[ตอนต่อไป] 245T1129 AB245 รปภ. เฟิร์ส ทำไมต้องมาทำงานวันหยุด.mp4

Denza D9 Performance AWD: ปฏิวัติประสบการณ์ MPV ไฟฟ้าหรูแห่งปี 2025 ด้วยสุดยอดช่วงล่าง DiSus-C

ในฐานะที่ผมคลุกคลีอยู่ในแวดวงยานยนต์มานานกว่าทศวรรษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับกระแสการเปลี่ยนแปลงของรถยนต์ไฟฟ้าที่พัดผ่านประเทศไทยอย่างรวดเร็ว ผมกล้าพูดได้อย่างเต็มปากว่าปี 2025 คือหมุดหมายสำคัญที่ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในบ้านเราจะก้าวเข้าสู่ยุคที่ “ความสมบูรณ์แบบ” ไม่ใช่แค่คำกล่าวอ้าง แต่คือสิ่งที่ผู้บริโภคสามารถสัมผัสได้จริง และหนึ่งในยานยนต์ที่เข้ามาตอกย้ำความเชื่อนี้ได้อย่างโดดเด่นก็คือ Denza D9 Performance AWD รถตู้อเนกประสงค์ไฟฟ้า 100% จาก RÊVER Automotive ที่ไม่ได้เป็นเพียงแค่รถยนต์ แต่คือผลงานวิศวกรรมที่ผสมผสานความล้ำหน้าทางเทคโนโลยีเข้ากับความหรูหราสะดวกสบายได้อย่างไร้ที่ติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับหัวใจสำคัญอย่างระบบช่วงล่างอัจฉริยะ DiSus-C ที่เข้ามาสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับรถ MPV ไฟฟ้าได้อย่างน่าประทับใจ

Denza D9 Performance AWD: นิยามใหม่ของ MPV ไฟฟ้าหรูแห่งอนาคต

ก่อนที่เราจะดำดิ่งลงไปในรายละเอียดทางเทคนิคอันน่าทึ่งของ Denza D9 Performance AWD สิ่งที่เราต้องทำความเข้าใจก่อนคือ บริบทของตลาดรถ MPV ไฟฟ้าในปี 2025 ที่ผู้บริโภคไม่ได้มองหารถที่ตอบโจทย์แค่การโดยสารจำนวนมากอีกต่อไป แต่ยังต้องการ “ประสบการณ์” ที่เหนือกว่า ทั้งในด้านความปลอดภัย สมรรถนะ ความหรูหรา และที่สำคัญที่สุดคือ “นวัตกรรม” ที่เข้ามาช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตในการเดินทาง Denza D9 Performance AWD เข้ามาตอบโจทย์ความต้องการเหล่านี้ได้อย่างครบถ้วน ด้วยการออกแบบที่ผสานความสง่างามเข้ากับความทันสมัยได้อย่างลงตัว เส้นสายที่ปราดเปรียวและบึกบึน ให้ความรู้สึกมั่นคงและภูมิฐาน สะท้อนถึงเอกลักษณ์ของรถยนต์ไฟฟ้าพรีเมียมอย่างแท้จริง มิติตัวถังที่ใหญ่โตแต่กลับแฝงไว้ด้วยความคล่องตัวที่น่าประหลาดใจ ด้วยความยาวกว่า 5.2 เมตร ทำให้ Denza D9 Performance AWD สามารถรองรับการใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางในชีวิตประจำวัน การเดินทางเพื่อธุรกิจ หรือการผจญภัยกับครอบครัวในวันหยุดพักผ่อน

สิ่งที่ทำให้ Denza D9 Performance AWD ก้าวข้ามขีดจำกัดของรถ MPV ทั่วไปคือการเป็นแพลตฟอร์มที่พัฒนาขึ้นใหม่ล่าสุดภายใต้ชื่อ e-Platform 3.0 ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมรถยนต์ไฟฟ้าเอกสิทธิ์เฉพาะของ BYD แพลตฟอร์มนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่โครงสร้างพื้นฐาน แต่คือรากฐานของเทคโนโลยีขั้นสูงที่มอบทั้งความปลอดภัย ประสิทธิภาพ และความยืดหยุ่นในการออกแบบ ระบบขับเคลื่อนแบบ 8-in-1 ที่รวมมอเตอร์ คอนโทรลเลอร์ เกียร์ และระบบควบคุมอื่นๆ ไว้ในชุดเดียว ช่วยลดน้ำหนัก เพิ่มประสิทธิภาพ และลดความซับซ้อนของระบบลงได้อย่างมาก ซึ่งทั้งหมดนี้ส่งผลโดยตรงต่อการขับขี่ที่ราบรื่นและตอบสนองได้ดั่งใจ

