[ครบชุด] 2211006 คนเก็บขยะ กิตติ์ จำโบ้ซีรี่ย์

ZEEKR 7X: พลิกนิยาม SUV ไฟฟ้า ออฟโรดได้ หรูหราล้ำอนาคต พร้อมท้าทายทุกเส้นทางในปี 2025

ในฐานะผู้ที่คลุกคลีอยู่ในวงการยานยนต์ไฟฟ้ามานานกว่าทศวรรษ ผมเห็นวิวัฒนาการของเทคโนโลยี EV มาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของพละกำลัง ระยะทาง หรือแม้กระทั่งความหรูหรา แต่สิ่งที่ยังขาดหายไปและเป็นที่ถกเถียงกันมาตลอดในกลุ่มผู้ที่มองหารถยนต์ไฟฟ้า คือ “ความอเนกประสงค์ที่แท้จริง” โดยเฉพาะในมิติของการขับขี่ที่สามารถรองรับได้มากกว่าแค่การใช้งานในเมือง จนกระทั่งการมาถึงของ ZEEKR 7X SUV ไฟฟ้า 5 ที่นั่ง ที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทยเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2568 ซึ่งไม่ใช่แค่การเติมเต็มช่องว่างนี้ แต่เป็นการยกระดับมาตรฐานของ SUV ไฟฟ้า ให้ก้าวไปอีกขั้นสู่ศักราชใหม่แห่งปี 2025

ZEEKR 7X ได้สร้างปรากฏการณ์ใหม่ด้วยการรวมเอาคุณสมบัติที่หลายคนคิดว่าเป็นไปไม่ได้ในรถ EV มาไว้ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นดีไซน์ที่หรูหราโดดเด่น เทคโนโลยีที่ล้ำสมัย สมรรถนะการขับขี่ที่เร้าใจ และที่สำคัญที่สุดคือ “ความสามารถในการลุยแบบออฟโรดได้จริง” ซึ่งเป็นจุดเด่นที่ทำให้ ZEEKR 7X แตกต่างจาก รถยนต์ไฟฟ้า 2025 รุ่นอื่นๆ ในตลาดอย่างชัดเจน ในบทความนี้ ผมจะพาคุณเจาะลึกทุกมิติของยานยนต์แห่งอนาคตคันนี้ ด้วยมุมมองของผู้เชี่ยวชาญที่เห็นภาพรวมของตลาดและเทรนด์ในปัจจุบัน

การถือกำเนิดของ ZEEKR 7X: ก้าวข้ามข้อจำกัดของ SUV ไฟฟ้า

ตลอดหลายปีที่ผ่านมา รถ EV ประสิทธิภาพสูง ส่วนใหญ่มักเน้นไปที่ความเร็วบนทางเรียบหรือความประหยัดพลังงาน แต่ ZEEKR กลับมองเห็นโอกาสในการนำเสนอสิ่งที่มากกว่านั้น ZEEKR 7X จึงถูกพัฒนาขึ้นมาบนพื้นฐานของความเข้าใจว่า ผู้บริโภคในยุค 2025 ต้องการ รถอเนกประสงค์ไฟฟ้า ที่ไม่เพียงแต่ตอบโจทย์การเดินทางในชีวิตประจำวัน แต่ยังเป็นเพื่อนคู่ใจที่พร้อมออกผจญภัยในวันหยุด ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางบนทางหลวงระยะไกล หรือการลัดเลาะไปตามเส้นทางที่ท้าทาย

ด้วยดีไซน์ที่ผสมผสานความแข็งแกร่งของ SUV เข้ากับเส้นสายที่พลิ้วไหวและทันสมัย ZEEKR 7X สะท้อนภาพลักษณ์ของ รถหรูไฟฟ้า ที่มีเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใคร ตั้งแต่แรกเห็น ไฟหน้าแบบ Stargate Front Light Panel ที่สามารถเปลี่ยนกราฟิกได้หลากหลายรูปแบบ ไม่เพียงแต่เป็นเอกลักษณ์ด้านดีไซน์ แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งของเทคโนโลยีแสงสว่างที่ล้ำสมัยที่ช่วยเพิ่มทัศนวิสัยและความปลอดภัยในการขับขี่ มิติของตัวรถที่ยาว 4,787 มม. กว้าง 1,930 มม. สูง 1,650 มม. พร้อมระยะฐานล้อ 2,900 มม. และระยะต่ำสุดถึงพื้น (ground clearance) ที่ 173 มม. ทำให้ ZEEKR 7X มีความสง่างามบนท้องถนน และพร้อมสำหรับทุกสภาพเส้นทาง

