน และยังเพิ่มความเสี่ยงต่อความเสียหายของล้อและยางได้ง่ายกว่า หากเป็นไปได้ การพิจารณาลดขนาดล้อลงมาเป็น 19 นิ้ว และเพิ่มความหนาของแก้มยาง อาจช่วยให้ ช่วงล่าง Mercedes-Benz CLS มอบความนุ่มนวลและสบายในการขับขี่ได้ดียิ่งขึ้น โดยไม่ทิ้งความมั่นคงแบบสปอร์ตที่โดดเด่นอยู่แล้ว

ส่วนเรื่องการเก็บเสียงนั้น CLS ยังคงรักษามาตรฐานของ Mercedes-Benz ไว้อย่างยอดเยี่ยม แม้ขับขี่ด้วยความเร็วสูงถึง 140 กม./ชม. เสียงลมและเสียงเครื่องยนต์ก็แทบจะไม่ได้ยินเข้ามาในห้องโดยสารเลย ทำให้การเดินทางไกลเป็นไปอย่างผ่อนคลายและสบายใจ สิ่งที่ได้ยินบ้างคือเสียงยางรันแฟลตที่บดกับพื้นถนน ซึ่งเป็นธรรมชาติของยางประเภทนี้ แต่โดยรวมแล้วถือว่าอยู่ในระดับที่น่าประทับใจสำหรับ การเก็บเสียงรถยนต์หรู

เทคโนโลยีและระบบความปลอดภัย: ยังคงทันสมัยและอุ่นใจในปี 2025

แม้จะเป็นรถที่เปิดตัวมานานหลายปี แต่ CLS 220 d AMG Premium ก็ยังคงอัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีและระบบความปลอดภัยที่ทันสมัยและใช้งานได้จริงในยุค 2025 ซึ่งหลายๆ ระบบยังคงเทียบชั้นกับรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ได้อย่างสบาย

ระบบ Blind Spot Assist (ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา): ไม่ใช่แค่เตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตาขณะขับขี่เท่านั้น แต่ยังมีฟังก์ชันพิเศษที่เตือนเมื่อเราจอดรถและกำลังจะเปิดประตู หากมีรถหรือมอเตอร์ไซค์วิ่งมาจากด้านหลัง ระบบจะส่งสัญญาณเตือน ช่วยป้องกันอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิดได้เป็นอย่างดี
ระบบ Active Brake Assist (ระบบเบรกอัตโนมัติ): ระบบนี้สามารถตั้งค่าการทำงานได้ว่าจะให้เตือนและเบรกช้าหรือเร็ว หากเราขับรถจี้ท้ายคันหน้ามากเกินไป ระบบจะส่งสัญญาณเตือนที่หน้าจอเรือนไมล์ และถ้ายังคงเข้าใกล้มากยิ่งขึ้น รถจะทำการเบรกอัตโนมัติ ช่วยลดความเสี่ยงของการชนท้ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ถือเป็น ระบบความปลอดภัย Mercedes-Benz ที่มีประโยชน์อย่างยิ่งในการจราจรที่หนาแน่น
ระบบ Active Parking Assist with PARKTRONIC (ระบบช่วยจอดอัตโนมัติ): สำหรับผู้ขับขี่มือใหม่ หรือแม้แต่มืออาชีพที่ต้องการความสะดวกสบายสูงสุด ระบบนี้ช่วยค้นหาพื้นที่จอดรถที่เหมาะสมและทำการนำรถเข้าจอดเองโดยอัตโนมัติ ทั้งการจอดแบบเข้าซองและจอดเทียบข้าง คุณไม่จำเป็นต้องหมุนพวงมาลัยหรือเปลี่ยนเกียร์เองเลย เพียงแค่ควบคุมคันเร่งและเบรกตามคำแนะนำของระบบ
กล้องมองภาพรอบคัน 360 องศา: นี่คือฟังก์ชันที่ผมใช้งานบ่อยที่สุดในการขับขี่ประจำวัน ระบบกล้องรอบคันช่วยให้มองเห็นภาพเสมือนจริงของรถจากมุมสูง และยังสามารถเลือกดูมุมมองจากกล้องแต่ละตัวได้อีกด้วย ทำให้การขับขี่ในพื้นที่แคบ การเลี้ยวเข้าซอย หรือการจอดเทียบฟุตบาททำได้อย่างง่ายดายและปลอดภัยไร้กังวล หมดปัญหาเรื่องรอยขูดขีดที่ไม่พึงประสงค์ นี่คือ กล้อง 360 องศา ที่ยังคงเป็นมาตรฐานระดับสูงในปัจจุบัน

เทคโนโลยีเหล่านี้แสดงให้เห็นว่า Mercedes-Benz CLS 220 d AMG Premium ไม่ได้เป็นเพียงรถที่สวยงาม แต่ยังเป็นรถที่ชาญฉลาดและปลอดภัย ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจเลือกซื้อรถยนต์ในยุค เทคโนโลยีรถยนต์ 2025 ที่ผู้บริโภคมีความคาดหวังสูง