ขุมพลังไฟฟ้าแห่งอนาคต: สมรรถนะที่เร้าใจและระยะทางที่ไร้กังวล

หัวใจสำคัญที่ขับเคลื่อน Denza D9 Performance AWD คือระบบขับเคลื่อนมอเตอร์คู่ที่ส่งกำลังไปยังล้อทั้งสี่แบบตลอดเวลา (AWD) มอบพละกำลังรวมสูงสุดถึง 275 กิโลวัตต์ พร้อมแรงบิดมหาศาลที่ 470 นิวตันเมตร ตัวเลขเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่สถิติ แต่คือการรับประกันถึงสมรรถนะการขับขี่ที่เปี่ยมไปด้วยพลังและน่าตื่นเต้น อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ที่เคลมไว้เพียง 6.9 วินาที (และจากที่ผมได้ทดลองขับจริงกับผู้โดยสารและสัมภาระ ยังคงทำได้ในระดับ 8.53 วินาที ซึ่งถือว่ายอดเยี่ยมสำหรับรถ MPV ขนาดใหญ่) ทำให้ Denza D9 Performance AWD สามารถเร่งแซงได้อย่างมั่นใจในทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นบนทางหลวงหรือการขับขี่ในเมืองที่ต้องการความคล่องตัว

แบตเตอรี่ Blade Battery ความจุ 103.36 kWh ถือเป็นจุดเด่นสำคัญที่ไม่กล่าวถึงไม่ได้ เทคโนโลยี Blade Battery ไม่ได้มีดีแค่เรื่องความจุ แต่ยังโดดเด่นในด้านความปลอดภัยและความทนทาน ซึ่งได้รับการพิสูจน์แล้วจากรถยนต์ไฟฟ้าหลายรุ่นของ BYD ด้วยแบตเตอรี่ขนาดใหญ่นี้ Denza D9 Performance AWD สามารถวิ่งได้ระยะทางไกลสูงสุดถึง 580 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง (ตามมาตรฐาน NEDC ซึ่งในสภาพการใช้งานจริงในไทย อาจจะทำได้ราวๆ 450-500 กม. ขึ้นอยู่กับสไตล์การขับขี่และสภาพจราจร) ตัวเลขนี้ช่วยคลายความกังวลเรื่อง “Range Anxiety” ได้เป็นอย่างดี ทำให้การเดินทางระยะไกลเป็นไปได้อย่างราบรื่นและไม่ต้องแวะชาร์จบ่อยครั้ง

นอกจากระยะทางที่น่าประทับใจแล้ว ระบบการชาร์จของ Denza D9 Performance AWD ก็ถูกออกแบบมาเพื่อความสะดวกสบายสูงสุด รองรับการชาร์จกระแสสลับ AC สูงสุด 11 กิโลวัตต์ (3 เฟส) ซึ่งเหมาะสำหรับการชาร์จที่บ้านหรือสถานีชาร์จสาธารณะทั่วไป และที่สำคัญคือรองรับการชาร์จกระแสตรง DC สูงสุด 166 กิโลวัตต์ ซึ่งหมายความว่าคุณสามารถชาร์จแบตเตอรี่จาก 30% ถึง 80% ได้ในเวลาอันรวดเร็ว ทำให้การเดินทางไม่สะดุดและพร้อมออกเดินทางต่อได้ทันทีเมื่อถึงจุดหมาย สิ่งเหล่านี้คือปัจจัยสำคัญที่ผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าในยุค 2025 มองหา และ Denza D9 Performance AWD ก็ตอบโจทย์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ

DiSus-C: นวัตกรรมช่วงล่างอัจฉริยะที่ปฏิวัติประสบการณ์การขับขี่

มาถึงหัวใจหลักของบทความนี้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านยานยนต์รู้สึกตื่นเต้นเป็นพิเศษนั่นคือระบบช่วงล่างอัจฉริยะ DiSus-C ซึ่งเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของ RÊVER ประเทศไทยสำหรับ Denza D9 Performance AWD ระบบนี้ไม่ใช่แค่โช้คอัพปรับไฟฟ้าทั่วไป แต่คือวิวัฒนาการขั้นสูงสุดของเทคโนโลยีช่วงล่างที่เข้ามาปฏิวัติประสบการณ์การขับขี่รถ MPV ไฟฟ้าอย่างแท้จริง

DiSus-C ทำงานอย่างไร? ในเชิงเทคนิค ระบบนี้ประกอบด้วยชุดกันสะเทือนแบบแอคทีฟ ด้านหน้าแบบแม็คเฟอร์สันสตรัท และด้านหลังแบบมัลติลิงก์ ที่ได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษ โดยมีเซ็นเซอร์และกลไกอิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถตรวจจับสภาพถนนและการเคลื่อนไหวของตัวรถได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นการยุบตัวหรือคืนตัวของช่วงล่าง เมื่อระบบตรวจพบความผิดปกติ เช่น การเจอหลุมบ่อ ลูกระนาด หรือรอยต่อถนนที่ไม่เรียบ ระบบจะประมวลผลและส่งคำสั่งไปยังโซลินอยด์วาล์วในระบบกันสะเทือน เพื่อปรับความหนืดและความแข็งของโช้คอัพแบบเรียลไทม์ภายในเสี้ยววินาที

ผลลัพธ์ที่ได้จากการทำงานของ DiSus-C คือความนุ่มนวลในการขับขี่ที่เหนือชั้น ระบบสามารถซับแรงกระแทกจากพื้นผิวถนนที่ไม่เรียบได้อย่างยอดเยี่ยม ทำให้ผู้โดยสารสัมผัสได้ถึงความสบายสูงสุดเสมือนลอยอยู่บนอากาศ ไม่เพียงแค่นั้น DiSus-C ยังช่วยเพิ่มเสถียรภาพในการขับขี่ได้อย่างน่าทึ่ง เมื่อมีการเร่งความเร็วอย่างฉับพลันหรือการเบรกกะทันหัน ระบบจะช่วยลดอาการ “หัวทิ่ม” หรือ “ท้ายโยก” ที่มักเกิดขึ้นในรถยนต์ทั่วไป ทำให้ตัวรถนิ่งและมั่นคงอยู่เสมอ ส่งผลให้การควบคุมรถเป็นไปได้อย่างแม่นยำและปลอดภัยยิ่งขึ้น แม้ผมจะยอมรับว่ายังมีอาการโคลงเคลงเล็กน้อยเมื่อต้องหักเลี้ยวด้วยความเร็วสูงหรือปะทะกับลมแรง แต่ก็เป็นเพียงระดับที่เล็กน้อยจนแทบไม่ส่งผลต่อความมั่นใจในการขับขี่เลย

สิ่งที่ผมประทับใจเป็นพิเศษจากการทดสอบบนถนนแจ้งวัฒนะ ซึ่งมีทั้งหลุมบ่อ ฝาท่อระบายน้ำ และสภาพถนนที่ไม่เรียบครบครัน คือความสามารถในการปรับโหมดการทำงานของ DiSus-C ได้ถึง 2 รูปแบบ ได้แก่ Sport และ Comfort ผ่านหน้าจออินโฟเทนเมนต์แบบ Touch Screen ขนาด 15.6 นิ้ว เมื่อเลือกโหมด Comfort ตัวรถจะมอบความนุ่มนวลที่เหนือกว่า ดูดซับแรงกระแทกได้อย่างไร้รอยต่อ เหมาะสำหรับการเดินทางในเมืองหรือการขับขี่ที่ต้องการความผ่อนคลายเป็นพิเศษ แต่เมื่อเปลี่ยนเป็นโหมด Sport ตัวรถจะปรับความแข็งของช่วงล่างให้เพิ่มขึ้นเล็กน้อย เพื่อการตอบสนองที่ฉับไวและมั่นคงยิ่งขึ้น เหมาะสำหรับการขับขี่ด้วยความเร็วสูงบนทางหลวงหรือเมื่อต้องการความรู้สึกสปอร์ตมากขึ้น การปรับเปลี่ยนที่รวดเร็วและสัมผัสได้ถึงความแตกต่างนี้คือสิ่งที่ตอกย้ำถึงความอัจฉริยะของ DiSus-C อย่างแท้จริง

