Nissan Almera 1.0 Turbo ปี 2025: บทพิสูจน์แห่งสมรรถนะ ความคุ้มค่า และเทคโนโลยีล้ำอนาคตในยุคดิจิทัล
ในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการยานยนต์มากว่าทศวรรษ ผมได้เห็นวิวัฒนาการของรถยนต์มากมาย ตั้งแต่ยุคที่ความแรงคือสิ่งสำคัญที่สุด ไปจนถึงยุคที่ความประหยัดน้ำมันคือหัวใจ และในยุคปัจจุบันปี 2025 นี้ สิ่งที่ผู้บริโภคมองหาคือ “ความสมดุล” ระหว่างสมรรถนะที่ตอบโจทย์ การประหยัดพลังงานที่จับต้องได้ เทคโนโลยีความปลอดภัยและเชื่อมต่อที่ชาญฉลาด และแน่นอนที่สุดคือความคุ้มค่าที่ยั่งยืน Nissan Almera 1.0 Turbo คือหนึ่งในผู้เล่นสำคัญที่ยังคงยืนหยัดในตลาดอีโคคาร์ได้อย่างสง่างาม ด้วยการปรับปรุงและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบรับความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไป วันนี้ผมจะพาทุกท่านไปเจาะลึกถึงแก่นแท้ของ Nissan Almera 1.0 Turbo ที่ผมได้มีโอกาสสัมผัสบนเส้นทางที่ท้าทาย จากพิษณุโลกสู่ตาก และสรุปภาพรวมทั้งหมดที่ทำให้รถคันนี้ยังคงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจอย่างยิ่งสำหรับปี 2025
หัวใจแห่งสมรรถนะที่เหนือความคาดหมาย: เครื่องยนต์ 1.0 Turbo ที่ฉลาดล้ำ
เมื่อพูดถึงเครื่องยนต์ขนาด 1.0 ลิตร หลายท่านอาจมีภาพจำถึงพละกำลังที่ไม่จัดจ้านนัก แต่สำหรับ Nissan Almera 1.0 Turbo รหัส HRA0 นั้น นี่คือบทพิสูจน์ว่า “ขนาดไม่ใช่ทุกสิ่ง” ด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ DOHC 12 วาล์ว ขนาด 999 ซีซี พ่วงระบบอัดอากาศ Turbocharger พร้อม Intercooler ที่สามารถปลดปล่อยกำลังสูงสุดถึง 100 แรงม้า ที่ 5,000 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 152 นิวตันเมตร ในช่วง 2,400 – 4,000 รอบ/นาที ตัวเลขเหล่านี้อาจดูไม่หวือหวาเมื่ออยู่บนกระดาษ แต่ในโลกแห่งความเป็นจริงของการขับขี่ นี่คือขุมพลังที่เหลือเฟือและเกินความคาดหมายสำหรับรถในพิกัดอีโคคาร์
สิ่งที่ทำให้เครื่องยนต์ตัวนี้โดดเด่นคือการทำงานของเทอร์โบที่เริ่มต้นในรอบเครื่องยนต์ที่ต่ำมาก ซึ่งหมายความว่าคุณจะได้รับแรงบิดที่สูงตั้งแต่เริ่มออกตัว ทำให้การเร่งแซงเป็นไปอย่างมั่นใจและคล่องตัวในทุกย่านความเร็ว จากประสบการณ์ตรงในการขับขี่บนเส้นทางจากพิษณุโลกที่เน้นการขับขี่ในเมืองไปจนถึงถนนโล่ง และเส้นทางขึ้น-ลงเขาที่จังหวัดตาก Almera แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการตอบสนองที่ยอดเยี่ยม แม้ในช่วงออกตัวอาจมีอาการหน่วงเล็กน้อยตามธรรมชาติของเครื่องยนต์เทอร์โบขนาดเล็ก แต่ทันทีที่เทอร์โบเริ่มทำงาน รถจะพุ่งทะยานได้อย่างต่อเนื่อง คันเร่งตอบสนองได้ดั่งใจ รอบเครื่องยนต์ไม่ตกง่ายๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งเมื่อต้องเร่งแซงรถบรรทุกบนถนนสองเลน หรือเมื่อต้องการกำลังในการไต่ทางชัน
