[ตอนต่อไป] 230T1129 AB230 เจ้านายแบบนี้ ใครอยากมีบ้าง.mp4

Denza D9 Performance AWD ปี 2025: ยกระดับประสบการณ์ MPV ไฟฟ้าหรู สู่มิติใหม่แห่งความเหนือระดับ

ในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการยานยนต์มากว่าทศวรรษ ผมได้เห็นวิวัฒนาการของรถยนต์มากมาย ตั้งแต่เครื่องยนต์สันดาปสู่ขุมพลังไฟฟ้า จากรถยนต์เพื่อการใช้งานทั่วไปสู่ยานยนต์ที่ผสมผสานทั้งเทคโนโลยี ความสะดวกสบาย และความหรูหราเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว และในปี 2025 นี้ ตลาดรถยนต์ไฟฟ้า โดยเฉพาะกลุ่ม MPV พรีเมียม กำลังเข้าสู่ยุคที่น่าตื่นเต้นอย่างแท้จริง ซึ่งไม่มีรุ่นไหนที่สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงนี้ได้ดีไปกว่า Denza D9 Performance AWD จาก RÊVER ประเทศไทย ผู้บุกเบิกในเซกเมนต์ รถตู้ไฟฟ้าหรู ที่ไม่ได้เป็นเพียงยานพาหนะ แต่คือสุนทรียภาพแห่งการเดินทางที่สมบูรณ์แบบ

การเปิดตัว Denza D9 Performance AWD ไม่ได้เป็นเพียงการเพิ่มตัวเลือกในตลาด แต่เป็นการประกาศศักดาของผู้ผลิตที่กล้าฉีกกรอบนิยามของ MPV แบบดั้งเดิม สู่การเป็น MPV ไฟฟ้าสุดลักซ์ชู ที่พร้อมตอบโจทย์ทั้งการใช้งานส่วนตัวและภาคธุรกิจ เส้นทางทดสอบจากกรุงเทพฯ สู่พระนครศรีอยุธยาและวกกลับมายังมหานครอีกครั้ง ระยะทางรวมกว่า 136 กิโลเมตร ได้มอบประสบการณ์ที่ล้ำลึก ทำให้ผมได้สัมผัสถึงปรัชญาการออกแบบและวิศวกรรมที่ Denza ทุ่มเทลงไปในรถคันนี้ โดยเฉพาะหัวใจสำคัญที่ทุกคนกล่าวถึง นั่นคือระบบช่วงล่างอัจฉริยะ DiSus-C ซึ่งเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะ ที่พลิกโฉมการขับขี่และโดยสาร MPV ให้เหนือชั้นกว่าที่เคย

Denza D9 Performance AWD: วิศวกรรมที่ขับเคลื่อนด้วยอนาคต

หัวใจสำคัญที่ทำให้ Denza D9 Performance AWD โดดเด่นในตลาด รถยนต์ไฟฟ้า 2025 คือแพลตฟอร์ม e-Platform 3.0 ซึ่งเป็นนวัตกรรมล่าสุดของ BYD ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อรองรับระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าโดยเฉพาะ แพลตฟอร์มนี้ไม่เพียงแต่เพิ่มประสิทธิภาพในการใช้พลังงาน แต่ยังช่วยในเรื่องของการจัดการพื้นที่ภายในห้องโดยสาร และการกระจายน้ำหนักของแบตเตอรี่ที่ดีเยี่ยม ส่งผลต่อเสถียรภาพการขับขี่โดยรวม มอเตอร์คู่ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบตลอดเวลา (AWD) คือขุมพลังที่ไร้เทียมทาน มอบพละกำลังรวมสูงสุดถึง 275 กิโลวัตต์ (ประมาณ 375 แรงม้า) พร้อมแรงบิดมหาศาลที่ 470 นิวตันเมตร ตัวเลขเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงตัวเลขบนกระดาษ แต่สัมผัสได้จริงจากอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ที่เคลมไว้เพียง 6.9 วินาที ซึ่งถือว่าเร็วเหลือเชื่อสำหรับ รถยนต์ไฟฟ้า 7 ที่นั่ง ขนาดใหญ่เช่นนี้