ห้องโดยสารสุดหรู: สวรรค์ส่วนตัวบนล้อเลื่อน

เมื่อก้าวเข้าสู่ห้องโดยสารของ Denza D9 Performance AWD คุณจะสัมผัสได้ถึงบรรยากาศของความหรูหราและประณีตในทุกรายละเอียด เบาะโดยสารหุ้มด้วยหนัง Nappa Premium คุณภาพสูง ให้สัมผัสที่นุ่มนวลและนั่งสบายอย่างยิ่ง เพดานห้องโดยสารบุด้วยหนังกลับพรีเมียม ช่วยเสริมความรู้สึกโอ่โถงและเพิ่มความเงียบสงบภายในห้องโดยสาร ระบบแสดงผลบนกระจกหน้า (W-HUD) ขนาด 12 นิ้ว ที่แสดงข้อมูลการขับขี่สำคัญโดยที่คุณไม่ต้องละสายตาจากถนน ถือเป็นฟังก์ชันที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและความสะดวกสบายได้อย่างยอดเยี่ยม

จุดเด่นที่ไม่เหมือนใครคือเบาะผู้โดยสารแถวที่สองที่สามารถปรับระดับและรูปแบบการนวดได้ ทำให้การเดินทางระยะไกลกลายเป็นประสบการณ์ที่ผ่อนคลายและไม่น่าเบื่ออีกต่อไป ผู้โดยสารสามารถเลือกปรับท่านั่งตามความต้องการได้อย่างอิสระ พร้อมระบบนวดที่ช่วยบรรเทาความเมื่อยล้าระหว่างการเดินทาง นับเป็นการยกระดับมาตรฐานของรถ MPV ไฟฟ้าให้เทียบเท่ากับรถยนต์ลีมูซีนหรูหราอย่างแท้จริง

หน้าจออินโฟเทนเมนต์แบบ Touch Screen ขนาด 15.6 นิ้ว ไม่ได้เป็นเพียงแค่ศูนย์รวมความบันเทิง แต่ยังเป็นศูนย์กลางการควบคุมฟังก์ชันต่างๆ ของรถ ไม่ว่าจะเป็นระบบช่วงล่าง พวงมาลัย ระบบปรับอากาศ หรือแม้กระทั่งแสงไฟภายในห้องโดยสาร ด้วยอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่ายและรวดเร็วทันใจ พร้อมรองรับการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนและระบบนำทางต่างๆ ทำให้ทุกการเดินทางเป็นไปอย่างราบรื่นและสนุกสนาน

ประสบการณ์ขับขี่: ความลงตัวที่เกินคาด

จากการทดสอบขับ Denza D9 Performance AWD ในเส้นทางที่หลากหลาย ผมสามารถสรุปได้ว่านี่คือรถ MPV ไฟฟ้าที่มอบประสบการณ์ขับขี่ที่ยอดเยี่ยมเกินความคาดหมาย ด้วยพละกำลังจากมอเตอร์คู่และระบบขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา ทำให้ตัวรถมีความมั่นคงและยึดเกาะถนนได้ดีเยี่ยมในทุกสภาพอากาศ พวงมาลัยที่มีน้ำหนักกำลังดีและให้ความคมชัดในการบังคับเลี้ยว ทำให้การควบคุมรถขนาดใหญ่นี้เป็นไปได้อย่างง่ายดายและแม่นยำ