บนเส้นทางขึ้นเขาที่ต้องใช้พละกำลังอย่างต่อเนื่อง เครื่องยนต์ 1.0 Turbo ได้พิสูจน์ตัวเองแล้วว่าสามารถรับมือกับความท้าทายได้อย่างสบายๆ แม้ในบางช่วงที่เป็นทางชันมาก อาจมีอาการ “ตื้อ” เล็กน้อย แต่การเติมคันเร่งเข้าไปอีกเพียงเล็กน้อยก็เพียงพอที่จะพารถไต่ขึ้นเขาไปได้อย่างมั่นคง โดยไม่แสดงอาการเหนื่อยล้าจนน่ากังวล การทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ XTronic CVT พร้อม D-Step Logic ก็ถือเป็นอีกหนึ่งจุดแข็งที่ช่วยเสริมสมรรถนะโดยรวม การเปลี่ยนเกียร์ที่นุ่มนวลและต่อเนื่องช่วยให้การส่งกำลังเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ลดการสูญเสียกำลัง และยังช่วยให้การขับขี่เป็นไปอย่างราบรื่น ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่ในเมืองที่ต้องหยุดและออกตัวบ่อยครั้ง หรือการเดินทางไกลบนไฮเวย์
ช่วงล่างและการควบคุม: ความมั่นคงที่มาพร้อมความสบาย
หัวใจสำคัญของการขับขี่ที่น่าประทับใจไม่ได้มีเพียงแค่เครื่องยนต์ที่ทรงพลังเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงระบบช่วงล่างและการควบคุมที่ได้รับการปรับแต่งมาอย่างลงตัว Nissan Almera 1.0 Turbo มาพร้อมกับช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระ MacPherson Strut พร้อม Coil Spring และเหล็กกันโคลง ส่วนด้านหลังเป็นแบบคานบิดกึ่งอิสระ Torsion Beam พร้อม Coil Spring และเหล็กกันโคลง ซึ่งเป็นสไตล์ช่วงล่างที่พบได้ทั่วไปในรถอีโคคาร์ แต่สิ่งที่ทำให้ Almera แตกต่างคือการปรับเซ็ตที่มุ่งเน้นความสมดุลระหว่างความนุ่มนวลและความมั่นคง
จากการทดสอบบนสภาพถนนที่หลากหลาย ทั้งผิวถนนเรียบ ทางขรุขระ และทางโค้งคดเคี้ยว ช่วงล่างของ Almera สามารถซับแรงกระแทกได้ดีเยี่ยม ไม่ส่งแรงสะเทือนเข้าสู่ห้องโดยสารมากนัก ทำให้การขับขี่ในเมืองที่ต้องเจอทางที่ไม่เรียบเป็นไปอย่างสบายตัว ขณะเดียวกัน เมื่อใช้ความเร็วบนทางหลวง ตัวรถยังคงให้ความรู้สึกมั่นคง การทรงตัวที่ดีเยี่ยม แม้ในช่วงที่ต้องเข้าโค้งด้วยความเร็วที่เหมาะสม ตัวรถก็สามารถยึดเกาะถนนได้อย่างน่าประทับใจ ให้ความรู้สึกปลอดภัยและมั่นใจในการควบคุมทิศทาง ส่งผลให้พวงมาลัยไฟฟ้ามีการตอบสนองที่แม่นยำและน้ำหนักที่พอดี ไม่เบาจนเกินไปเมื่อความเร็วสูง และไม่หนักจนเกินไปเมื่อขับขี่ในเมือง ทำให้การบังคับเลี้ยวเป็นไปอย่างง่ายดายและแม่นยำ