ขุมพลังไฟฟ้า 800V: แรง เร็ว และไปได้ไกลกว่า

หัวใจสำคัญที่ขับเคลื่อน ZEEKR 7X คือ นวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้า ที่ล้ำสมัย ด้วยสถาปัตยกรรมแบตเตอรี่ 800V Technology Lithium-ion (NMC) ขนาดความจุ 100 kWh ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ปัจจุบันพบได้ในรถยนต์ไฟฟ้าระดับพรีเมียมเท่านั้น สถาปัตยกรรม 800V นี้ไม่เพียงแต่ส่งผลให้ระบบการชาร์จมีประสิทธิภาพสูงขึ้นอย่างก้าวกระโดด แต่ยังช่วยให้การส่งกำลังจากแบตเตอรี่ไปยังมอเตอร์ไฟฟ้าเป็นไปอย่างราบรื่นและทรงพลัง การใช้แบตเตอรี่ NMC ยังช่วยให้ได้ความหนาแน่นพลังงานที่สูงขึ้น ส่งผลให้ได้ระยะทางขับขี่ที่ไกลขึ้น ตอบโจทย์การเดินทางระยะไกลได้อย่างไร้กังวล

ZEEKR 7X มีให้เลือก 2 รุ่นหลัก เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของลูกค้า:

ZEEKR 7X Long Range RWD:
พละกำลัง: มอเตอร์ไฟฟ้า 1 ตัว ให้กำลังสูงสุด 422 แรงม้า (PS) และแรงบิดสูงสุด 440 นิวตันเมตร ขับเคลื่อนล้อหลัง (RWD)
สมรรถนะ: อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 6.0 วินาที ความเร็วสูงสุด 210 กม./ชม.
ระยะทาง: วิ่งได้มากกว่า 700 กม. (มาตรฐาน NEDC) ซึ่งถือว่ายอดเยี่ยมสำหรับการใช้งานทั่วไปและเดินทางไกล
รุ่นนี้โดดเด่นในเรื่องความสมดุลระหว่างสมรรถนะและประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการ รถ EV ประหยัดพลังงาน ที่ยังคงความแรงและขับขี่สนุก

ZEEKR 7X Performance AWD:
พละกำลัง: มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว (ขับเคลื่อน 4 ล้อ AWD) ให้กำลังสูงสุดถึง 646 แรงม้า (PS) และแรงบิดมหาศาลที่ 710 นิวตันเมตร
สมรรถนะ: อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายในเวลาเพียง 3.8 วินาที ความเร็วสูงสุด 210 กม./ชม.
ระยะทาง: วิ่งได้มากกว่า 600 กม. (มาตรฐาน NEDC)
สำหรับรุ่น Performance AWD นี้ มอบ สมรรถนะรถยนต์ไฟฟ้า ที่น่าตื่นเต้นอย่างแท้จริง แรงบิดอันมหาศาลที่พร้อมให้ใช้ได้ทันทีคือประสบการณ์ที่ยากจะลืมเลือน และด้วยระบบขับเคลื่อนสี่ล้อไฟฟ้า ทำให้การยึดเกาะถนนเหนือกว่า และพร้อมรับมือกับสภาพเส้นทางที่หลากหลาย

การชาร์จที่รวดเร็วอย่างเหลือเชื่อ: ก้าวข้ามความกังวลเรื่องเวลา

หนึ่งในข้อกังวลหลักของผู้ใช้งาน รถยนต์พลังงานไฟฟ้า คือระยะเวลาในการชาร์จ ZEEKR 7X ได้เข้ามาปฏิวัติมุมมองนี้ ด้วยเทคโนโลยี การชาร์จเร็ว EV ที่ล้ำหน้า รองรับหัวชาร์จ Type 2 / CCS Combo

กระแสสลับ AC: รองรับสูงสุด 22 kW
กระแสตรง DC Fast Charging: รองรับสูงสุด 420 kW ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงมากในตลาดปัจจุบัน
เวลาการชาร์จ DC: สามารถชาร์จจาก 10% ถึง 80% ได้ภายในเวลาเพียง 13-16 นาที เมื่อใช้เครื่องชาร์จ DC 360 kW นี่คือ game-changer ที่แท้จริง ทำให้การหยุดพักเพื่อชาร์จไฟเป็นเรื่องเล็กน้อย ไม่ต่างจากการแวะเติมน้ำมันในรถสันดาป
ระบบจ่ายกระแสไฟฟ้าให้อุปกรณ์ภายนอก V2L: สูงสุด 3.3 kW (3,300 วัตต์) เพิ่มความสะดวกสบายและความอเนกประสงค์ในการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นการตั้งแคมป์หรือใช้งานอุปกรณ์ไฟฟ้ากลางแจ้ง ZEEKR 7X ก็สามารถเป็นแหล่งพลังงานเคลื่อนที่ให้คุณได้