แบตเตอรี่ขนาด 103.36 kWh คือหัวใจที่หล่อเลี้ยงสมรรถนะอันยอดเยี่ยมนี้ และมอบระยะทางการวิ่งสูงสุดถึง 580 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง (ตามมาตรฐาน NEDC) ซึ่งถือเป็นระยะทางที่เพียงพอสำหรับการเดินทางไกลข้ามจังหวัดในประเทศไทยอย่างสบายใจ นอกจากนี้ ระบบการชาร์จยังรองรับกระแสสลับ AC สูงสุด 11 กิโลวัตต์ และกระแสตรง DC สูงสุด 166 กิโลวัตต์ ซึ่งหมายความว่าการชาร์จอย่างรวดเร็วที่สถานีชาร์จสาธารณะก็ไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป ช่วยลดความกังวลเรื่อง “Range Anxiety” ที่ผู้ใช้ รถยนต์ไฟฟ้า มักจะเผชิญในยุคแรกๆ และในปี 2025 นี้เอง ที่โครงสร้างพื้นฐานการชาร์จไฟฟ้าได้แพร่หลายและเข้าถึงได้ง่ายขึ้นอย่างก้าวกระโดด ทำให้ Denza D9 Performance AWD เป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุคใหม่ได้อย่างแท้จริง

DiSus-C: นวัตกรรมช่วงล่างอัจฉริยะที่นิยามความสบายใหม่

หากจะกล่าวถึงจุดเด่นที่ทำให้ Denza D9 Performance AWD เป็นที่จับตามากที่สุด คงหนีไม่พ้นระบบช่วงล่างอัจฉริยะ DiSus-C ซึ่งเป็น เทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้า ที่ RÊVER ประเทศไทยภูมิใจนำเสนอ ระบบนี้ไม่ใช่ช่วงล่างปรับไฟฟ้าธรรมดา แต่เป็นระบบควบคุมความหนืดของโช้คอัพแบบแปรผันต่อเนื่องที่ทำงานผ่านอิเล็กทรอนิกส์ หัวใจสำคัญของ DiSus-C คือความสามารถในการตรวจจับสภาพถนนและการเคลื่อนไหวของตัวรถแบบเรียลไทม์ ไม่ว่าจะเป็นการยุบตัวหรือคืนตัวของโช้คอัพ การเปลี่ยนแปลงน้ำหนักบรรทุก หรือแม้กระทั่งแรงเหวี่ยงหนีศูนย์กลางขณะเข้าโค้ง ข้อมูลทั้งหมดนี้จะถูกประมวลผลอย่างรวดเร็วด้วยหน่วยประมวลผลกลาง เพื่อสั่งการโซลินอยด์วาล์วภายในโช้คอัพ ให้ปรับความหนืดของน้ำมันได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว

ผลลัพธ์ที่ได้คือประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือกว่า ซึ่งแตกต่างจากช่วงล่างทั่วไปอย่างสิ้นเชิง ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่บนถนนขรุขระที่มีหลุมบ่อมากมาย หรือทางเรียบด้วยความเร็วสูง DiSus-C จะทำงานร่วมกับระบบกันสะเทือนหน้าแบบแม็คเฟอร์สันสตรัท และด้านหลังมัลติลิงก์ เพื่อลดแรงกระแทกจากพื้นผิวถนนได้อย่างนุ่มนวลอย่างเหลือเชื่อ สิ่งที่น่าประทับใจคือความสามารถในการลดอาการโคลงของตัวรถเมื่อต้องเบรกกะทันหัน หรือเร่งความเร็วอย่างฉับพลัน แรงกระชากที่มักจะทำให้ผู้โดยสารรู้สึกไม่สบายตัวนั้นถูกลดทอนลงไปอย่างมาก ทำให้การเดินทางราบรื่นเสมือนลอยอยู่บนอากาศ ระบบนี้ยังมอบทางเลือกให้ผู้ขับขี่สามารถปรับโหมดการขับขี่ได้ 2 รูปแบบ คือ Sport และ Comfort ผ่านหน้าจออินโฟเทนเมนต์ขนาด 15.6 นิ้ว ซึ่งนอกจากจะควบคุมช่วงล่างแล้ว ยังสามารถปรับน้ำหนักพวงมาลัยและตอบสนองของเบรกได้ตามความต้องการและสภาพเส้นทาง นี่คือ นวัตกรรมรถยนต์ไฟฟ้า ที่แท้จริง ที่ยกระดับ ประสบการณ์ขับขี่รถยนต์ไฟฟ้า ไปอีกขั้น

จากการทดสอบบนถนนแจ้งวัฒนะ ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องหลุมบ่อและฝาท่อระบายน้ำ DiSus-C พิสูจน์ให้เห็นถึงประสิทธิภาพอันยอดเยี่ยม มันซับแรงกระแทกจากความไม่สมบูรณ์ของพื้นผิวถนนได้อย่างไร้รอยต่อ ทำให้ห้องโดยสารยังคงความสงบและสะดวกสบายไว้ได้อย่างดีเยี่ยม ผู้โดยสารแทบไม่รู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนที่มักจะเกิดขึ้นในรถ MPV ทั่วไป การขับขี่ในเมืองที่ต้องเผชิญกับการจราจรติดขัดและการเปลี่ยนเลนบ่อยครั้ง Denza D9 ยังคงรักษาเสถียรภาพได้อย่างมั่นคงและแม่นยำ พวงมาลัยมีน้ำหนักพอดี ให้การตอบสนองที่คมชัด ทำให้การควบคุม รถตู้ไฟฟ้า ขนาดใหญ่คันนี้เป็นเรื่องง่ายดาย แม้แต่ผู้ขับขขี่ที่มีสรีระเล็กก็สามารถขับได้อย่างมั่นใจ ทัศนวิสัยรอบคันที่กว้างขวางเหมือนรถ SUV ทั่วไป ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและความสะดวกสบายในการขับขี่

ห้องโดยสาร: สุนทรียภาพแห่งความหรูหราและเทคโนโลยี

ก้าวเข้าสู่ภายในห้องโดยสารของ Denza D9 Performance AWD คุณจะถูกต้อนรับด้วยบรรยากาศที่เปรียบเสมือนห้องรับรองระดับเฟิร์สคลาส วัสดุหนัง Nappa Premium ที่ใช้หุ้มเบาะนั่ง มอบสัมผัสที่นุ่มนวลและหรูหราอย่างแท้จริง เพดานห้องโดยสารบุด้วยหนังกลับแบบพรีเมียม เพิ่มความโอ่อ่าและความประณีตในทุกรายละเอียด นี่คือความพิถีพิถันที่สะท้อนถึงมาตรฐานของ รถยนต์ไฟฟ้าหรู อย่างแท้จริง

จุดเด่นสำคัญคือเบาะผู้โดยสารแถวที่สอง ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของ รถครอบครัวไฟฟ้า หรือ รถ MPV ไฟฟ้าพรีเมียม ที่เน้นความสบายสูงสุด เบาะที่นั่งแถวที่สองของรุ่น Performance AWD สามารถปรับระดับและรูปแบบการนวดได้หลากหลาย ทำให้ผู้โดยสารสามารถผ่อนคลายได้อย่างเต็มที่ตลอดการเดินทาง ฟังก์ชันนี้ยกระดับประสบการณ์การเดินทางให้เหนือกว่าคู่แข่งในระดับเดียวกัน และเป็นสิ่งที่รุ่นเริ่มต้น Premium 2WD ไม่มี ความเอาใจใส่ในรายละเอียดเช่นนี้ ทำให้ Denza D9 Performance AWD ไม่ได้เป็นเพียงรถยนต์ แต่เป็นพื้นที่ส่วนตัวที่มอบความสุขและความผ่อนคลายได้อย่างแท้จริง

นอกเหนือจากความหรูหราทางสัมผัสแล้ว เทคโนโลยีภายในห้องโดยสารก็ล้ำสมัยไม่แพ้กัน ระบบแสดงผลบนกระจกหน้า (W-HUD) ขนาด 12 นิ้ว ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเข้าถึงข้อมูลสำคัญโดยไม่ต้องละสายตาจากถนน เพิ่มความปลอดภัยและสะดวกสบายอย่างมาก หน้าจออินโฟเทนเมนต์แบบ Touch Screen ขนาด 15.6 นิ้ว เป็นศูนย์กลางการควบคุมที่รวมทุกฟังก์ชันไว้ในที่เดียว ทั้งระบบนำทาง ความบันเทิง การเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน และการตั้งค่าต่างๆ ของรถ ซึ่งทั้งหมดนี้ได้รับการออกแบบมาให้ใช้งานง่ายและตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว

สมรรถนะการขับขี่: เหนือกว่าที่คาดคิด

ด้วยมอเตอร์คู่และระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Denza D9 Performance AWD ไม่ได้มีดีแค่ความนุ่มนวล แต่ยังเต็มเปี่ยมไปด้วย ประสิทธิภาพรถยนต์ไฟฟ้า ที่น่าทึ่ง การตอบสนองของคันเร่งทำได้ทันใจ ให้แรงบิดที่ต่อเนื่องและราบรื่น การเร่งแซงเป็นไปอย่างมั่นใจและปลอดภัย อย่างไรก็ตาม ในฐานะผู้เชี่ยวชาญ ผมขอกล่าวถึงข้อสังเกตเล็กน้อยที่อาจต้องปรับปรุงในอนาคต สำหรับรถที่มีน้ำหนักตัวมากถึง 2.8 ตัน (โดยประมาณ) การเบรกกะทันหันที่ความเร็วสูง หรือการเข้าโค้งด้วยความเร็ว อาจมีอาการท้ายปัดหรือโคลงเคลงให้เห็นได้บ้าง ซึ่งเป็นเรื่องปกติสำหรับรถ MPV ขนาดใหญ่ และ DiSus-C ก็ช่วยลดทอนอาการเหล่านี้ลงได้มาก แต่สำหรับผู้ที่ต้องการความมั่นคงสูงสุดในทุกสถานการณ์ อาจต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษและทำความคุ้นเคยกับน้ำหนักของรถ