ในส่วนของการเก็บเสียงภายในห้องโดยสาร ถือว่าทำได้ดีเกินคาดสำหรับรถในพิกัดนี้ ในช่วงความเร็วไม่เกิน 110 กม./ชม. เสียงรบกวนจากภายนอกและเสียงยางบดถนนจะถูกแยกออกจากห้องโดยสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ สร้างบรรยากาศที่เงียบสงบสำหรับการเดินทาง แต่เมื่อความเร็วเพิ่มสูงขึ้นเกิน 120 กม./ชม. อาจเริ่มได้ยินเสียงลมเล็ดลอดเข้ามาบ้างเล็กน้อย ซึ่งเป็นเรื่องปกติสำหรับรถยนต์ในกลุ่มนี้ และไม่ถือเป็นข้อด้อยที่ส่งผลกระทบต่อประสบการณ์การขับขี่โดยรวม
ประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมัน: ความคุ้มค่าที่ยั่งยืนในยุค 2025
ในยุคที่ราคาน้ำมันยังคงมีความผันผวน การประหยัดน้ำมันคือปัจจัยสำคัญอันดับต้นๆ ในการตัดสินใจซื้อรถยนต์ และ Nissan Almera 1.0 Turbo ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ด้วยตัวเลขเฉลี่ยจากการทดสอบที่แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการออกแบบเพื่อให้เป็นรถที่ประหยัดพลังงานอย่างแท้จริง
ขับขี่ในเมือง (รถไม่ติดมากนัก): ประมาณ 16 กม./ลิตร
ขับขี่นอกเมือง (ถนนโล่ง): สูงสุดถึง 22 กม./ลิตร
ขับขี่ขึ้นเขา: ประมาณ 12 กม./ลิตร
อัตราเฉลี่ยโดยรวมจากทริป (รวมขึ้นเขา): ประมาณ 16 กม./ลิตร
ตัวเลขเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ 1.0 Turbo ที่ผสานกับการทำงานของเกียร์ XTronic CVT ได้อย่างลงตัว โดยเฉพาะการขับขี่นอกเมืองบนถนนโล่งที่สามารถรีดประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม ซึ่งเป็นผลมาจากการออกแบบเครื่องยนต์ที่เน้นแรงบิดในรอบต่ำ ทำให้ไม่ต้องเค้นเครื่องยนต์มากนักในการรักษาระดับความเร็ว อีกทั้ง Almera ยังรองรับน้ำมัน Gasohol E20 ซึ่งช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในการเติมน้ำมันได้อย่างเป็นรูปธรรม ทำให้ Almera เป็นทางเลือกที่ชาญฉลาดสำหรับผู้ที่มองหารถยนต์นั่งส่วนบุคคลที่ประหยัด คุ้มค่า และเป็นมิตรกับกระเป๋าสตางค์ในระยะยาว
การออกแบบภายนอก: ความสง่างามที่มาพร้อมความสปอร์ตสำหรับปี 2025
Nissan Almera ในปี 2025 ยังคงสานต่อปรัชญาการออกแบบ “Emotional Geometry” ที่โดดเด่น ด้วยเส้นสายที่คมชัดและลงตัว ไฟหน้า LED ดีไซน์บูมเมอแรง (Boomerang) ที่เป็นเอกลักษณ์ พร้อมกระจังหน้า V-Motion อันเป็นสัญลักษณ์ของนิสสัน ช่วยเสริมบุคลิกให้ Almera ดูทันสมัย โฉบเฉี่ยว และมีความเป็นสปอร์ตมากขึ้น ไม่ใช่แค่รถยนต์อีโคคาร์ทั่วไปอีกต่อไป