ช่วงล่างและสมรรถนะการลุย: จุดเด่นที่เหนือความคาดหมาย

สิ่งที่ทำให้ ZEEKR 7X แตกต่างจาก SUV ไฟฟ้า ทั่วไปอย่างสิ้นเชิง คือความสามารถด้านออฟโรด ในฐานะผู้ที่เคยทดสอบรถ EV มาหลายรุ่น ผมยอมรับว่าไม่เคยคาดหวังให้รถ EV มี สมรรถนะออฟโรด ที่โดดเด่นนัก แต่ ZEEKR 7X ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่ารถไฟฟ้าก็สามารถลุยได้จริง

ในการทดสอบขับขี่ในสนามออฟโรดที่เขาใหญ่ ผมได้สัมผัสกับประสิทธิภาพที่เหนือความคาดหมายของ ZEEKR 7X

ช่วงล่างถุงลม Active Air Suspension with CCD: ระบบนี้เป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้ ZEEKR 7X มีความสามารถในการปรับตัวเข้ากับสภาพถนนที่หลากหลาย เมื่อเข้าสู่โหมดออฟโรด ช่วงล่างจะยกตัวขึ้นอัตโนมัติถึง 230 มม. เพื่อเพิ่มระยะห่างจากพื้น ทำให้สามารถผ่านอุปสรรคได้อย่างง่ายดาย
การผ่านเนินสลับ: ในสถานีเนินสลับ ที่ล้อจะลอยออกจากพื้น ช่วงล่างถุงลมทำงานได้อย่างน่าทึ่ง การกระจายแรงบิดไปยังล้อที่ยังคงยึดเกาะพื้นทำได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ทำให้รถเคลื่อนตัวไปข้างหน้าได้อย่างต่อเนื่อง ที่สำคัญคือการให้ตัวของช่วงล่างที่ดีเยี่ยม ทำให้ตัวรถโคลงเคลงน้อยมาก
การขึ้น-ลงเนินชัน: พละกำลังของมอเตอร์ไฟฟ้าที่มากมายทำให้การปีนขึ้นเนินชันเป็นเรื่องง่าย และเมื่อหยุดรถกลางเนิน แล้วกดคันเร่งออกตัว ระบบจัดการพลังงานได้อย่างชาญฉลาด ไม่ส่งกำลังที่รุนแรงจนเกินไป ทำให้ล้อไม่ฟรีทิ้ง ขณะลงเนินสูง ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชันอัตโนมัติ (HDC) ทำงานได้อย่างราบรื่น ให้ความรู้สึกมั่นคงและปลอดภัยไม่ต่างจากรถยุโรประดับพรีเมียม
เส้นทางขรุขระ: การวิ่งผ่านเส้นทางขรุขระด้วย ช่วงล่างถุงลม ให้ความนุ่มนวลอย่างน่าประหลาดใจ สิ่งที่ประทับใจคือพวงมาลัยยังคงนิ่ง ไม่มีการสั่นสะเทือนหรือตีมือแต่อย่างใด นี่เป็นการยืนยันว่า ZEEKR 7X สอบผ่านในด้านออฟโรดได้อย่างสมศักดิ์ศรี

นอกจากนี้ ZEEKR 7X ยังมาพร้อมล้อ Forged ขนาด 21 นิ้ว พร้อมยาง ขนาด 265/40 R21 (สำหรับบางรุ่นย่อย) และระบบเบรกดิสก์เบรก 4pot พร้อมคาลิปเปอร์เบรก Akebono สีส้ม ที่ไม่เพียงแต่ให้ประสิทธิภาพการเบรกที่ยอดเยี่ยม แต่ยังเพิ่มความโดดเด่นด้านดีไซน์

ห้องโดยสาร: นิยามใหม่ของความหรูหราและเทคโนโลยี

เมื่อก้าวเข้าสู่ภายในห้องโดยสารของ ZEEKR 7X คุณจะสัมผัสได้ถึงความเป็น ห้องโดยสารพรีเมียม ที่ออกแบบมาเพื่อมอบประสบการณ์การเดินทางที่เหนือระดับในทุกมิติ