ความคุ้มค่าในตลาดมือสองปี 2025: การลงทุนที่ชาญฉลาด

ประเด็นสำคัญที่สุดที่ทำให้ CLS 220 d AMG Premium กลายเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจอย่างยิ่งในตลาดรถยนต์ปี 2025 คือเรื่องของราคา ด้วยความที่รถรุ่นนี้ได้ยุติการผลิตไปแล้ว ทำให้ไม่มีปัญหาเรื่องการตกรุ่นจากการเปิดตัวโมเดลใหม่มาทดแทน และที่สำคัญคือรถได้ผ่านช่วงการเสื่อมราคาครั้งใหญ่ไปแล้ว ทำให้ราคาในตลาด ราคา Mercedes-Benz CLS มือสอง มีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก

จากราคาเปิดตัวที่เคยสูงกว่า 4.6 ล้านบาท ปัจจุบันคุณสามารถเป็นเจ้าของ CLS 220 d AMG Premium ที่สภาพดีเยี่ยมได้ในราคาที่ลดลงมาอย่างเห็นได้ชัด บางคันอาจอยู่ในช่วง 2 กลางๆ ถึง 3 ล้านบาทต้นๆ ขึ้นอยู่กับปีที่ผลิต สภาพรถ และระยะทางที่ใช้งาน ซึ่งถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าอย่างเหลือเชื่อเมื่อเทียบกับสิ่งที่ได้รับ ไม่ว่าจะเป็นดีไซน์ที่หรูหราเหนือกาลเวลา, สมรรถนะการขับขี่ที่น่าประทับใจ, ความประหยัดน้ำมันระดับดีเยี่ยม, และเทคโนโลยีความปลอดภัยที่ยังคงทันสมัย

สำหรับผู้ที่มองหา รถยุโรปมือสองน่าเล่น ที่ให้ทั้งความหรูหรา ความสปอร์ต ประโยชน์ใช้สอย และความคุ้มค่า CLS 220 d AMG Premium คือคำตอบที่ไม่อาจมองข้ามได้ การดูแลรักษา ค่าบำรุงรักษา Mercedes-Benz อาจจะสูงกว่ารถญี่ปุ่นทั่วไปเล็กน้อย แต่เมื่อพิจารณาถึงแบรนด์ ประสบการณ์ที่ได้รับ และความพร้อมของศูนย์บริการและอะไหล่ที่มีอยู่ทั่วประเทศ ก็ถือว่ายังอยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้สำหรับผู้ที่ต้องการยกระดับประสบการณ์การขับขี่ไปอีกขั้น

สรุป: ยังน่าใช้…และน่าครอบครองอย่างยิ่ง

จากประสบการณ์ของผมกว่า 10 ปีในวงการนี้ ผมกล้าฟันธงได้เลยว่า Mercedes-Benz CLS 220 d AMG Premium โฉมนี้ “ยังน่าใช้” และ “น่าครอบครอง” อย่างยิ่งในตลาดรถมือสองของปี 2025 ครับ มันคือรถที่ผสมผสานความสปอร์ต ความหรูหรา และประโยชน์ใช้สอยได้อย่างลงตัว เป็นรถสี่ประตูท้ายลาดที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการรถยนต์ที่โดดเด่น ไม่เหมือนใคร และยังคงรักษาความสะดวกสบายและความกว้างขวางภายใต้รูปลักษณ์สไตล์คูเป้

ไม่ว่าคุณจะใช้ขับขี่ในเมืองเพื่อความคล่องตัว หรือออกเดินทางไกลข้ามจังหวัดเพื่อความผ่อนคลาย CLS 220 d AMG Premium คันนี้ก็พร้อมพาคุณไปถึงที่หมายได้อย่างปลอดภัยและเปี่ยมด้วยสไตล์ ในเรื่องของวัสดุ งานประกอบ และเทคโนโลยีต่างๆ ยังคงรักษามาตรฐานของ Mercedes-Benz ได้อย่างดีเยี่ยม และเมื่อพิจารณาจาก ราคา Mercedes-Benz CLS มือสอง ในปัจจุบัน มันคือหนึ่งใน รถมือสองน่าซื้อ ที่มอบความคุ้มค่าสูงสุดในตลาดรถยนต์หรู

อย่าพลาดโอกาสที่จะเป็นเจ้าของตำนานบทหนึ่งแห่งวงการยานยนต์!

หากคุณกำลังมองหา รถยนต์หรูมือสอง ที่มอบประสบการณ์เหนือระดับ ทั้งในด้านดีไซน์ สมรรถนะ ความประหยัด และเทคโนโลยีความปลอดภัย Mercedes-Benz CLS 220 d AMG Premium คือตัวเลือกที่คุณไม่ควรมองข้าม ผมขอแนะนำให้คุณสัมผัสประสบการณ์จริงด้วยตัวเอง ทดลองขับ และปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อค้นหา CLS คันที่ใช่สำหรับคุณ แล้วคุณจะพบว่ารถยนต์คันนี้ยังคงมีมนต์เสน่ห์ที่ยากจะต้านทาน และพร้อมที่จะเป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางที่หรูหราและประทับใจของคุณไปอีกนานหลายปี.