สีตัวถังภายนอกยังคงมีให้เลือกหลากหลาย โดยเฉพาะสีเทา เกรย์ สกาย เพิร์ล (Gray Sky Pearl) ที่เปิดตัวในการไมเนอร์เชนจ์เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งยังคงเป็นที่นิยมอย่างต่อเนื่องในปี 2025 สีนี้มีความพิเศษตรงที่สามารถเปลี่ยนเฉดสีได้ตามสภาพแสงและมุมมองที่แตกต่างกัน บางครั้งอาจออกไปทางสีเทาอมม่วงเมื่ออยู่ในที่แสงน้อย และจะออกโทนสีฟ้ามากขึ้นเมื่ออยู่ภายใต้แสงแดดจ้า และเมื่อมองจากระยะใกล้ คุณจะสัมผัสได้ถึงประกายมุกที่ซ่อนอยู่ภายใน ทำให้ตัวรถดูมีมิติและหรูหรายิ่งขึ้น นอกจากนี้ สำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มความสปอร์ตและโดดเด่น Almera ยังมีชุดแต่ง Ignite Package ให้เลือกซื้อ ซึ่งประกอบด้วยสเกิร์ตรอบคันและสปอยเลอร์ด้านหลังสีดำเงาที่ช่วยเสริมให้บุคลิกของรถดูสปอร์ตและดุดันมากยิ่งขึ้น สะท้อนถึงรสนิยมและความเป็นตัวตนของเจ้าของได้อย่างลงตัว
การออกแบบภายในและเทคโนโลยีอำนวยความสะดวก: ห้องโดยสารอัจฉริยะแห่งอนาคต
ก้าวเข้าสู่ห้องโดยสารของ Nissan Almera ปี 2025 คุณจะสัมผัสได้ถึงการผสมผสานระหว่างการออกแบบที่ทันสมัย ความสะดวกสบาย และเทคโนโลยีที่ถูกจัดวางไว้อย่างลงตัว แผงคอนโซลได้รับการออกแบบอย่างประณีต โดยเฉพาะรุ่น VL ที่มาพร้อมกับการตกแต่งด้วยวัสดุหุ้มหนังสีสันสวยงาม ให้ความรู้สึกหรูหราและพรีเมียมเกินราคา
ในแง่ของเทคโนโลยีอำนวยความสะดวก Almera ไม่เป็นรองใคร ด้วยอุปกรณ์ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนในยุคดิจิทัลอย่างครบครัน:
ที่ชาร์จแบบไร้สาย (Wireless Charger): หมดปัญหาเรื่องสายระโยงระยาง ช่วยให้การชาร์จสมาร์ทโฟนเป็นไปอย่างง่ายดายและสะดวกสบาย
เทคโนโลยีควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control): เป็นฟังก์ชันที่ขาดไม่ได้สำหรับการเดินทางไกล ช่วยลดความเมื่อยล้าของผู้ขับขี่ และรักษาระดับความเร็วให้คงที่ เพิ่มความสบายในการขับขี่ระยะยาว
มาตรวัดเรืองแสง Fine Vision Meter แบบ Digital พร้อมหน้าจอ MID แบบสี TFT ขนาด 7 นิ้ว: ให้ข้อมูลการขับขี่ที่ครบถ้วน ชัดเจน และปรับเปลี่ยนรูปแบบการแสดงผลได้ตามความต้องการของผู้ขับขี่
หน้าจอระบบความบันเทิงแบบสัมผัส Touchscreen ขนาด 8 นิ้ว: รองรับการเชื่อมต่อโทรศัพท์ไร้สายผ่าน Bluetooth และที่สำคัญคือรองรับการเชื่อมต่อ Smartphone ทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคในยุค 2025 คาดหวัง ช่วยให้การเข้าถึงแอปพลิเคชันนำทาง เพลง และฟังก์ชันต่างๆ เป็นไปอย่างง่ายดายและปลอดภัย
ระบบความปลอดภัยและ NissanConnect Services: ความอุ่นใจที่เชื่อมต่อได้
Nissan ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของผู้ขับขี่และผู้โดยสารอย่างสูงสุด ซึ่งสะท้อนผ่านการติดตั้งระบบความปลอดภัยขั้นสูงที่โดดเด่นในกลุ่มอีโคคาร์ โดยเฉพาะในปี 2025 ที่เทคโนโลยีเหล่านี้กำลังกลายเป็นมาตรฐานใหม่:
ปุ่ม SOS ระบบโทรฉุกเฉิน (Emergency Call System): นี่คือฟีเจอร์ที่ไม่ธรรมดาสำหรับรถยนต์ในกลุ่มนี้ โดยทั่วไปจะพบในรถยุโรประดับพรีเมียมเท่านั้น ระบบนี้จะทำการติดต่อศูนย์ให้ความช่วยเหลือฉุกเฉินผ่านระบบเครื่องเสียงภายในรถยนต์โดยอัตโนมัติเมื่อเกิดอุบัติเหตุรุนแรง หรือผู้ขับขี่สามารถกดปุ่มเพื่อขอความช่วยเหลือได้ด้วยตนเอง ทำให้การประสานงานและส่งความช่วยเหลือเป็นไปอย่างรวดเร็วและทันท่วงที ซึ่งสามารถช่วยชีวิตได้อย่างแท้จริง
NissanConnect Services: นี่คืออีกหนึ่งนวัตกรรมที่เชื่อมโยงรถยนต์ของคุณเข้ากับชีวิตดิจิทัลอย่างสมบูรณ์แบบ ฟังก์ชันการทำงานผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟนช่วยเพิ่มความสะดวกสบายและความอุ่นใจในการเป็นเจ้าของรถ:
ระบบตรวจสอบสถานะการล็อกประตู, สั่งล็อก หรือปลดล็อกรถยนต์ระยะไกล: มั่นใจได้ว่ารถของคุณปลอดภัยเสมอ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน
ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์ระยะไกล: สามารถสตาร์ทเครื่องยนต์และเปิดแอร์ล่วงหน้าได้ ทำให้รถเย็นสบายพร้อมออกเดินทางในสภาพอากาศร้อนของประเทศไทย
ระบบสั่งกะพริบไฟหน้า และระบบเสียงแตรระยะไกล: ช่วยให้ค้นหาตำแหน่งของรถในลานจอดรถขนาดใหญ่ได้อย่างง่ายดาย
My Car Finder หรือระบบค้นหาตำแหน่งรถ: ฟังก์ชันนี้จะช่วยค้นหาและนำทางไปยังรถได้ในทันที หากคุณลืมว่าจอดรถไว้ที่ใด
กล้องมองภาพรอบคัน IAVM (Intelligent Around View Monitor) พร้อมระบบตรวจจับและส่งสัญญาณเตือนวัตถุ/บุคคล เคลื่อนไหวจากกล้องรอบคัน MOD (Moving Object Detection): เทคโนโลยีนี้ช่วยให้การจอดรถและการขับขี่ในที่แคบเป็นไปอย่างปลอดภัยยิ่งขึ้น ลดจุดบอดและแจ้งเตือนเมื่อมีวัตถุหรือคนเคลื่อนไหวเข้ามาในรัศมีรอบรถ ทำให้ผู้ขับขี่สามารถมองเห็นสภาพแวดล้อมรอบคันได้อย่างชัดเจน
นอกจากนี้ Almera ยังมาพร้อมระบบความปลอดภัยพื้นฐานที่ครบครัน เช่น ระบบเบรก ABS, EBD, BA, ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว VDC และถุงลมนิรภัยหลายตำแหน่ง ทำให้มั่นใจได้ว่า Almera คือรถยนต์ที่มอบความปลอดภัยสูงสุดในทุกการเดินทาง
ความคุ้มค่าและตำแหน่งทางการตลาดในปี 2025
Nissan Almera 1.0 Turbo ในปี 2025 ยังคงตอกย้ำจุดยืนในการเป็นรถยนต์อีโคคาร์ที่มอบความคุ้มค่าเกินราคา ด้วยการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างสมรรถนะที่เร้าใจจากเครื่องยนต์เทอร์โบ การประหยัดน้ำมันที่เป็นเลิศ เทคโนโลยีเชื่อมต่อที่ทันสมัย และระบบความปลอดภัยที่เหนือระดับ การที่ Almera มุ่งเน้นการพัฒนารถยนต์ให้ตอบโจทย์การใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน ทั้งการขับขี่ในเมืองที่ต้องการความคล่องตัว การเดินทางไกลที่ต้องการความมั่นคงและสบาย ไปจนถึงการขึ้นเขาที่ต้องการพละกำลัง ทำให้รถคันนี้เป็นตัวเลือกที่แข็งแกร่งในตลาดที่มีการแข่งขันสูง