ความสะดวกสบายระดับเฟิร์สคลาส: เบาะนั่งหุ้มด้วยหนัง Nappa Leather คุณภาพสูง ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องของความนุ่มนวลและความหรูหรา ไม่เพียงแต่มอบความสบายในการนั่ง แต่ยังบ่งบอกถึงรสนิยม ระบบนวดและเป่าลมในเบาะคู่หน้าช่วยคลายความเมื่อยล้าได้เป็นอย่างดี ทำให้การขับขี่ระยะไกลไม่เป็นภาระ แต่กลายเป็นช่วงเวลาแห่งการผ่อนคลาย เบาะหลังที่ปรับเอนด้วยระบบไฟฟ้าช่วยให้ผู้โดยสารสามารถปรับองศาการนั่งให้เหมาะสมกับการพักผ่อนหรือกิจกรรมต่างๆ ได้อย่างอิสระ
ประตูและม่านบังแดดไฟฟ้า: ประตูทั้ง 4 บาน มาพร้อมระบบเปิด-ปิดด้วยไฟฟ้า และม่านบังแดดประตูคู่หลังก็เป็นระบบไฟฟ้าเช่นกัน ซึ่งเป็นฟังก์ชันที่เพิ่มความสะดวกสบายและความหรูหราอย่างแท้จริง
ระบบสารสนเทศและความบันเทิงสุดล้ำ:
หน้าจอกลาง Mini LED ขนาด 16 นิ้ว ความละเอียด 3.5K: มอบภาพที่คมชัด สีสันสดใส และรายละเอียดที่ครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นการนำทาง ดูสื่อบันเทิง หรือใช้งานแอปพลิเคชันต่างๆ
หน้าจอ AR HUD ขนาด 36.21 นิ้ว: แสดงข้อมูลสำคัญต่างๆ ขึ้นบนกระจกหน้ารถแบบ Head-Up Display ที่เป็นเทคโนโลยี Augmented Reality ทำให้ผู้ขับขี่ไม่ต้องละสายตาจากถนน ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและสะดวกสบาย
หน้าจอ Cluster ขนาด 13.02 นิ้ว: แสดงข้อมูลการขับขี่ทั้งหมดในรูปแบบที่สวยงามและเข้าใจง่าย
ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 8295 Processor (5nm): นี่คือหัวใจสำคัญที่ทำให้การทำงานของระบบทั้งหมดเป็นไปอย่างรวดเร็วและราบรื่น ตอบสนองทุกคำสั่งได้อย่างฉับไว ไร้รอยต่อ
ระบบเสียง ZEEKR Sound Pro พร้อมลำโพง 21 จุด: มอบมิติเสียงรอบทิศทางเสมือนโรงภาพยนตร์เคลื่อนที่ สร้างประสบการณ์ ระบบความบันเทิงในรถยนต์ ที่ดื่มด่ำและสมบูรณ์แบบ

พื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายขนาด 539 – 1,978 ลิตร (เมื่อพับเบาะหลัง) และ Frunk ด้านหน้าขนาด 66 ลิตร ยังช่วยเพิ่มความจุและความอเนกประสงค์ในการใช้งาน ตอบโจทย์ทั้งการเดินทางในชีวิตประจำวันและการท่องเที่ยว

ความปลอดภัยระดับโลก: มั่นใจในทุกเส้นทาง

ZEEKR 7X สร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม SEA (Sustainable Experience Architecture) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่ออกแบบมาเพื่อ ความปลอดภัยรถยนต์ไฟฟ้า และประสิทธิภาพสูงสุด ความมุ่งมั่นด้านความปลอดภัยได้รับการพิสูจน์ด้วยคะแนน Euro NCAP 5 ดาว โดยได้คะแนน 91% สำหรับการปกป้องผู้โดยสารผู้ใหญ่ และ 90% สำหรับการปกป้องผู้โดยสารเด็ก ซึ่งเป็นตัวเลขที่สะท้อนถึงความใส่ใจในความปลอดภัยของทุกคนในรถ

ระบบช่วยเหลือการขับขี่ ZEEKR AD: ทำงานร่วมกับ Dual Mobileye Chips เพิ่มความแม่นยำและประสิทธิภาพของระบบ ADAS (Advanced Driver-Assistance Systems) ช่วยให้การขับขี่ปลอดภัยและสะดวกสบายยิ่งขึ้น
โครงสร้างตัวรถแบบ Dome-Shaped: และโครงสร้างตัวถังหลังแบบ Single Piece Die-Cast แบบชิ้นเดียวไร้รอยต่อ ไม่เพียงแต่เพิ่มความแข็งแกร่งและปลอดภัยในการชน แต่ยังช่วยลดน้ำหนักของตัวรถ ส่งผลให้ประสิทธิภาพการใช้พลังงานดีขึ้น