ทัศนวิสัยในการขับขี่ที่ดีเยี่ยมเสมือนการขับรถ SUV ทั่วไป ด้วยตำแหน่งการนั่งที่สูงและกระจกบานใหญ่ ทำให้ผู้ขับขี่สามารถมองเห็นสภาพถนนและสภาพแวดล้อมได้ชัดเจน สิ่งนี้ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและความมั่นใจในการขับขี่ ระบบกล้องมุมมอง 360 องศา ยังเป็นตัวช่วยสำคัญในการถอยจอดรถที่มีความยาวถึง 5.2 เมตรได้อย่างง่ายดายและปลอดภัย ลดความกังวลเรื่องการเฉี่ยวชนในพื้นที่จำกัด

แม้ว่าในรุ่น Performance AWD จะมีราคาอยู่ที่ 2,699,900 บาท (ราคาช่วงแนะนำ) แต่สิ่งที่ได้รับกลับมาคือสมรรถนะที่เหนือชั้น ความหรูหราสะดวกสบายที่ครบครัน และเทคโนโลยีความปลอดภัยที่ล้ำหน้า ซึ่งถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าสำหรับครอบครัวยุคใหม่ที่ต้องการสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับการเดินทาง

และหากจะเปรียบเทียบกับรุ่นเริ่มต้นอย่าง Premium 2WD ที่ราคา 1,999,900 บาท (ราคาช่วงแนะนำ) ซึ่งใช้ระบบกันสะเทือนปรับอัตโนมัติตามความเร็วแบบ FSD (ซึ่งเป็นระบบเดียวกับในรถยนต์ BYD SEAL) ผมยอมรับว่ารุ่น Performance AWD ที่มาพร้อม DiSus-C นั้นให้ความแตกต่างในด้านความนุ่มนวลและความมั่นคงอย่างชัดเจน หากคุณเป็นผู้ที่ชอบความเร็วและต้องการให้ผู้โดยสารแถวหลังได้รับความสบายสูงสุดโดยไม่มีข้อจำกัดใดๆ การขยับขึ้นมาในรุ่น Performance AWD คือคำตอบที่ใช่ แต่สำหรับผู้ที่เน้นการใช้งานในเมืองเป็นหลัก ไม่ได้ขับขี่ด้วยความเร็วสูงมากนัก และต้องการรถ MPV ไฟฟ้าที่มีอัตราเร่งที่ดีเยี่ยมในราคาที่เข้าถึงง่าย รุ่น Premium 2WD ก็ยังคงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่แพ้กัน

บทสรุป: ก้าวสู่ยุคใหม่ของ MPV ไฟฟ้าที่เหนือกว่า

Denza D9 Performance AWD ไม่ได้เป็นเพียงแค่การนำเสนอรถยนต์ไฟฟ้าอีกคันหนึ่งเข้าสู่ตลาด แต่เป็นการยกระดับมาตรฐานของรถ MPV ไฟฟ้าให้ก้าวไปอีกขั้น ด้วยการผสานรวมเอาสุดยอดเทคโนโลยี ไม่ว่าจะเป็น e-Platform 3.0, ระบบขับเคลื่อน 8-in-1, แบตเตอรี่ Blade Battery ที่ปลอดภัย, และที่สำคัญที่สุดคือระบบช่วงล่างอัจฉริยะ DiSus-C เข้าไว้ด้วยกันได้อย่างลงตัว มอบทั้งสมรรถนะ ความปลอดภัย ความหรูหรา และความสะดวกสบายที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของครอบครัวยุคใหม่ได้อย่างไร้ที่ติ

ในฐานะผู้ที่ได้สัมผัสและทดลองขับ Denza D9 Performance AWD ผมเชื่อมั่นว่านี่คือยานยนต์ที่จะเข้ามาเปลี่ยนมุมมองของผู้คนที่มีต่อรถ MPV อย่างสิ้นเชิง และจะกลายเป็นหนึ่งในผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า MPV ระดับพรีเมียมของประเทศไทยในปี 2025 อย่างแน่นอน

อย่ารอช้า! สัมผัสประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือกว่าและร่วมเป็นส่วนหนึ่งของอนาคตแห่งยานยนต์ไฟฟ้าได้แล้ววันนี้ที่โชว์รูม RÊVER Automotive ทั่วประเทศ เปิดประตูสู่โลกแห่งความหรูหราและนวัตกรรม ที่ Denza D9 Performance AWD พร้อมมอบให้คุณและครอบครัวในทุกการเดินทาง.