สำหรับผู้ที่กำลังมองหารถยนต์คันแรก รถยนต์สำหรับครอบครัวขนาดเล็ก หรือรถยนต์ที่ตอบโจทย์การใช้งานในเมืองและการเดินทางต่างจังหวัดเป็นครั้งคราว Nissan Almera 1.0 Turbo คือคำตอบที่ชาญฉลาด ด้วยราคาจำหน่ายที่สามารถจับต้องได้ และออปชันที่จัดเต็มเกินกว่ารถในกลุ่มเดียวกัน ทำให้ Almera มอบประสบการณ์การขับขี่ที่น่าประทับใจ ความอุ่นใจจากเทคโนโลยีความปลอดภัย และความคุ้มค่าในระยะยาวที่ยากจะหาคู่แข่งมาเทียบได้ นี่ไม่ใช่แค่รถยนต์ แต่คือคู่หูที่พร้อมลุยไปกับคุณในทุกเส้นทาง
บทสรุปและข้อเสนอแนะ
จากประสบการณ์กว่า 10 ปีในวงการยานยนต์ ผมกล้าพูดได้ว่า Nissan Almera 1.0 Turbo ยังคงเป็นหนึ่งในรถยนต์ที่น่าสนใจที่สุดในตลาดอีโคคาร์และรถยนต์นั่งขนาดเล็กสำหรับปี 2025 ด้วยสมรรถนะของเครื่องยนต์ 1.0 Turbo ที่โดดเด่นในเรื่องแรงบิดรอบต่ำ การประหยัดน้ำมันที่เหนือชั้น ระบบช่วงล่างที่ให้ความมั่นคงและความสบาย รวมถึงเทคโนโลยีความปลอดภัยและการเชื่อมต่อที่ล้ำหน้าอย่าง NissanConnect Services และปุ่ม SOS ฉุกเฉิน สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นองค์ประกอบที่ทำให้ Almera เป็นรถยนต์ที่ครบเครื่อง ตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้ใช้งานในยุคปัจจุบัน
หากคุณกำลังพิจารณารถยนต์คันใหม่ ที่เน้นทั้งสมรรถนะ ความประหยัด เทคโนโลยี และความปลอดภัย Nissan Almera 1.0 Turbo คือตัวเลือกที่คุณไม่ควรมองข้าม การได้สัมผัสและทดลองขับด้วยตนเองจะทำให้คุณเข้าใจถึงศักยภาพที่แท้จริงของรถคันนี้ได้ดีที่สุด
อย่ารอช้าที่จะสัมผัสประสบการณ์การขับขี่ที่ไม่เหมือนใคร! เชิญคุณเยี่ยมชมโชว์รูมนิสสันใกล้บ้าน เพื่อทดลองขับ Nissan Almera 1.0 Turbo ปี 2025 ด้วยตัวคุณเอง และค้นพบว่าทำไม Nissan Almera 1.0 Turbo จึงเป็นคำตอบที่ใช่สำหรับทุกเส้นทางและทุกไลฟ์สไตล์ของคุณในวันนี้ พร้อมรับข้อเสนอสุดพิเศษและการบริการที่พร้อมดูแลคุณไปตลอดการเดินทาง.
![[ตอนต่อไป] 113T1129 AB113 เคยเจอไหมทำงานเอาหน้า.mp4](https://filmthailan.moicaucachep.com/wp-content/uploads/2025/11/image-121-2.png)
![[ตอนต่อไป] 114T1129 AB114 เลิกกับลูกชายฉัน ฉันจ่ายหนึ่งล้าน.mp4](https://filmthailan.moicaucachep.com/wp-content/uploads/2025/11/image-122-2.png)