การรับประกันและราคา: ความคุ้มค่าที่มาพร้อมความมั่นใจ

ZEEKR ประเทศไทย ได้ประกาศราคาอย่างเป็นทางการในวันที่ 15 สิงหาคม 2568 โดยคาดการณ์ราคาสำหรับรุ่น Long Range RWD อยู่ที่ 1,700,000 บาท และรุ่น Performance AWD ไม่เกิน 1,900,000 บาท ซึ่งถือเป็นราคาที่น่าสนใจอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาจากเทคโนโลยี สมรรถนะ และความหรูหราที่ได้รับ

พร้อมกันนี้ ยังมาพร้อมกับการรับประกันคุณภาพตัวรถที่สร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ใช้งาน:

รับประกันคุณภาพตัวรถ (Warranty): นาน 5 ปี หรือ 150,000 กม.
รับประกันแบตเตอรี่ และ มอเตอร์: นาน 8 ปี หรือ 180,000 กม.
บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน: นาน 8 ปี หรือ 180,000 กม.

การรับประกันที่ยาวนานนี้แสดงให้เห็นถึงความมั่นใจของ ZEEKR ในคุณภาพของผลิตภัณฑ์ และเป็นการย้ำว่า ประกันรถยนต์ไฟฟ้า ของ ZEEKR ไม่เพียงแต่ครอบคลุมระยะเวลาการใช้งานที่ยาวนาน แต่ยังมอบความอุ่นใจตลอดการเดินทาง

สรุปและบทเชิญชวน

ZEEKR 7X คือการก้าวข้ามทุกขีดจำกัดของ SUV ไฟฟ้า ที่เราเคยรู้จัก ไม่ว่าคุณจะมองหาความแรง ความหรูหรา ความสะดวกสบาย เทคโนโลยีล้ำยุค หรือแม้กระทั่งความสามารถในการลุยแบบออฟโรด ZEEKR 7X ก็สามารถตอบโจทย์ทุกความต้องการได้อย่างลงตัว นี่ไม่ใช่แค่รถยนต์ไฟฟ้าธรรมดา แต่คือยานยนต์แห่งอนาคตที่พร้อมพาคุณไปสู่ประสบการณ์การขับขี่ที่ไม่เคยมีมาก่อน

สำหรับผู้ที่ไม่ได้เน้นการขับขี่แบบออฟโรด แต่ต้องการ รถยนต์ไฟฟ้า ที่วิ่งได้ไกลและมีสมรรถนะดีเยี่ยม รุ่น Long Range RWD ก็เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยม ด้วยช่วงล่างและออปชั่นที่ครบครันไม่แพ้กัน แต่หากคุณเป็นผู้ที่หลงใหลในความแรงและต้องการสัมผัสประสบการณ์ขับขี่ที่เหนือกว่า พร้อมกับความสามารถในการผจญภัยในเส้นทางที่ท้าทาย Performance AWD คือคำตอบที่สมบูรณ์แบบ

ในฐานะผู้เชี่ยวชาญ ผมกล้าพูดได้เลยว่า ZEEKR 7X เป็น ยานยนต์แห่งอนาคต ที่จะเข้ามาเปลี่ยนมุมมองของผู้คนที่มีต่อ รถ EV และกำหนดทิศทางของตลาด รถยนต์ไฟฟ้า 2025 อย่างแน่นอน หากคุณพร้อมที่จะสัมผัสกับนวัตกรรมและประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือกว่า ขอเชิญคุณมาร่วมพิสูจน์สมรรถนะและความหรูหราของ ZEEKR 7X ด้วยตัวคุณเอง

อย่ารอช้า! โอกาสที่จะเป็นเจ้าของ ZEEKR 7X รถ SUV ไฟฟ้า 5 ที่นั่ง ที่พร้อมพลิกโฉมทุกการเดินทางของคุณกำลังจะมาถึง เยี่ยมชมโชว์รูม ZEEKR ประเทศไทย หรือติดต่อผู้จำหน่ายใกล้บ้านคุณ เพื่อสัมผัสประสบการณ์การขับขี่อันน่าตื่นเต้น และจองสิทธิ์ในการเป็นเจ้าของยานยนต์แห่งอนาคตคันนี้ได้ตั้งแต่วันนี้!