หากเทียบกับรุ่นเริ่มต้น Premium 2WD ที่ผมได้มีโอกาสทดลองขับเช่นกัน ความแตกต่างของช่วงล่างถือว่าชัดเจนมาก รุ่น Premium 2WD ใช้ระบบกันสะเทือนปรับอัตโนมัติตามความเร็วแบบ FSD ซึ่งเป็นระบบที่ยอดเยี่ยมในตัวเอง และให้ความนุ่มนวลที่ดีเยี่ยมไม่แพ้ BYD SEAL แต่สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการขับขี่ที่เร็วขึ้น และยังคงต้องการความนุ่มนวลสูงสุดสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง การลงทุนกับรุ่น Performance AWD ที่มาพร้อม DiSus-C ถือเป็นทางเลือกที่คุ้มค่ากว่าอย่างเห็นได้ชัด ในเรื่องของอัตราเร่งและทำความเร็ว มอเตอร์เดี่ยวของ Premium 2WD ก็ไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับการใช้งานทั่วไป ยังคงใช้ความเร็วได้ดี แต่ไม่ได้พุ่งทะยานเท่ารุ่นมอเตอร์คู่ ด้วยลักษณะของ รถยนต์ MPV ที่เน้นการใช้งานแบบครอบครัวเป็นหลัก หากขับขี่ด้วยความเร็วที่เหมาะสม รุ่น Premium 2WD ก็ยังคงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ ด้วยราคาที่เข้าถึงง่ายกว่ามาก (ราคาช่วงแนะนำ 1,999,900 บาท)

ความคุ้มค่าและบทสรุปสำหรับปี 2025

Denza D9 Performance AWD ไม่ได้เป็นเพียงการนำเสนอรถยนต์ใหม่ แต่เป็นการนำเสนอประสบการณ์การเดินทางแบบใหม่ที่ผสานรวมความหรูหรา ความสะดวกสบาย เทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้า และ ระบบความปลอดภัยรถยนต์ไฟฟ้า เข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว ในตลาด รถยนต์ไฟฟ้า 2025 ที่การแข่งขันดุเดือด Denza D9 โดดเด่นด้วยนวัตกรรม DiSus-C ที่ทำให้การเดินทางไกลเป็นเรื่องที่น่าอภิรมย์ ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้บริหารที่ต้องการพื้นที่ส่วนตัวสำหรับการเดินทางเพื่อธุรกิจ หรือเป็นครอบครัวใหญ่ที่มองหา รถครอบครัวไฟฟ้า ที่มอบความสะดวกสบายและปลอดภัยสูงสุด Denza D9 Performance AWD คือคำตอบที่ใช่

ในฐานะผู้เชี่ยวชาญ ผมให้คะแนน Denza D9 Performance AWD ที่ 8.5/10 หากพิจารณาจากราคา 2,699,900 บาท (ราคาในช่วงแนะนำ) เทียบกับสิ่งที่ได้รับ ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีช่วงล่างที่ล้ำสมัย ห้องโดยสารที่หรูหรา และสมรรถนะการขับขี่ที่น่าประทับใจ แม้จะมีจุดเล็กๆ น้อยๆ ที่อาจต้องทำความคุ้นเคยบ้าง แต่โดยรวมแล้ว Denza D9 Performance AWD คือหนึ่งใน MPV ไฟฟ้าพรีเมียม ที่ดีที่สุดในตลาด ณ ปัจจุบัน และพร้อมที่จะเป็นผู้นำเทรนด์ในอนาคต

อย่ารอช้าที่จะเป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางแห่งอนาคต! สัมผัสประสบการณ์เหนือระดับกับ Denza D9 Performance AWD ได้ด้วยตัวคุณเองวันนี้! หากคุณกำลังมองหา รถตู้ไฟฟ้า ที่จะยกระดับทุกการเดินทางให้เป็นเรื่องน่าจดจำ หรูหรา สะดวกสบาย และเต็มเปี่ยมด้วยเทคโนโลยี Denza D9 คือตัวเลือกที่คุณไม่ควรมองข้าม ติดต่อ RÊVER ประเทศไทย หรือตัวแทนจำหน่ายใกล้บ้าน เพื่อทดลองขับและรับข้อเสนอพิเศษ แล้วคุณจะเข้าใจว่าทำไม Denza D9 ถึงได้รับการยกย่องให้เป็นมาตรฐานใหม่ของ รถยนต์ไฟฟ้าหรู ในปี 2025 นี้